น้องวิน ภาสวิน นักวางแผนการเงินวัย 14 ปี: แม้ตัวจะจากไป แต่สิ่งที่ทิ้งไว้ยังคงอยู่ตลอดกาล

user avatar
Ta(Phanuphong.Taptimthong)·2025-10-24T02:27Z
点赞
น้องวิน ภาสวิน นักวางแผนการเงินวัย 14 ปี: แม้ตัวจะจากไป แต่สิ่งที่ทิ้งไว้ยังคงอยู่ตลอดกาล

อยากให้บทความนี้ถูกอ่านช้า ๆ เหมือนจดหมายจากใครบางคนที่อยากฝากข้อคิดไว้ให้เราคิดต่อในใจ
เพราะแม้ร่างกายของ “น้องวิน ภาสวิน” จะหยุดเติบโตไปแล้ว แต่ “ต้นทุนเวลา” ที่เขาทิ้งไว้ให้เรานั้น
จะเติบโตต่อไปในใจของทุกคนที่ได้รู้จักชื่อของเขา

ในแวดวงการเงินและการลงทุน เรามักคุ้นกับภาพของผู้ใหญ่ในชุดสูท มือถือเครื่องคิดเลข หรือคนที่พูดถึงพอร์ตหุ้นและกองทุนอย่างคล่องแคล่ว แต่ใครจะคิดว่าแรงบันดาลใจทางการเงินครั้งใหญ่ของคนไทย จะมาจาก “เด็กวัย 14 ปี” คนหนึ่ง ที่ใช้ชีวิตครึ่งหนึ่งไปกับการรักษาโรคร้าย แต่กลับสร้าง “มรดกทางความคิด” ให้คนทั้งประเทศได้หยุดคิด และหันกลับมาทบทวนว่า “เราจัดการเวลาและชีวิตของตัวเองได้ดีแค่ไหน”

เด็กคนนั้นมีชื่อว่า ภาสวิน ตันตินิติ หรือที่ใคร ๆ รู้จักกันในชื่อ น้องวินนักวางแผนการเงินรุ่นเยาว์ ผู้เปลี่ยนความเจ็บปวดให้กลายเป็นพลัง และเปลี่ยนเวลาที่มีจำกัดให้กลายเป็นต้นทุนอันมีค่า


จากเตียงผู้ป่วยสู่ห้องเรียนการเงิน

ชีวิตของน้องวินไม่ได้เริ่มต้นอย่างราบรื่น เขาเกิดมาพร้อมต้นทุนสุขภาพที่ไม่เหมือนใคร ตั้งแต่อายุเพียง 3 ขวบ แพทย์ตรวจพบว่าเขาเป็น โรคมะเร็งปอด ต้องเข้ารับเคมีบำบัดและฉายแสงอย่างหนัก จนกระทั่งสามารถเอาชนะโรคร้ายมาได้ แต่ผลข้างเคียงจากการรักษาก็ทำให้เขามีปัญหา หัวใจอ่อนแรง และมี ปอดเพียงข้างเดียว

ชีวิตในวัยเด็กของเขาจึงไม่ได้เต็มไปด้วยสนามเด็กเล่นเหมือนใคร แต่เต็มไปด้วยเสียงเครื่องมือแพทย์ และการนับวันตามนัดหมอ ทว่าแทนที่เขาจะมองชีวิตด้วยความสิ้นหวัง น้องวินกลับมองเห็นสิ่งที่ “มีค่า” ที่สุดในโลก — เวลา

เขาเคยพูดไว้ในรายการ มนุษย์ต่างวัย Talk ว่า

“ผมมีโรคตั้งแต่เด็ก เรามีระเบิดเวลาในตัวที่ไม่เหมือนคนอื่น วันนี้เราไม่สามารถจะมองสุขภาพเป็นต้นทุนได้แล้ว เราก็เลยมองเรื่องเวลาที่เราเริ่มเร็วกว่าเป็นต้นทุน”

