รีวิว Coros Pace 3 ใครอยากได้นาฬิกาวิ่ง คิดไม่ออก เริ่มต้นที่เรือนนี้ได้เลย



Coros ได้เปิดตัว Coros Pace 3 ที่พัฒนาเพิ่มขึ้นจากรุ่นก่อนหน้านี้ Coros Pace อัพเกรดการรับสัญญาณดาวเทียม 2 ความถี่ และอายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่เพิ่มขึ้น ยกให้เป็นนาฬิกา GPS ที่เบาที่สุด ในราคา เพียง 7,900 บาท ที่เหมาะกับนักวิ่งมือใหม่ หรือนักวิ่งหน้าเก่าให้ได้ใช้งานแบบคุ้มค่า
สายขนาดใหม่

สิ่งแรกที่ไม่พูดถึงไม่ได้คือเรื่องน้ำหนัก และดีไซน์ที่บางเบา หนักเพียง 30 กรัม (เมื่อใส่กับสายไนล่อน) และรูปแบบกรอบวงกลมบนหน้าปัดที่เรียบขึ้น ตัวเรือนบางเพียง 11.7 มม. แม้จะอัพเกรดฟังก์ชั่นมากมาย รวมถึงสายนาฬิกาที่ปรับให้มีขนาดที่กว้างขึ้นจากรุ่นเดิม 20 มม.เป็น 22 มม.ทำให้รัดข้อมือได้กระชับยิ่งขึ้น
แบตเตอรี่

แบตเตอรี่ที่อัพเกรดจากเดิม Coros Pace 3 ใช้งานได้นานยิ่งขึ้น โดยในโหมด GPS ปกติ ใช้งานได้ถึง 38 ชม. จากเดิม 30 ชม. และรองรับการจับสัญญาณดาวเทียมคู่เหมือนรุ่นที่ราคาสูง และในโหมดการนำทางยังสามารถดูได้ทั้ง
โปรไฟล์ระดับความสูง ที่ทำให้รู้การเปลี่ยนแปลงระดับความสูง
การเคลื่อนไหวของดวงอาทิตย์
ระยะทางถึงจุดหมายปลายทาง
การแจ้งเตือนการออกนอกเส้นทาง
จุดเช็คพ้อย ทำเครื่องหมายสำหรับสถานที่สำคัญ
พิกัด GPS ปัจจุบันพร้อมระดดับความสูงโดยประมาณ
มีให้สายให้เลือก 2 รูปแบบ


ในส่วนของสายนาฬิกาที่มีให้เลือกยังมีให้เลือกทั้งแบบซิลิโคนและไนลอน รูปแบบ Quick Releas ซึ่งข้อดีของสายรัดแต่ละรูปแบบก็แตกต่างกัน ถ้าอยากใสแบบเบาๆ ระบายอากาศดีและเป็นมิตรต่อผิวหนังที่แพ้ง่าย สายไนลอนคือทางเลือกที่ใช่เพราะใส่สายนี้นาฬิกาเบาแค่ 30 กรัมเท่านั้น แต่ถ้าเป็นสายลุยชอบความทนทาน แห้งเร็ว และบำรุงรักษาง่ายแนะนำเป็นสายซิลิโคน แต่จะมีน้ำหนักนาฬิกาที่เพิ่มมา 9 กรัม
ถ้าอยากใสแบบเบาๆ ระบายอากาศดีและเป็นมิตรต่อผิวหนังที่แพ้ง่าย สายไนลอนคือทางเลือกที่ใช่เพราะใส่สายนี้นาฬิกาเบาแค่ 30 กรัมเท่านั้น
แต่ถ้าเป็นสายลุยชอบความทนทาน แห้งเร็ว และบำรุงรักษาง่ายแนะนำเป็นสายซิลิโคน แต่จะมีน้ำหนักนาฬิกาที่เพิ่มมา 9 กรัม
รองรับการเปลี่ยนสายโดยไม่ใช่เครื่องมือด้วยรูปแบบ Quick Releas ขนาด 22 mm
เซ็นเซอร์วัดชีพจร

สิ่งใหม่ที่น่าสนใจที่สุดสำหรับ Coros Pace 3 คือการเพิ่มเซ็นเซอร์ตรวจจับสุขภาพจากซีรีย์ Pace ที่ผ่านมา ก่อนหน้านี้มีเซ็นเซอร์เพียง 2 ดวง แต่รุ่นนี้มีถึง 5 ดวงที่ติดตามสุขภาพได้แม่นยำกว่าเดิม ที่ติดตามตั้งแต่ การนอนหลับ SpO2 และความเข้มข้นในการออกกำลังกาย ที่ตัวเซ็นเซอร์ยังพรีเมี่ยมขึ้นด้วยการเคลือบกระจกป้องกันที่ตัวเซ็นเซอร์
เพิ่ม LED 5 ดวง และการตรวจจับ 4 ตัว
รองรับการวัดออกซิเจนในเลือด
เพิ่มโหมด Altitude Mode รับมือกับกิจกรรมบนพื้นที่สูง
เพิ่มกระจกป้องกันเซ็นเซอร์เป็นรอย
หน้าจอ

