Top5 Popmart คอลเล็คชั่นสุดฮิต

ทำไมคนถึง “คลั่ง POP MART” กันขนาดนี้?

ถ้าพูดชื่อแบรนด์ POP MART ขึ้นมา เชื่อว่าเกือบทุกคนต้องเคยเห็นผ่านตา ไม่ว่าจะในห้าง ร้านของเล่น หรือแม้แต่ไอจีของเพื่อนที่ชอบสะสมอะไรน่ารัก ๆ สักอย่างหนึ่ง หลาย ๆ คนอาจจะเริ่มจาก “ลองซื้อเล่น ๆ สักกล่อง” แล้วจบที่ “กล่องที่สิบ” ในวันเดียวก็มี… ซึ่งมันเป็นเรื่องปกติของโลก POP MART มาก ๆ แบบไม่ต้องเขินเลยนะ เพราะใครที่เข้าโลกนี้แล้วจะรู้ว่า… มันถอนตัวยากจริง ๆ

สิ่งหนึ่งที่ทำให้ POP MART ต่างจากของเล่นทั่วไปคือ “ความตื่นเต้นของการลุ้น” เพราะโมเดลของเขาคือ Blind Box หรือกล่องปริศนา ที่ไม่มีทางรู้ได้เลยว่าเปิดออกมาแล้วจะได้ตัวไหน มันทั้งสนุก ลุ้น และท้าทาย เหมือนเอาดวงไปวัดใจ เวลาคนเปิดได้ตัวลับก็ยิ่งฟีลเหมือนถูกหวยย่อม ๆ จนต้องถ่ายคลิปลงโซเชียลแบบภาคภูมิใจสุด ๆ

นอกจากนี้ POP MART ยังไม่ใช่แค่ “ของเล่นสำหรับเด็ก” แต่เป็นของสะสมที่รวมงานดีไซน์ ศิลปะ แฟชั่น และวัฒนธรรมร่วมสมัยเอาไว้ในชิ้นเดียว ทำให้ผู้ใหญ่หลายคนก็ติดงอมแงมเหมือนกัน ยิ่งพอมีตัวหายาก ราคาขึ้นได้ มันยิ่งทำให้กลายเป็นงานอดิเรก+การลงทุน ว่ากันว่าบางคนซื้อไว้สะสมแต่ปีเดียว มูลค่ารวมเพิ่มเป็นเท่าตัวก็มี

พูดง่าย ๆ เลยคือ POP MART ไม่ใช่แค่แบรนด์ของเล่น แต่เป็น “วัฒนธรรมการสะสม” ของยุคนี้จริง ๆ

POP MART คืออะไร? ผู้ก่อตั้งเป็นใคร? และเส้นทางความสำเร็จที่ไม่ธรรมดา

ก่อนจะไปตื่นเต้นกับคอลเลกชันต่าง ๆ เรามาทำความรู้จัก “หัวใจของแบรนด์” กันก่อน

POP MART คือ

POP MART คือแบรนด์ “Designer Toy” หรือ “ศิลปะของเล่น” ที่เน้นตุ๊กตาดีไซน์พิเศษ ผลิตจำนวนจำกัด และเน้นความน่ารักผสานงานดีไซน์ของศิลปินแต่ละคน

ความโดดเด่นคือ

• รูปแบบ Blind Box หรือ “กล่องสุ่ม”

• ตัวคาแรกเตอร์มีดีไซน์เฉพาะตัว

• คุณภาพของตุ๊กตาสูง งานละเอียด

• มีความเป็นศิลปะมากกว่าของเล่นเด็ก

• มีการร่วมงานกับศิลปินทั่วโลก

POP MART จึงเป็นแบรนด์ที่เกิดจากความตั้งใจจะผสมผสานศิลปะเข้ากับความบันเทิง

ผู้ก่อตั้ง: วัง หนิง (Wang Ning)

ย้อนกลับไปปี 2010 ที่ปักกิ่ง ประเทศจีน วัง หนิง เป็นคนหนุ่มที่สนใจของสะสม ศิลปะ และวัฒนธรรมสตรีต เขาสังเกตว่าในจีน ตลาดของเล่นแนวดีไซน์ยังไม่มีพื้นที่เติบโต ทั้งที่ต่างประเทศเริ่มมีวัฒนธรรม Designer Toy มาแล้ว