คำพูดนั้นไม่ใช่แค่ประโยคสวยหรู แต่มันคือหลักคิดที่หล่อหลอมชีวิตของเด็กชายคนหนึ่งให้เติบโตขึ้นอย่างมีเป้าหมาย และใช้เวลาทุกวินาทีอย่างมีคุณค่า


cff4f391-71e1-4edb-9489-f7d4783a8bd1.jpeg

แรงบันดาลใจจากความจำเป็น

เพราะปัญหาสุขภาพที่เป็นอยู่ทำให้ น้องวินไม่สามารถทำประกันสุขภาพได้สิ่งนี้กลายเป็นจุดเริ่มต้นของการเรียนรู้เรื่องการเงินอย่างจริงจัง เขาตระหนักว่า “เงินสำรองฉุกเฉิน” คือเกราะป้องกันชีวิตที่จำเป็นที่สุด

เป้าหมายแรกของเขา คือ เก็บเงินสำรอง 60,000 บาทภายในหนึ่งปี
ซึ่งคำนวณจากค่ารักษาพยาบาลและค่าเดินทางไปโรงพยาบาลที่เขาต้องเผชิญอยู่เป็นประจำ

คำถามคือ เด็กวัย 14 ปีจะเก็บเงินจำนวนนี้ได้อย่างไร?
คำตอบคือ “ลงมือทำจริง”

เขาเริ่มต้นจากการขายขนมในโรงเรียน เป็นพ่อค้าตัวน้อยที่ตั้งใจเก็บออมทุกบาททุกสตางค์ และยังใช้โซเชียลมีเดียอย่าง TikTok ในการรีวิวสินค้า พูดคุยเรื่องการเงินในภาษาที่เข้าใจง่าย จนกลายเป็นคอนเทนต์สร้างแรงบันดาลใจที่เข้าถึงผู้คนจำนวนมาก


จากนักเรียนแถวหน้า สู่ผู้สร้างแรงบันดาลใจในโลกออนไลน์

น้องวินไม่ได้หยุดอยู่แค่การเรียนรู้ด้วยตัวเอง เขาเข้าร่วมหลักสูตรกับ White Road Academy สถาบันที่สอนการวางแผนทางการเงินอย่างเป็นระบบ ก่อตั้งโดยคุณป๊อป ศิวาภัทรพ์ และคุณแน๊ค ศิวกร

เขาเป็นหนึ่งในนักเรียนรุ่นแรก ๆ ที่นั่งแถวหน้าในห้องเรียนทุกครั้ง จดทุกคำ พยายามเข้าใจหลักคิดของการเงินอย่างลึกซึ้ง ไม่ใช่เพียงเพื่อ “หาเงิน” แต่เพื่อ “เข้าใจคุณค่าของเงิน”

หลักการที่น้องวินยึดถือมาตลอดคือ ออมก่อนใช้เสมอเขาแบ่งรายได้ทุกครั้งที่ได้มาเป็น 3 ส่วน
20% เพื่อออม, 30% เพื่อใช้จ่ายจำเป็น และส่วนที่เหลือเพื่อการลงทุน


ทองคำสองบาทกับวินัยที่มีค่ากว่าเงิน

น้องวินเลือก “ทองคำ” เป็นสินทรัพย์ลงทุนหลักของตัวเอง เพราะเข้าใจเรื่อง เงินเฟ้อ และเห็นว่าทองคำคือสินทรัพย์ที่ปลอดภัยและมั่นคงในระยะยาว

เป้าหมายของเขาชัดเจน ซื้อทองให้ได้ปีละ 1 บาท
และเมื่ออายุ 14 ปี เขาก็ทำได้จริง
เขามีทองสะสมทั้งหมด 2 บาทกับอีก 2 สลึง จากรายได้ที่หามาเองทั้งหมด

เรื่องนี้อาจฟังดูเป็นเพียงตัวเลขเล็ก ๆ
แต่ถ้าเรามองให้ลึกกว่านั้น มันคือบทเรียนเรื่อง “วินัย” ที่ยิ่งใหญ่
เพราะวินัยทางการเงินที่แท้จริงไม่ได้เกิดจากการมีรายได้มาก แต่เกิดจากการรู้จักควบคุมใจตัวเอง


