แนะนำโทรศัพท์ iPhone

สวัสดีครับเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ชาวนักช้อปออนไลน์ตัวยง! วันนี้ผมขอรับบทบาทกูรูมืออาชีพ มาไขข้อข้องใจยอดฮิตเกี่ยวกับสมาร์ทโฟนในฝันของหลายๆ คน นั่นก็คือ "ไอโฟน" นั่นเองครับ บอกเลยว่าไอโฟนเนี่ยเป็นมากกว่าแค่โทรศัพท์มือถือในบ้านเรานะ มันคือเพื่อนคู่ใจ คู่คิด คู่แค้น (เวลาแบตหมด) และยังเป็นไอเทมที่ขาดไม่ได้ในยุคดิจิทัลแบบนี้ ไม่ว่าจะวัยรุ่น วัยทำงาน วัยเก๋า หรือวัยไหนๆ ก็หลงเสน่ห์ความเทพของน้องไอเค้าทั้งนั้นแหละครับ บทความนี้เราจะมาเจาะลึกไอโฟนรุ่นฮิตติดชาร์จในไทย พร้อมเคล็ดลับเลือกซื้อยังไงให้โดนใจ ไม่โดนหลอก เตรียมตัวให้พร้อม แล้วไปลุยกันเลย!

1. Apple iPhone 15 Pro Max (512GB)

• ชื่อแบรนด์: Apple

• ชื่อสินค้า: iPhone 15 Pro Max (512GB)

• ราคาสินค้า: ประมาณ 53,900 - 57,900 บาท

• คำอธิบายสินค้า: iPhone 15 Pro Max รุ่นท็อปสุดที่อัดแน่นด้วยนวัตกรรมเพื่อประสบการณ์ใช้งานระดับโปร ตัวเครื่องไทเทเนียมเกรดการบิน แข็งแกร่งแต่น้ำหนักเบา จอภาพ Super Retina XDR พร้อม ProMotion 120Hz ที่ลื่นไหลสบายตา ชิป A17 Pro ตัวแรง เล่นเกมกราฟิกหนักๆ ได้สบาย กล้องหลังระดับโปร 3 ตัว ถ่ายภาพและวิดีโอได้สวยคมชัดทุกสภาพแสง ซูมแบบออปติคัลได้ 5 เท่า แบตเตอรี่อึดสุดๆ ใช้งานได้ทั้งวันแบบไม่ต้องกังวล รองรับ USB-C และ Wi-Fi 6E สำหรับการถ่ายโอนข้อมูลที่รวดเร็ว เหมาะกับคนที่ต้องการสมาร์ทโฟนที่ดีที่สุด แรงที่สุด กล้องเทพที่สุด และจุข้อมูลได้เยอะสะใจ

• จุดเด่นสินค้า: ตัวเครื่องไทเทเนียม, ชิป A17 Pro สุดแรง, กล้องซูม 5 เท่า, จอ ProMotion 120Hz, แบตเตอรี่อึด

• ฟังก์ชันการใช้งาน:

  • ระบบกล้องโปร: ประกอบด้วยกล้องหลัก 48MP, อัลตร้าไวด์ 12MP, เทเลโฟโต้ 12MP (ซูมแบบออปติคัล 5 เท่า) ถ่ายภาพบุคคลในสภาวะแสงน้อยได้ดีเยี่ยม เก็บรายละเอียดครบถ้วน.

  • ชิป A17 Pro: มอบประสิทธิภาพการประมวลผลที่เร็วสุดขีด ทั้ง CPU และ GPU ทำให้การใช้งานแอปพลิเคชันหนักๆ หรือการเล่นเกมที่ต้องการกราฟิกสูงเป็นไปอย่างราบรื่น ไม่มีสะดุด.

  • Dynamic Island: แถบด้านบนจอที่ปรับเปลี่ยนรูปแบบได้ตามการแจ้งเตือน กิจกรรมสด หรือสถานะต่างๆ ทำให้ไม่พลาดทุกการอัปเดตโดยไม่รบกวนการใช้งานหลัก.

  • ปุ่มแอ็คชั่น (Action Button): ปุ่มใหม่ที่สามารถตั้งค่าให้เข้าถึงฟังก์ชันที่ใช้บ่อยได้อย่างรวดเร็ว เช่น เปิดกล้อง เปิดไฟฉาย หรือเรียกใช้งานคำสั่งลัดที่กำหนดเองได้.

• กลุ่มผู้ใช้งาน/สถานการณ์: ผู้ใช้งานระดับโปร, ช่างภาพ/วิดีโอ, คอนเทนต์ครีเอเตอร์, นักเล่นเกม, ผู้ที่ต้องการสมาร์ทโฟนที่ดีที่สุดและพร้อมจ่าย.