เขาจึงเปิดร้านเล็ก ๆ ขายสินค้าแฟชั่น ของจุกจิก และของเล่นดีไซน์ต่าง ๆ ก่อนจะค่อย ๆ สร้างแบรนด์ POP MART ขึ้นมา

เขามีวิสัยทัศน์สำคัญคือ
“ของเล่นไม่ใช่ของเด็ก แต่เป็นศิลปะที่ผู้ใหญ่สามารถสัมผัสและสะสมได้”

ต่อมาในปี 2016 POP MART ได้ร่วมมือกับศิลปินอย่าง Kenny Wong เจ้าของตัวละคร Molly และคอลเลกชันนี้เอง ที่จุดประกายให้ POP MART ดังไปทั่วเอเชีย และกลายเป็นคอลเลกชันที่ทำให้แบรนด์เป็นที่รู้จักทั่วโลก

จากร้านเล็ก ๆ ตอนนี้ POP MART มีสาขาในกว่า 20 ประเทศ มี Pop Up Store, Roboshop, และขายออนไลน์ทั่วโลก เป็นหนึ่งในแบรนด์ของเล่นดีไซน์เนอร์ที่เติบโตเร็วที่สุดในยุคปัจจุบัน

TOP 5 สินค้าตัวฮิตที่สุดของ POP MART

จัดอันดับตัวท็อปที่ครองใจนักสะสม และทำราคาตลาดพุ่งที่สุด

ตรงนี้คือไฮไลต์สำคัญที่สุดของบทความ เพราะ POP MART แต่ละตัวไม่ใช่แค่สวยน่ารัก แต่ “มูลค่าและความหายาก” ยังเล่นใหญ่แบบสุดทาง บางตัวราคาขึ้นสูงจากพันเดียวไปหลักหมื่น หลักแสนภายในระยะเวลาไม่กี่ปี

ลิสต์ด้านล่างนี้คือ 5 อันดับคาแรกเตอร์ยอดฮิตที่สุดในประวัติศาสตร์ POP MART ตามความนิยมทั่วโลก + ราคาตลาดมือสองที่เป็นกันเองแต่แม่นยำที่สุดในปีล่าสุด

อันดับ 1 : LABUBU (The Monsters Series)

“ราชาแห่ง POP MART และตัวที่ทำให้แบรนด์ดังระเบิดระดับโลก”

ศิลปินผู้ออกแบบ : Kasing Lung (เคซิง ลุง)

เป็นศิลปินชาวฮ่องกงที่เอกลักษณ์งานคือ
– น่ารักปนหลอน
– ใส่ความแฟนตาซี
– อารมณ์แบบเด็กซนในโลกมืดหม่นเล็ก ๆ

Labubu เป็นหนึ่งในคาแรคเตอร์ที่มีฐานแฟนคลับเหนียวแน่นที่สุดในโลกของ Designer Toys

จุดเด่นของ LABUBU

• หูยาวโค้งเป็นเอกลักษณ์

• หน้ายิ้มแบบ “ซน ๆ” ที่ทำให้คนตกหลุมรัก

• ฟันแหลมเล็ก ๆ ให้ฟีลขี้เล่น

• ดีไซน์รวมความน่ารัก + ความดาร์กเบา ๆ

• งานสี Texture ละเอียดมาก

• ซีรีส์เยอะมาก เช่น
  – Constellation
  – Wacky
  – Forest Secret
  – Sweet Bean Collaboration
  – Easter / Halloween Limited Edition

• “ตัวลับ” (secret) หายากมากและราคาดีที่สุดใน POP MART

ความนิยม & ราคาตลาด

• Labubu คือ IP ที่ขึ้นราคาเร็วที่สุด

• เปิดกล่องราคา 3xx – 9xx บาท → ตลาดมือสองพุ่งเป็น หลักหมื่นถึงหลักแสน

• บางตัว Rare ที่เปิดในจีน ขายต่อได้ 80,000 – 150,000 บาท

นี่คือเหตุผลที่ Labubu คือ “ตำนานของ POP MART” และเป็นตัวที่ขายดีอันดับ 1 เสมอ

อันดับ 2 : MOLLY

“ตัวแม่รุ่นบุกเบิกของ POP MART ที่พาแบรนด์ดังขึ้นสู่เวทีโลก”

