10 เมาส์ไร้สาย ยี่ห้อไหนดี ปี 2025 อิสระทุกการคลิก แม่นยำทุกการควบคุม

user avatar
ZestOfficeSupplies·2025-05-27 11:26
点赞
10 เมาส์ไร้สาย ยี่ห้อไหนดี ปี 2025 อิสระทุกการคลิก แม่นยำทุกการควบคุม

สวัสดีค่าทุกคน! กลับมาเจอกับเจ๊ดันคนเดิม เพิ่มเติมคือเรื่องไอทีที่รู้ใจสายช้อปอย่างเราๆ วันนี้จะมาเม้าท์มอยเรื่องใกล้ตัวที่หลายคนมองข้าม นั่นก็คือ "เมาส์ไร้สาย" นี่แหละค่ะ! ปี 2025 แล้ว ชีวิตมันต้องสมูท ลื่นไหล ไม่มีสะดุด จะมาทนกับสายเมาส์พันกันยุ่งเหยิงก็กะไรอยู่เนอะ เมาส์ไร้สายดีๆ สักตัวเนี่ยะ เหมือนมีผู้ช่วยคู่ใจ ทั้งทำงาน เล่นเกม หรือไถฟีดเพลินๆ ก็คล่องตัวไปหมด บทความนี้เจ๊รวม 10 เมาส์ไร้สายตัวท็อปที่คัดมาแล้วว่าเด็ดจริง โดนใจคนไทยแน่นอน ทั้งเรื่องฟีเจอร์ ราคา และดีไซน์ พร้อมทริคเลือกซื้อแบบไม่มีพลาด ตามมาดูกันเลยค่ะ!

1. Logitech MX Master 3S

  • ชื่อแบรนด์: Logitech
  • ชื่อสินค้า: MX Master 3S Performance Wireless Mouse
  • ราคาสินค้า: ประมาณ 3,500 - 4,000 บาท
  • คำอธิบายสินค้า: ถ้าพูดถึงเมาส์ทำงานระดับโปร Logitech MX Master 3S คือยืนหนึ่งเรื่องความพรีเมียมและฟีเจอร์จัดเต็มค่ะ ดีไซน์โค้งมนรับกับสรีระมือสุดๆ จับแล้วรู้เลยว่าสบาย ใช้ได้ทั้งวันไม่มีเมื่อย มีลูกล้อ MagSpeed ที่หมุนได้เร็วปรื๊ดเป็นพันบรรทัดในพริบตา หรือจะหมุนทีละนิดก็ทำได้หมด เสียงคลิกเงียบกริบจนนึกว่าเมาส์เสีย เหมาะกับคนทำงานที่ต้องการความแม่นยำ คล่องตัว และฟังก์ชันเยอะๆ ที่ช่วยให้ชีวิตง่ายขึ้น แถมเชื่อมต่อได้หลายอุปกรณ์ สลับไปมาได้แบบไม่มีสะดุด นี่แหละเพื่อนคู่ใจคนทำงานยุคใหม่ตัวจริง!
  • จุดเด่นสินค้า: ดีไซน์ Ergonomic、ลูกล้อ MagSpeed、Silent Click、เชื่อมต่อหลายอุปกรณ์、เซ็นเซอร์แม่นยำสูง
  • ฟังก์ชันการใช้งาน:
    • ควบคุมหลายอุปกรณ์ด้วย Flow: สามารถย้ายเคอร์เซอร์ไปมาระหว่างคอมพิวเตอร์หลายเครื่องได้อย่างราบรื่น พร้อมคัดลอกและวางข้อความ รูปภาพ และไฟล์ข้ามเครื่องได้เลย สะดวกสุดๆ สำหรับคนทำงานที่ใช้หลายจอหรือหลายเครื่องพร้อมกัน
    • ปรับแต่งปุ่มและท่าทาง (Gesture Button): มีปุ่มพิเศษหลายจุดที่สามารถตั้งค่าฟังก์ชันได้ตามต้องการ เช่น ย้อนกลับ, ไปข้างหน้า หรือใช้ปุ่ม Gesture ร่วมกับการเลื่อนเมาส์เพื่อสั่งงานเฉพาะทาง ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานได้อย่างมาก
    • เซ็นเซอร์ Darkfield 8000 DPI: เซ็นเซอร์ความละเอียดสูงที่สามารถใช้งานได้เกือบทุกพื้นผิว แม้แต่บนกระจกที่มีความหนาขั้นต่ำ 4 มม. ทำให้ไม่ต้องพึ่งแผ่นรองเมาส์ตลอดเวลา ไม่ว่าจะทำงานที่ไหนก็พร้อมลุย
  • กลุ่มผู้ใช้งาน/สถานการณ์: คนทำงานมืออาชีพ, นักออกแบบ, โปรแกรมเมอร์, คนที่ต้องใช้คอมพิวเตอร์หลายเครื่อง, การใช้งานทั่วไปที่ต้องการความสบายและฟีเจอร์เยอะๆ
การเชื่อมต่อเซ็นเซอร์DPI สูงสุดจำนวนปุ่มแบตเตอรี่น้ำหนักรองรับระบบปฏิบัติการประเภทการใช้งาน
USB Receiver (Logi Bolt), Bluetooth LEDarkfield Optical8000 DPI7ชาร์จไฟ USB-C (ใช้ได้หลายสัปดาห์)141 กรัมWindows, macOS, Linux, ChromeOS, iPadOSทำงาน

