10 หูฟัง Xiaomi รุ่นไหนดี ปี 2025 คุ้มค่า เสียงดี ฟังก์ชันครบ


สวัสดีค่า! เหล่าสายช้อปออนไลน์และคนรักเสียงเพลงชาวไทยทุกคน วันนี้เจ๊มาพร้อมกับ Gadget คู่ใจที่ขาดไม่ได้เลยในยุคนี้ นั่นก็คือ "หูฟังไร้สาย" นั่นเอง! โดยเฉพาะแบรนด์ขวัญใจมหาชนอย่าง Xiaomi ที่ขยันออกรุ่นใหม่ๆ มาให้เราตาลุกวาวอยู่ตลอดๆ ปี 2025 นี้ก็เช่นกันค่ะ มีหูฟัง Xiaomi หลายรุ่นที่น่าโดน น่าสอย เสียงดี ฟังก์ชันครบ แถมราคายังน่ารักน่าคบตามสไตล์เสี่ยวมี่อีกต่างหาก บทความนี้เจ๊ผู้เชี่ยวชาญด้านการช้อปปิ้งออนไลน์ตัวแม่ จะพาไปส่อง 10 หูฟัง Xiaomi ที่น่าตำในปีนี้ พร้อมบอกหมดเปลือกทั้งข้อดี ข้อเสีย เหมาะกับใคร และควรเลือกยังไงดี ตามมาดูกันเลยจ้า!
1. Xiaomi Buds 5 Pro
- ชื่อแบรนด์: Xiaomi
- ชื่อสินค้า: Xiaomi Buds 5 Pro
- ราคาสินค้า: 5,990 - 6,490 บาท
- คำอธิบายสินค้า: ตัวท็อปสุดพรีเมียมจาก Xiaomi ที่จัดเต็มมาให้แบบไม่มีกั๊ก ทั้งเรื่องเสียงที่จูนโดย Harman AudioEFX ให้รายละเอียดคมชัด เบสแน่นสะใจ พร้อมระบบตัดเสียงรบกวน (ANC) ที่เทพมากๆ ตัดเสียงได้สูงสุดถึง 55dB! แถมยังมีฟีเจอร์ AI อัจฉริยะอีกเพียบ ดีไซน์สวยหรู สวมใส่สบาย แบตเตอรี่อึด ใช้งานได้ยาวนาน เหมาะกับคนที่ต้องการหูฟังคุณภาพระดับสตูดิโอ พกไปได้ทุกที่ ไม่ว่าจะฟังเพลง ดูหนัง หรือใช้ประชุมงาน ก็เอาอยู่หมดจ้า
- จุดเด่นสินค้า: เสียงระดับ Hi-Fi จูนโดย Harman, ANC ตัดเสียงรบกวนสูงสุด 55dB, รองรับ Hi-Res Audio & aptX Lossless, ฟีเจอร์ AI อัจฉริยะ, แบตเตอรี่ใช้งานได้นาน
- ฟังก์ชันการใช้งาน:
- ระบบตัดเสียงรบกวนแบบแอ็คทีฟ (ANC): สามารถตัดเสียงรบกวนรอบข้างได้สูงสุดถึง 55dB พร้อมปรับระดับความเข้มข้นได้หลายระดับ ช่วยให้คุณดื่มด่ำกับเสียงเพลงหรือโฟกัสกับการทำงานได้อย่างเต็มที่ แม้อยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีเสียงดัง เช่น บนรถไฟฟ้า หรือในคาเฟ่
- รองรับ Hi-Res Audio และ aptX Lossless: ให้คุณภาพเสียงระดับสูง รายละเอียดครบถ้วนสมบูรณ์แบบเสมือนฟังจากต้นฉบับ เหมาะสำหรับคนหูทองที่ต้องการคุณภาพเสียงที่ดีที่สุดในการฟังเพลง
- ฟีเจอร์ AI อัจฉริยะ: มาพร้อมความสามารถด้าน AI เช่น การแปลภาษาแบบเรียลไทม์ การถอดความเสียง หรือสรุปข้อความเสียง ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายและเป็นประโยชน์ในการทำงานหรือเรียนรู้ภาษาใหม่ๆ
- การเชื่อมต่อแบบ Dual-Device: สามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์สองเครื่องพร้อมกันได้ ทำให้สลับการใช้งานระหว่างสมาร์ทโฟนและแล็ปท็อปได้อย่างราบรื่น ไม่พลาดทุกการติดต่อ
- กลุ่มผู้ใช้งาน/สถานการณ์: นักฟังเพลงจริงจัง, คนทำงานที่ต้องการสมาธิ, ผู้ที่เดินทางบ่อย, ผู้ที่ต้องการฟีเจอร์ล้ำๆ, ใช้ดูหนังฟังเพลง เล่นเกม
ประเภทหูฟัง | การเชื่อมต่อ | การตัดเสียงรบกวน | แบตเตอรี่ (หูฟัง+เคส) | มาตรฐานกันน้ำ/ฝุ่น | ไดรเวอร์ | Bluetooth | รองรับ Codec |
---|---|---|---|---|---|---|---|
อินเอียร์ (In-ear) | ไร้สาย (Bluetooth) | ANC สูงสุด 55dB | สูงสุด 40 ชม. | IP54 | ไดรเวอร์สามตัว (Coaxial Dual Driver) 11มม. | Bluetooth 5.4 | LDAC, aptX Lossless |
2. Redmi Buds 5 Pro
- ชื่อแบรนด์: Redmi (by Xiaomi)
- ชื่อสินค้า: Redmi Buds 5 Pro
- ราคาสินค้า: 1,890 - 2,490 บาท
- คำอธิบายสินค้า: รุ่นคุ้มค่าแต่คุณภาพเกินราคา! Redmi Buds 5 Pro ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจมากๆ สำหรับคนที่อยากได้หูฟังไร้สายคุณภาพดี ในงบที่เข้าถึงง่าย มาพร้อมระบบตัดเสียงรบกวนที่ใช้งานได้จริง คุณภาพเสียงใช้ได้ มีโหมด Transparency Mode ให้ใช้งาน แบตเตอรี่อึดใช้ได้ทั้งวัน ดีไซน์สวยงาม สวมใส่สบาย มีสีให้เลือกหลากหลาย ใครที่มองหาหูฟังไร้สายตัวจบในงบสองพัน บอกเลยว่ารุ่นนี้น่าโดนสุดๆ จ้า
- จุดเด่นสินค้า: คุณภาพเสียงคุ้มราคา, ANC ตัดเสียงรบกวนดี, แบตเตอรี่ใช้งานได้นาน, ดีไซน์สวย สวมใส่สบาย, ราคาเข้าถึงง่าย
- ฟังก์ชันการใช้งาน:
- Active Noise Cancellation (ANC): ช่วยลดเสียงรบกวนรอบข้าง ทำให้คุณเพลิดเพลินกับเสียงเพลง พอดแคสต์ หรือสื่อบันเทิงอื่นๆ ได้อย่างเต็มที่ โดยไม่ถูกรบกวนจากเสียงภายนอก
- Transparency Mode: เปิดรับเสียงจากภายนอกได้ โดยไม่ต้องถอดหูฟัง ทำให้คุณได้ยินเสียงประกาศสำคัญ หรือพูดคุยกับคนรอบข้างได้อย่างสะดวกและปลอดภัย
- แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนาน: สามารถใช้งานหูฟังต่อเนื่องได้หลายชั่วโมงต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง และใช้งานได้นานยิ่งขึ้นเมื่อรวมกับเคสชาร์จ ตอบโจทย์การใช้งานตลอดวัน
- รองรับการปรับแต่งเสียงผ่านแอปพลิเคชัน: สามารถปรับ Equalizer หรือตั้งค่าอื่นๆ เพื่อให้ได้เสียงที่ตรงกับความชอบของคุณผ่านแอปฯ บนสมาร์ทโฟน
- กลุ่มผู้ใช้งาน/สถานการณ์: นักเรียน, นักศึกษา, วัยทำงาน, ผู้เริ่มต้นใช้หูฟังไร้สาย, ใช้ฟังเพลง ดูหนังทั่วไป, เดินทางในชีวิตประจำวัน
ประเภทหูฟัง | การเชื่อมต่อ | การตัดเสียงรบกวน | แบตเตอรี่ (หูฟัง+เคส) | มาตรฐานกันน้ำ/ฝุ่น | Bluetooth | การควบคุม | การชาร์จ |
---|---|---|---|---|---|---|---|
อินเอียร์ (In-ear) | ไร้สาย (Bluetooth) | ANC | สูงสุด 28-40 ชม. | IP54 (บางรุ่น) | Bluetooth 5.3/5.4 | ระบบสัมผัส | USB Type-C |
3. Xiaomi Buds 5
- ชื่อแบรนด์: Xiaomi
- ชื่อสินค้า: Xiaomi Buds 5
- ราคาสินค้า: 999 - 2,990 บาท
- คำอธิบายสินค้า: รุ่นมาตรฐานที่ให้ฟังก์ชันครบครันในราคาที่เข้าถึงง่าย เป็นการอัปเกรดมาจากรุ่นก่อนหน้า โดยยังคงจุดเด่นเรื่องเสียงเบสที่แน่นสะใจตามสไตล์ Xiaomi Buds มาพร้อมระบบตัดเสียงรบกวน ANC ที่ทำงานได้ดีในระดับหนึ่ง มีโหมด Transparency Mode และ Google Fast Pair ทำให้เชื่อมต่อกับอุปกรณ์ Android ได้อย่างรวดเร็ว แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนานพอสมควร ดีไซน์ก้านยาว สวมใส่สบาย เหมาะกับการใช้งานในชีวิตประจำวันทั่วไป
- จุดเด่นสินค้า: เสียงเบสแน่น, ANC ใช้งานได้ดี, รองรับ Google Fast Pair, แบตเตอรี่ใช้งานได้นาน, ดีไซน์สวมใส่สบาย
- ฟังก์ชันการใช้งาน:
- Google Fast Pair: ช่วยให้การจับคู่หูฟังกับอุปกรณ์ Android ของคุณเป็นเรื่องง่ายและรวดเร็ว เพียงเปิดเคสใกล้ๆ อุปกรณ์ ก็จะมี Pop-up เด้งขึ้นมาให้เชื่อมต่อทันที
- Active Noise Cancellation (ANC): ลดเสียงรบกวนที่ไม่ต้องการ ช่วยให้คุณได้ยินเสียงเพลงหรือเสียงพูดชัดเจนขึ้น เหมาะกับการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่ไม่เงียบสนิท
- Transparency Mode: ให้คุณได้ยินเสียงรอบข้างเพื่อความปลอดภัยและความสะดวกในการสื่อสาร โดยไม่ต้องถอดหูฟังออก
- แบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ต่อเนื่อง: เพลิดเพลินกับการฟังเพลงหรือรับสายได้ยาวนานต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง และชาร์จซ้ำได้จากเคส ตอบโจทย์การใช้งานระหว่างวัน
- กลุ่มผู้ใช้งาน/สถานการณ์: ผู้ใช้งานทั่วไป, คนที่ชอบเบสแน่นๆ, ใช้ฟังเพลง ดูหนัง, เดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะ, ใช้ระหว่างทำกิจกรรมต่างๆ
ประเภทหูฟัง | การเชื่อมต่อ | การตัดเสียงรบกวน | แบตเตอรี่ (หูฟัง+เคส) | มาตรฐานกันน้ำ/ฝุ่น | Bluetooth | ไดรเวอร์ | การควบคุม |
---|---|---|---|---|---|---|---|
อินเอียร์ (In-ear) | ไร้สาย (Bluetooth) | ANC | สูงสุด 40 ชม. | IP54 | Bluetooth 5.3 | Dynamic 12 มม. | ระบบสัมผัส |
4. Redmi Buds 6 Active
- ชื่อแบรนด์: Redmi (by Xiaomi)
- ชื่อสินค้า: Redmi Buds 6 Active
- ราคาสินค้า: 299 - 499 บาท
- คำอธิบายสินค้า: รุ่นเริ่มต้นในราคาหลักร้อยที่คุ้มค่าเกินคาด! Redmi Buds 6 Active โดดเด่นด้วยไดรเวอร์ขนาดใหญ่ที่ให้เสียงเบสลึก คมชัดทุกย่านเสียง เวทีเสียงกว้าง ฟังสนุก เหมาะกับการฟังเพลงหลากหลายแนว มาพร้อม AI ช่วยลดเสียงรบกวนขณะโทร ทำให้สนทนาได้คมชัด แม้จะอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ไม่เงียบสงบ ดีไซน์แบบ Earbuds ใส่สบาย น้ำหนักเบา เหมาะกับการใช้งานทั่วไป หรือใส่ออกกำลังกายเบาๆ ไม่เน้นฟีเจอร์ขั้นสูงมากนัก