ศิลปินผู้ออกแบบ : Kenny Wong (เคนนี หว่อง)

ศิลปินฮ่องกงที่ได้รับแรงบันดาลใจจากรูปลักษณ์ของเด็กหญิง และอารมณ์ขี้งอนเบา ๆ

จุดเด่นของ MOLLY

• เด็กผู้หญิงหน้าจู๋

• ตาโตลุกใส

• ทรงผมเป็นเอกลักษณ์

• มีทั้งเวอร์ชันสตรีต แฟนตาซี ไปจนถึงคอสตูม

• ซีรีส์หลากหลายมาก เช่น
  – Zodiac
  – Sailor
  – Vintage Holiday
  – Space Molly (ฮิตระดับโลกมาก)

• มีขนาดใหญ่พิเศษแบบ 400%, 1000% (งาน Display)

ความนิยม & ราคาตลาด

• เป็นตัวแรกที่นักสะสมมือใหม่มักเริ่มสะสม

• ราคามือสองอยู่ที่ 800 – 3,000 บาท

• รุ่นลิมิเต็ดเช่น Space Molly ราคาขึ้นหลักหมื่น

Molly คือ “สัญลักษณ์ของ POP MART ยุคแรก” ที่ทุกคนต้องรู้จัก

อันดับ 3 : SKULLPANDA

“ไอคอนของสายแฟชั่น อาร์ตจ๋า ดีเทลจัดเต็ม”

จุดเด่นของ SKULLPANDA

• ดีไซน์สุดเท่ ไม่หวาน

• โทนสีดาร์ก แต่มีความอาร์ต

• รายละเอียดแน่นมาก ทั้งหน้า ผม เสื้อผ้า

• คอนเซปต์เป็นเรื่องเป็นราว เช่น
  – The Sound Series
  – Ancient Castle
  – Winter Symphony
  – Action Punk

• งานรูปทรงและ Texture เสมือนศิลปะมากกว่าของเล่น

ความนิยม & ราคาตลาด

• เป็นที่นิยมทั้งผู้หญิงและผู้ชาย

• ราคามือสองเฉลี่ย 1,500 – 8,000 บาท

• ตัว Rare ราคาพุ่งหลักหมื่นอย่างรวดเร็ว

SKULLPANDA คือคาแรกเตอร์ที่ทำให้ POP MART ได้ภาพลักษณ์ “งานศิลปะคุณภาพสูง”

อันดับ 4 : CRYBABY

“ตุ๊กตาน้ำตาแห่งความรู้สึก งานศิลป์ที่มีความหมายลึกซึ้ง”

ศิลปินผู้ออกแบบ : Lang

ศิลปินคนไทยที่เน้นออกแบบตัวละครที่สื่อถึงอารมณ์ ความรู้สึก ความเปราะบางในตัวมนุษย์

จุดเด่นของ CRYBABY

• ทุกตัวมี “น้ำตา” เป็นลายเซ็น

• ดีไซน์สื่อความหมายของทุกอารมณ์ เช่น
  – Sadness
  – Hurt
  – Emotion Flow
  – Sunset

• สีสันนุ่ม ละมุน แต่ลึกซึ้ง

• เป็นงานศิลปะเชิง Emotional มากที่สุดใน POP MART

ความนิยม & ราคาตลาด

• ถูกใจกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่อินเรื่อง Mental Health

• ราคาเฉลี่ย 800 – 3,000 บาท

• ตัวลับบางรุ่นขึ้นไปแตะหลักหมื่น

Crybaby จึงเป็นหนึ่งในผลงานที่ “จับหัวใจคน” มากที่สุด

อันดับ 5 : DIMOO

“เด็กน้อยจากโลกแฟนตาซี ที่ละมุนจนใครก็รัก”

ศิลปินผู้ออกแบบ : Ayan Deng

ดีไซน์เน้นโลกในจินตนาการ ความอบอุ่น ความอ่อนโยน

จุดเด่นของ DIMOO

• โทนสีหวาน อบอุ่นมาก

• หน้าตาน่ารักเหมือนเด็กในโลกความฝัน

• ซีรีส์ยอดนิยม เช่น
  – Nature’s Buddha
  – World Travel
  – Animal Kingdom
  – Forest Night