2. Apple iPhone 15 Pro (256GB)

• ชื่อแบรนด์: Apple

• ชื่อสินค้า: iPhone 15 Pro (256GB)

• ราคาสินค้า: ประมาณ 45,900 - 49,900 บาท

• คำอธิบายสินค้า: iPhone 15 Pro มอบประสบการณ์ระดับโปรในขนาดที่กะทัดรัดลงมาหน่อย ตัวเครื่องไทเทเนียมเหมือนรุ่น Pro Max จอภาพ Super Retina XDR พร้อม ProMotion 120Hz ชิป A17 Pro ประสิทธิภาพสูง กล้องหลัง 3 ตัวคุณภาพเยี่ยม สามารถซูมแบบออปติคัลได้ 3 เท่า เหมาะสำหรับคนที่ต้องการพลังประมวลผลและกล้องระดับโปร แต่ชอบขนาดเครื่องที่ไม่ใหญ่จนเกินไป ความจุ 256GB ก็เพียงพอสำหรับการใช้งานส่วนใหญ่และเก็บภาพถ่ายวิดีโอจำนวนมากได้สบายๆ

• จุดเด่นสินค้า: ตัวเครื่องไทเทเนียม, ชิป A17 Pro, กล้องโปร versatile, จอ ProMotion 120Hz, ขนาดกะทัดรัดกว่า Pro Max

• ฟังก์ชันการใช้งาน:

  • ระบบกล้องโปรอเนกประสงค์: มาพร้อมกล้องหลัก 48MP, อัลตร้าไวด์ 12MP, เทเลโฟโต้ 12MP (ซูมแบบออปติคัล 3 เท่า) ให้ระยะซูมที่หลากหลายสำหรับการถ่ายภาพในสถานการณ์ต่างๆ ได้อย่างลงตัว.

  • ชิป A17 Pro: ยกระดับประสิทธิภาพในทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นการเล่นเกมระดับคอนโซล การตัดต่อวิดีโอ หรือการทำงานกับแอปพลิเคชันที่ซับซ้อนได้อย่างไหลลื่นและรวดเร็ว.

  • ปุ่มแอ็คชั่น (Action Button): ปรับแต่งการใช้งานให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ของคุณได้อย่างง่ายดาย เพียงกดปุ่มเดียวก็เรียกใช้งานฟังก์ชันโปรดได้ทันที ช่วยประหยัดเวลาในการเข้าถึงเมนูต่างๆ.

• กลุ่มผู้ใช้งาน/สถานการณ์: ผู้ที่ต้องการฟีเจอร์ระดับโปร, คอนเทนต์ครีเอเตอร์, ช่างภาพสมัครเล่นถึงจริงจัง, ผู้ที่ชอบสมาร์ทโฟนประสิทธิภาพสูงในขนาดมือถือทั่วไป.

3. Apple iPhone 15 Plus (128GB)

• ชื่อแบรนด์: Apple

• ชื่อสินค้า: iPhone 15 Plus (128GB)

• ราคาสินค้า: ประมาณ 32,900 - 35,900 บาท

• คำอธิบายสินค้า: iPhone 15 Plus เอาใจคนชอบจอใหญ่แบตอึดในราคาที่เข้าถึงง่ายกว่ารุ่นโปร มาพร้อมจอภาพ Super Retina XDR ขนาด 6.7 นิ้ว แสดงผลสวยงามคมชัด ชิป A16 Bionic ประสิทธิภาพเหลือเฟือสำหรับการใช้งานทั่วไป เล่นเกม หรือทำงานต่างๆ กล้องหลังคู่ 48MP ถ่ายภาพสวย รายละเอียดดี มี Dynamic Island ที่เป็นเอกลักษณ์ แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนานตลอดวันหรือข้ามวันสบายๆ ความจุ 128GB เหมาะกับการใช้งานมาตรฐานทั่วไป ไม่เน้นเก็บไฟล์เยอะมากๆ

• จุดเด่นสินค้า: จอใหญ่สะใจ, แบตเตอรี่อึดมาก, Dynamic Island, กล้อง 48MP, ชิป A16 Bionic

• ฟังก์ชันการใช้งาน:

  • แบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ยาวนาน: ด้วยแบตเตอรี่ขนาดใหญ่และชิป A16 Bionic ที่จัดการพลังงานได้อย่างยอดเยี่ยม ทำให้ iPhone 15 Plus ใช้งานได้ต่อเนื่องตลอดวัน เหมาะสำหรับคนที่เดินทางบ่อยหรือใช้งานหนักหน่วง.

  • จอภาพ Super Retina XDR ขนาด 6.7 นิ้ว: มอบพื้นที่การแสดงผลที่กว้างใหญ่ สีสันสดใส คมชัด เหมาะกับการดูหนัง เล่นเกม หรือการทำงานที่ต้องการพื้นที่บนหน้าจอเยอะๆ.

  • กล้องหลัก 48MP: ยกระดับการถ่ายภาพให้มีความละเอียดสูงขึ้น เก็บรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ได้ครบถ้วน สามารถครอปภาพโดยที่คุณภาพยังดีอยู่ เหมาะกับการแชร์ลงโซเชียลมีเดีย.

• กลุ่มผู้ใช้งาน/สถานการณ์: คนที่ต้องการจอใหญ่, เน้นแบตเตอรี่อึด, ใช้งานทั่วไปถึงปานกลาง, ชอบดีไซน์ใหม่พร้อม Dynamic Island, งบประมาณจำกัดกว่ารุ่นโปร.