2. Logitech G Pro X Superlight 2

  • ชื่อแบรนด์: Logitech G
  • ชื่อสินค้า: G Pro X Superlight 2 Wireless Gaming Mouse
  • ราคาสินค้า: ประมาณ 5,000 - 5,500 บาท
  • คำอธิบายสินค้า: ตัวนี้สายเกมเมอร์ต้องกรี๊ดค่ะ! G Pro X Superlight 2 คือเมาส์คู่ใจโปรเพลเยอร์ ดีไซน์มินิมอล แต่จัดเต็มเรื่องประสิทธิภาพเพื่อการเล่นเกมโดยเฉพาะ จุดเด่นคือน้ำหนักเบาหวิว แค่ 60 กรัมเท่านั้น! สะบัดเมาส์ได้ไว ดั่งใจนึก ใช้เซ็นเซอร์ HERO 2 ตัวใหม่ล่าสุดที่แม่นยำสุดๆ และสวิตช์ Lightforce แบบ Hybrid ที่ให้สัมผัสคลิกที่คมชัดและตอบสนองเร็ว ด้วยเทคโนโลยี Lightspeed Wireless ทำให้การเชื่อมต่อเสถียร ไม่ดีเลย์แม้เสี้ยววินาที ถ้าอยากได้เมาส์ที่ช่วยให้การเล่นเกมของคุณไปอีกระดับ ตัวนี้ตอบโจทย์แน่นอนค่ะ
  • จุดเด่นสินค้า: น้ำหนักเบามาก、เซ็นเซอร์ HERO 2、สวิตช์ Lightforce Hybrid、Lightspeed Wireless、สำหรับ Esport
  • ฟังก์ชันการใช้งาน:
    • เซ็นเซอร์ HERO 2 ความแม่นยำสูง: เซ็นเซอร์ระดับโปรที่ให้ความละเอียดสูงสุดถึง 32,000 DPI พร้อมการติดตามแบบ 1:1 ช่วยให้ทุกการเคลื่อนไหวของเมาส์ในเกมมีความแม่นยำและสม่ำเสมอ ไม่ว่าจะขยับเมาส์ช้าหรือเร็วก็ตอบสนองได้อย่างเที่ยงตรง
    • สวิตช์ Lightforce Hybrid Optical-Mechanical: ผสมผสานความเร็วของการส่งสัญญาณแบบออปติคอลกับสัมผัสการคลิกที่คุ้นเคยแบบแมคคานิคอล ทำให้ได้การคลิกที่รวดเร็ว ตอบสนองฉับไว และมีความทนทานสูง กดมันส์สะใจเกมเมอร์
    • เทคโนโลยี Lightspeed Wireless: การเชื่อมต่อไร้สายความเร็วสูงที่มีความหน่วงต่ำมากๆ ให้ประสิทธิภาพใกล้เคียงเมาส์มีสาย หมดปัญหาเรื่องสัญญาณรบกวน ทำให้เล่นเกมได้อย่างลื่นไหล ไม่มีสะดุดแม้ในสถานการณ์คับขัน
  • กลุ่มผู้ใช้งาน/สถานการณ์: เกมเมอร์ระดับโปร, ผู้ที่ชื่นชอบเกมแนว FPS, เกมเมอร์ที่ต้องการเมาส์น้ำหนักเบาและแม่นยำสูง, การแข่งขัน Esport
การเชื่อมต่อเซ็นเซอร์DPI สูงสุดจำนวนปุ่มแบตเตอรี่น้ำหนักPolling Rateประเภทการใช้งาน
Lightspeed Wireless 2.4GHz, USB-CHERO 2 Optical32000 DPI5ชาร์จไฟ USB-C (สูงสุด 95 ชม.)60 กรัม2000Hzเกมมิ่ง (Esport)

3. Razer Viper V3 Pro

  • ชื่อแบรนด์: Razer
  • ชื่อสินค้า: Viper V3 Pro Wireless Gaming Mouse
  • ราคาสินค้า: ประมาณ 4,800 - 5,700 บาท
  • คำอธิบายสินค้า: ตัวจี๊ดจากค่ายงูเขียว Razer Viper V3 Pro นี่ก็ตัวท็อปสายเกมมิ่งเหมือนกันค่ะ จุดเด่นคือรูปทรงที่ออกแบบมาให้เข้ากับมือหลายแบบ น้ำหนักเบาเช่นกัน แค่ 55 กรัม! มาพร้อมเซ็นเซอร์ Focus Pro 30K Optical Sensor ที่แม่นยำและปรับ DPI ได้สูงมากๆ และสวิตช์ Optical Mouse Switch Gen-3 ที่คลิกได้รวดเร็วและทนทาน การเชื่อมต่อ HyperSpeed Wireless ก็แรงและเสถียร ไม่ต้องกลัวอาการหน่วงเลยค่ะ ถ้าเป็นสาวก Razer หรือชอบเมาส์ทรงสมมาตร เบาๆ ต้องตัวนี้เลย
  • จุดเด่นสินค้า: น้ำหนักเบาเป็นพิเศษ、เซ็นเซอร์ Focus Pro 30K、สวิตช์ Optical Gen-3、HyperSpeed Wireless、รูปทรงสมมาตร
  • ฟังก์ชันการใช้งาน:
    • เซ็นเซอร์ Focus Pro 30K Optical Sensor: เซ็นเซอร์ออปติคอลที่พัฒนาขึ้นมาให้มีความแม่นยำระดับสูงสุดถึง 30,000 DPI สามารถติดตามการเคลื่อนไหวได้บนพื้นผิวที่หลากหลายและมีความเร็วสูงมาก เหมาะกับการเล่นเกมที่ต้องการการตอบสนองที่ฉับไว
    • Razer Optical Mouse Switch Gen-3: สวิตช์เมาส์แบบออปติคอลที่ใช้ลำแสงในการตรวจจับการคลิก ทำให้ตอบสนองได้รวดเร็วกว่าสวิตช์แบบกลไกทั่วไป ไม่มีปัญหาเรื่องการดับเบิลคลิกโดยไม่ตั้งใจ และมีความทนทานสูงถึง 90 ล้านคลิก
    • เทคโนโลยี Razer HyperSpeed Wireless: การเชื่อมต่อไร้สายความเร็วสูงพิเศษที่มีความหน่วงต่ำมาก ทำให้ข้อมูลส่งถึงคอมพิวเตอร์ได้อย่างรวดเร็วและเสถียร ให้ความรู้สึกเหมือนใช้เมาส์มีสายแต่ได้อิสระแบบไร้สาย
  • กลุ่มผู้ใช้งาน/สถานการณ์: เกมเมอร์ที่เน้นความเร็วและความแม่นยำ, ผู้ที่ชื่นชอบเมาส์น้ำหนักเบาและรูปทรงสมมาตร, การแข่งขันเกมทุกประเภท
การเชื่อมต่อเซ็นเซอร์DPI สูงสุดจำนวนปุ่มแบตเตอรี่น้ำหนักPolling Rateประเภทการใช้งาน
HyperSpeed Wireless 2.4GHz, USB-CFocus Pro 30K Optical30000 DPI5ชาร์จไฟ USB-C (สูงสุด 70 ชม.)55 กรัมสูงสุด 8000Hz (ด้วย HyperPolling Dongle - ซื้อแยก)เกมมิ่ง (Esport)