- จุดเด่นสินค้า: ราคาถูกมาก, เสียงเบสลึกคมชัด, ไมค์ AI ลดเสียงรบกวนการโทร, ใส่สบายน้ำหนักเบา, คุ้มค่าเกินราคา
- ฟังก์ชันการใช้งาน:
- ไดรเวอร์ขนาดใหญ่: มาพร้อมไดรเวอร์ Dynamic ขนาด 14.2 มม. ที่ให้เสียงทรงพลัง โดยเฉพาะเสียงเบสที่หนักแน่น ฟังสนุกสำหรับคนที่ชอบฟังเพลงแนวเน้นจังหวะ
- AI Noise Cancellation for Calls: ใช้ AI ในการช่วยลดเสียงรบกวนรอบข้างขณะสนทนา ทำให้ปลายสายได้ยินเสียงพูดของคุณชัดเจนยิ่งขึ้น เหมาะกับการคุยโทรศัพท์ในที่สาธารณะ
- สวมใส่สบาย: ดีไซน์แบบ Earbuds ที่เป็นเอกลักษณ์ของรุ่น Active ทำให้สวมใส่ได้กระชับพอดีหู ไม่หลุดง่าย และรู้สึกสบาย แม้ใส่นานๆ
- มาตรฐานกันน้ำ IPX4: สามารถป้องกันละอองน้ำหรือเหงื่อได้ ทำให้เหมาะกับการใส่ออกกำลังกายเบาๆ หรือใช้งานในชีวิตประจำวันที่อาจมีฝนตกปรอยๆ
- กลุ่มผู้ใช้งาน/สถานการณ์: ผู้เริ่มต้นใช้หูฟังไร้สาย, คนที่งบน้อย, ใช้ฟังเพลงทั่วไป, ใช้คุยโทรศัพท์, ใส่ออกกำลังกายเบาๆ, นักเรียน นักศึกษา
ประเภทหูฟัง | การเชื่อมต่อ | การตัดเสียงรบกวน | แบตเตอรี่ (หูฟัง+เคส) | มาตรฐานกันน้ำ/ฝุ่น | ไดรเวอร์ | Bluetooth | ราคาประมาณ (บาท) |
---|---|---|---|---|---|---|---|
เอียร์บัด (Earbuds) | ไร้สาย (Bluetooth) | AI Noise Cancellation (เฉพาะโทร) | สูงสุด 28 ชม. | IPX4 | Dynamic 14.2 มม. | Bluetooth 5.3/5.4 | 299 - 499 |
5. Redmi Buds 6 Play
- ชื่อแบรนด์: Redmi (by Xiaomi)
- ชื่อสินค้า: Redmi Buds 6 Play
- ราคาสินค้า: 299 - 359 บาท
- คำอธิบายสินค้า: อีกหนึ่งรุ่นประหยัดในซีรีส์ Buds 6 ที่เน้นความคุ้มค่าเป็นหลัก Redmi Buds 6 Play มีดีไซน์คล้ายกับรุ่น Active แต่เน้นการใช้งานที่ง่ายและสะดวก เหมาะสำหรับคนที่ต้องการหูฟังไร้สายสำหรับฟังเพลงหรือดูหนังแบบสบายๆ ไม่ได้ต้องการฟีเจอร์หวือหวามากนัก คุณภาพเสียงใช้ได้ในเรทราคาเดียวกัน การเชื่อมต่อเสถียรด้วย Bluetooth 5.4 แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนานพอสมควร เหมาะกับการใช้งานในชีวิตประจำวันทั่วไป
- จุดเด่นสินค้า: ราคาเป็นมิตรสุดๆ, ใช้งานง่าย, การเชื่อมต่อเสถียร, แบตเตอรี่ใช้ได้นาน, เหมาะกับการใช้งานพื้นฐาน
- ฟังก์ชันการใช้งาน:
- การเชื่อมต่อ Bluetooth 5.4: ให้การเชื่อมต่อไร้สายที่มีความเสถียรมากขึ้น ลดปัญหาเสียงกระตุกหรือหลุด เหมาะกับการฟังเพลง ดูหนัง หรือเล่นเกมเบาๆ
- แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนาน: เพลิดเพลินกับเสียงเพลงหรือสื่อต่างๆ ได้นานต่อเนื่องต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง ทำให้ไม่ต้องกังวลเรื่องแบตหมดระหว่างวัน
- ควบคุมง่ายด้วยระบบสัมผัส: สามารถควบคุมการเล่นเพลง รับสาย/วางสาย หรือเรียกใช้งานผู้ช่วยเสียงได้ง่ายๆ เพียงแตะที่ตัวหูฟัง
- ดีไซน์กะทัดรัด พกพาสะดวก: ตัวหูฟังและเคสมีขนาดเล็ก น้ำหนักเบา พกพาใส่กระเป๋าไปไหนมาไหนได้อย่างสะดวกสบาย
- กลุ่มผู้ใช้งาน/สถานการณ์: ผู้ที่มีงบจำกัด, ใช้ฟังเพลงทั่วไป, ใช้ดูวิดีโอ, การใช้งานในชีวิตประจำวันแบบไม่ซับซ้อน, เหมาะกับนักเรียน นักศึกษา
ประเภทหูฟัง | การเชื่อมต่อ | การตัดเสียงรบกวน | แบตเตอรี่ (หูฟัง+เคส) | มาตรฐานกันน้ำ/ฝุ่น | Bluetooth | ราคาประมาณ (บาท) | การควบคุม |
---|---|---|---|---|---|---|---|
อินเอียร์/เอียร์บัด | ไร้สาย (Bluetooth) | ไม่มี (หรือมีพื้นฐานมาก) | สูงสุด 28 ชม. | ไม่ระบุชัดเจน | Bluetooth 5.4 | 299 - 359 | ระบบสัมผัส |
6. Redmi Buds 6 Lite
- ชื่อแบรนด์: Redmi (by Xiaomi)
- ชื่อสินค้า: Redmi Buds 6 Lite
- ราคาสินค้า: 599 - 649 บาท
- คำอธิบายสินค้า: เป็นอีกหนึ่งรุ่นทางเลือกในราคาเบาๆ จาก Redmi Buds 6 Series ที่เน้นความกะทัดรัดและน้ำหนักเบา พกพาง่าย สวมใส่สบาย มาพร้อมไดรเวอร์ขนาด 12.4 มม. ให้คุณภาพเสียงที่ดีเกินคาดในเรทราคานี้ มีเทคโนโลยี AI ช่วยลดเสียงรบกวนขณะโทร ทำให้คุยโทรศัพท์ได้ชัดเจนยิ่งขึ้น รองรับ Bluetooth 5.3 และมีมาตรฐานกันน้ำกันฝุ่น IP54 เหมาะสำหรับคนที่ต้องการหูฟังไร้สายพื้นฐานที่เชื่อถือได้สำหรับการใช้งานทั่วไปในชีวิตประจำวัน
