10 ลําโพงบลูทูธกลางแจ้ง ยี่ห้อไหนดี ปี 2025 เสียงกระหึ่ม ทนน้ำทนฝุ่น ปาร์ตี้สุดมันส์

โอ้โห ตัวแม่ ตัวพ่อ สายตี้ทั้งหลายฟังทางนี้! จะปาร์ตี้ริมสระ แคมป์ปิ้งบนเขา หรือแค่รวมตัวหน้าบ้าน แต่เสียงลำโพงไม่เร้าใจ ชีวิตก็เหมือนขาดอะไรไปใช่ไหมล่ะ ยิ่งอากาศเมืองไทยที่พร้อมจะเซอร์ไพรส์ด้วยฝนได้ทุกเมื่อ หรือฝุ่นที่พร้อมเกาะทุกอณู ลำโพงธรรมดาๆ ก็เอาไม่อยู่ วันนี้เราเลยจะมาป้ายยา "10 ลำโพงบลูทูธกลางแจ้ง" ที่คัดมาแล้วว่าเสียงกระหึ่มจริง ทนน้ำทนฝุ่นสุดๆ ปี 2025 นี้ต้องมีติดตัวไว้ รับรองว่าปาร์ตี้ไหนก็ไม่มีเฟล!

1. JBL Flip 6

• ชื่อแบรนด์: JBL
• ชื่อสินค้า: Flip 6
• ราคาสินค้า: ประมาณ 4,000 - 5,000 บาท
• คำอธิบายสินค้า: JBL Flip 6 นี่คือลำโพงคู่ใจสายลุยที่แท้ทรู! ด้วยดีไซน์ทรงกระบอกสุดฮิต พกพาง่าย จับถนัดมือ แถมยังมีสีสันให้เลือกเพียบ! ไม่ว่าจะไปทะเล ภูเขา หรือริมสระน้ำ ก็เอาอยู่หมด เพราะน้องเขามีดีกรีความทนทานทั้งน้ำและฝุ่นระดับ IP67 เสียงเบสแน่นถึงใจสไตล์ JBL ยิ่งเปิดโหมด PartyBoost เชื่อมต่อกับลำโพง JBL ตัวอื่นได้อีกเพียบ ความสนุกก็คูณสองไปเลย แบตเตอรี่ก็อึด ใช้งานได้ยาวๆ ทั้งวันทั้งคืน ตอบโจทย์ทุกกิจกรรมเอาท์ดอร์สุดๆ
• จุดเด่นสินค้า: กันน้ำกันฝุ่น IP67, เสียงเบสแน่นทรงพลัง, ดีไซน์พกพาง่ายมีสีสันให้เลือก, PartyBoost เชื่อมต่อได้หลายตัว, แบตเตอรี่ใช้งานได้นาน
• ฟังก์ชันการใช้งาน:
  • ปาร์ตี้ริมสระ/ริมทะเล: ด้วยมาตรฐาน IP67 ทำให้ไม่กลัวน้ำสาดหรือฝุ่นทราย จะวางไว้ใกล้สระหรือเอาไปริมหาดก็สบายใจหายห่วง
  • เชื่อมต่อไร้สายด้วย Bluetooth: เวอร์ชั่นใหม่ เชื่อมต่อง่าย เสถียร ฟังเพลงโปรดได้แบบไม่มีสะดุดจากสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตของคุณ
  • ขยายความสนุกด้วย PartyBoost: เทคโนโลยีเฉพาะของ JBL ที่ให้คุณเชื่อมต่อ Flip 6 เข้ากับลำโพง JBL ที่รองรับ PartyBoost ตัวอื่นๆ เพื่อสร้างระบบเสียงสเตอริโอหรือขยายพื้นที่เสียงให้กว้างขึ้นสำหรับปาร์ตี้ขนาดใหญ่
• กลุ่มผู้ใช้งาน/สถานการณ์: คนชอบทำกิจกรรมกลางแจ้ง, สายปาร์ตี้, เดินทางท่องเที่ยว, ใช้ริมสระน้ำหรือชายหาด, กลุ่มเพื่อน/ครอบครัว

มาตรฐานกันน้ำ/ฝุ่น	ระยะเวลาใช้งาน	การเชื่อมต่อ	กำลังขับ	น้ำหนัก	ขนาด	PartyBoost
IP67	สูงสุด 12 ชั่วโมง	Bluetooth 5.1	ไม่ระบุ (เสียงดังชัดเจน)	ประมาณ 550 กรัม	18.1 x 6.9 x 7.4 ซม.	รองรับ