4. SteelSeries Aerox 3 Wireless

  • ชื่อแบรนด์: SteelSeries
  • ชื่อสินค้า: Aerox 3 Wireless Gaming Mouse
  • ราคาสินค้า: ประมาณ 3,900 - 4,300 บาท
  • คำอธิบายสินค้า: เมาส์เกมมิ่งสายเบาอีกตัวที่ดีไซน์โดดเด่นด้วยบอดี้แบบรังผึ้ง SteelSeries Aerox 3 Wireless ไม่ได้มีดีแค่น้ำหนักเบา (ประมาณ 59 กรัม) แต่ยังแข็งแรงและทนทานด้วยการออกแบบที่กันน้ำกันฝุ่นระดับ IP54! หมดกังวลเรื่องเหงื่อหรือฝุ่นเข้าไปทำลายวงจร ใช้เซ็นเซอร์ TrueMove Core ที่แม่นยำและการเชื่อมต่อไร้สายแบบ Quantum 2.0 Wireless ที่เสถียร แบตเตอรี่ก็อึดใช้ได้นานถึง 200 ชั่วโมง ถ้าชอบเมาส์เบาๆ แต่ทนทาน แถมมีไฟ RGB สวยๆ ตัวนี้ก็น่าสนใจค่ะ
  • จุดเด่นสินค้า: น้ำหนักเบา、กันน้ำกันฝุ่น IP54、บอดี้รังผึ้ง、แบตเตอรี่อึด、ไฟ RGB
  • ฟังก์ชันการใช้งาน:
    • การป้องกัน AquaBarrier™ (IP54): ตัวเมาส์ได้รับการออกแบบให้ทนทานต่อละอองน้ำ ฝุ่น และสิ่งสกปรกต่างๆ ด้วยการเคลือบป้องกันภายใน ทำให้มั่นใจได้ว่าเมาส์จะยังคงทำงานได้ดีแม้ต้องเผชิญกับสภาพแวดล้อมที่ไม่เป็นใจ หรือใช้งานหนักจนเหงื่อออกมือ
    • เทคโนโลยี Quantum 2.0 Wireless: ระบบไร้สายที่ใช้สองแชนเนลเพื่อความเสถียรและความน่าเชื่อถือในการเชื่อมต่อ ส่งข้อมูลได้รวดเร็ว ความหน่วงต่ำ ให้การตอบสนองที่ฉับไวในทุกการเคลื่อนไหวและการคลิกขณะเล่นเกม
    • เซ็นเซอร์ TrueMove Core: เซ็นเซอร์ออปติคอลที่พัฒนาร่วมกับ PixArt ให้ความแม่นยำในการติดตามแบบ 1:1 ทำให้การเคลื่อนที่ของเมาส์บนหน้าจอตรงกับการเคลื่อนที่จริงบนพื้นผิว ไม่มีการคลาดเคลื่อน เหมาะสำหรับการเล่นเกมที่ต้องการความแม่นยำสูง
  • กลุ่มผู้ใช้งาน/สถานการณ์: เกมเมอร์ที่ชอบเมาส์น้ำหนักเบา, ผู้ที่ต้องการเมาส์ที่ทนทานต่อฝุ่นและละอองน้ำ, การเล่นเกมทั่วไปและ Esport
การเชื่อมต่อเซ็นเซอร์DPI สูงสุดจำนวนปุ่มแบตเตอรี่น้ำหนักPolling Rateการป้องกัน
Quantum 2.0 Wireless 2.4GHz, Bluetooth 5.0TrueMove Core Optical8500 CPI6ชาร์จไฟ USB-C (สูงสุด 200 ชม. ด้วย Bluetooth)59 กรัม1000HzIP54

5. Microsoft Bluetooth Ergonomic Mouse

  • ชื่อแบรนด์: Microsoft
  • ชื่อสินค้า: Microsoft Bluetooth Ergonomic Mouse
  • ราคาสินค้า: ประมาณ 1,700 - 2,000 บาท
  • คำอธิบายสินค้า: สำหรับสายทำงานที่เน้นความสบาย ต้องยกให้ตัวนี้จาก Microsoft เลยค่ะ ออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์มาอย่างดี ช่วยลดอาการปวดเมื่อยข้อมือจากการใช้งานเป็นเวลานาน รูปทรงจะยกสูงขึ้นมาหน่อย ทำให้วางมือในท่าที่เป็นธรรมชาติ วัสดุผิวสัมผัสดีมาก จับแล้วรู้สึกถึงความใส่ใจในการออกแบบ เชื่อมต่อผ่าน Bluetooth ได้สะดวก ไม่ต้องใช้ USB Receiver ให้เปลือง Port แถมแบตเตอรี่ก็ใช้ได้นานเป็นปี ใครที่ต้องนั่งทำงานหน้าคอมนานๆ ตัวนี้คือตัวช่วยชีวิตชั้นดีเลยค่ะ
  • จุดเด่นสินค้า: ดีไซน์ Ergonomic、ลดปวดเมื่อยข้อมือ、เชื่อมต่อ Bluetooth、แบตเตอรี่นาน、ผิวสัมผัสดี
  • ฟังก์ชันการใช้งาน:
    • ดีไซน์ตามหลักสรีรศาสตร์: รูปทรงเมาส์ถูกออกแบบมาให้เข้ากับส่วนโค้งของฝ่ามือและข้อมือของผู้ใช้งาน ช่วยให้วางมือในท่าที่ผ่อนคลาย เป็นธรรมชาติ ลดแรงกดและอาการเกร็งบริเวณข้อมือและแขน ทำให้สามารถใช้งานได้อย่างสบายเป็นเวลานาน
    • การเชื่อมต่อ Bluetooth 4.0 ขึ้นไป: เชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์อื่นๆ ได้โดยตรงผ่าน Bluetooth โดยไม่ต้องใช้ตัวรับสัญญาณ USB ช่วยประหยัดพอร์ต USB บนคอมพิวเตอร์หรือแล็ปท็อป และให้การเชื่อมต่อที่เสถียรในระยะทำการ
    • แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนาน: ใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ AA เพียงก้อนเดียว แต่สามารถใช้งานได้ยาวนานถึง 15 เดือน (ขึ้นอยู่กับการใช้งาน) ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนแบตเตอรี่บ่อยๆ
  • กลุ่มผู้ใช้งาน/สถานการณ์: คนทำงานที่ใช้คอมพิวเตอร์นาน, ผู้ที่มีปัญหาปวดเมื่อยข้อมือ, คนที่ต้องการเมาส์สำหรับการทำงานที่เน้นความสบาย, การใช้งานทั่วไปที่บ้านหรือออฟฟิศ
การเชื่อมต่อเซ็นเซอร์DPIจำนวนปุ่มแบตเตอรี่น้ำหนักรองรับระบบปฏิบัติการประเภทการใช้งาน
Bluetooth LE 4.0+Opticalปรับได้ (ค่ามาตรฐาน 1000)5AA 1 ก้อน (สูงสุด 15 เดือน)ประมาณ 91 กรัมWindows, macOS, Androidทำงาน (Ergonomic)