- จุดเด่นสินค้า: ขนาดเล็กกะทัดรัด, น้ำหนักเบา พกพาง่าย, เสียงดีในเรทราคา, ไมค์ AI ช่วยลดเสียงรบกวนการโทร, กันน้ำกันฝุ่น IP54
- ฟังก์ชันการใช้งาน:
- ไดรเวอร์ขนาด 12.4 มม.: ให้เสียงที่ชัดเจนและมีมิติที่ดีขึ้นเมื่อเทียบกับหูฟังในราคาใกล้เคียงกัน ทำให้ฟังเพลงหรือดูคอนเทนต์ต่างๆ ได้อรรถรสมากขึ้น
- AI Noise Cancellation for Calls: เทคโนโลยี AI ช่วยแยกเสียงพูดออกจากเสียงรบกวนรอบข้าง ทำให้การสนทนาผ่านหูฟังมีความคมชัดมากยิ่งขึ้น ลดปัญหาเสียงแทรกขณะคุยโทรศัพท์
- มาตรฐานกันน้ำกันฝุ่น IP54: ทนทานต่อละอองน้ำ เหงื่อ และฝุ่นละออง ทำให้ใช้งานได้อย่างมั่นใจในสถานการณ์ต่างๆ เช่น ขณะออกกำลังกาย หรือใช้งานกลางแจ้ง
- รองรับ Google Fast Pair: ทำให้การเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ Android เป็นไปอย่างสะดวกรวดเร็ว ประหยัดเวลาในการตั้งค่า
- กลุ่มผู้ใช้งาน/สถานการณ์: ผู้ที่เน้นความคล่องตัว, ใช้ฟังเพลงทั่วไป, ใช้คุยโทรศัพท์บ่อยๆ, ใส่ออกกำลังกายเบาๆ, เดินทางในชีวิตประจำวัน, นักเรียน นักศึกษา
ประเภทหูฟัง | การเชื่อมต่อ | การตัดเสียงรบกวน | แบตเตอรี่ (หูฟัง+เคส) | มาตรฐานกันน้ำ/ฝุ่น | ไดรเวอร์ | Bluetooth | ราคาประมาณ (บาท) |
---|---|---|---|---|---|---|---|
อินเอียร์ (In-ear) | ไร้สาย (Bluetooth) | AI Noise Cancellation (เฉพาะโทร) | สูงสุด 38 ชม. | IP54 | Dynamic 12.4 มม. | Bluetooth 5.3 | 599 - 649 |
7. Xiaomi OpenWear Stereo
- ชื่อแบรนด์: Xiaomi
- ชื่อสินค้า: Xiaomi OpenWear Stereo
- ราคาสินค้า: 3,490 - 4,590 บาท
- คำอธิบายสินค้า: มาถึงหูฟังดีไซน์แปลกใหม่ ไม่เหมือนใคร! Xiaomi OpenWear Stereo เป็นหูฟังแบบ Ear Clip หรือคลิปหนีบหู ที่ออกแบบมาให้เสียงเปิด ไม่ได้ยัดเข้าไปในช่องหู ทำให้ได้ยินเสียงรอบข้างขณะใช้งาน เหมาะมากๆ สำหรับคนที่ชอบฟังเพลงหรือคุยโทรศัพท์ระหว่างทำกิจกรรมที่ต้องรับรู้สภาพแวดล้อม เช่น ใส่วิ่ง ปั่นจักรยาน หรือใช้งานในออฟฟิศ ดีไซน์ใส่สบาย ไม่เจ็บหู แม้ใส่นานๆ คุณภาพเสียงดีเกินคาด รองรับ Hi-Res Audio และมี AI Mic ช่วยตัดเสียงรบกวน
- จุดเด่นสินค้า: ดีไซน์แบบ Open-ear ได้ยินเสียงรอบข้าง, สวมใส่สบาย ไม่เจ็บหู, เหมาะกับกิจกรรมกลางแจ้ง, รองรับ Hi-Res Audio, AI Mic ลดเสียงรบกวนการโทร
- ฟังก์ชันการใช้งาน:
- ดีไซน์แบบ Open-ear: ตัวหูฟังไม่ได้ปิดหรือยัดเข้าไปในช่องหูโดยตรง ทำให้คุณยังคงได้ยินเสียงจากสภาพแวดล้อมภายนอก เพื่อความปลอดภัยขณะใช้งานนอกบ้าน หรือเพื่อให้สามารถพูดคุยกับคนรอบข้างได้โดยไม่ต้องถอดหูฟัง
- สวมใส่สบายตลอดวัน: รูปทรงแบบคลิปหนีบหู ออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์ ทำให้สวมใส่ได้กระชับมั่นคง ไม่หลุดง่าย และไม่ทำให้รู้สึกอึดอัดหรือเจ็บปวดที่หู แม้จะใส่นานหลายชั่วโมง
- รองรับ Hi-Res Audio: ให้คุณภาพเสียงที่มีความละเอียดสูง เก็บรายละเอียดเสียงได้ครบถ้วน ให้ประสบการณ์การฟังเพลงที่สมจริงและมีมิติมากขึ้น
- AI Microphone: ไมโครโฟนที่มาพร้อมเทคโนโลยี AI ช่วยในการแยกแยะและลดเสียงรบกวนพื้นหลัง ทำให้เสียงพูดของคุณชัดเจนและคมชัดยิ่งขึ้นระหว่างการสนทนา
- กลุ่มผู้ใช้งาน/สถานการณ์: นักวิ่ง, นักปั่นจักรยาน, คนที่ทำกิจกรรมกลางแจ้ง, คนที่ต้องทำงานพร้อมรับฟังเสียงรอบข้าง, ผู้ที่ใส่หูฟังอินเอียร์แล้วรู้สึกไม่สบายหู, ใช้ในออฟฟิศหรือที่บ้าน
ประเภทหูฟัง | การเชื่อมต่อ | การตัดเสียงรบกวน | แบตเตอรี่ (หูฟัง+เคส) | มาตรฐานกันน้ำ/ฝุ่น | ไดรเวอร์ | Bluetooth | ราคาประมาณ (บาท) |
---|---|---|---|---|---|---|---|
คลิปหนีบหู (Ear Clip) | ไร้สาย (Bluetooth) | AI Noise Cancellation (เฉพาะโทร) | สูงสุด 38.5 ชม. | IP54 | Dynamic 17x12 มม. | Bluetooth 5.3 | 3,490 - 4,590 |
8. Redmi Buds 4 Active
- ชื่อแบรนด์: Redmi (by Xiaomi)