• งานเนี๊ยบ รายละเอียดนุ่ม สบายตา

• เหมาะกับมือใหม่ที่สุด เพราะดีไซน์ “เข้าถึงง่าย”

ความนิยม & ราคาตลาด

• ราคามือสองค่อนข้างเสถียร 600 – 2,500 บาท

• มี Rare ที่ราคาพุ่งแรงมาก (บางตัว 10,000+ แล้วแต่สภาพ)

Dimoo คือคาแรคเตอร์ที่ “เข้าห้องนอนได้ทุกสไตล์” แมทช์กับการแต่งห้องดีมาก

คอลเลกชันล่าสุดของ Popmart

🍎 Apple of My Eye Series Figures

คอลเล็คชั่นใหม่จาก POP MART ที่ไม่ได้มาในรูปแบบ “ของขวัญ” แต่อาจกลายเป็นแสงเล็ก ๆ ที่ทำให้วันธรรมดาของคุณสดใสขึ้น**

ในโลกของงานศิลปะและของสะสมที่เต็มไปด้วยคาแร็กเตอร์สุดสร้างสรรค์ POP MART ยังคงสร้างความประหลาดใจให้แฟน ๆ ทั่วโลกอย่างต่อเนื่อง และคราวนี้พวกเขากลับมาอีกครั้งกับผลงานที่เต็มไปด้วยความอบอุ่น ความน่ารัก และความหมายดี ๆ อย่าง คอลเล็คชั่นใหม่ล่าสุด “Apple of My Eye Series Figures” ที่เพิ่งประกาศวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในวันที่ 21 พฤศจิกายน 2025

ถึงแม้ไม่ใช่ “ของขวัญ” ที่ห่อด้วยกล่องโบว์ แต่ฟิกเกอร์เหล่านี้คือของขวัญทางใจ ที่พร้อมเติมเต็มพื้นที่เล็ก ๆ ในบ้านของคุณด้วยความสุข ความสดใส และความรู้สึกพิเศษแบบที่ไม่ต้องพูดอะไรมากก็สัมผัสได้ทันที

⸻

✨ คอนเซปต์: ไม่ใช่ทุกสมบัติที่ต้องห่อกล่อง… เพราะบางสิ่งทำให้โลกของเราสว่างขึ้นได้เอง

แรงบันดาลใจของซีรีส์นี้อยู่ที่ประโยคอันอบอุ่น

“Not every treasure comes wrapped. Some just make your world brighter.”

สื่อถึงสิ่งล้ำค่าที่มองเห็นด้วยใจ—เหมือนคนพิเศษ เหมือนช่วงเวลาดี ๆ หรือเหมือนฟิกเกอร์ที่เราชอบมากจนมองทีไรก็ยิ้มออกทุกครั้ง

ดีไซน์ของคอลเล็คชั่นนี้เน้นความมินิมอลแต่เต็มไปด้วยรายละเอียดอบอุ่น สีโทนซอฟต์ที่ดูสบายตา และคาแร็กเตอร์ที่ถูกออกแบบให้มีอัตลักษณ์เฉพาะตัว เป็นทั้งของสะสมและของแต่งบ้านได้ในเวลาเดียวกัน

🧸 จุดเด่นของ Apple of My Eye Series

1. ดีไซน์น่ารัก อ่อนโยน และเข้าถึงง่าย

ทุกตัวในซีรีส์มีเอกลักษณ์เฉพาะ แต่คุมโทนความอบอุ่นและความเป็น “treasure” ที่ไม่ต้องอธิบายเยอะก็รู้สึกได้ทันที เหมาะกับสายมินิมอล สาย cozy หรือคนที่ชอบงานศิลปะสไตล์ soft aesthetic

2. เล่นกับแนวคิด ‘ของสำคัญที่ไม่จำเป็นต้องห่อ’

ทั้งรูปร่าง สี และอารมณ์ที่ตัวฟิกเกอร์สื่อออกมา ทำให้รู้สึกเหมือนเราได้พก “ความสุขเล็ก ๆ” ติดตัวกลับบ้าน