6. Xiaomi Mi Dual Mode Wireless Mouse Silent Edition

  • ชื่อแบรนด์: Xiaomi
  • ชื่อสินค้า: Mi Dual Mode Wireless Mouse Silent Edition
  • ราคาสินค้า: ประมาณ 400 - 500 บาท
  • คำอธิบายสินค้า: เมาส์ไร้สายจาก Xiaomi ตัวนี้ราคาดีฟีเจอร์ครบค่ะ เหมาะสำหรับคนที่มองหาเมาส์ใช้ทำงานหรือใช้ทั่วไปที่เน้นความคุ้มค่า จุดเด่นคือเป็นแบบ Dual Mode เชื่อมต่อได้ทั้งแบบ USB Receiver 2.4GHz และ Bluetooth ในตัวเดียว จะใช้กับคอมฯ ตั้งโต๊ะ โน้ตบุ๊ก หรือแท็บเล็ตก็สะดวก แถมเป็นรุ่น Silent Edition คลิกเงียบมากๆ ไม่รบกวนคนรอบข้างเลยค่ะ ขนาดกะทัดรัด พกพาง่าย ดีไซน์เรียบๆ สไตล์ Xiaomi ที่ใครเห็นก็ต้องชอบ
  • จุดเด่นสินค้า: Dual Mode (2.4GHz & Bluetooth)、Silent Click、ราคาเป็นมิตร、ดีไซน์เรียบง่าย、พกพาง่าย
  • ฟังก์ชันการใช้งาน:
    • การเชื่อมต่อแบบ Dual Mode: สามารถเลือกเชื่อมต่อได้สองแบบ คือผ่านตัวรับสัญญาณ USB 2.4GHz สำหรับคอมพิวเตอร์ที่ไม่มี Bluetooth หรือเชื่อมต่อโดยตรงผ่าน Bluetooth สำหรับอุปกรณ์ที่รองรับ ช่วยให้ใช้งานได้หลากหลายแพลตฟอร์มและสลับการใช้งานระหว่างอุปกรณ์สองเครื่องได้ง่ายๆ
    • ปุ่มคลิกไร้เสียง (Silent Click): ปุ่มคลิกซ้ายและขวาถูกออกแบบมาให้มีเสียงที่เงียบมากๆ ลดเสียงรบกวนจากการคลิกได้มากกว่า 90% เมื่อเทียบกับเมาส์ทั่วไป เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการใช้งานในที่สาธารณะ ห้องสมุด หรือในเวลากลางคืนโดยไม่รบกวนผู้อื่น
    • เซ็นเซอร์ความแม่นยำสูง: มาพร้อมเซ็นเซอร์ออปติคอลความละเอียด 1300 DPI ที่ให้การติดตามที่แม่นยำและสม่ำเสมอ เพียงพอสำหรับการใช้งานทั่วไป ทั้งงานเอกสาร ท่องเว็บ หรือดูหนัง ฟังเพลง
  • กลุ่มผู้ใช้งาน/สถานการณ์: นักเรียน นักศึกษา, คนทำงานออฟฟิศ, คนที่ต้องการเมาส์ราคาประหยัดแต่ฟังก์ชันครบ, การใช้งานในที่ที่ต้องการความเงียบ, การใช้งานทั่วไปในชีวิตประจำวัน
การเชื่อมต่อเซ็นเซอร์DPIจำนวนปุ่มแบตเตอรี่น้ำหนักประเภทการใช้งานฟีเจอร์เด่น
Wireless 2.4GHz (USB Receiver), BluetoothOptical1300 DPI6AAA 2 ก้อน93 กรัมทำงาน, ทั่วไปSilent Click

7. Logitech G304 LIGHTSPEED

  • ชื่อแบรนด์: Logitech G
  • ชื่อสินค้า: G304 LIGHTSPEED Wireless Gaming Mouse
  • ราคาสินค้า: ประมาณ 1,000 - 1,300 บาท
  • คำอธิบายสินค้า: ใครอยากได้เมาส์เกมมิ่งไร้สายในงบที่ไม่แรงมาก Logitech G304 คือคำตอบค่ะ! แม้ราคาจะเข้าถึงง่าย แต่ใช้เทคโนโลยี Lightspeed Wireless เดียวกับรุ่นแพงๆ ทำให้การตอบสนองไว ไม่ดีเลย์ ใช้เซ็นเซอร์ HERO ที่แม่นยำปรับได้ถึง 12,000 DPI แบตเตอรี่ก็อึดสุดๆ ใช้แค่ถ่าน AA ก้อนเดียวอยู่ได้นานถึง 250 ชั่วโมง หรือถ้าใช้ในโหมด Endurance ก็ลากยาวไป 9 เดือนเลย! รูปทรงสมมาตร ขนาดกำลังดี เหมาะกับคนมือไม่ใหญ่มาก ถือเป็นเมาส์เกมมิ่งไร้สายตัวเริ่มต้นที่คุ้มค่ามากๆ ค่ะ
  • จุดเด่นสินค้า: ราคาเข้าถึงง่าย、Lightspeed Wireless、เซ็นเซอร์ HERO、แบตเตอรี่อึด、รูปทรงสมมาตร
  • ฟังก์ชันการใช้งาน:
    • เทคโนโลยี Lightspeed Wireless: ระบบไร้สายที่พัฒนาขึ้นโดยเฉพาะของ Logitech G ให้ประสิทธิภาพในการเชื่อมต่อที่รวดเร็วและเสถียรเทียบเท่าเมาส์มีสาย ด้วยอัตราการรายงาน 1ms ทำให้มั่นใจได้ว่าทุกการเคลื่อนไหวและการคลิกจะถูกส่งไปยังคอมพิวเตอร์ทันที
    • เซ็นเซอร์ HERO ความแม่นยำสูง: เซ็นเซอร์ออปติคอลที่ให้ความละเอียดสูงสุด 12,000 DPI พร้อมความแม่นยำระดับโปร ติดตามการเคลื่อนไหวได้อย่างสม่ำเสมอ สามารถปรับ DPI ได้ตามต้องการผ่านซอฟต์แวร์ Logitech Gaming Software เพื่อให้เหมาะกับสไตล์การเล่นหรือการใช้งานที่แตกต่างกัน
    • อายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่ยาวนาน: ใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ AA เพียงก้อนเดียว สามารถใช้งานได้ต่อเนื่องสูงสุด 250 ชั่วโมงในโหมดประสิทธิภาพ หรือเปิดใช้งานโหมด Endurance ในซอฟต์แวร์เพื่อยืดอายุการใช้งานแบตเตอรี่ได้ยาวนานถึง 9 เดือน ไม่ต้องกังวลเรื่องแบตหมดกลางคัน
  • กลุ่มผู้ใช้งาน/สถานการณ์: เกมเมอร์เริ่มต้น, ผู้ที่มองหาเมาส์เกมมิ่งไร้สายราคาไม่แพง, นักเรียน นักศึกษาที่ชอบเล่นเกม, การใช้งานทั่วไปที่ต้องการความแม่นยำและแบตเตอรี่อึด
การเชื่อมต่อเซ็นเซอร์DPI สูงสุดจำนวนปุ่มแบตเตอรี่น้ำหนักPolling Rateประเภทการใช้งาน
Lightspeed Wireless 2.4GHz (USB Receiver)HERO Optical12000 DPI6AA 1 ก้อน (สูงสุด 250 ชม.)99 กรัม1000Hzเกมมิ่ง