- ชื่อสินค้า: Redmi Buds 4 Active
- ราคาสินค้า: 499 - 999 บาท
- คำอธิบายสินค้า: รุ่นยอดนิยมที่ยังคงความคุ้มค่าต่อเนื่องมาถึงปี 2025! Redmi Buds 4 Active เป็นหูฟังไร้สายแบบ Earbuds ที่เน้นความกระชับ ใส่สบาย เหมาะกับการออกกำลังกายหรือทำกิจกรรมต่างๆ มาพร้อมไดรเวอร์ขนาด 12 มม. ให้เสียงเบสหนักแน่น ฟังสนุก มี AI ช่วยลดเสียงรบกวนขณะโทร และมาตรฐานกันน้ำ IPX4 แบตเตอรี่ใช้งานได้นานพอสมควร เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับคนที่ต้องการหูฟังไร้สายราคาประหยัด เน้นใช้งานทั่วไปและออกกำลังกายเบาๆ
- จุดเด่นสินค้า: ราคาถูก, เสียงเบสหนักแน่น, ใส่กระชับเหมาะกับออกกำลังกาย, AI Noise Cancellation for Calls, กันน้ำ IPX4
- ฟังก์ชันการใช้งาน:
- ไดรเวอร์ขนาด 12 มม.: ให้เสียงที่ทรงพลัง โดยเฉพาะเสียงเบสที่หนักแน่น ฟังสนุก เหมาะสำหรับคนที่ชอบฟังเพลงแนว Pop, Rock หรือ Electronic
- AI Noise Cancellation for Calls: ลดเสียงรบกวนพื้นหลังขณะคุยโทรศัพท์ ช่วยให้เสียงพูดของคุณชัดเจนและเข้าใจง่ายขึ้นสำหรับปลายสาย
- มาตรฐานกันน้ำ IPX4: ทนทานต่อละอองน้ำ เหงื่อ และฝนปรอยๆ ทำให้สามารถใช้งานได้อย่างมั่นใจขณะออกกำลังกายหรือทำกิจกรรมกลางแจ้ง
- รองรับ Google Fast Pair: ทำให้การจับคู่หูฟังกับอุปกรณ์ Android เป็นเรื่องง่ายและรวดเร็ว ไม่ต้องเข้าเมนู Bluetooth ให้ยุ่งยาก
- กลุ่มผู้ใช้งาน/สถานการณ์: นักเรียน นักศึกษา, ผู้ที่งบจำกัด, ใช้ฟังเพลงทั่วไป, ใส่ออกกำลังกายเบาๆ, ใช้เดินทางในชีวิตประจำวัน, ผู้ที่เน้นความสะดวกในการเชื่อมต่อ
ประเภทหูฟัง | การเชื่อมต่อ | การตัดเสียงรบกวน | แบตเตอรี่ (หูฟัง+เคส) | มาตรฐานกันน้ำ/ฝุ่น | ไดรเวอร์ | Bluetooth | ราคาประมาณ (บาท) |
---|---|---|---|---|---|---|---|
เอียร์บัด (Earbuds) | ไร้สาย (Bluetooth) | AI Noise Cancellation (เฉพาะโทร) | สูงสุด 28 ชม. | IPX4 | Dynamic 12 มม. | Bluetooth 5.3 | 499 - 999 |
9. Redmi Buds 5
- ชื่อแบรนด์: Redmi (by Xiaomi)
- ชื่อสินค้า: Redmi Buds 5
- ราคาสินค้า: 999 - 1,590 บาท
- คำอธิบายสินค้า: รุ่นยอดฮิตที่หลายคนยังคงเลือกใช้ในปี 2025 Redmi Buds 5 เป็นหูฟังไร้สายที่ให้คุณภาพเสียงที่ดีสมดุล มีโหมด ANC ตัดเสียงรบกวนในระดับที่ใช้งานได้จริง และมี Transparency Mode ให้เลือกใช้ ดีไซน์สวยงาม น้ำหนักเบา สวมใส่สบาย แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนานถึง 10 ชั่วโมงต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง และรวมเคสได้ถึง 40 ชั่วโมง เหมาะสำหรับคนที่ต้องการหูฟังไร้สายคุณภาพดี ราคาไม่แรงมาก เน้นใช้งานได้หลากหลาย
- จุดเด่นสินค้า: คุณภาพเสียงสมดุล, ANC ใช้งานได้ดี, แบตเตอรี่อึด, ดีไซน์สวยน้ำหนักเบา, ราคาคุ้มค่า
- ฟังก์ชันการใช้งาน:
- Active Noise Cancellation (ANC): ช่วยลดเสียงรบกวนจากภายนอกได้หลายระดับ ทำให้คุณมีสมาธิกับการฟังเพลงหรือคอนเทนต์ต่างๆ มากขึ้น
- Transparency Mode: ให้คุณได้ยินเสียงรอบข้างเพื่อความปลอดภัยและสะดวกในการสื่อสารกับผู้คนโดยไม่ต้องถอดหูฟัง
- แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนาน: สามารถใช้งานต่อเนื่องได้สูงสุด 10 ชั่วโมงต่อการชาร์จ และรวมเคสได้ถึง 40 ชั่วโมง ตอบโจทย์การใช้งานตลอดวันหรือระหว่างเดินทางไกล
- รองรับ Google Fast Pair: เชื่อมต่อกับอุปกรณ์ Android ได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย เพียงเปิดฝาเคส
- ปรับแต่งเสียงผ่านแอปฯ Xiaomi Earbuds: สามารถปรับ Equalizer หรือตั้งค่าอื่นๆ เพื่อให้ได้เสียงตามที่คุณต้องการ
- กลุ่มผู้ใช้งาน/สถานการณ์: ผู้ใช้งานทั่วไป, นักเรียน นักศึกษา, ใช้ฟังเพลง ดูหนัง, เดินทางประจำวัน, ผู้ที่ต้องการหูฟัง ANC ราคาไม่แรง
ประเภทหูฟัง | การเชื่อมต่อ | การตัดเสียงรบกวน | แบตเตอรี่ (หูฟัง) | แบตเตอรี่ (รวมเคส) | Bluetooth | มาตรฐานกันน้ำ/ฝุ่น | ราคาประมาณ (บาท) |
---|---|---|---|---|---|---|---|