4. Apple iPhone 15 (128GB)

• ชื่อแบรนด์: Apple

• ชื่อสินค้า: iPhone 15 (128GB)

• ราคาสินค้า: ประมาณ 28,900 - 31,900 บาท

• คำอธิบายสินค้า: iPhone 15 รุ่นมาตรฐานที่มาพร้อมฟีเจอร์ใหม่ๆ ที่น่าสนใจในราคาที่เข้าถึงง่ายขึ้น จอภาพ Super Retina XDR ขนาด 6.1 นิ้ว แสดงผลสวยงาม มี Dynamic Island ที่เป็นครั้งแรกในรุ่นที่ไม่ใช่โปร ชิป A16 Bionic ทรงพลัง กล้องหลัก 48MP ถ่ายรูปสวยขึ้นมาก แบตเตอรี่ใช้งานได้ตลอดวัน ตัวเครื่องดีไซน์ขอบเรียบพร้อมกระจกแต่งสีสันสดใส ความจุ 128GB เพียงพอต่อการใช้งานพื้นฐานทั่วไป ถือเป็นไอโฟนที่คุ้มค่าตัวหนึ่งสำหรับคนที่อยากอัปเกรดมาใช้รุ่นใหม่ล่าสุด.

• จุดเด่นสินค้า: Dynamic Island ในรุ่นมาตรฐาน, กล้อง 48MP, ชิป A16 Bionic, ดีไซน์สวยสีสันสดใส, ราคาเข้าถึงง่าย

• ฟังก์ชันการใช้งาน:

  • Dynamic Island: นำเสนอฟังก์ชันและข้อมูลสำคัญต่างๆ ในรูปแบบที่ลื่นไหลและดูสวยงามบนแถบด้านบนจอ ช่วยให้การทำงานมัลติทาสก์และการติดตามการแจ้งเตือนสะดวกสบายยิ่งขึ้น.

  • กล้องหลัก 48MP: ให้ภาพถ่ายที่มีรายละเอียดสูง สามารถซูมแบบดิจิทัลได้ดีขึ้น และยังช่วยให้การถ่ายภาพในที่แสงน้อยมีคุณภาพที่ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด.

  • ชิป A16 Bionic: มอบประสิทธิภาพที่รวดเร็วและราบรื่นสำหรับการใช้งานแอปพลิเคชันทั่วไป เล่นเกม หรือประมวลผลงานต่างๆ บนตัวเครื่องได้อย่างมีประสิทธิภาพ.

• กลุ่มผู้ใช้งาน/สถานการณ์: ผู้ที่ต้องการไอโฟนรุ่นใหม่ล่าสุดพร้อมฟีเจอร์เด่นอย่าง Dynamic Island และกล้อง 48MP, ใช้งานทั่วไป, นักเรียน/นักศึกษา, คนที่เน้นความคุ้มค่า.

5. Apple iPhone 15 (256GB)

• ชื่อแบรนด์: Apple

• ชื่อสินค้า: iPhone 15 (256GB)

• ราคาสินค้า: ประมาณ 32,900 - 34,900 บาท

• คำอธิบายสินค้า: iPhone 15 รุ่นเดียวกันกับด้านบน แต่เพิ่มความจุมาเป็น 256GB เหมาะสำหรับคนที่รู้ตัวว่าชอบถ่ายรูป ถ่ายวิดีโอเยอะๆ ลงแอปเยอะๆ หรือเก็บไฟล์ต่างๆ บนเครื่องค่อนข้างมาก โดยที่ยังได้ฟีเจอร์เด่นๆ ของ iPhone 15 ครบถ้วน ทั้ง Dynamic Island, กล้อง 48MP, ชิป A16 Bionic และแบตเตอรี่ที่อึดใช้งานได้ตลอดวัน ถือเป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์คนที่ต้องการพื้นที่เก็บข้อมูลเพิ่มโดยไม่ต้องขยับไปรุ่น Pro.

• จุดเด่นสินค้า: Dynamic Island, กล้อง 48MP, ชิป A16 Bionic, พื้นที่เก็บข้อมูลเยอะ, แบตเตอรี่อึด

• ฟังก์ชันการใช้งาน:

  • พื้นที่เก็บข้อมูล 256GB: เพียงพอสำหรับบันทึกภาพถ่ายและวิดีโอความละเอียดสูงจำนวนมาก ติดตั้งแอปพลิเคชันและเกมที่ต้องการได้โดยไม่ต้องกังวลว่าพื้นที่ใกล้เต็ม เหมาะสำหรับผู้ใช้งานที่เน้นการเก็บข้อมูลบนตัวเครื่อง.

  • ระบบกล้องคู่ที่พัฒนาขึ้น: ด้วยกล้องหลัก 48MP ช่วยให้ถ่ายภาพที่มีรายละเอียดสูงและคมชัดขึ้นมาก พร้อมกล้องอัลตร้าไวด์สำหรับการถ่ายภาพมุมกว้าง เก็บภาพวิวทิวทัศน์หรือภาพหมู่ได้อย่างง่ายดาย.

  • ชิป A16 Bionic: มอบพลังในการประมวลผลที่รวดเร็ว รองรับการใช้งานแบบมัลติทาสก์ เล่นเกม หรือตัดต่อวิดีโอสั้นๆ บนมือถือได้อย่างสบายๆ.

• กลุ่มผู้ใช้งาน/สถานการณ์: ผู้ที่ต้องการไอโฟนรุ่นใหม่ล่าสุด, ชอบถ่ายรูป/วิดีโอเยอะ, ติดตั้งแอปจำนวนมาก, ต้องการพื้นที่เก็บข้อมูลเพียงพอต่อการใช้งานระยะยาว.