8. SteelSeries Rival 3 Wireless

  • ชื่อแบรนด์: SteelSeries
  • ชื่อสินค้า: Rival 3 Wireless Gaming Mouse
  • ราคาสินค้า: ประมาณ 2,500 - 2,800 บาท
  • คำอธิบายสินค้า: อีกหนึ่งตัวเลือกเมาส์เกมมิ่งไร้สายราคาดีจาก SteelSeries ค่ะ Rival 3 Wireless ถอดแบบมาจาก Rival 3 แบบมีสายที่ขายดีมากๆ จุดเด่นคือการเชื่อมต่อที่หลากหลาย ทั้งแบบ 2.4GHz ผ่าน USB Receiver ด้วยเทคโนโลยี Quantum 2.0 Wireless ที่เสถียร และ Bluetooth 5.0 ใช้เซ็นเซอร์ TrueMove Air ที่แม่นยำ สามารถปรับ DPI ได้ถึง 18,000 แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนานถึง 400 ชั่วโมงด้วยถ่าน AAA 2 ก้อน! ดีไซน์สวยงาม มีไฟ RGB และวัสดุแข็งแรงทนทาน เหมาะกับเกมเมอร์ที่อยากลองเมาส์ไร้สายคุณภาพดีในงบกลางๆ
  • จุดเด่นสินค้า: แบตเตอรี่อึดสุดๆ、Dual Connectivity (2.4GHz & Bluetooth)、เซ็นเซอร์ TrueMove Air、ราคาคุ้มค่า、ทนทาน
  • ฟังก์ชันการใช้งาน:
    • แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนานกว่า 400 ชั่วโมง: ด้วยเทคโนโลยีประหยัดพลังงาน ทำให้สามารถใช้งานเมาส์ได้ต่อเนื่องยาวนานถึงกว่า 400 ชั่วโมงโดยใช้แบตเตอรี่ AAA เพียงสองก้อน ไม่ต้องชาร์จหรือเปลี่ยนแบตบ่อยๆ เหมาะกับการใช้งานเป็นเวลานานโดยไม่ต้องกังวลเรื่องพลังงาน
    • การเชื่อมต่อแบบ Dual Connectivity: รองรับการเชื่อมต่อไร้สายได้สองรูปแบบ คือผ่าน USB Receiver 2.4GHz ด้วยเทคโนโลยี Quantum 2.0 Wireless ที่ให้ความเร็วและความเสถียรสูงสำหรับการเล่นเกม และเชื่อมต่อผ่าน Bluetooth 5.0 สำหรับการใช้งานทั่วไปหรือกับอุปกรณ์อื่นๆ ที่รองรับ Bluetooth
    • เซ็นเซอร์ SteelSeries TrueMove Air: เซ็นเซอร์ออปติคอลที่พัฒนาขึ้นโดยเน้นความแม่นยำในการติดตามแบบ 1:1 มีความละเอียดสูงสุดถึง 18,000 DPI ทำให้สามารถควบคุมเคอร์เซอร์ในเกมได้อย่างแม่นยำและตอบสนองรวดเร็วในทุกจังหวะ
  • กลุ่มผู้ใช้งาน/สถานการณ์: เกมเมอร์ที่มองหาเมาส์ไร้สายแบตเตอรี่อึด, ผู้ที่ต้องการเมาส์ที่เชื่อมต่อได้หลากหลาย, การเล่นเกมทั่วไป, การใช้งานร่วมกับโน้ตบุ๊กหรืออุปกรณ์พกพา
การเชื่อมต่อเซ็นเซอร์DPI สูงสุดจำนวนปุ่มแบตเตอรี่น้ำหนักPolling Rateฟีเจอร์เด่น
Wireless 2.4GHz (USB Receiver), Bluetooth 5.0TrueMove Air Optical18000 DPI6AAA 2 ก้อน (สูงสุด 400+ ชม.)106 กรัม (เมื่อใส่ถ่าน)1000Hzแบตอึด, Dual Mode

9. Logitech Pebble M350S

  • ชื่อแบรนด์: Logitech
  • ชื่อสินค้า: Pebble M350S Wireless Mouse
  • ราคาสินค้า: ประมาณ 700 - 800 บาท
  • คำอธิบายสินค้า: เมาส์ไร้สายดีไซน์มินิมอล รูปทรงคล้ายก้อนหินตามชื่อ Pebble เลยค่ะ ขนาดเล็กกะทัดรัด พกพาง่ายสุดๆ เหมาะสำหรับคนที่ชอบความเรียบง่าย ไม่เน้นปุ่มเยอะ เน้นการใช้งานทั่วไปและพกพาไปไหนมาไหนสะดวก เชื่อมต่อได้สองแบบทั้ง USB Receiver 2.4GHz และ Bluetooth และที่สำคัญคือคลิกเงียบมาก! แบตเตอรี่ก็อึดใช้ได้นานเป็นปี มีสีให้เลือกเยอะตามสไตล์และความชอบ ใครเป็นสายคาเฟ่ หรือต้องพกเมาส์ไปใช้นอกสถานที่บ่อยๆ ตัวนี้ตอบโจทย์เลยค่ะ
  • จุดเด่นสินค้า: ดีไซน์สวยมินิมอล、ขนาดเล็กกะทัดรัด、Silent Click、Dual Connectivity、แบตเตอรี่นาน
  • ฟังก์ชันการใช้งาน:
    • ดีไซน์เพรียวบางและรูปทรงกะทัดรัด: ตัวเมาส์มีรูปทรงแบนและเล็กคล้ายก้อนหิน ทำให้จับได้สบายมือและพกพาไปในกระเป๋าได้อย่างง่ายดาย เหมาะสำหรับการใช้งานกับแล็ปท็อปขณะเดินทางหรือทำงานนอกสถานที่
    • ปุ่มคลิกและลูกล้อที่เงียบเป็นพิเศษ: ปุ่มคลิกและลูกล้อได้รับการออกแบบมาให้มีเสียงที่เงียบกว่าเมาส์ทั่วไปถึง 90% ช่วยให้ทำงานหรือใช้งานในที่สาธารณะได้อย่างไร้กังวล ไม่สร้างความรำคาญให้กับคนรอบข้าง
    • การเชื่อมต่อแบบ Dual Connectivity: สามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ได้ทั้งแบบไร้สายผ่าน USB Receiver 2.4GHz ที่ให้มา หรือเชื่อมต่อผ่าน Bluetooth ซึ่งช่วยให้สามารถใช้งานกับอุปกรณ์ที่หลากหลายยิ่งขึ้น เช่น แท็บเล็ต หรือสมาร์ทโฟนบางรุ่น
  • กลุ่มผู้ใช้งาน/สถานการณ์: นักเรียน นักศึกษา, คนทำงานที่ต้องพกพาเมาส์บ่อย, ผู้ที่ชื่นชอบดีไซน์มินิมอล, การใช้งานทั่วไปที่ต้องการความเงียบ, การใช้งานขณะเดินทางหรือในที่สาธารณะ
การเชื่อมต่อเซ็นเซอร์DPIจำนวนปุ่มแบตเตอรี่น้ำหนักประเภทการใช้งานฟีเจอร์เด่น
Wireless 2.4GHz (USB Receiver), Bluetooth LEHigh Precision Optical Tracking1000 DPI3AA 1 ก้อน (สูงสุด 18 เดือน)81 กรัมทั่วไป, พกพาSilent Click, ดีไซน์มินิมอล

