La Roche-Posay EFFACLAR SERUM กับ HYALU B5 Serum ต่างกันอย่างไร!!

user avatar
SuthruthaiP.(Wine)·2025-10-29T06:40Z
点赞
La Roche-Posay EFFACLAR SERUM กับ HYALU B5 Serum ต่างกันอย่างไร!!

ในช่วงเช้าของวันหยุดสบาย ๆ คุณอาจมองเข้าไปในกระจกแล้วคิดว่า “อืม… ทำไมรูขุมขนดูเด่นขึ้น ผิวดูแห้งกร้าน หรือบางทีก็มีสิวเล็ก ๆ ขึ้นมาอีกแล้ว” นั่นคือสัญญาณที่บอกว่า ผิวของเราอาจไม่อยู่ในภาวะที่ดีที่สุด — ไม่ใช่เพราะรู้สึกผิด หรือว่าเราไม่ได้ดูแลเลย แต่เพราะว่าแต่ละวันมีปัจจัยรอบตัว ทั้งฝุ่น แสงแดด ความระคายเคือง และแม้แต่วัยที่เปลี่ยนไป ส่งผลต่อสภาพผิวของเรา
และถ้าคุณกำลังมองหา “เซรั่ม” ที่ช่วยฟื้นฟูแก้ปัญหาผิวอย่างจริงจัง — ทั้งเรื่องรูขุมขน ข้อบกพร่อง ความแห้งกร้าน หรือร่องลึกแรกเริ่ม — บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักสองเซรั่มจากแบรนด์ La Roche‑Posay ที่ได้รับความนิยมอย่างสูง นั่นคือ

  • La Roche‑Posay Effaclar Serum

  • La Roche‑Posay Hyalu B5 Serum

เราจะเปรียบเทียบให้เห็นว่า แต่ละรุ่นต่างกันอย่างไร ควรเลือกใช้เมื่อไหร่ ให้ตรงกับปัญหาผิวของคุณ และวิธีใช้อย่างถูกต้อง เพื่อให้ได้ผลเต็มที่ ติดตัวไว้เป็นคู่มือง่าย ๆ สำหรับการดูแลผิวในชีวิตประจำวัน

b290cd5c003c4438aa404356450fd1c4.jpg

La Roche-Posay Effaclar Serum

Effaclar Serum คือเซรั่มที่ออกแบบมาเพื่อผิวที่มีแนวโน้มเป็นสิวง่าย รูขุมขนกว้าง และมีผิวสัมผัสไม่เรียบ — กล่าวคือ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการแก้ไขปัญหา “สิว / รูขุมขน / ผิวระคายเคือง” โดยเฉพาะ
ส่วนผสมเด่นคือ กรดซาลิไซลิก (Salicylic Acid) 1.5% คอมเพล็กซ์กรดอื่น ๆ เช่น Glycolic Acid และ LHA (Lipo-Hydroxy Acid) ที่ช่วยผลัดเซลล์ผิวและทำให้รูขุมขนดูเล็กลง

La Roche-Posay Hyalu B5 Serum

Hyalu B5 Serum เป็นเซรั่มเน้นการเติมความชุ่มชื้น ฟื้นฟูผิว และลดเลือนริ้วรอยแรก ๆ โดยใช้ส่วนผสมของ กรดไฮยาลูโรนิค (Hyaluronic Acid) สองชนิด + วิตามิน B5 (Panthenol) และ Madecassoside เพื่อช่วยเสริมสร้างเกราะคุ้มกันผิว
เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผิวแห้ง ผิวแพ้ง่าย หรือผิวที่ต้องการฟื้นฟูหลังการใช้สารที่อาจทำให้ผิวอ่อนแอ

ทำไมถึงสำคัญ

การเลือกใช้เซรั่มเฉพาะทางให้ตรงกับ “ภาวะผิว” ของเรา คือกุญแจสู่การดูแลผิวอย่างมีประสิทธิภาพ เพราะหากใช้ผิดประเภท อาจได้ผลลัพธ์ที่ไม่เต็มที่ หรือบางครั้งอาจทำให้ผิวระคายเคืองเพิ่มขึ้นได้
การรู้จักว่า “เซรั่มอะไร สำหรับปัญหาอะไร” และ “ผิวแบบไหนควรใช้แบบไหน” จะช่วยให้คุณลงทุนในสกินแคร์ได้คุ้มค่าและตอบโจทย์ได้จริง

