iPhone 17 แพงเกินไปหรือไม่? กับยอดจองที่พุ่งสวนทาง

ทุกครั้งที่ Apple เปิดตัว iPhone รุ่นใหม่ คำถามยอดฮิตที่ตามมาคือ “มันแพงเกินไปหรือเปล่า?” แต่สิ่งที่น่าสนใจก็คือ แม้จะมีเสียงบ่นเรื่องราคามากแค่ไหน ตัวเลขยอดจองกลับพุ่งสูงสวนทางเสมอ และในปีนี้ iPhone 17 ก็กลายเป็นตัวอย่างที่ชัดเจนที่สุด เพราะยอดพรีออเดอร์ทะลุเป้า จน Apple ต้องเร่งเครื่องเพิ่มการผลิตอย่างเร่งด่วน

บทความนี้จะพาไปเจาะลึกว่า iPhone 17 ทำไมถึงถูกมองว่าแพง แต่คนก็ยังยอมซื้อ ฟีเจอร์สำคัญที่ทำให้คุ้มค่าเป็นอย่างไร เหมาะกับใคร และควรใช้อย่างไรให้เต็มประสิทธิภาพ 

เมื่อราคาสูง แต่ความต้องการสูงกว่า

Apple คือบริษัทที่ขึ้นชื่อเรื่อง “การขายแพงแต่คนก็ซื้อ” ไม่ว่าจะเป็น iPhone รุ่นไหน ๆ ก็ยังมียอดจองสูงอย่างต่อเนื่อง ซึ่ง iPhone 17 กำลังตอกย้ำปรากฏการณ์นี้อีกครั้ง

เดิมที Apple คาดการณ์ว่ารุ่น Pro และ Pro Max จะครองยอดขายหลัก แต่ความจริงกลับไม่เป็นเช่นนั้น ผู้ใช้จำนวนมหาศาลเลือกจอง iPhone 17 รุ่นมาตรฐาน จน Apple ต้องรีบขยายการผลิตเพิ่มกว่า 40% ต่อวัน ถือว่าเป็นการ “ผิดคาด” ที่สะท้อนว่า ผู้บริโภคให้คุณค่ากับความคุ้มค่ามากกว่าที่คิด

Apple iPhone 17 Pro Max

฿48,900-฿80,900

ซื้อสินค้า

Apple iPhone 17 Pro

฿43,900-฿59,900

ซื้อสินค้า

iPhone 17 คืออะไร?

iPhone 17 คือสมาร์ทโฟนรุ่นล่าสุดจาก Apple ที่เปิดตัวมาพร้อมกับการผสมผสานจุดแข็งจากรุ่น Pro ลงมาในรุ่นมาตรฐานเป็นครั้งแรก เช่น จอ ProMotion 120Hz ที่ลื่นไหล กล้องที่ฉลาดขึ้น และชิปประมวลผล A19 ที่ทรงพลัง

• ราคาเปิดตัวสหรัฐฯ: $799

• ราคาไทย: เริ่มต้นที่ 29,900 บาท

นี่คือราคาที่หลายคนบ่นว่าแพง แต่เมื่อเทียบกับสิ่งที่ได้แล้วกลับถูกมองว่า “คุ้มค่า” กว่าทุกรุ่นที่ผ่านมา

ทำไม iPhone 17 ถึงน่าใช้

เหตุผลที่ทำให้คนเลือกซื้อ iPhone 17 แม้ราคาจะสูง มีดังนี้

1. คุ้มค่าเกินราคา – ได้ฟีเจอร์ระดับโปรในราคาที่เข้าถึงง่าย

2. ประสิทธิภาพสูง – ใช้ชิป A19 ใหม่ ที่เร็วและประหยัดพลังงาน

3. ดีไซน์พรีเมียม – บาง เบา หรูหรา พร้อมสีใหม่อย่าง Lavender, Sage และ Mist Blue

4. ระบบนิเวศ Apple – การใช้งานลื่นไหลกับ MacBook, iPad, Apple Watch และบริการต่าง ๆ

