Vivo X300 series เผยวันเปิดตัวอย่างเป็นทางการ 13 ตุลาคม 2568 พร้อมผลิตภัณฑ์อื่น ๆ

ในโลกที่เทคโนโลยีที่พัฒนาอย่างรวดเร็วในปัจจุบัน การแข่งขันในอุตสาหกรรมสมาร์ทโฟนและสมาร์ทดีไวซ์กำลังทวีความรุนแรงขึ้น แบรนด์ชั้นนำต่างทุ่มเทอย่างเต็มที่เพื่อสร้างสรรค์นวัตกรรมและดึงดูดผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง

Vivo ผู้นำในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีภายในประเทศ ยังคงขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรมและมุ่งมั่นที่จะมอบประสบการณ์ทางเทคโนโลยีที่ดีที่สุดให้กับผู้ใช้

เมื่อเร็วๆ นี้ Vivo ได้ประกาศจัดงานเปิดตัวผลิตภัณฑ์เรือธงประจำปีด้านการถ่ายภาพ Vivo X300 ซีรีส์ ในเวลา 19.00 น. ของวันที่ 13 ตุลาคม ภายในงานยังมีผลิตภัณฑ์ใหม่มากมาย อาทิ แท็บเล็ต Vivo Pad 5e, หูฟัง Vivo TWS 5 ซีรีส์ และสมาร์ทวอทช์ Vivo WATCH GT 2 มหกรรมเทคโนโลยีสุดยิ่งใหญ่กำลังจะเริ่มต้นขึ้น

Vivo X300 series สุดยอดแห่งการถ่ายภาพและดีไซน์

การผสมผสานที่ลงตัวระหว่างความเรียบง่ายและความซับซ้อน

Vivo X300 ซีรีส์ ยกระดับสุนทรียศาสตร์การออกแบบอย่างครอบคลุม ด้วยดีไซน์วงกลมแบบมินิมอล ผสานกับหยดน้ำที่ลอยอยู่บนกระจกหล่อเย็น มอบภาพลักษณ์ที่เรียบง่ายแต่หรูหรา ดีไซน์ Invisible Deco อันชาญฉลาด พร้อมมอบประสบการณ์ "การสไลด์นิ้ว" ที่แสนสะดวกสบาย ช่วยให้ผู้ใช้สัมผัสประสบการณ์ความลื่นไหลและความสบายที่เหนือชั้นขณะถือโทรศัพท์

Vivo X300 มีให้เลือก 4 สี ได้แก่ สี Lucky Color, สีม่วง Cozy Purple, สีฟ้า Free Blue และสีดำ Pure Black ตอบสนองความต้องการด้านสีสันเฉพาะบุคคลของผู้ใช้แต่ละคน Vivo X300 มาพร้อมหน้าจอไดนามิกขนาด 6.31 นิ้ว และตัวเครื่องบางเฉียบเพียง 7.95 มม. ผิวกระจกกำมะหยี่และกรอบโลหะขอบแนวตั้ง มอบสัมผัสที่สบายมือและพื้นผิวที่ประณีต โดดเด่นสะดุดตาไม่ว่าจะถือหรือวางบนโต๊ะ

ความสามารถในการถ่ายภาพ พร้อมเป็นผู้นำเทรนด์ใหม่ในวงการสมาร์ทโฟน

การถ่ายภาพเป็นหนึ่งในข้อได้เปรียบหลักของ Vivo มาโดยตลอด และ Vivo X300 Series ก็ก้าวขึ้นสู่การเป็นผู้นำในด้านนี้ การให้พิกเซลที่สูงกลายเป็นเรื่องปกติในอุตสาหกรรมโทรศัพท์มือถือ นอกเหนือจากกล้องพิกเซลสูงแบบเลนส์เดียวของ iPhone แล้ว คู่แข่งรายอื่นๆ ก็ได้เริ่มยกระดับความละเอียดเป็น 200 ล้านพิกเซลเช่นกัน

ความละเอียด 200 ล้านพิกเซลใน X300 Series ถือเป็นเทคโนโลยีพิกเซลสูงรุ่นที่สี่ของ Vivo กล้องหลัก Zeiss 200MP ขนาด 23 มม. ของ Vivo X300 โดดเด่นด้วยความละเอียดอันทรงพลัง รองรับการซูมซ้ำๆ ได้อย่างมั่นใจ ให้ภาพถ่ายทิวทัศน์ บุคคล และภาพมาโครที่คมชัด ละเอียด และสีสันสดใส เลนส์ซูเปอร์เทเลโฟโต้ Zeiss 200MP APO ขนาด 85 มม. ของ X300 Pro ซึ่งได้รับการยกย่องว่าเป็น "ธานอส"แห่งวงการสมาร์ทโฟนด้านการถ่ายภาพ และเป็นเลนส์เทเลโฟโต้ที่ทรงพลังที่สุดในอุตสาหกรรม ช่วยให้ผู้ใช้บันทึกช่วงเวลาอันน่าประทับใจได้แม้ในระยะไกล ทำให้การถ่ายภาพอาคาร สัตว์ และการแสดงต่างๆ ในระยะไกลเป็นเรื่องง่าย