ใครบ้างที่ควรสนใจ

  • ผู้ที่มีปัญหา สิว / รูขุมขนกว้าง /ผิวมัน → ควรดู Effaclar

  • ผู้ที่มีปัญหา ผิวแห้ง / ผิวขาดน้ำ /เริ่มมีริ้วรอยเล็ก ๆ → ควรดู Hyalu B5

  • คนที่ต้องการสกินแคร์ที่ “มีงานวิจัยสนับสนุน / ใช้ส่วนผสมที่ได้มาตรฐาน”

  • คนที่อยากเริ่มต้นดูแลผิวแบบมีชั้นเชิง และไม่ใช้แค่ครีมทั่วไป

Product image [ฟรี 1 ชิ้น] ลา โรช-โพเซย์ La Roche-Posay EFFACLAR SERUM 30ml. เซรั่มสลายสิวอุดตันที่ต้นตอ 30ml. + Hyalu B5 Serum 1.5ml 3

เหตุผลที่ควรมี/ใช้

สำหรับ Effaclar

  • ช่วยลดการอุดตันของรูขุมขน ด้วยกรดซาลิไซลิกและ LHA ซึ่งทำหน้าที่ผลัดเซลล์ผิวและคลายสิ่งอุดตัน

  • ช่วยให้รูขุมขนดูเล็กลง และผิวสัมผัสเรียบขึ้น

  • เหมาะกับผิวมันหรือผิวผสมที่ต้องการควบคุมความมันส่วนเกิน และลดโอกาสเกิดสิวใหม่

สำหรับ Hyalu B5

  • เติม “ความชุ่มชื้น” ให้ผิวได้ลึก ด้วยไฮยาลูโรนิค 2 ชนิดและวิตามิน B5 ที่ช่วยเสริมเกราะป้องกันผิว

  • ผิวที่ดูอิ่มเอิบขึ้น ริ้วรอยแรกเริ่มดูเบาลงเพราะผิวได้รับการฟื้นฟู

  • เหมาะสำหรับผิวแพ้ง่าย ผิวที่ถูกทำลายจากมลภาวะ แสงแดด หรือใช้ผลิตภัณฑ์ที่แรง ๆ มาแล้ว

ผลลัพธ์ที่คาดหวังได้

  • ถ้าใช้ Effaclar อย่างต่อเนื่อง : สิวลดลง รูขุมขนดูเล็กลง ผิวสัมผัสเรียบขึ้น

  • ถ้าใช้ Hyalu B5 อย่างต่อเนื่อง : ผิวดูชุ่มชื้นขึ้น แลดูกระชับ ริ้วรอยเล็ก ๆ ดูจางลง

  • ทั้งสองผลิตภัณฑ์มาพร้อมความน่าเชื่อถือของแบรนด์ และได้รับการทดสอบโดยแพทย์ผิวหนัง


ฟีเจอร์สำคัญ / คุณสมบัติสำคัญ

Effaclar

  • Triple Acid Complex: 1.5% Salicylic Acid + Glycolic Acid + LHA

  • Niacinamide & Thermal Spring Water เพื่อช่วยปลอบประโลมผิว

  • Non-comedogenic (ไม่อุดตัน)

  • เคล็ดลับ : ใช้ตอนกลางคืนเป็นหลัก และในเวลากลางวันควรใช้ครีมกันแดดเสมอ เพราะกรดผลัดเซลล์ผิวอาจทำให้ผิวไวต่อแสง

67052e7671764ae0a101b7207d1e5993.jpg

Hyalu B5

  • ไฮยาลูโรนิคสองระดับโมเลกุล + วิตามิน B5 (Panthenol) + Madecassoside

  • ช่วยฟื้นฟูเกราะผิว ลดการสูญเสียน้ำ ช่วยให้ผิวอิ่มและนุ่ม

  • เหมาะสำหรับทุกสภาพผิว รวมถึงผิวแพ้ง่าย

  • เคล็ดลับ : ใช้เช้าและ/หรือเย็น หลังขั้นตอนทำความสะอาด และก่อนมอยส์เจอร์ไรเซอร์ เพื่อเก็บกักความชุ่มชื้น


เหมาะกับใคร / ใช้อย่างไร

Effaclar เหมาะกับ:

  • ผิวมัน – ผิวผสมที่มีความมันส่วนเกิน

  • ผู้ที่มีรูขุมขนกว้างหรือสิวอุดตัน

  • ผู้ที่ต้องการเซรั่มที่ช่วยจัดการปัญหา “สิว + รูขุมขน” แบบตรงประเด็น

  • วิธีใช้ : ทำความสะอาดผิวหน้าให้สะอาด → ซับให้แห้ง → ใช้เซรั่ม 2-3 หยด ทาให้ทั่วบริเวณที่มีปัญหา (ห่างบริเวณรอบดวงตา) → ตามด้วยมอยส์เจอร์ไรเซอร์ → เวลาตอนเช้าต้องใช้ครีมกันแดดด้วย เพราะมีกรดผลัดเซลล์

Product image [ฟรี 1 ชิ้น] ลา โรช-โพเซย์ La Roche-Posay HYALU B5 Serum เซรั่มลดเลือนริ้วรอย 30ml. + ของแถม Hyalu B5 Serum 1.5ml 6

Hyalu B5 เหมาะกับ:

  • ผิวแห้ง หรือผิวที่รู้สึกว่าขุย ขาดน้ำ

  • ผิวเริ่มมีริ้วรอยเล็ก ๆ หรือผู้ที่ต้องการเสริมความยืดหยุ่นให้ผิว

  • ผิวแพ้ง่าย หรือผู้ที่ใช้ผลิตภัณฑ์แรง ๆ มาแล้วและต้องการฟื้นฟู

  • วิธีใช้ : หลังล้างหน้า ใช้เซรั่ม 3-4 หยดทั่วใบหน้าและลำคอ → กดเบา ๆ ให้ซึม → ตามด้วยมอยส์เจอร์ไรเซอร์ → ใช้ได้ทั้งเช้าและเย็น


เคล็ดลับใช้งานให้ได้ผล

  • อย่าใช้สองตัวพร้อมกันตอนเริ่มต้น – เพราะโฟกัสของ Effaclar คือผลัดเซลล์/ลดสิว ถ้าใช้ร่วมกับ Hyalu B5 ที่เน้นเติมน้ำ อาจทำให้ผิวอ่อนแอ ควรเริ่มทีละตัว

  • ถ้าผิวมันมาก+รูขุมขนกว้าง → เริ่ม Effaclarก่อน แล้วสลับไปใช้ Hyalu B5ในวันที่ผิวอ่อนแอ

  • ป้องกันแสงแดดสำคัญมาก – สำหรับ Effaclar โดยเฉพาะ เพราะกรดผลัดเซลล์ทำให้ผิวไวต่อแสง

  • สำหรับ Hyalu B5 : ใช้ก่อนมอยส์เจอร์ไรเซอร์ หรือจะใช้ผสมกับมอยส์เจอร์ชีทตอนกลางคืนก็จะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นแบบลึก

  • หลังใช้ผลิตภัณฑ์ผลัดเซลล์ (Effaclar) แล้วรู้สึกแสบหรือผิวลอก → ให้ลดความถี่ลง เช่น ใช้วันเว้นวัน แล้วใช้ Hyalu B5 ในวันถัดไปเพื่อฟื้นฟู

  • การเก็บรักษา : ปิดฝาให้สนิท เก็บในที่เย็น หลีกเลี่ยงแสงแดดตรง และควรใช้จนหมดในเวลาที่เหมาะสม (โดยทั่วไป 6–12 เดือนหลังเปิด)

Product image [ฟรี 1 ชิ้น] ลา โรช-โพเซย์ La Roche-Posay HYALU B5 Serum เซรั่มลดเลือนริ้วรอย 30ml. + ของแถม Hyalu B5 Serum 1.5ml 3