6. Apple iPhone 14 (128GB)

• ชื่อแบรนด์: Apple

• ชื่อสินค้า: iPhone 14 (128GB)

• ราคาสินค้า: ประมาณ 24,900 - 27,900 บาท

• คำอธิบายสินค้า: iPhone 14 ยังคงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจในปีนี้ ด้วยราคาที่เข้าถึงง่ายลง มาพร้อมชิป A15 Bionic (ตัวเดียวกับ iPhone 13 Pro) ที่ยังคงแรงเหลือเฟือ จอภาพ Super Retina XDR ขนาด 6.1 นิ้ว กล้องหลังคู่ 12MP คุณภาพดีเยี่ยม ถ่ายรูปสวยในทุกสภาพแสง มีฟีเจอร์ Cinematic Mode และ Action Mode สำหรับการถ่ายวิดีโอ แบตเตอรี่ใช้งานได้ตลอดวัน ความจุ 128GB เป็นขนาดเริ่มต้นที่เพียงพอสำหรับการใช้งานทั่วไป ถือเป็นไอโฟนที่คุ้มค่าสำหรับคนที่ไม่ได้ต้องการฟีเจอร์ล่าสุดแต่ยังอยากได้ประสิทธิภาพที่ดีเยี่ยม.

• จุดเด่นสินค้า: ชิป A15 Bionic ประสิทธิภาพสูง, กล้องคู่คุณภาพดี, Cinematic Mode, Action Mode, แบตเตอรี่อึด

• ฟังก์ชันการใช้งาน:

  • ชิป A15 Bionic (แบบ 5-core GPU): มอบประสิทธิภาพการประมวลผลกราฟิกที่ดีเยี่ยม ทำให้การเล่นเกมหรือใช้งานแอปที่ต้องใช้กราฟิกหนักๆ เป็นไปอย่างลื่นไหลและสนุกสนาน.

  • ระบบกล้องคู่ที่ปรับปรุง: กล้องหลัก 12MP รูรับแสงกว้างขึ้น เก็บแสงได้ดีขึ้น ถ่ายภาพในที่แสงน้อยได้ดีขึ้น พร้อมกล้องอัลตร้าไวด์สำหรับการถ่ายภาพมุมกว้าง.

  • Action Mode: ช่วยให้การถ่ายวิดีโอขณะเคลื่อนไหวมีความนิ่งและสมูทเสมือนใช้ไม้กันสั่น เหมาะสำหรับสายแอ็คทีฟหรือการถ่ายวิดีโอกิจกรรมต่างๆ.

• กลุ่มผู้ใช้งาน/สถานการณ์: ผู้ที่ต้องการไอโฟนประสิทธิภาพดีในราคาที่เข้าถึงง่าย, ใช้งานทั่วไป, นักเรียน/นักศึกษา, คนที่ชอบถ่ายรูปถ่ายวิดีโอแต่ไม่ได้เน้นฟีเจอร์โปรสุดๆ.

7. Apple iPhone 14 Plus (128GB)

• ชื่อแบรนด์: Apple

• ชื่อสินค้า: iPhone 14 Plus (128GB)

• ราคาสินค้า: ประมาณ 27,900 - 30,900 บาท

• คำอธิบายสินค้า: iPhone 14 Plus เป็นอีกตัวเลือกสำหรับคนชอบจอใหญ่และแบตอึดในราคาที่จับต้องได้เหมือน iPhone 15 Plus แต่เป็นรุ่นปีก่อนหน้า มาพร้อมจอภาพ Super Retina XDR ขนาด 6.7 นิ้ว แบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ยาวนานมากๆ ชิป A15 Bionic ที่ยังคงทรงพลัง และกล้องหลังคู่ 12MP คุณภาพดี มี Cinematic Mode และ Action Mode ความจุ 128GB เหมาะกับการใช้งานทั่วไปที่ไม่ได้เน้นเก็บไฟล์เยอะมากนัก เป็นไอโฟนจอใหญ่แบตอึดที่คุ้มค่าในปีนี้.

• จุดเด่นสินค้า: จอใหญ่สะใจ, แบตเตอรี่อึดโคตร, ชิป A15 Bionic, กล้องคู่คุณภาพดี, Cinematic Mode, Action Mode

• ฟังก์ชันการใช้งาน:

  • แบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ยาวนานที่สุดในบรรดา iPhone 14 Series: เหมาะสำหรับคนที่ใช้งานมือถือหนักๆ ดูหนัง ฟังเพลง เล่นเกม หรือเดินทางบ่อยๆ โดยไม่ต้องพกพาวเวอร์แบงค์ให้วุ่นวาย.

  • จอภาพ Super Retina XDR ขนาด 6.7 นิ้ว: มอบประสบการณ์การรับชมที่เต็มตา ไม่ว่าจะดูคอนเทนต์แบบไหนก็ฟิน พร้อมความสว่างและความแม่นยำของสีที่ดีเยี่ยม.

  • ฟีเจอร์ด้านวิดีโอ: ทั้ง Cinematic Mode ที่ช่วยให้ถ่ายวิดีโอแบบหน้าชัดหลังเบลอได้ง่ายๆ และ Action Mode ที่ช่วยให้วิดีโอมีความนิ่งแม้ขณะเคลื่อนไหว เหมาะสำหรับสาย Vlog หรือคอนเทนต์วิดีโอทั่วไป.