อินเอียร์ (In-ear) | ไร้สาย (Bluetooth) | ANC | สูงสุด 10 ชม. | สูงสุด 40 ชม. | Bluetooth 5.3 | IP54 | 999 - 1,590 |
10. Mi In-Ear Headphones Basic
- ชื่อแบรนด์: Xiaomi (Mi)
- ชื่อสินค้า: Mi In-Ear Headphones Basic
- ราคาสินค้า: 169 - 269 บาท
- คำอธิบายสินค้า: แม้จะเป็นรุ่นมีสายและออกมานานแล้ว แต่ Mi In-Ear Headphones Basic ก็ยังคงเป็นหูฟังยอดนิยมและเป็นตัวเลือกที่ดีมากๆ ในปี 2025 สำหรับคนที่ต้องการหูฟังคุณภาพเสียงดีในราคาที่ถูกเหลือเชื่อ! ด้วยเทคโนโลยีเพิ่มคุณภาพเสียงเฉพาะของ Xiaomi และไมค์เสียงใสสำหรับการสนทนา ดีไซน์เรียบง่าย คลาสสิก ทนทาน ใช้งานได้กับอุปกรณ์ที่มีช่องเสียบ 3.5 มม. หรือ Type-C (ขึ้นอยู่กับรุ่น) เหมาะสำหรับคนที่เน้นคุณภาพเสียงและราคาเป็นหลัก ไม่เน้นฟังก์ชันไร้สาย
- จุดเด่นสินค้า: ราคาถูกมาก, คุณภาพเสียงดีเกินราคา, ไมค์เสียงใสสำหรับการโทร, ดีไซน์คลาสสิก ทนทาน, ใช้งานง่าย
- ฟังก์ชันการใช้งาน:
- คุณภาพเสียงที่ดี: แม้ราคาจะเบา แต่คุณภาพเสียงที่ได้นั้นดีเกินคาด ให้รายละเอียดเสียงที่ชัดเจน ฟังเพลงหรือดูคอนเทนต์ต่างๆ ได้เพลิดเพลิน
- ไมโครโฟนในตัว: มาพร้อมไมค์และปุ่มควบคุมบนสาย ทำให้สามารถรับสาย/วางสาย หรือควบคุมการเล่นเพลงได้สะดวก และให้เสียงที่ชัดเจนเมื่อใช้คุยโทรศัพท์
- ใช้งานง่ายแบบ Plug and Play: เสียบสายเข้ากับอุปกรณ์ก็ใช้งานได้ทันที ไม่ต้องตั้งค่าหรือเชื่อมต่อให้ยุ่งยาก
- ทนทาน ใช้งานได้ยาวนาน: ด้วยความที่เป็นหูฟังแบบมีสาย ทำให้มีความทนทาน ใช้งานได้ยาวนานกว่าหูฟังไร้สายในบางแง่มุม (ไม่ต้องกังวลเรื่องแบตเตอรี่เสื่อม)
- กลุ่มผู้ใช้งาน/สถานการณ์: ผู้ที่งบจำกัดมากๆ, ใช้ฟังเพลง/ดูหนังบนคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์ที่มีช่องเสียบ, ใช้คุยโทรศัพท์, ต้องการหูฟังสำรอง, นักเรียน นักศึกษา
ประเภทหูฟัง | การเชื่อมต่อ | การตัดเสียงรบกวน | ไมโครโฟน | ปุ่มควบคุม | หัวเชื่อมต่อ | ราคาประมาณ (บาท) | การรับประกัน |
---|---|---|---|---|---|---|---|
อินเอียร์ (In-ear) | มีสาย | ไม่มี | มีในตัว | มี | 3.5 มม. / Type-C | 169 - 269 | ประกันศูนย์ไทย (แล้วแต่ร้าน) |
คำแนะนำการเลือกซื้อหูฟัง Xiaomi คู่ใจในปี 2025
- 1. สำรวจไลฟ์สไตล์และงบประมาณในกระเป๋าให้ชัด!
ก่อนจะพุ่งตัวไปกดสั่งหูฟัง Xiaomi คู่ใหม่ สิ่งแรกที่ต้องทำคือสำรวจตัวเองก่อนเลยค่ะว่า "เราเป็นคนแบบไหน?" ชอบฟังเพลงแนวไหนเป็นพิเศษรึเปล่า? เน้นเบสหนักๆ ตึ้บๆ หรือชอบเสียงใสๆ รายละเอียดครบๆ? แล้วปกติใช้หูฟังทำอะไรบ้าง? ใช้ฟังเพลง ดูหนัง เล่นเกม คุยโทรศัพท์ หรือเอาไปใส่ออกกำลังกายด้วย? ถ้าเป็นสายออกกำลังกายหนักๆ ที่เหงื่อเยอะหน่อย หรือชอบวิ่งตากฝนปรอยๆ ก็ต้องมองหารุ่นที่มีมาตรฐานกันน้ำกันฝุ่นดีๆ หน่อย อย่างน้อยก็ IPX4 ขึ้นไป ถ้าเน้นใช้คุยโทรศัพท์บ่อยๆ ทั้งวัน ก็ควรมองหารุ่นที่มีระบบ AI ช่วยลดเสียงรบกวนไมค์ จะช่วยให้ปลายสายได้ยินเสียงเราชัดขึ้นเยอะ ส่วนเรื่องงบประมาณ อันนี้สำคัญมาก! Xiaomi มีหูฟังให้เลือกตั้งแต่หลักร้อยไปจนถึงหลักพันปลายๆ ซึ่งแต่ละช่วงราคาก็จะให้ฟีเจอร์และคุณภาพเสียงที่แตกต่างกันไป กำหนดงบประมาณคร่าวๆ ไว้ก่อน จะช่วยจำกัดตัวเลือกให้แคบลง ไม่ต้องสับสนกับรุ่นเยอะแยะมากมายค่ะ อย่าลืมว่าหูฟังที่ดีไม่จำเป็นต้องแพงเสมอไป แต่ต้องตอบโจทย์การใช้งานของเราได้คุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไปมากที่สุด ถ้าแค่อยากได้หูฟังฟังเพลงทั่วไป ไม่เน้นฟีเจอร์ล้ำๆ รุ่น Redmi Buds หลักร้อยก็อาจจะเพียงพอแล้ว แต่ถ้าเป็นสายจริงจัง ต้องการคุณภาพเสียงระดับ Hi-Res มี ANC เงียบกริบ ฟีเจอร์ AI เพียบ ก็อาจจะต้องขยับไปดูพวก Xiaomi Buds Pro ซึ่งราคาก็จะสูงขึ้นตามไปด้วย การรู้ความต้องการและงบประมาณของตัวเองอย่างชัดเจน จะช่วยให้คุณตัดสินใจเลือกซื้อหูฟัง Xiaomi ได้ตรงจุด ไม่เสียเงินฟรี และได้หูฟังที่ถูกใจมาใช้งานไปอีกนานเลยล่ะค่ะ คิดดีๆ ก่อนตัดสินใจ รับรองว่าได้ของดีแน่นอน! - 2. เจาะลึกสเปคและฟังก์ชันที่จำเป็น อย่ามองข้ามรายละเอียดเล็กๆ!