นอกจากโครงสร้างเลนส์อันทรงพลังแล้ว เลนส์ทั้งสองยังมาพร้อมระบบป้องกันภาพสั่นไหว CIPA 4.5 (ประสิทธิภาพเหนือระดับโปร) และ CIPA 5.5 (ระดับแนวหน้าของอุตสาหกรรม) ช่วยลดการสั่นไหวระหว่างการถ่ายภาพได้อย่างมีประสิทธิภาพ ให้ภาพถ่ายที่คมชัดและนิ่งยิ่งขึ้น

ทั้งสองเลนส์ยังมาพร้อม DNA บริสุทธิ์ของการเคลือบ ZEISS T และกระจกสีน้ำเงินแบบดูดซับแสงลึกแบบเดียวกับที่ใช้ใน X200 Ultra ช่วยลดแสงสะท้อนและภาพซ้อน ยกระดับความบริสุทธิ์และสีสันของภาพถ่าย ยิ่งไปกว่านั้น vivo X300 Pro ยังเป็นรุ่นแรกของโลกที่รองรับวิดีโอพอร์ตเทรต 4K 60fps, Dual-focus 4K 120fps Dolby Vision HDR และ Dual-focus 4K 120fps 10-bit Log มอบประสบการณ์การถ่ายวิดีโอระดับมืออาชีพและสมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น ตอบโจทย์ความต้องการในการสร้างสรรค์วิดีโอคุณภาพสูง

สเปคเครื่องสุดเทพ และฮาร์ดแวร์อันทรงพลังรับประกันประสบการณ์ที่ราบรื่น

Vivo X300 ซีรีส์ยังโดดเด่นด้านประสิทธิภาพ ขับเคลื่อนด้วยโปรเซสเซอร์ BlueJin Dimensity 9500 ขับเคลื่อนด้วยชิปประมวลผลภาพ Blueprint V3+ มอบพลังการประมวลผลอันทรงพลัง ช่วยให้ผู้ใช้สามารถเล่นเกมขนาดใหญ่และทำงานหลายอย่างพร้อมกันได้อย่างราบรื่นโดยไม่สะดุด นอกจากนี้ยังรัน OriginOS 6 ซึ่งเป็นโครงการซอฟต์แวร์ที่ได้รับการออกแบบทางวิทยาศาสตร์ เป็นระบบ และได้รับการออกแบบทางวิศวกรรม โดยมุ่งเน้นการปรับปรุงประสบการณ์ผู้ใช้ในหลากหลายธุรกิจ

โครงการนี้ภายในองค์กรรู้จักกันในชื่อ OS "Comfort Project" ในฐานะรากฐานทางเทคนิคของ "Comfort Project" OriginOS 6 ยังคงพัฒนาเทคโนโลยีการประมวลผล การจัดเก็บข้อมูล และการแสดงผลอย่างต่อเนื่อง เพิ่มประสิทธิภาพกลไกการทำงานของ Android OS เพื่อการจัดสรรทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ด้วยประสิทธิภาพอันทรงพลัง "Comfort Project" มอบการปรับปรุงสามระดับ มอบประสบการณ์การใช้งานที่ราบรื่น สะดวกสบาย และสะดวกสบายยิ่งขึ้นให้กับผู้ใช้ ยิ่งไปกว่านั้น Vivo X300 ซีรีส์ยังรองรับระบบของ Apple อย่างเต็มรูปแบบ เพื่อช่วยให้การเชื่อมต่อและการทำงานร่วมกันระหว่างอุปกรณ์ต่างๆ เป็นไปอย่างราบรื่น มอบความสะดวกสบายยิ่งขึ้นให้กับชีวิตและการทำงานของผู้ใช้ พร้อมกันนี้ยังใช้หน้าจอระดับบนสุด BOE Q10 Plus ที่ปรับแต่งอย่างล้ำลึกซึ่งรองรับฮาร์ดแวร์ 1nit ซึ่งสามารถนำเสนอเอฟเฟกต์ภาพที่ชัดเจน สว่างขึ้น และสมจริงยิ่งขึ้นให้กับผู้ใช้

การเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่จากหลากหลายสาขา

Vivo WATCH GT 2 : สมาร์ทวอทช์การผสมผสานที่ลงตัวระหว่างแฟชั่นและการใช้งานจริง

นอกจากโทรศัพท์แล้ว Vivo ยังเผยภาพ Vivo WATCH GT 2 อีกด้วย ภาพการเปิดตัวแสดงให้เห็นนาฬิกาที่มีสีสายให้เลือกสามสีและตัวเรือนสองสี สร้างสรรค์ดีไซน์ที่หรูหรามีสไตล์ ตอบโจทย์ความต้องการด้านสุนทรียศาสตร์ของผู้ใช้ที่แตกต่างกัน โดดเด่นด้วยหน้าจอที่แคบเป็นพิเศษ ความสว่างสูง พร้อมการแสดงผลที่คมชัดทุกรายละเอียด

นอกจากนี้ยังรองรับการสลับหน้าปัดภาพถ่ายด้วยการแตะเพียงครั้งเดียว ช่วยให้ผู้ใช้สามารถเปลี่ยนหน้าปัดได้ตลอดเวลาตามต้องการ ปรับแต่งนาฬิกาให้เข้ากับผู้ใช้แต่ละคนมากยิ่งขึ้น ในด้านอายุการใช้งานแบตเตอรี่ สมาร์ตวอทช์ Vivo WATCH GT 2 มอบอายุการใช้งานแบตเตอรี่ Bluetooth นานถึง 33 วัน ไม่จำเป็นต้องชาร์จบ่อยและใช้งานง่ายยิ่งขึ้น

หูฟังไร้สาย Vivo TWS 5: ประสบการณ์การตัดเสียงรบกวนและคุณภาพเสียงที่ยอดเยี่ยม

หูฟังไร้สาย Vivo TWS 5 รองรับ "ระบบตัดเสียงรบกวนอัจฉริยะ Deep Sea" ซึ่งสามารถตัดเสียงรบกวนได้สูงสุด 60dB ซึ่งสามารถตัดเสียงรบกวนจากภายนอกได้อย่างมีประสิทธิภาพ และมอบประสบการณ์การฟังเพลงที่บริสุทธิ์ นอกจากนี้ยังสามารถ "เชื่อมต่อระหว่างอุปกรณ์ต่างๆ ได้อย่างราบรื่น" ระหว่างอุปกรณ์สามเครื่อง

ทำให้ผู้ใช้สามารถสลับใช้งานอุปกรณ์ต่างๆ ได้อย่างสะดวก ดีไซน์ภายนอกมีให้เลือกสามสี ได้แก่ สีขาว สีม่วง และสีน้ำเงิน เป็นแบบ in-ear รูปลักษณ์ภายนอกของหูฟังคล้ายกับ TWS Air 3 รุ่นก่อนหน้า แต่ดีไซน์ที่เฉียบคมและทันสมัยกว่า นอกจากนี้ยังมีรุ่น Hi-Fi อีกด้วย เจ้าหน้าที่ระบุว่าจะรองรับ "Full-link Hi-Fi Master" แม้ว่าขณะนี้ยังไม่มีการเปิดเผยข้อมูลเพิ่มเติม แต่เชื่อว่าจะมอบประสบการณ์เสียงที่ยอดเยี่ยมยิ่งขึ้นให้กับผู้ใช้

แท็บเล็ต vivo Pad5e: ผู้ช่วยสำหรับการทำงานและความบันเทิง

แท็บเล็ต Vivo Pad5e มาพร้อมหน้าจอถนอมสายตาขนาด 12.1 นิ้ว ช่วยลดแสงสีฟ้าที่เป็นอันตรายต่อดวงตาและปกป้องสายตาของผู้ใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ มาพร้อมชิป Snapdragon 8s เจเนอเรชั่นที่ 3 มอบประสิทธิภาพอันทรงพลังที่ตอบโจทย์การใช้งานทั้งการทำงานและความบันเทิงในชีวิตประจำวัน

ยิ่งไปกว่านั้น แท็บเล็ตยังมาพร้อม WPS ระดับพีซี และ CAJViewer ที่ปรับแต่งมาเพื่อการประมวลผลและอ่านเอกสารที่สะดวกสบาย จึงเป็นแท็บเล็ตที่ใช้งานได้จริงทั้งการทำงานและความบันเทิง

ในวันที่ 13 ตุลาคม เวลา 19.00 น. งานเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ของ Vivo จะเป็นงานที่ยิ่งใหญ่สำหรับวงการเทคโนโลยีอย่างไม่ต้องสงสัย ประสิทธิภาพอันโดดเด่นของ Vivo X300 Series ทั้งในด้านการถ่ายภาพ ดีไซน์ และประสิทธิภาพการทำงาน ประกอบกับการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ในหลากหลายหมวดหมู่ ทำให้เราตั้งตารอคอยงานนี้อย่างใจจดใจจ่อ มาร่วมสัมผัสความประหลาดใจทางเทคโนโลยีที่ Vivo นำเสนอ และร่วมกันสร้างอนาคตที่ชาญฉลาด สะดวกสบาย และดียิ่งขึ้นไปด้วยกัน

Vivo Y19s

฿3,999-฿4,399

ซื้อสินค้า