• กลุ่มผู้ใช้งาน/สถานการณ์: คนที่ต้องการไอโฟนจอใหญ่และแบตอึดมากๆ, ใช้งานทั่วไปถึงปานกลาง, ผู้ที่มองหาความคุ้มค่าของไอโฟนจอใหญ่.

8. Apple iPhone 13 (128GB)

• ชื่อแบรนด์: Apple

• ชื่อสินค้า: iPhone 13 (128GB)

• ราคาสินค้า: ประมาณ 19,900 - 23,900 บาท

• คำอธิบายสินค้า: iPhone 13 ยังคงเป็นไอโฟนยอดนิยมที่หลายคนเลือกซื้อ ด้วยราคาที่น่ารักลงมามาก แต่ประสิทธิภาพยังคงดีเยี่ยมสำหรับการใช้งานทั่วไปในปัจจุบัน มาพร้อมชิป A15 Bionic จอภาพ Super Retina XDR ขนาด 6.1 นิ้ว กล้องหลังคู่ 12MP คุณภาพดี ถ่ายรูปสวย วิดีโอมี Cinematic Mode แบตเตอรี่ใช้งานได้ตลอดวัน ดีไซน์ขอบเรียบ มีสีสันให้เลือกหลากหลาย ความจุ 128GB เป็นขนาดเริ่มต้นที่เพียงพอสำหรับคนส่วนใหญ่ เป็นไอโฟนที่คุ้มค่าคุ้มราคามากๆ ในตอนนี้.

• จุดเด่นสินค้า: ราคาคุ้มค่า, ชิป A15 Bionic ยังคงแรง, กล้องคู่คุณภาพดี, Cinematic Mode, แบตเตอรี่อึดใช้ได้

• ฟังก์ชันการใช้งาน:

  • ชิป A15 Bionic: ยังคงมอบประสิทธิภาพที่รวดเร็วสำหรับการใช้งานแอปพลิเคชันทั่วไป โซเชียลมีเดีย หรือเล่นเกมที่ไม่เน้นกราฟิกสูงมากนักได้อย่างสบายๆ.

  • ระบบกล้องคู่ 12MP: ถ่ายภาพและวิดีโอได้คุณภาพดีเยี่ยมในหลากหลายสภาพแสง มีโหมด Night Mode สำหรับการถ่ายภาพกลางคืน และ Photographic Styles เพื่อปรับแต่งโทนสีภาพตามสไตล์ที่ชอบ.

  • Cinematic Mode: เพิ่มความสามารถในการถ่ายวิดีโอให้ดูมีความเป็นภาพยนตร์มากขึ้น ด้วยการปรับโฟกัสอัตโนมัติระหว่างบุคคลในเฟรมได้อย่างชาญฉลาด.

• กลุ่มผู้ใช้งาน/สถานการณ์: ผู้ที่มองหาไอโฟนที่คุ้มค่าคุ้มราคา, ใช้งานทั่วไป, นักเรียน/นักศึกษา, ผู้สูงอายุ, คนที่ต้องการไอโฟนเครื่องแรก.

9. Apple iPhone SE (3rd Generation, 128GB)

• ชื่อแบรนด์: Apple

• ชื่อสินค้า: iPhone SE (3rd Generation, 128GB)

• ราคาสินค้า: ประมาณ 17,900 - 19,900 บาท

• คำอธิบายสินค้า: iPhone SE รุ่นที่ 3 เป็นไอโฟนราคาประหยัดที่สุดที่ยังวางขายในปัจจุบัน แต่มาพร้อมชิป A15 Bionic ตัวเดียวกับ iPhone 13 Series ทำให้ประสิทธิภาพการใช้งานแรงเหลือเฟือสำหรับแอปพลิเคชันและเกมส่วนใหญ่ รองรับ 5G ดีไซน์คลาสสิกพร้อมปุ่ม Home และ Touch ID จอภาพ Retina HD ขนาด 4.7 นิ้ว กล้องหลัง 12MP ถ่ายรูปสวยด้วย Smart HDR 4 และ Photographic Styles เหมาะสำหรับคนที่ชอบไอโฟนขนาดเล็ก พกพาง่าย หรือต้องการไอโฟนเครื่องแรกในราคาที่เข้าถึงง่ายมากๆ ความจุ 128GB เหมาะกับการใช้งานมาตรฐาน.

• จุดเด่นสินค้า: ราคาถูกที่สุด, ชิป A15 Bionic แรง, ขนาดกะทัดรัด, Touch ID, รองรับ 5G

• ฟังก์ชันการใช้งาน:

  • ชิป A15 Bionic: แม้จะเป็นรุ่นเล็กสุด แต่ได้ชิปตัวแรง ทำให้การใช้งานต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดแอป เล่นเกม หรือสลับแอป ทำได้อย่างรวดเร็ว ลื่นไหล ไม่แพ้รุ่นพี่ๆ.

  • Touch ID: ระบบสแกนลายนิ้วมือบนปุ่ม Home ที่แม่นยำและปลอดภัย ใช้งานง่าย สะดวกสบายสำหรับหลายๆ คนที่คุ้นเคยกับปุ่ม Home.