การเติบโตบนโลกออนไลน์และบทบาทของผู้ให้

สิ่งที่ทำให้น้องวินโดดเด่นยิ่งกว่าเรื่องการออม คือการ แบ่งปันความรู้เขาใช้แพลตฟอร์ม TikTok ในนามบัญชี @win_phassawin เพื่อสื่อสารเรื่องการเงิน การออม และแนวคิดชีวิตในแบบของตัวเอง

จากผู้ติดตามหลักหมื่น เขาเติบโตจนมี มากกว่า 800,000 คนคลิปของเขาหลายคลิปมียอดดูทะลุล้าน ด้วยเนื้อหาที่เข้าใจง่าย ตรงไปตรงมา และเป็น “ภาษาวัยรุ่น” ที่ฟังแล้วเข้าถึงใจ

น้องวินพูดเรื่องเงินโดยไม่เคยอวด แต่พูดด้วยความจริงใจและอ่อนโยน เขาทำให้หลายคนที่ไม่เคยสนใจเรื่องการออม หันมามองชีวิตตัวเองใหม่ และเริ่มวางแผนทางการเงินอย่างจริงจัง


60315358a9ca4be09b426f774ffb762f.webp

ทัศนคติทางการเงินของเด็กวัย 14 ปี ที่ผู้ใหญ่หลายคนยังต้องเรียนรู้

สิ่งที่น่าทึ่งที่สุดในตัวน้องวินไม่ใช่จำนวนทองคำที่สะสมไว้
แต่คือ “วิธีคิด” ที่ลึกซึ้งเกินวัย

เขาเคยตอบคำถามสมมติว่า “ถ้ามีเงิน 10 ล้านบาท จะจัดการอย่างไร?”
คำตอบของเขาคือ

  • เก็บออม 4 ล้านบาท

  • ลงทุน 2 ล้านบาท

  • ให้พ่อแม่ 1 ล้านบาท

  • และอีก 3 ล้านบาททำธุรกิจ

คำตอบนี้สะท้อนถึงความเข้าใจเชิงลึกในหลักการวางแผนทางการเงินที่ครบถ้วน ทั้งออม ลงทุน แบ่งปัน และต่อยอด ซึ่งคือแก่นแท้ของ “ความมั่งคั่งอย่างยั่งยืน”

น้องวินยังเชื่อว่า “หนี้” ไม่ใช่สิ่งเลวร้ายเสมอไป แต่ต้องรู้จักใช้ให้ถูกจังหวะ เขาเตือนวัยรุ่นหลายคนไม่ให้ใช้ระบบ “Pay Later” หรือซื้อก่อนจ่ายทีหลังโดยไม่จำเป็น เพราะเชื่อว่า “ไม่มีใครอยากเป็นหนี้ถ้าเลือกได้”


เมื่อความเจ็บปวดกลายเป็นพลัง

โรคภัยที่ติดตัวมาทั้งชีวิตไม่ได้ทำให้น้องวินยอมแพ้
ตรงกันข้าม มันกลับกลายเป็นแรงผลักดันให้เขาอยากใช้ทุกวันให้คุ้มค่าที่สุด

เขาเคยพูดไว้ว่า “เรามีระเบิดเวลาในตัว” ประโยคนั้นอาจฟังดูเศร้า
แต่สำหรับน้องวิน มันคือ “สัญญาณเตือนให้ไม่ผลัดวันประกันพรุ่ง”

ทุกครั้งที่มีเวลา เขาจะเรียนรู้เพิ่มเติม
แม้ในช่วงที่ต้องนอนโรงพยาบาล เขายังฟังคลิปความรู้เกี่ยวกับการลงทุนอยู่เสมอ