10. Razer DeathAdder V2 X Hyperspeed

  • ชื่อแบรนด์: Razer
  • ชื่อสินค้า: DeathAdder V2 X Hyperspeed Wireless Gaming Mouse
  • ราคาสินค้า: ประมาณ 1,600 - 2,200 บาท
  • คำอธิบายสินค้า: มาถึงตัวสุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุดจาก Razer ค่ะ DeathAdder V2 X Hyperspeed เป็นเมาส์เกมมิ่งไร้สายในตระกูล DeathAdder ที่โด่งดังเรื่องรูปทรง Ergonomic ที่เข้ามือมากๆ ตัวนี้มาพร้อมเทคโนโลยี HyperSpeed Wireless และ Bluetooth ในตัว ทำให้ใช้งานได้หลากหลาย แบตเตอรี่ก็อึดสุดๆ ใช้ได้นานถึง 235 ชั่วโมงด้วย HyperSpeed หรือ 615 ชั่วโมงด้วย Bluetooth (ใช้ถ่าน AA หรือ AAA อย่างใดอย่างหนึ่ง) มีปุ่มให้มา 7 ปุ่ม ปรับแต่งมาโครได้ เหมาะสำหรับเกมเมอร์เริ่มต้นหรือคนที่ต้องการเมาส์ไร้สายที่ใช้งานได้หลากหลาย ทั้งเล่นเกมและทำงานในราคาที่เข้าถึงง่าย
  • จุดเด่นสินค้า: รูปทรง Ergonomic ยอดนิยม、HyperSpeed Wireless & Bluetooth、แบตเตอรี่อึดมาก、ราคาคุ้มค่า、ปุ่มตั้งค่าได้
  • ฟังก์ชันการใช้งาน:
    • รูปทรง Ergonomic ที่พิสูจน์แล้ว: สืบทอดรูปทรงที่ได้รับความนิยมอย่างสูงจากตระกูล DeathAdder ที่ออกแบบมาให้รองรับกับสรีระของมือขวาได้อย่างลงตัว ให้ความสบายในการจับและควบคุมเมาส์ได้เป็นเวลานาน ลดอาการเมื่อยล้าขณะเล่นเกมหรือทำงาน
    • การเชื่อมต่อแบบ Dual Mode (HyperSpeed Wireless & Bluetooth): สามารถเลือกเชื่อมต่อแบบไร้สายได้สองทาง คือผ่าน Razer HyperSpeed Wireless ที่ให้ความเร็วและความเสถียรสูงสำหรับการเล่นเกม หรือเชื่อมต่อผ่าน Bluetooth เพื่อการใช้งานทั่วไปที่ประหยัดพลังงาน เหมาะสำหรับใช้งานกับอุปกรณ์ที่หลากหลาย
    • แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนาน: รองรับการใส่แบตเตอรี่ AA หรือ AAA เพียงหนึ่งก้อน โดยสามารถใช้งานได้ยาวนานสูงสุดถึง 235 ชั่วโมงด้วย HyperSpeed Wireless หรือสูงสุด 615 ชั่วโมงด้วย Bluetooth ช่วยให้ใช้งานได้ต่อเนื่องโดยไม่ต้องกังวลเรื่องแบตเตอรี่หมดบ่อยๆ
  • กลุ่มผู้ใช้งาน/สถานการณ์: เกมเมอร์เริ่มต้น, ผู้ที่ชื่นชอบรูปทรงเมาส์ DeathAdder, คนที่ต้องการเมาส์ไร้สายที่ใช้งานได้ทั้งเล่นเกมและทำงาน, การใช้งานที่ต้องการความยืดหยุ่นในการเชื่อมต่อและแบตเตอรี่อึด
การเชื่อมต่อเซ็นเซอร์DPI สูงสุดจำนวนปุ่มแบตเตอรี่น้ำหนักPolling Rateฟีเจอร์เด่น
HyperSpeed Wireless 2.4GHz (USB Receiver), BluetoothRazer 5G Advanced Optical14000 DPI7 (5+2 Multi-Function)AA หรือ AAA 1 ก้อน (สูงสุด 235/615 ชม.)86 กรัม (ไม่รวมถ่าน)1000HzErgonomic, Dual Mode, แบตอึด

เลือกเมาส์ไร้สายให้ถูกใจ เหมือนเจอเนื้อคู่!