  • กล้องเดี่ยว 12MP: แม้จะมีกล้องเพียงตัวเดียว แต่ด้วยพลังของชิป A15 Bionic ทำให้ถ่ายภาพออกมาได้สวยงาม มี Smart HDR 4 และ Photographic Styles ช่วยปรับปรุงคุณภาพของภาพถ่ายให้ดียิ่งขึ้น.

• กลุ่มผู้ใช้งาน/สถานการณ์: ผู้ที่มองหาไอโฟนราคาประหยัด, ชอบขนาดกะทัดรัด, ผู้สูงอายุ, เด็ก/วัยรุ่น, คนที่ต้องการไอโฟนเครื่องรอง, ผู้ที่ชอบ Touch ID.

10. Apple iPhone 15 Pro (128GB)

• ชื่อแบรนด์: Apple

• ชื่อสินค้า: iPhone 15 Pro (128GB)

• ราคาสินค้า: ประมาณ 41,900 - 45,900 บาท

• คำอธิบายสินค้า: iPhone 15 Pro รุ่นความจุเริ่มต้น 128GB มอบประสบการณ์ระดับโปรในราคาที่จับต้องง่ายขึ้นอีกนิด ยังคงได้ตัวเครื่องไทเทเนียม, ชิป A17 Pro สุดแรง, จอ ProMotion 120Hz, กล้องหลัง 3 ตัวระดับโปรพร้อมซูมแบบออปติคัล 3 เท่า และปุ่ม Action Button ฟีเจอร์เด่นครบถ้วนเหมือนรุ่น 256GB ต่างกันที่ความจุภายในเท่านั้น เหมาะสำหรับคนที่ต้องการไอโฟนประสิทธิภาพสูง กล้องเทพ และฟีเจอร์ใหม่ๆ แต่ไม่ได้เน้นเก็บไฟล์เยอะมากๆ หรือใช้ Cloud Storage เป็นหลัก.

• จุดเด่นสินค้า: ตัวเครื่องไทเทเนียม, ชิป A17 Pro, กล้องโปร versatile, จอ ProMotion 120Hz, ราคาเข้าถึงง่ายกว่าความจุอื่น

• ฟังก์ชันการใช้งาน:

  • ชิป A17 Pro: ให้ประสิทธิภาพการประมวลผลสูงสุดในบรรดา iPhone ไม่ว่าจะเป็นการเล่นเกมกราฟิกอลังการ การตัดต่อวิดีโอระดับ 4K หรือการทำงานกับแอปพลิเคชันเฉพาะทางก็ทำได้อย่างรวดเร็วและเสถียร.

  • ระบบกล้องโปรพร้อม LiDAR Scanner: นอกจากกล้องเลนส์ต่างๆ แล้ว ยังมี LiDAR Scanner ที่ช่วยในการถ่ายภาพบุคคลในที่แสงน้อย การโฟกัสที่รวดเร็ว และเปิดประสบการณ์ด้าน AR (Augmented Reality) ที่แม่นยำยิ่งขึ้น.

  • ปุ่มแอ็คชั่น (Action Button): ปรับเปลี่ยนการทำงานได้หลากหลายตามความต้องการของผู้ใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นการเข้าโหมดเงียบ เปิดกล้อง บันทึกเสียง หรือเรียกใช้ Shortcut ที่ตั้งไว้ ช่วยให้การใช้งานประจำวันสะดวกขึ้นมาก.

• กลุ่มผู้ใช้งาน/สถานการณ์: ผู้ที่ต้องการไอโฟนระดับโปรในราคาเริ่มต้น, เน้นประสิทธิภาพและกล้องเป็นหลัก, ใช้งาน Cloud Storage, ไม่ได้เน้นเก็บไฟล์ขนาดใหญ่บนเครื่อง.

คำแนะนำการเลือกซื้อ Apple iPhone ให้โดนใจใช่เลย!

• 1. เลือกตามงบประมาณและความต้องการใช้งานจริง:
  ก่อนอื่นเลย ต้องสำรวจเงินในกระเป๋าก่อนครับว่าพร้อมเปย์น้องไอโฟนแค่ไหน เพราะราคามีตั้งแต่หมื่นปลายๆ ไปจนถึงครึ่งแสนเลยทีเดียว หลังจากนั้นลองถามใจตัวเองดูว่าปกติใช้มือถือทำอะไรบ้าง เน้นเล่นเกมหนักๆ ไหม? ถ่ายรูปเยอะอัปโซเชียลทุกวันหรือเปล่า? หรือแค่ใช้โทรเข้า-ออก แชท ดูหนังฟังเพลงทั่วไป? ถ้าเน้นเล่นเกมโหดๆ ถ่ายรูปจริงจัง หรืออยากได้ฟีเจอร์ล้ำๆ รุ่น Pro หรือ Pro Max คือคำตอบ แต่ถ้าใช้งานทั่วไป iPhone รุ่นมาตรฐาน หรือ Plus ก็เพียงพอแล้วครับ ไม่จำเป็นต้องจ่ายแพงเกินความจำเป็น ยิ่งช่วงเทศกาลหรือปลายปี มักจะมีโปรโมชั่นดีๆ จากทั้ง Apple เองและผู้ให้บริการเครือข่ายในไทยด้วยนะ ลองเช็กดูดีๆ อาจได้เครื่องในราคาพิเศษ หรือได้ส่วนลดเมื่อซื้อพร้อมแพ็กเกจ ยิ่งถ้าไม่ได้รีบร้อนใช้รุ่นล่าสุด รุ่นปีก่อนๆ อย่าง iPhone 14 หรือ iPhone 13 ก็ยังน่าใช้อยู่มาก และราคาเป็นมิตรกับกระเป๋ามากขึ้นเยอะเลยครับ การเลือกความจุให้เหมาะสมก็สำคัญ ถ้าชอบถ่ายรูป ถ่ายวิดีโอเยอะๆ หรือลงแอปเยอะ ควรเลือกความจุ 256GB ขึ้นไป แต่ถ้าเน้นเก็บข้อมูลบน iCloud หรือไม่ได้ใช้พื้นที่เยอะ 128GB ก็เพียงพอแล้วครับ การเลือกให้ตรงกับความต้องการและงบประมาณจะทำให้เราใช้งานไอโฟนได้อย่างมีความสุขและคุ้มค่าที่สุดครับ อย่าหลงไปกับกระแสมากเกินไปจนเป็นหนี้เป็นสินนะครับ ใช้เท่าที่จำเป็นและเหมาะสมกับไลฟ์สไตล์เราดีที่สุด