5. คุณภาพกล้อง – กล้องอัปเกรดใหม่ รองรับ Center Stage ถ่ายวิดีโอคอลได้สมจริง

ฟีเจอร์เด่นของ iPhone 17

 มาดูกันชัด ๆ ว่าฟีเจอร์ไหนบ้างที่ทำให้ iPhone 17 น่าซื้อ

• จอ ProMotion 120Hz – เคยมีแค่รุ่น Pro แต่ปีนี้รุ่นมาตรฐานก็ได้ด้วย ทำให้การเลื่อนหน้าจอ ลื่นไหลสุด ๆ

• กล้องหน้า Center Stage – กล้องจะปรับมุมมองอัตโนมัติตามการเคลื่อนไหว เหมาะสำหรับวิดีโอคอลและประชุมออนไลน์

• ชิป A19 Bionic – เร็ว แรง และประหยัดพลังงานกว่ารุ่นก่อน

• ดีไซน์ใหม่ – ขอบบางลง น้ำหนักเบาขึ้น ถือจับสบายมือ

• สีใหม่สุดพรีเมียม – Lavender, Sage และ Mist Blue ทำให้มีความเป็นแฟชั่นมากขึ้น

เหมาะกับใคร?

iPhone 17 ไม่ได้เหมาะกับทุกคน แต่ถ้าคุณอยู่ในกลุ่มนี้ ถือว่าคุ้มค่าแน่นอน

• คนที่อยากได้ iPhone แรงและคุ้ม แต่ไม่อยากจ่ายถึงรุ่น Pro Max

• นักเรียน นักศึกษา ที่ใช้เรียน ทำงาน และความบันเทิงครบในเครื่องเดียว

• คนที่ชอบถ่ายรูปและวิดีโอคอล แต่ไม่ได้ต้องการกล้องซูมขั้นเทพแบบ Pro Max

• ผู้ใช้ iPhone รุ่นเก่า (iPhone 13 หรือ 14) ที่อยากอัปเกรดมาใช้ฟีเจอร์ใหม่ ๆ

เคล็ดลับการใช้งาน iPhone 17 ให้คุ้มสุด ๆ

 ถึงแม้จะซื้อรุ่นมาตรฐาน แต่ถ้าใช้ให้เป็น คุณจะได้ประสบการณ์ที่ไม่แพ้รุ่นโปรเลย

1. ตั้งค่า ProMotion ให้เหมาะสม – หากไม่อยากให้เปลืองแบต สามารถปรับรีเฟรชเรตเป็นแบบอัตโนมัติ

2. ใช้ iCloud อย่างเต็มที่ – เพื่อสำรองข้อมูลอัตโนมัติ ไม่ต้องกลัวความจำเต็ม

3. ใช้ Center Stage ให้คุ้ม – เหมาะมากกับการเรียนออนไลน์ ประชุม และคอนเทนต์วิดีโอ

4. ถ่ายภาพด้วย Photographic Styles – ใช้สไตล์ภาพที่เหมาะกับคุณ เช่น โทนอุ่น โทนเย็น หรือคอนทราสต์สูง

5. จัดการพลังงานด้วยโหมด Low Power Mode – ยืดอายุการใช้งานแบตเตอรี่ให้นานขึ้น

สรุป

แม้ว่า iPhone 17 จะถูกตั้งคำถามว่า “แพงเกินไปไหม” แต่ตัวเลขยอดจองที่พุ่งทะลุเป้าแสดงให้เห็นว่า คนส่วนใหญ่ยังมองว่ามัน คุ้มค่า ที่จะซื้อ เพราะได้เทคโนโลยีระดับโปรในราคาที่ไม่ถึงขั้นสุดแพงแบบ Pro Max

ดังนั้น สำหรับใครที่กำลังมองหา iPhone เครื่องใหม่ที่สมดุลระหว่างราคา ฟีเจอร์ และประสิทธิภาพ iPhone 17 อาจจะเป็น “iPhone ที่คุ้มค่าที่สุดในรอบหลายปี” ก็ว่าได้ 

Apple iPhone 17 Pro

฿43,900-฿59,900

ซื้อสินค้า