  • 1. สไตล์การใช้งานและกลุ่มเป้าหมาย:
    ก่อนจะตัดสินใจสอยเมาส์ไร้สายคู่ใจ ต้องถามตัวเองก่อนเลยค่ะว่าเราเป็นสายไหน ใช้เมาส์ทำอะไรเป็นหลัก? ถ้าเป็นสายทำงานจริงจัง ใช้โปรแกรมที่ต้องการความละเอียดสูง หรือต้องเปิดหลายโปรแกรม สลับไปมาบ่อยๆ มองหารุ่นที่มีปุ่มเยอะๆ ตั้งค่ามาโครได้ หรือมีลูกล้อแบบพิเศษที่ช่วยให้ไถหน้าจอได้ไวๆ ก็จะตอบโจทย์กว่าค่ะ อย่างพวกตระกูล MX Master ของ Logitech นี่ยืนหนึ่งเรื่องฟีเจอร์สำหรับคนทำงานเลยนะ ดีไซน์ก็เข้ามือ ใช้ได้นานไม่เมื่อย แต่ถ้าเป็นสายเกมเมอร์ ตัวเลือกก็จะแตกต่างออกไปค่ะ เกมเมอร์จะเน้นเรื่องความแม่นยำของเซ็นเซอร์ ค่า DPI ที่ปรับได้สูงๆ Polling Rate ที่ไวๆ เพื่อการตอบสนองที่ฉับไวในเสี้ยววินาที น้ำหนักเมาส์ก็สำคัญนะ ถ้าชอบสะบัดเมาส์ไวๆ เล่นเกมแนว FPS ควรเลือกตัวที่น้ำหนักเบาๆ อย่างพวกตระกูล Superlight ของ Logitech G หรือ Viper Pro ของ Razer ไปเลยค่ะ ส่วนใครที่ใช้เมาส์ทั่วไปแค่วันละไม่กี่ชั่วโมง หรือเน้นพกพาไปใช้นอกสถานที่บ่อยๆ อาจจะไม่ต้องเน้นฟีเจอร์หวือหวามากนัก เน้นขนาดที่กะทัดรัด น้ำหนักเบา ดีไซน์ที่ชอบ และแบตเตอรี่ที่อึดๆ หน่อยก็พอแล้วค่ะ บางคนชอบเมาส์ที่คลิกเงียบๆ ด้วย ก็ต้องมองหารุ่นที่เป็น Silent Edition จะได้ไม่รบกวนคนรอบข้างตอนทำงานหรือเล่นเกมดึกๆ ค่ะ การเลือกตามสไตล์การใช้งานหลักๆ จะช่วยจำกัดตัวเลือกให้แคบลงและได้เมาส์ที่ตรงใจจริงๆ ค่ะ
  • 2. ประเภทการเชื่อมต่อและแบตเตอรี่:
    เมาส์ไร้สายส่วนใหญ่จะเชื่อมต่อหลักๆ อยู่ 2 แบบ คือ ใช้ USB Receiver 2.4GHz กับ Bluetooth ค่ะ แบบ 2.4GHz เนี่ยะ ข้อดีคือมักจะให้การเชื่อมต่อที่เสถียรกว่าและมีความหน่วง (Latency) ต่ำกว่า โดยเฉพาะเมาส์เกมมิ่งมักจะใช้เทคโนโลยีเฉพาะของตัวเองอย่าง Logitech Lightspeed หรือ Razer HyperSpeed ที่เคลมว่าไวเทียบเท่ามีสายเลยค่ะ แต่ข้อเสียคือต้องใช้พอร์ต USB ในการเสียบตัวรับสัญญาณ ซึ่งอาจจะไม่สะดวกถ้าพอร์ต USB บนคอมเรามีน้อย หรือต้องพกตัวรับสัญญาณไปมาค่ะ ส่วนแบบ Bluetooth ข้อดีคือไม่ต้องใช้ตัวรับสัญญาณ เสียบปุ๊บเชื่อมต่อได้เลย แถมเมาส์หลายรุ่นยังเชื่อมต่อ Bluetooth ได้หลายเครื่องพร้อมกัน สลับไปมาได้ง่ายๆ ด้วยปุ่มเดียว เหมาะกับคนที่ใช้คอมหลายเครื่อง หรือใช้กับแท็บเล็ต มือถือด้วยค่ะ แต่ข้อเสียคือความเสถียรและความไวอาจจะสู้แบบ 2.4GHz ไม่ได้เท่าไหร่ โดยเฉพาะถ้าสภาพแวดล้อมมีสัญญาณรบกวนเยอะๆ แบตเตอรี่ก็เป็นอีกเรื่องที่ต้องดูค่ะ มีทั้งแบบใช้ถ่าน AA/AAA ทั่วไป กับแบบชาร์จไฟในตัว ถ้าเป็นแบบใช้ถ่าน ข้อดีคือหาเปลี่ยนง่ายมากๆ หมดที่ไหนก็วิ่งเข้าร้านสะดวกซื้อได้เลยค่ะ แต่ข้อเสียคือต้องคอยซื้อถ่านมาเปลี่ยนเรื่อยๆ ถ้าเป็นแบบชาร์จไฟในตัว ข้อดีคือสะดวก ไม่ต้องเปลี่ยนถ่าน แค่เสียบสายชาร์จก็เต็มแล้ว บางรุ่นชาร์จแป๊บเดียวใช้ได้ทั้งวันก็มีค่ะ แต่ถ้าแบตหมดตอนกำลังใช้งานสำคัญๆ อาจจะยุ่งยากหน่อยเพราะต้องหาที่ชาร์จมาเสียบทันทีค่ะ ลองดูว่าเราสะดวกแบบไหนมากกว่ากัน แล้วเช็คอายุการใช้งานแบตเตอรี่ของแต่ละรุ่นด้วยนะคะ ว่าอึดพอสำหรับสไตล์การใช้งานของเราไหม
  • 3. ขนาด รูปทรง และสรีระ:
    เรื่องนี้สำคัญมากๆ ค่ะ เพราะเมาส์คือสิ่งที่เราต้องจับต้องสัมผัสอยู่ตลอดเวลา ถ้าขนาดหรือรูปทรงไม่พอดีกับมือเรา อาจจะทำ��ห้รู้สึกไม่สบาย ปวดเมื่อย หรือควบคุมไม่แม่นยำได้ค่ะ ขนาดของเมาส์มีตั้งแต่เล็กๆ มินิมอล เหมาะกับคนมือเล็ก หรือคนที่ชอบพกพา ไปจนถึงขนาดกลางและขนาดใหญ่ ที่รองรับอุ้งมือได้เต็มๆ เหมาะกับคนมือใหญ่ หรือคนที่เน้นใช้งานนานๆ ค่ะ รูปทรงก็มีหลายแบบค่ะ ทั้งแบบสมมาตร (Ambidextrous) ที่ใช้ได้ทั้งมือซ้ายและมือขวา อย่างพวก Razer Viper หรือแบบที่ออกแบบมาสำหรับคนถนัดขวาโดยเฉพาะ (Ergonomic) ที่จะมีส่วนโค้งเว้า หรือที่วางนิ้วโป้ง เพื่อให้จับได้สบายมือและเป็นธรรมชาติมากขึ้นค่ะ อย่างพวก Logitech MX Master หรือ Razer DeathAdder เป็นต้น การจับเมาส์ของแต่ละคนก็ไม่เหมือนกันนะ มีทั้งแบบ Palm Grip (วางอุ้งมือบนตัวเมาส์เต็มๆ), Claw Grip (งอนิ้วเป็นตะขอแล้วใช้ปลายนิ้วกับส่วนล่างของอุ้งมือในการควบคุม), และ Fingertip Grip (ใช้แค่ปลายนิ้วในการควบคุม) เมาส์บางรุ่นออกแบบมาเพื่อรองรับการจับเฉพาะแบบ หรือบางรุ่นก็รองรับได้หลายแบบค่ะ ถ้าเป็นไปได้ แนะนำให้ไปลองจับเมาส์ของจริงที่ร้านดูเลยค่ะ ว่ารูปทรง ขนาด และน้ำหนัก พอดีกับมือเราและสไตล์การจับของเราไหม ลองขยับดู ลองคลิกดู ว่ารู้สึกสบายและควบคุมได้แม่นยำหรือเปล่า การได้ลองจับจริงจะช่วยให้ตัดสินใจได้ง่ายขึ้นเยอะเลยค่ะ อย่ามองข้ามเรื่องนี้นะคะ เพราะความสบายในการใช้งานคือหัวใจหลักเลย
  • 4. งบประมาณและแบรนด์ที่น่าเชื่อถือ:
    สุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุด คือเรื่องงบประมาณในกระเป๋าเรานี่แหละค่ะ เมาส์ไร้สายมีราคาตั้งแต่ไม่กี่ร้อยบาทไปจนถึงหลายพันบาทเลยค่ะ ก่อนซื้อควรกำหนดงบประมาณคร่าวๆ ไว้ก่อน จะได้เลือกดูเฉพาะรุ่นที่อยู่ในงบค่ะ เมาส์ราคาประหยัดอาจจะมีฟีเจอร์พื้นฐานครบครัน เหมาะกับการใช้งานทั่วไปค่ะ แต่ถ้าต้องการฟีเจอร์พิเศษ ความแม่นยำสูง วัสดุที่ดีขึ้น หรือแบรนด์ที่มีชื่อเสียงเรื่องความทนทาน ก็อาจจะต้องขยับงบขึ้นมาหน่อยค่ะ การเลือกแบรนด์ที่น่าเชื่อถือก็สำคัญนะคะ โดยเฉพาะพวกแบรนด์ที่ทำอุปกรณ์ต่อพ่วงคอมพิวเตอร์มานาน มีชื่อเสียงในวงการ อย่าง Logitech, Razer, SteelSeries, Microsoft หรือแม้แต่ Xiaomi เองก็ทำเมาส์คุณภาพดีในราคาเข้าถึงง่ายค่ะ แบรนด์เหล่านี้มักจะมีคุณภาพที่ได้มาตรฐาน มีการรับประกันสินค้า และมีบริการหลังการขายที่ดีกว่าค่ะ ลองดูรีวิวจากผู้ใช้งานจริง หรือบทความเปรียบเทียบต่างๆ เพื่อประกอบการตัดสินใจด้วยนะคะ ว่าแบรนด์ไหน รุ่นไหน ที่คนส่วนใหญ่ใช้งานแล้วไม่มีปัญหา หรือมีปัญหาแล้วได้รับการดูแลที่ดีค่ะ การลงทุนกับเมาส์จากแบรนด์ที่น่าเชื่อถือในงบประมาณที่เหมาะสม จะช่วยให้เราได้เมาส์ที่คุ้มค่า ใช้งานได้นาน และสบายใจหายห่วงค่ะ