• 2. ตรวจสอบแหล่งซื้อและความน่าเชื่อถือ:
  ในไทยมีแหล่งซื้อไอโฟนหลายที่ครับ ทั้ง Apple Store Online ประเทศไทย, ผู้ให้บริการเครือข่าย (AIS, True, Dtac), ตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ (Studio 7, BaNANA, iStudio by Copperwired) และร้านค้าออนไลน์บนแพลตฟอร์มต่างๆ การซื้อจากแหล่งที่น่าเชื่อถือและเป็นทางการจะช่วยให้มั่นใจได้ว่าเป็นเครื่องแท้ มีคุณภาพ และได้รับการรับประกันตามมาตรฐานของ Apple นะครับ โดยปกติการรับประกัน iPhone จาก Apple จะครอบคลุม 1 ปีนับจากวันที่ซื้อ หากมีปัญหาจากการผลิตสามารถนำเครื่องเข้ารับบริการที่ศูนย์บริการที่ได้รับอนุญาตจาก Apple ในประเทศไทยได้เลยครับ ควรเก็บใบเสร็จหรือหลักฐานการซื้อไว้ให้ดีเผื่อมีปัญหา นอกจากแหล่งทางการแล้ว ก็จะมีร้านค้าที่ขายเครื่องหิ้ว หรือเครื่องที่ไม่ได้นำเข้าอย่างเป็นทางการ ซึ่งราคาอาจจะถูกกว่า แต่ก็มีความเสี่ยงตามมา ทั้งเรื่องคุณภาพเครื่อง การรับประกันที่อาจจะไม่ครอบคลุมในประเทศไทย หรืออาจเจอเครื่องที่ถูกดัดแปลงมาได้ครับ แนะนำว่าเพื่อความสบายใจและปลอดภัย ควรเลือกซื้อจากร้านค้าที่เป็นที่รู้จัก มีหน้าร้านจริง หรือแพลตฟอร์มออนไลน์ที่น่าเชื่อถือ มีนโยบายการคืนสินค้าที่ชัดเจน และที่สำคัญคือต้องมีการรับประกันที่ถูกต้องครับ อย่าเห็นแก่ของถูกมากๆ จนมองข้ามความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นนะครับ การซื้อไอโฟนเป็นการลงทุนอย่างหนึ่ง เลือกแหล่งซื้อที่ไว้ใจได้สบายใจกว่าเยอะครับ

• 3. เปรียบเทียบคุณสมบัติและเลือกรุ่นที่ใช่:
  ไอโฟนแต่ละรุ่น แต่ละปี ก็จะมีฟีเจอร์และคุณสมบัติเด่นที่แตกต่างกันไปครับ ถ้าเป็นสายถ่ายรูป ชอบกล้องสวยๆ หรือเน้นถ่ายวิดีโอ ควรดูรุ่น Pro หรือ Pro Max ที่มีเลนส์ Telephoto หรือฟีเจอร์การถ่ายวิดีโอที่เหนือกว่า รุ่นมาตรฐานก็ถ่ายรูปสวยขึ้นเยอะแล้วเหมือนกันครับ ถ้าชอบจอใหญ่เต็มตา ดูหนัง เล่นเกมฟินๆ รุ่น Plus หรือ Pro Max คือตอบโจทย์เลย แต่ถ้าชอบเครื่องเล็กกะทัดรัด พกพาง่าย iPhone SE ก็เป็นตัวเลือกที่ดีมากๆ ครับ ประสิทธิภาพของชิปก็สำคัญ ถ้าเน้นใช้งานหนัก เล่นเกมกราฟิกสูงๆ ควรเลือกรุ่นที่ใช้ชิป A ล่าสุด หรือรุ่น Pro ที่มีชิปที่แรงกว่า แต่ถ้าใช้งานทั่วไป ชิป A รุ่นก่อนหน้าก็ยังเร็วและลื่นไหลครับ อย่าง iPhone 13 หรือ iPhone 14 ที่ใช้ชิป A15 Bionic ก็ยังทำงานได้ดีมากๆ ในปีนี้ ลองเปรียบเทียบสเปกต่างๆ เช่น ขนาดหน้าจอ ประเภทของจอ (LCD หรือ OLED), จำนวนและชนิดของกล้อง, ความจุแบตเตอรี่, วัสดุตัวเครื่อง, การรองรับ 5G และฟีเจอร์พิเศษอื่นๆ ที่แต่ละรุ่นมี เพื่อให้ได้ไอโฟนที่ตรงกับความต้องการและไลฟ์สไตล์ของเรามากที่สุดครับ อย่าลืมว่าไอโฟนคือเพื่อนคู่กายเราไปอีกหลายปี เลือกที่ถูกใจและตอบโจทย์การใช้งานในระยะยาวจะดีที่สุดครับ ลองไปจับเครื่องจริงที่ร้านดูก็ได้นะครับ จะได้สัมผัสขนาด น้ำหนัก และความรู้สึกในการใช้งานจริงก่อนตัดสินใจ