หน้าจอมีขนาด 1.2 นิ้วเคลือบด้วยกระจกมิเนอรัล และยังเป็นแบบ Transflective ที่ใช้งานได้ดีในที่มืดเหมือนรุ่นที่ผ่านมา แต่ได้เพิ่มระบบสัมผัสที่ไม่เหมือนรุ่นอื่นๆ เพราะ Pace 3 สามารถใช้การสัมผัสกดเลือกได้เลย ไม่ต้องใช้เม็ดมะยม และปุ่มย้อนกลับที่ทำขนาดให้กว้างขึ้น เพื่อการกดที่ง่ายขึ้น และยังสามารถกันน้ำได้ถึง 5 ATM
เพิ่มระบบสัมผัสหน้าจอ, การแตะเข้าเมนูได้ และควมคุมเส้นทาง
หน้าจอ 1.2 นิ้ว ขนาดเท่ากับ Coros Pace 2 รุ่นเดิม
ใช้วัสดุ Mineral Glass
โหมดกีฬา



โหมดกิจกรรมที่เพิ่มขึ้น เช่น วิ่ง ปั่นจักรยาน ว่ายน้ำ ฝึกความแข็งแกร่ง และลุยหิมะ Coros Pace 3 มีโหมดกิจกรรมที่หลากหลายซึ่งได้ปรับให้เหมาะสม เพื่อการวัดที่แม่นยำ การวางแผนเส้นทางล่วงหน้า ที่สามารถกำหนดเองได้ง่ายๆ บนแอพ Coros
เพิ่มโหมดวิ่งเทรล, ปืนเขา, สกี, สโนบอร์ด
รองรับการเตือนในโหมดกิจกรรม เช่น เดือนชีพจร, เพซ และรอบขา
Basic/Advanced Interval Training สำหรับการฝึกซ้อม Interval เต็มรูปแบบเข้ากับโปรแกรมฝึกซ้อม
เชื่อมต่อไร้สาย

จากเดิมที่รองรับการเชื่อมต่อข้อมูลกับ Coros app ด้วยระบบบลูทูธเท่านั้น รอบนี้ Coros Pace 3 ได้เพิ่มการเชื่อมต่อ Wi-Fi เข้ามาใหม่ เพียงเข้าไปเพิ่มเครือข่ายที่ใช้งานในบ้านกับเราเตอร์อินเตอร์เน็ต ก็สามารถซิงค์ข้อมูลได้สะดวกกว่าเดิม
ฟังเพลงจากนาฬิกา

เพียงเสียบสายชาร์จจากนาฬิกาเข้าพอร์ต USB บนคอมพิวเตอร์ ก็สามารถโอนถ่ายเพลง .Mps มาเก็บบนนาฬิกาสำหรับฟังเพลงแบบออฟไลน์ โดยไม่จำเป็นต้องพกสมาร์ทโฟนไปด้วย ซึ่งต้องเชื่อมต่อหูฟังบลูทูธเข้ากับ Coros Pace 3 ก่อน
รองรับการโอนถ่ายไฟล์เพลงเท่านั้น
จะไม่รองรับการซิงค์เพลงผ่าน Music Streaming
Dual Frequency

ใครที่ต้องการความแม่นสูง เวลาใช้โหมดกิจกรรม GPS เช่น โหมดวิ่งเทรล ที่ต้องวิ่งผ่านต้นไม้ใหญ่ ๆ อาจจะบดบังสัญญาณ การเลือกโหมด Dual Frequency จะเข้ามาช่วยการสื่อสารกับดาวเทียมความถี่คู่ ช่วยให้การรับสัญญาณดีขึ้นกว่าโหมด GPS ปกติ แต่ต้องแลกกับแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้น้อยลง ใช้ได้สูงสุด 15 ชม.
สรุป

การกลับมาของ Coros Pace 3 ได้เพิ่มเทคโนโลยีใหม่เข้ามาให้ทันยุคสมัย ซึ่งเป็นนาฬิกา GPS วิ่งอีกหนึ่งเรือนที่ครบเครื่องที่สุดในเรทราคาต่ำกว่าหนึ่งหมื่นบาท และยังรองรับการใช้งานได้ตั้งแต่มือใหม่ จนไปถึงการใช้งานอย่างจริงจัง
แนะนำสำหรับคุณ
เรื่องราวน้ำหอม 4: อามูอาจ: ตำนานแห่งอาณาจักรเครื่องเทศ
โปรเจ็กเตอร์ Magcubic: ส่องสว่างชีวิตแห่งแสงและเงาของโลกด้วยความแข็งแกร่งทางเทคโนโลยี
Edifier: อีกหนึ่งผู้ชนะรางวัลใหญ่ในสายดิจิทัล
เรื่องราวความหอมที่ 1: การเดินทางอันแสนวิเศษของ BYREDO
สาวก Apple ดูทางนี้เลย! เคสโทรศัพท์มีให้เลือกมากมายขนาดนี้ จะเลือกยังไงดี? คู่มือนี้จะสอนคุณเอง~
จะใช้พาวเวอร์แบงค์เพื่อปลดล็อคประสบการณ์สุดยอดของ "การชาร์จแบบไร้รอยต่อ" ได้อย่างไร?