3. งานละเอียดตามแบบฉบับ POP MART

พื้นผิว สี และสัดส่วนทำออกมาเป๊ะตามมาตรฐานสูงของ POP MART ผู้สะสมมั่นใจได้ว่าเป็นงานคุณภาพที่คุ้มค่าแก่การเก็บ

4. เหมาะกับช่วงปลายปี—อารมณ์ของขวัญโดยไม่ต้องเป็นของขวัญตามแบบเดิม

ด้วยคอนเซปต์อบอุ่นและงานดีไซน์ที่เป็นมิตร ทำให้คอลเล็คชั่นนี้เหมาะมากสำหรับซื้อให้ตัวเอง หรือให้คนที่เรารักโดยไม่ต้องมีโอกาสพิเศษอะไรทั้งนั้น

แฟน ๆ ที่รอคอลเล็คชั่นใหม่อยู่ ห้ามพลาด! เพราะกระแสตอบรับล่วงหน้าถือว่าดีมาก และหลายประเทศคาดว่าอาจ Sold Out เร็วเหมือนซีรีส์ที่ผ่านมา

บทส่งท้าย: POP MART ไม่ใช่แค่ของสะสม แต่เป็นโลกใบเล็กที่เต็มไปด้วยความสุขและแรงบันดาลใจ

เมื่อเราเล่ามาถึงตรงนี้ หลายคนน่าจะเริ่มเข้าใจเสน่ห์ของ POP MART มากขึ้นว่าทำไมตุ๊กตาตัวเล็ก ๆ ที่ดูเหมือนจะธรรมดา แต่กลับครองใจคนทั่วโลกได้จนกลายเป็นปรากฏการณ์ใหญ่ ทั้งในจีน เอเชีย และยุโรป รวมถึงไทยเองที่กระแสแรงขึ้นเรื่อย ๆ

สิ่งหนึ่งที่ POP MART ทำสำเร็จคือ “การสร้างความรู้สึก” ไม่ใช่แค่ “การขายสินค้า”
เพราะทุกคอลเลกชัน ทุกตัวละคร ล้วนถูกออกแบบมาจากแรงบันดาลใจ ความทรงจำ หรือความคิดสร้างสรรค์ของศิลปินแต่ละคน จนเหมือนได้สื่อสารผ่านงานศิลปะในรูปแบบของเล่นขนาดเล็ก
มันไม่ใช่แค่พลาสติกที่ปั้นให้เป็นตัว แต่คือจิตวิญญาณของศิลปินและเรื่องราวเฉพาะตัว

สิ่งที่ทำให้ POP MART ต่างจากแบรนด์ของเล่นอื่นคือ:

• มันสร้างชุมชนของคนรักงานดีไซน์
  คนที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน สามารถคุยกันถูกคอได้เพราะสุ่มเจอ “ตัวลับ” ตัวเดียวกัน

• มันสร้างความลุ้นเหมือนเปิดของขวัญทุกครั้งที่แกะกล่องสุ่ม
  ความรู้สึกที่ว่า “จะได้ตัวที่ชอบไหมนะ?” เป็นโมเมนต์เล็ก ๆ แต่เติมเต็มหัวใจมากอย่างไม่น่าเชื่อ

• มันทำให้ผู้ใหญ่กลับไปซึ้งใจกับความสุขแบบเด็ก ๆ
  ความสุขจากการเก็บสะสม การมองดูคอลเลกชันที่ตั้งเรียงกันอย่างเป็นระเบียบ เป็นความสุขที่เรียบง่ายแต่ลึกซึ้ง

• มันทำให้ศิลปินจากหลายประเทศมีเวทีแสดงผลงานระดับโลก
  ไม่ใช่แค่คนซื้อเท่านั้นที่มีความสุข แต่ศิลปินเองก็ได้มีพื้นที่เติบโตในสายงานของตัวเอง

และเมื่อมองกลับไปที่ 5 คอลเลกชันยอดนิยม – Molly, Dimoo, Skullpanda, Labubu, Pucky – เราจะเห็นว่าแต่ละตัวมีเอกลักษณ์ของตัวเองจนทำให้แฟนคลับผูกพันแบบลึกซึ้ง
คนจึงไม่ได้ซื้อเพราะอยากมีของแพง แต่ซื้อเพราะ “ชอบจริง ๆ” และ “มีความหมายส่วนตัว”