คำถามพบบ่อย (FAQ) เกี่ยวกับ Apple iPhone

• Q: ซื้อ iPhone จากแหล่งไหนดีที่สุดในไทย?
  A: แหล่งที่น่าเชื่อถือที่สุดคือ Apple Store Online ประเทศไทย หรือตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ เช่น Studio 7, BaNANA, iStudio by Copperwired รวมถึงผู้ให้บริการเครือข่าย AIS, True, Dtac ครับ การซื้อจากแหล่งเหล่านี้มั่นใจได้ว่าเป็นเครื่องแท้ มีการรับประกันถูกต้องตามมาตรฐาน Apple.

• Q: การรับประกัน iPhone ในไทยเป็นอย่างไร?
  A: โดยปกติ iPhone ที่ซื้อจากช่องทางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในประเทศไทยจะมีการรับประกันแบบจำกัดระยะเวลา 1 ปี ครอบคลุมความเสียหายที่เกิดจากข้อบกพร่องในการผลิต หากเครื่องมีปัญหาภายในระยะเวลาประกัน สามารถนำเข้ารับบริการที่ศูนย์บริการที่ได้รับอนุญาตจาก Apple ในประเทศไทยได้ครับ สามารถซื้อ AppleCare+ เพื่อขยายระยะเวลาคุ้มครองและเพิ่มความคุ้มครองกรณีอุบัติเหตุได้ด้วย.

• Q: iPhone เครื่องหิ้วกับเครื่องศูนย์ไทย ต่างกันไหม?
  A: แตกต่างกันที่แหล่งที่มาและการรับประกันเป็นหลักครับ เครื่องศูนย์ไทยคือนำเข้าและจัดจำหน่ายอย่างเป็นทางการในประเทศไทย มีการรับประกันที่แน่นอนในประเทศ ส่วนเครื่องหิ้วคือนำเข้ามาจากต่างประเทศเอง ราคาอาจจะถูกกว่า แต่การรับประกันอาจมีข้อจำกัด หรืออาจไม่สามารถเคลมในไทยได้ครับ เพื่อความสบายใจ แนะนำให้ซื้อเครื่องศูนย์ไทยครับ

• Q: ควรเลือกความจุ iPhone เท่าไหร่ดี?
  A: ขึ้นอยู่กับลักษณะการใช้งานของคุณครับ ถ้าเน้นใช้งานทั่วไป ถ่ายรูปบ้างเล็กน้อย ไม่ค่อยเก็บไฟล์ขนาดใหญ่บนเครื่อง 128GB ก็เพียงพอ แต่ถ้าเป็นคนชอบถ่ายรูป ถ่ายวิดีโอความละเอียดสูงมากๆ ลงแอปเยอะๆ หรือเก็บไฟล์จำนวนมาก ควรเลือก 256GB ขึ้นไปครับ รุ่น Pro/Pro Max ยังมีตัวเลือก 512GB หรือ 1TB สำหรับผู้ใช้งานระดับโปรที่ต้องการพื้นที่มหาศาล.

• Q: ซื้อ iPhone ช่วงไหนถึงจะได้ราคาดี?
  A: มักจะมีโปรโมชั่นพิเศษในช่วงที่มีการเปิดตัว iPhone รุ่นใหม่ (ราคาของรุ่นเก่าจะปรับลง), ช่วงเทศกาลสำคัญๆ เช่น ปีใหม่ สงกรานต์ หรือช่วงโปรโมชั่นใหญ่ๆ ของแพลตฟอร์มออนไลน์ (เช่น 11.11, 12.12) รวมถึงโปรโมชั่นจากผู้ให้บริการเครือข่ายต่างๆ ที่มักจะมีส่วนลดเมื่อซื้อพร้อมแพ็กเกจครับ ลองติดตามข่าวสารและโปรโมชั่นในช่วงเวลาเหล่านี้ดูครับ.

วิดีโอที่เกี่ยวข้อง

• Which Apple iPhones are worth buying and which ones should be avoided? [April 2025]

• The iPhone 17 Pro represents the biggest revolution in history: a brand-new design revealed for the first time.

• A Must-See for Apple Users! The All-New AI Smart Features of the iPhone are Now Live – Experience Them Now!

• iPhone 17 is expected to see record-breaking sales

• I have been using an Apple phone for such a long time, but I didn’t even know it had these features.