พอรู้แล้วว่าตัวเองเป็นคนแบบไหนและมีงบเท่าไหร่ ขั้นตอนต่อไปก็คือการเจาะลึกดูรายละเอียดของหูฟังแต่ละรุ่นที่เราสนใจค่ะ อย่าเพิ่งตัดสินใจแค่ดีไซน์ภายนอกที่สวยถูกใจเท่านั้นนะ! สิ่งสำคัญคือสเปคและฟังก์ชันการใช้งานต่างๆ ที่จะส่งผลต่อประสบการณ์การฟังของเราโดยตรง เริ่มจากเรื่อง "คุณภาพเสียง" ซึ่งเป็นหัวใจหลักของหูฟังเลยค่ะ ลองดูว่าหูฟังรุ่นนั้นใช้ไดรเวอร์แบบไหน ขนาดเท่าไหร่ (เช่น Dynamic 12 มม. หรือ Coaxial Dual Driver) รองรับ Codec อะไรบ้าง (เช่น SBC, AAC, LDAC, aptX Lossless) ถ้าเป็นสายออดิโอไฟล์หรือชอบฟังเพลงคุณภาพสูง ควรเลือกรุ่นที่รองรับ LDAC หรือ aptX Lossless และมีมาตรฐาน Hi-Res Audio ส่วนคนที่ชอบความเงียบสงบ หรือต้องเดินทางในที่ที่มีเสียงดังบ่อยๆ "ระบบตัดเสียงรบกวน (ANC)" คือสิ่งจำเป็นมากๆ ค่ะ ตรวจสอบว่ารุ่นที่เราสนใจมี ANC หรือไม่ และตัดเสียงรบกวนได้ดีแค่ไหน (ดูค่า dB ยิ่งสูงยิ่งดี) รวมถึงมี Transparency Mode ให้ใช้ด้วยรึเปล่า เผื่อเวลาที่ต้องการได้ยินเสียงรอบข้าง "แบตเตอรี่" ก็เป็นอีกเรื่องที่มองข้ามไม่ได้เลยค่ะ ดูว่าหูฟังใช้งานต่อเนื่องได้กี่ชั่วโมงต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง และเมื่อรวมกับเคสแล้วใช้งานได้ทั้งหมดกี่ชั่วโมง ยิ่งใช้งานได้นานยิ่งสะดวก ไม่ต้องคอยชาร์จบ่อยๆ สำหรับคนที่ต้องใช้หูฟังระหว่างออกกำลังกายหรือใช้งานกลางแจ้ง ควรดู "มาตรฐานกันน้ำกันฝุ่น" ด้วยค่ะ เลือกที่มี IP rating ที่เหมาะสมกับกิจกรรมของเรา (เช่น IPX4, IP54) นอกจากนี้ยังมีฟังก์ชันเสริมอื่นๆ ที่น่าสนใจ เช่น การเชื่อมต่อแบบ Multi-point ที่ให้เชื่อมต่อได้หลายอุปกรณ์พร้อมกัน, การรองรับ Google Fast Pair, การควบคุมด้วยระบบสัมผัส, หรือฟีเจอร์ AI ต่างๆ ลองเปรียบเทียบสเปคและฟังก์ชันของรุ่นต่างๆ ที่อยู่ในงบประมาณของเรา แล้วเลือกตัวที่ให้ฟีเจอร์ที่จำเป็นและตอบโจทย์การใช้งานหลักของเราได้ครบถ้วนที่สุดค่ะ การทำการบ้านเรื่องสเปคให้ดี จะช่วยให้เราได้หูฟัง Xiaomi ที่ไม่ใช่แค่สวย แต่ยังเจ๋งจริงและเหมาะกับเราที่สุดในปี 2025 นี้จ้า! - 3. อ่านรีวิวจากผู้ใช้งานจริงและเปรียบเทียบราคาจากหลายแหล่งก่อนตัดสินใจกดจ่ายเงิน!