การจากไปที่ทิ้งร่องรอยแห่งแรงบันดาลใจ

วันที่ 23 ตุลาคม 2568 เวลา 05.18 น.
“นักสู้ตัวน้อย” ได้ออกเดินทางไกลอย่างสงบ ท่ามกลางครอบครัวที่รัก

คุณแม่ของน้องวินโพสต์ข้อความว่า

“นักสู้ตัวน้อยของแม่ ได้ออกเดินทางแล้วนะคะ เช้านี้ 05.18 รักสุดใจ”

ข่าวการจากไปของเขาสร้างความเศร้าไปทั่วโลกออนไลน์
แต่สิ่งที่น้องวินทิ้งไว้กลับงดงามยิ่งกว่านั้น เขาทิ้งไว้ซึ่งแนวคิด มุมมอง และแรงบันดาลใจที่จุดไฟให้กับผู้คนมากมาย

คุณป๊อป ศิวาภัทรพ์ ผู้ก่อตั้ง White Road Academy กล่าวไว้อย่างซาบซึ้งว่า

“น้องวินคือสัญลักษณ์ของการทลายขีดจำกัดโดยไม่อ้างข้อจำกัดใด ๆ และเป็นผู้ชนะในใจของทุกคน”

เพื่อเป็นการรำลึกถึงเขา ทาง Academy จึงมีแผนจัดตั้ง “ห้องเรียนภาสวิน”
เพื่อสืบต่อเจตนารมณ์ของนักเรียนคนพิเศษผู้เชื่อในพลังของการเรียนรู้


มรดกแห่งต้นทุนเวลา

สิ่งที่น้องวินสอนเราไม่ใช่แค่เรื่อง “การเงิน” แต่คือ “ชีวิต”
เขาแสดงให้เห็นว่า ต้นทุนสำคัญที่สุดของมนุษย์ไม่ใช่เงิน ไม่ใช่สุขภาพ แต่คือ “เวลา”

ผู้ใหญ่หลายคนมักผัดผ่อนการออมและการลงทุนด้วยเหตุผลต่าง ๆ
ยังไม่พร้อม ยังไม่มีเงิน ยังไม่ถึงเวลา
แต่น้องวินกลับใช้เวลาที่มีจำกัดของตัวเอง ลงมือทำตั้งแต่วันนี้ เพราะเขารู้ว่า “เวลาคือสิ่งเดียวที่ไม่สามารถซื้อกลับมาได้”

นี่คือหัวใจของแนวคิด Time Capital ต้นทุนเวลาที่น้องวินใช้ชีวิตทั้งชีวิตพิสูจน์ให้เห็นอย่างเป็นรูปธรรม


b21cd574-2da8-4dd1-8b8f-c4b008e040ad.jpeg

บทเรียนจากชีวิตน้องวิน 10 แนวคิดที่ไม่ควรถูกลืม

  1. ตั้งเป้าหมายทางการเงินให้ชัดเจน เริ่มจากสิ่งที่จำเป็นที่สุด เช่น เงินสำรองฉุกเฉิน