สรุปท้ายบทความ

ทั้ง Effaclar และ Hyalu B5 คือเซรั่มชั้นยอดจากแบรนด์ La Roche-Posay ที่มุ่งตรงไปยังปัญหาผิวคนละแบบ หนึ่งคือการจัดการสิวและรูขุมขน ส่วนอีกหนึ่งคือการเติมความชุ่มชื้นและฟื้นฟูผิว หากคุณกำลังสงสัยว่า “ควรเลือกตัวไหนดี” ขอให้ย้อนกลับไปดูว่า – ผิวคุณกำลังเจออะไรอยู่ในตอนนี้ – ลองประเมินว่า “สิว/รูขุมขนกว้าง” หรือ “ผิวขาดน้ำ/ริ้วรอยเล็ก ๆ” เป็นประเด็นหลักมากกว่า แล้วเลือกให้ตรงจุด
ถ้าเลือกได้ถูกต้อง ผลลัพธ์ที่ได้จะไม่ใช่แค่ “ผิวดีขึ้น” แต่คือ ผิวสมดุลขึ้นอย่างมีเหตุผล – ดูดีขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ และสามารถยืนระยะได้ในระยะยาว
สุดท้าย … ลองให้โอกาสตัวเองเลือก “เซรั่มที่เหมาะกับผิววันนี้” โดยไม่ต้องซื้อหลายตัว ใช้เป็นประจำ แล้วสังเกตผลลัพธ์ ถ้าคุณอยากจะเพิ่มเคล็ดลับหรือเปรียบเทียบกับผลิตภัณฑ์อื่นเพิ่มเติมในอนาคต คราวหน้ามาคุยกันต่อได้เลยค่ะ

บทความที่เกี่ยวข้อง

ในโลกของการดูแลผิวพรรณ เกราะป้องกันผิว (Skin Barrier) คือรากฐานของผิวที่แข็งแรงและสุขภาพดี ทว่าในสังคมปัจจุบัน ปัจจัยมากมายกลับค่อยๆ ทำลายปราการธรรมชาตินี้ ไม่ว่าจะเป็นมลภาวะ การพักผ่อนไม่เพียงพอ หรือแม้แต่การล้างหน้าที่มากเกินไป ล้วนทำให้เ
CeraVe ผู้บุกเบิกผลิตภัณฑ์ดูแลผิวด้วยวิทยาศาสตร์ที่มุ่งเน้น "การซ่อมแซมเกราะป้องกัน"
เพราะผิวเราไม่เหมือนกันผิวหน้าของแต่ละคนไม่เหมือนกัน — บางคนมีผิวมัน – ผิวผสม, บางคนมีปัญหาเรื่องจุดด่างดำ หรือบางคนกังวลเรื่องริ้วรอยและความหย่อนคล้อย และยิ่งเมื่ออายุเริ่มเพิ่มขึ้น หรือเจอสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงบ่อย เช่น แสงแดด ฝุ่น แรง
4 เซรั่มยอดนิยมจาก La Roche‑Posay

บทความล่าสุดดูเพิ่มเติม

เครื่องดื่มในชีวิตประจำวันมากกว่าความเคยชินทุกเช้าที่เราตื่นขึ้นมา บางคนเริ่มต้นวันด้วย “กลิ่นหอมของกาแฟร้อน” บางคนเลือก “ชาเขียวหอมกรุ่น” ขณะอีกกลุ่มอาจเริ่มเช้าด้วย “น้ำผลไม้สดชื่น” เครื่องดื่มเหล่านี้ไม่ได้เป็นเพียงเครื่องปลุกพลังหรือดับ
ชา กาแฟ น้ำผลไม้ เครื่องดื่มไหนมีประโยชน์กว่ากัน?
ครีมกันแดดไทยบิวตี้ สำหรับคนผิวแพ้ง่ายและผิวแบบปกติ เนื้อบางเบาแต่ประสิทธิภาพสูงสุด!เลิกถามว่าครีมกันแดดยี่ห้อไหนดี นาทีนี้ต้องกันแดด MizuMi เท่านั้น!คำถามที่ใครหลายคนมักจะถามซ้ำทุกหน้าร้อน — “ครีมกันแดดทาหน้ายี่ห้อไหนดี?”แต่ถ้าคุณเคยเดินผ่
ครีมกันแดด MizuMi สำหรับคนผิวแพ้ง่าย
มือที่ทำงานไม่หยุด ก็สมควรได้พักบ้างเชื่อว่าหลายคนเคยมีโมเมนต์แบบนี้ — พิมพ์งานจนเพลิน ตอบแชตลูกค้าไม่หยุด หรือคลิกเมาส์ติดต่อกันหลายชั่วโมง แล้วจู่ ๆ ก็รู้สึก “ปวดมือ”, “ชาที่ปลายนิ้ว”, หรือ “ข้อมือตึงจนยกไม่ขึ้น”ตอนแรกเราอาจคิดว่าเป็นแค่ค
อาการปวดเจ็บมือจากการนั่งพิมพ์งานนาน: สัญญาณเตือนของร่างกายที่ไม่ควรมองข้าม

แนะนำสำหรับคุณ