หลังจากที่เราลิสต์รุ่นที่สนใจและดูสเปคเบื้องต้นแล้ว ขั้นตอนสุดท้ายก่อนควักเงินในกระเป๋าคือการอ่านรีวิวจากผู้ใช้งานจริงค่ะ! เพราะรีวิวจากคนใช้จริงนี่แหละคือข้อมูลที่ตรงไปตรงมาที่สุด จะได้รู้ว่าหูฟังรุ่นนั้นๆ มีข้อดีข้อเสียยังไงบ้างในการใช้งานจริง เสียงเป็นยังไง ใส่สบายมั้ย แบตอึดจริงรึเปล่า ระบบ ANC ทำงานได้ดีตามที่เคลมไว้มั้ย หรือมีปัญหาจุกจิกอะไรที่ควรรู้ก่อนตัดสินใจซื้อรึเปล่า สามารถหารีวิวได้จากหลากหลายช่องทาง ทั้งเว็บไซต์รีวิวสินค้าต่างๆ, YouTube, Pantip, หรือแม้แต่ตามแอปพลิเคชันช้อปปิ้งออนไลน์อย่าง Shopee หรือ Lazada ก็มักจะมีรีวิวจากผู้ซื้ออยู่แล้ว อ่านให้เยอะๆ หลายๆ ความเห็น จะช่วยให้เห็นภาพรวมของหูฟังรุ่นนั้นๆ ได้ชัดเจนขึ้นค่ะ นอกจากการอ่านรีวิวแล้ว การเปรียบเทียบราคาก็สำคัญไม่แพ้กันเลยค่ะ! ราคาหูฟัง Xiaomi ในปี 2025 อาจแตกต่างกันไปในแต่ละร้านค้าหรือแต่ละแพลตฟอร์มออนไลน์ ควรเช็คราคาจากหลายๆ แหล่ง เช่น Official Store ของ Xiaomi เอง, ร้านค้าทางการบน Shopee/Lazada, หรือร้านค้า Gadget ที่เชื่อถือได้ เพื่อให้ได้ราคาที่ดีที่สุด บางช่วงอาจมีโปรโมชั่น ลดราคา หรือโค้ดส่วนลดพิเศษด้วยนะคะ การเปรียบเทียบราคาจะช่วยให้เราประหยัดเงินไปได้ไม่น้อยเลยค่ะ และที่สำคัญ อย่าลืมตรวจสอบ "การรับประกันสินค้า" ด้วยนะคะ ควรซื้อจากร้านค้าที่ให้การรับประกันที่ชัดเจน เพื่อความอุ่นใจหากสินค้ามีปัญหาในภายหลัง การอ่านรีวิวและเปรียบเทียบราคาเป็นขั้นตอนง่ายๆ ที่ใช้เวลาไม่นาน แต่ช่วยให้เราได้ข้อมูลประกอบการตัดสินใจที่ดีมากๆ และมั่นใจได้ว่าจะได้หูฟัง Xiaomi ที่ถูกใจ คุ้มค่า และเหมาะสมกับเราที่สุดในปี 2025 นี้ค่ะ ช้อปให้สนุก ได้ของดี ในราคาโดนใจนะคะทุกคน!
คำถามที่พบบ่อย (FAQ) เกี่ยวกับหูฟัง Xiaomi ในปี 2025
- Q: หูฟัง Xiaomi รุ่นไหนเสียงเบสดีที่สุดในปี 2025?
A: สำหรับคนที่ชอบเบสหนักๆ ในปี 2025 รุ่นที่ขึ้นชื่อเรื่องเบสแน่นๆ ฟังสนุก ก็จะมี Xiaomi Buds 3, Redmi Buds 5, หรือรุ่นประหยัดอย่าง Redmi Buds 6 Active และ Redmi Buds 4 Active ค่ะ ซึ่งให้ไดรเวอร์ขนาดใหญ่ที่เน้นเสียงเบสโดยเฉพาะ แต่ถ้าอยากได้เบสคุณภาพดี พร้อมรายละเอียดเสียงครบถ้วนในระดับพรีเมียม แนะนำให้ดูรุ่น Xiaomi Buds 5 Pro ที่จูนเสียงโดย Harman ค่ะ - Q: อยากได้หูฟัง Xiaomi ที่ตัดเสียงรบกวน (ANC) ได้ดีเยี่ยม ควรเลือกรุ่นไหน?
A: ถ้าเน้นเรื่อง ANC แบบเทพๆ ตัดเสียงได้เงียบกริบที่สุดในปี 2025 ต้องยกให้ Xiaomi Buds 5 Pro เลยค่ะ ที่สามารถตัดเสียงรบกวนได้สูงสุดถึง 55dB รองลงมาที่ตัดเสียงได้ดีในระดับที่น่าพอใจและราคาเข้าถึงง่าย ก็จะมี Redmi Buds 5 Pro และ Xiaomi Buds 5 ค่ะ - Q: หูฟัง Xiaomi รุ่นไหนเหมาะกับการออกกำลังกายหรือกันน้ำกันเหงื่อได้ดี?
A: สำหรับสายสปอร์ตที่ต้องการหูฟังกันน้ำกันเหงื่อได้ดี แนะนำให้เลือกรุ่นที่มีมาตรฐานกันน้ำกันฝุ่นตั้งแต่ IPX4 ขึ้นไปค่ะ เช่น Redmi Buds 6 Lite (IP54), Redmi Buds 6 Active (IPX4), Redmi Buds 4 Active (IPX4), หรือ Xiaomi OpenWear Stereo (IP54) ที่ดีไซน์แบบ Open-ear ใส่สบายขณะเคลื่อนไหว - Q: ซื้อหูฟัง Xiaomi ออนไลน์จากที่ไหนดีในปี 2025?
A: สามารถสั่งซื้อหูฟัง Xiaomi ออนไลน์ได้อย่างสะดวกสบายผ่านช่องทางต่างๆ ค่ะ เช่น Xiaomi Official Store บนแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซยอดนิยมอย่าง Shopee และ Lazada หรือจะสั่งจากเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของ Xiaomi ประเทศไทยโดยตรงก็ได้ การซื้อจากร้านค้าทางการจะช่วยให้มั่นใจว่าเป็นของแท้และมีการรับประกันที่เชื่อถือได้ค่ะ - Q: หูฟัง Xiaomi รุ่นไหนที่แบตเตอรี่อึด ใช้งานได้ยาวนานที่สุด?
A: รุ่นที่ให้แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนานมากๆ ในปี 2025 เมื่อรวมกับเคสชาร์จแล้ว ก็จะมี Xiaomi Buds 5 Pro (สูงสุด 40 ชม.), Redmi Buds 5 (สูงสุด 40 ชม.), Redmi Buds 6 Lite (สูงสุด 38 ชม.), Redmi Buds 6 Active (สูงสุด 28 ชม.), และ Xiaomi OpenWear Stereo (สูงสุด 38.5 ชม.) ซึ่งเพียงพอสำหรับการใช้งานตลอดทั้งวันแน่นอนค่ะ
บทความยอดนิยม
1
2025-06-13 10:34
บทความที่แนะนำ
1
2025-06-13 10:34
2
2025-05-12 16:23
3
2025-05-12 16:23
4
2025-06-11 15:51
5
2025-06-10 14:04