  2. ออมก่อนใช้เสมอ เก็บอย่างน้อย 20% ของรายได้

  3. เข้าใจคุณค่าของเงินทุกบาท เงินเล็กน้อยในวันนี้อาจกลายเป็นก้อนใหญ่ในอนาคต

  4. ลงทุนเพื่อเอาชนะเงินเฟ้อ เงินที่นอนอยู่เฉย ๆ จะสูญค่า

  5. เลือกสินทรัพย์ที่เหมาะกับตัวเอง เช่น ทองคำ ที่มั่นคงและปลอดภัย

  6. กระจายความเสี่ยงเสมอ ไม่ควรฝากชีวิตไว้กับการลงทุนเพียงทางเดียว

  7. สร้างรายได้ด้วยตนเอง อย่ารอให้โอกาสเข้ามา จงสร้างมันขึ้นมา

  8. ใช้เวลาที่มีอย่างมีค่า เพราะมันคือทรัพย์สินที่หมดแล้วหมดเลย

  9. อย่ากลัวการเริ่มต้นเล็ก ๆ ทุกก้าวเล็กคือการขยับเข้าใกล้เป้าหมาย

  10. วินัยคือคำตอบของทุกสิ่ง เพราะความมั่งคั่งเริ่มต้นจากความสม่ำเสมอ


สิ่งที่ยังคงอยู่ตลอดกาล

แม้น้องวิน ภาสวิน จะจากโลกนี้ไปแล้ว
แต่ “สิ่งที่เขาสร้างไว้” ยังคงอยู่ ไม่ใช่เพียงบัญชีทองคำ หรือยอดผู้ติดตามนับแสน
แต่คือแรงบันดาลใจที่ทำให้คนรุ่นใหม่เริ่มมองการเงินในมุมที่อบอุ่น มีความหวัง และมีความหมาย

เขาทิ้งไว้ให้เรารู้ว่า
การวางแผนการเงินไม่ใช่เรื่องของตัวเลข แต่คือเรื่องของชีวิต
และไม่ว่าคุณจะอายุเท่าไร สุขภาพจะเป็นอย่างไร หรือมีต้นทุนชีวิตแบบไหน
“คุณสามารถเริ่มต้นวางแผนได้เสมอ ถ้าคุณยังมีเวลา”


น้องวิน ภาสวิน อาจเป็นเพียงเด็กชายวัย 14 ปีในสายตาใครบางคนแต่ในสายตาของผู้คนที่ได้เรียนรู้จากเขา เขาคือ “ครูผู้สอนเรื่องเวลา” ที่อ่อนโยนและยิ่งใหญ่ที่สุดคนหนึ่งของยุคนี้


บทความล่าสุดดูเพิ่มเติม

ฤดูหนาวมาแล้ว! ประเทศไทยเข้าสู่ฤดูหนาวอย่างเป็นทางการ 🍁เมื่อวันที่ 23 ตุลาคม 2568 ทางกรมอุตุนิยมวิทยาได้ออกมาประกาศอย่างเป็นทางการว่า ประเทศไทยได้เข้าสู่ฤดูหนาวแล้ว ซึ่งปีนี้มีลักษณะ หนาวช้ากว่าปกติเล็กน้อย และยังมีคำเตือนสำคัญสำหรับ ฝนหนั
กรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศ ประเทศไทยเข้าสู่ฤดูหนาวอย่างเป็นทางการในวันที่ 23 ตุลาคม 2568
เมื่อ BLACKPINK ประกาศ “กลับมา” ไทยทั้งประเทศก็สั่นสะเทือนทันทีที่มีประกาศจาก YG Entertainment ว่า “BLACKPINK WORLD TOUR IN BANGKOK” กำลังจะเกิดขึ้นในเดือนตุลาคมปี 2025 เสียงกรี๊ดของแฟน ๆ BLINK ทั้งประเทศก็ดังขึ้นราวกับไฟที่ถูกจุดขึ้นกลางใจ
BLACKPINK WORLD TOUR IN BANGKOK — 3 วันแห่งความทรงจำที่ “BLINK” ทั้งประเทศรอคอย!
มีศิลปินไม่กี่คนที่สามารถส่งต่อความรู้สึกผ่านเสียงเพลงได้อย่างลึกซึ้งและเป็นธรรมชาติเหมือน Billkin Putthipong (บิวกิ้น) 🌤️ และในปี 2025 นี้ เขากลับมาพร้อมซิงเกิลใหม่ที่แฟน ๆ ต่างรอคอย — “นับหนึ่ง” (Count One) เพลงบอกรักแบบอบอุ่น เรียบง่าย
“นับหนึ่ง” เพลงบอกรักที่อบอุ่นที่สุดจาก Billkin เมื่อเสียงดนตรีคือภาษาของหัวใจ
น้องวิน ภาสวิน นักวางแผนการเงินวัย 14 ปี: แม้ตัวจะจากไป แต่สิ่งที่ทิ้งไว้ยังคงอยู่ตลอดกาล - ZestBuy