คำถามพบบ่อย (FAQ) เกี่ยวกับเมาส์ไร้สาย

  • Q: เมาส์ไร้สายต่างจากเมาส์มีสายยังไง?
    A: ความแตกต่างหลักๆ คือเรื่องสายค่ะ เมาส์ไร้สายให้ความเป็นอิสระในการใช้งาน ไม่มีสายมาเกะกะ พกพาสะดวกกว่า แต่บางครั้งอาจมีความหน่วงของสัญญาณเล็กน้อยเมื่อเทียบกับเมาส์มีสายคุณภาพสูง และต้องคอยจัดการเรื่องแบตเตอรี่ค่ะ ส่วนเมาส์มีสายจะให้การเชื่อมต่อที่เสถียรและไวที่สุด ไม่มีปัญหาแบตหมด แต่ก็มีข้อจำกัดเรื่องระยะและสายที่อาจจะพันกันค่ะ
  • Q: เมาส์ไร้สายใช้เล่นเกมได้ดีเท่าเมาส์มีสายไหม?
    A: เมาส์เกมมิ่งไร้สายรุ่นใหม่ๆ พัฒนาไปไกลมากค่ะ ด้วยเทคโนโลยีไร้สายเฉพาะของแต่ละแบรนด์ เช่น Logitech Lightspeed หรือ Razer HyperSpeed ทำให้มีความหน่วงต่ำมากๆ จนแทบไม่รู้สึกถึงความแตกต่างจากเมาส์มีสายระดับเดียวกัน เกมเมอร์ระดับโปรหลายคนก็หันมาใช้เมาส์ไร้สายกันเยอะแล้วค่ะ ขึ้นอยู่กับรุ่นและเทคโนโลยีที่ใช้ค่ะ
  • Q: ถ้าเมาส์ไร้สายใช้ USB Receiver สามารถใช้กับคอมพิวเตอร์เครื่องอื่นได้ไหม?
    A: ได้ค่ะ ตัวรับสัญญาณ USB Receiver ส่วนใหญ่มักจะเป็นแบบ Plug and Play เสียบเข้ากับพอร์ต USB ของคอมพิวเตอร์เครื่องไหนก็ได้ที่รองรับระบบปฏิบัติการของเมาส์รุ่นนั้นๆ โดยไม่ต้องลงไดรเวอร์เพิ่มเติม (ยกเว้นบางฟีเจอร์พิเศษที่อาจต้องใช้ซอฟต์แวร์เฉพาะของแบรนด์) ค่ะ
  • Q: แบตเตอรี่เมาส์ไร้สายใช้งานได้นานแค่ไหน?
    A: อายุการใช้งานแบตเตอรี่ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ทั้งประเภทของแบตเตอรี่ (ถ่าน AA/AAA vs แบตชาร์จในตัว), เทคโนโลยีไร้สายที่ใช้, ความละเอียดของเซ็นเซอร์ (DPI), และลักษณะการใช้งานค่ะ เมาส์บางรุ่นอาจใช้ได้แค่ไม่กี่สัปดาห์ แต่หลายรุ่นโดยเฉพาะรุ่นที่เน้นเรื่องประหยัดพลังงาน หรือใช้ Bluetooth อาจใช้งานได้นานหลายเดือนจนถึงเป็นปีเลยค่ะ
  • Q: เมาส์ไร้สายแบบ Silent Click คืออะไร ดีกว่าเมาส์ทั่วไปยังไง?
    A: เมาส์แบบ Silent Click คือเมาส์ที่ออกแบบมาให้มีเสียงคลิกที่เงียบมากๆ เมื่อกดปุ่มค่ะ ข้อดีคือช่วยลดเสียงรบกวน เหมาะสำหรับการใช้งานในที่สาธารณะ ห้องสมุด ออฟฟิศ หรือในบ้านตอนกลางคืน โดยไม่ไปรบกวนคนรอบข้างค่ะ แต่สัมผัสในการคลิกอาจจะแตกต่างจากเมาส์ทั่วไปเล็กน้อย ซึ่งบางคนอาจจะชอบหรือไม่ชอบก็ได้ค่ะ

วิดีโอที่เกี่ยวข้อง

บทความล่าสุดดูเพิ่มเติม

สวัสดีครับสายช้อปออนไลน์ทุกท่าน! ถ้าคุณกำลังมองหาหูฟังใหม่ไว้ฟังเพลง ดูหนัง หรือเล่นเกมปี 2025 นี้ บอกเลยว่าตลาดหูฟังเดือดสุดๆ รุ่นใหม่ๆ โผล่มาเพียบ ทั้งดีไซน์ล้ำ เสียงเทพ ฟีเจอร์จัดเต็ม จะสายเปย์ สายประหยัด หรือสายแฟชั่นก็มีให้เลือกครบ วัน
10 Headphone ยี่ห้อไหนดี ปี 2025 เสียงเทพ ดีไซน์โดนใจ
สวัสดีครับเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ เกมเมอร์ชาวไทย! วันนี้มาเจอกับผมในฐานะกูรูนักช้อปออนไลน์เจ้าเก่า ที่จะมาเจาะลึกเรื่องอุปกรณ์คู่ใจของชาวเรา นั่นก็คือ "หูฟังเกมมิ่ง" นั่นเอง! สำหรับใครที่งบน่ารักๆ ไม่เกิน 1,000 บาท แต่อยากได้หูฟังเสียงชัด แยกทิศ
10 หูฟังเกมมิ่ง ราคาไม่เกิน 1000 ยี่ห้อไหนดี ปี 2025 เสียงชัด แยกทิศทางแม่น
สวัสดีครับพี่น้องชาวนักช้อปออนไลน์ทุกท่าน! วันนี้ผมผู้เชี่ยวชาญด้านการช้อปปิ้งออนไลน์ตัวยงของเมืองไทย ขอพาทุกคนดำดิ่งสู่โลกแห่งเสียงเพลงแบบสบายกระเป๋า กับหัวข้อที่ว่าด้วย "10 หูฟัง ราคาไม่เกิน 2000 ยี่ห้อไหนดี ปี 2025 เสียงดีเกินราคา ฟังก์ช
10 หูฟัง ราคาไม่เกิน 2000 ยี่ห้อไหนดี ปี 2025 เสียงดีเกินราคา ฟังก์ชันครบ

บทความยอดนิยม