2. Marshall Kilburn II

• ชื่อแบรนด์: Marshall
• ชื่อสินค้า: Kilburn II
• ราคาสินค้า: ประมาณ 9,000 - 13,000 บาท
• คำอธิบายสินค้า: ถ้าพูดถึงลำโพงที่หล่อคลาสสิก สไตล์ร็อกแอนด์โรล Marshall นี่มายืนหนึ่งเลย Kilburn II ก็เช่นกัน ดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์พร้อมหูหิ้วหนังเท่ๆ ยกไปไหนใครก็มอง เสียงนี่ไม่ต้องพูดถึง เบสหนัก กลางชัด แหลมพุ่งสไตล์ Marshall ให้เสียงรอบทิศทางแบบ Multi-directional Sound ที่สำคัญคือทนละอองน้ำระดับ IPX2 พกพาไปแคมป์ปิ้ง ชิลๆ ริมสวน หรือเปิดเพลงคลอตอนนั่งจิบกาแฟนอกบ้านนี่เข้ากั๊นเข้ากัน แบตอึดถึง 20 ชั่วโมง จะปาร์ตี้หรือฟังยาวๆ ก็ไม่มีปัญหา
• จุดเด่นสินค้า: ดีไซน์คลาสสิกสวยงาม, เสียงทรงพลังสไตล์ Marshall, เสียงรอบทิศทาง, แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนาน, หูหิ้วพกพาสะดวก
• ฟังก์ชันการใช้งาน:
  • มอบเสียงเพลงคุณภาพในทุกที่: ด้วยระบบเสียง Multi-directional Sound ทำให้เสียงกระจายตัวได้ดี ไม่ว่าจะวางไว้มุมไหนของงานก็ยังได้ยินเสียงที่ชัดเจนและทรงพลัง เหมาะกับทั้งพื้นที่ Indoor และ Outdoor กึ่งๆ
  • ควบคุมง่ายสไตล์แอนะล็อก: มีปุ่มหมุนควบคุม Volume, Bass และ Treble แยกกัน ให้คุณปรับแต่งเสียงได้ตามใจชอบ สร้างซาวด์ที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเองในทุกเพลง
  • พกพาสะดวกพร้อมแบตเตอรี่อึด: หูหิ้วที่แข็งแรงและแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้นานถึง 20 ชั่วโมง ทำให้ Kilburn II เป็นเพื่อนร่วมทางที่ดีสำหรับการเดินทางท่องเที่ยวหรือกิจกรรมที่ไม่ไกลจากแหล่งชาร์จมากนัก
• กลุ่มผู้ใช้งาน/สถานการณ์: คนที่ชอบดีไซน์คลาสสิก, ชอบเสียงเบสหนัก, ปาร์ตี้ชิลๆ, แคมป์ปิ้งแบบมีสไตล์, ใช้ในสวนหรือนอกบ้าน

มาตรฐานกันน้ำ/ฝุ่น	ระยะเวลาใช้งาน	การเชื่อมต่อ	น้ำหนัก	ขนาด	ประเภทเสียง	ควบคุมเสียง
IPX2 (กันละอองน้ำ)	สูงสุด 20 ชั่วโมง	Bluetooth 5.0, AUX	2.5 กก.	24.3 x 16.2 x 14.0 ซม.	Stereo, Multi-directional	ปุ่มหมุน (Volume, Bass, Treble)

3. Sony SRS-XB100

• ชื่อแบรนด์: Sony
• ชื่อสินค้า: SRS-XB100
• ราคาสินค้า: ประมาณ 1,500 - 2,000 บาท
• คำอธิบายสินค้า: ตัวจิ๋วแต่แจ๋ว! Sony SRS-XB100 นี่คือลำโพงบลูทูธขนาดเล็กที่พกพาง่ายมากๆ มาพร้อมสายคล้องที่แข็งแรง จะคล้องกับเป้ จักรยาน หรือห้อยไว้กับข้อมือก็ได้หมด ขนาดกะทัดรัดแบบนี้แต่เสียงไม่เล็กนะจ๊ะ ให้เสียงที่ดังชัดเจน มีเบสพอประมาณตามสไตล์ Sony แถมยังกันน้ำและฝุ่นระดับ IP67 ลุยได้ทุกสถานการณ์ ไม่ว่าจะเป็นปาร์ตี้ริมสระเล็กๆ ปั่นจักรยานลุยฝน หรือเอาไปเปิดฟังตอนทำกิจกรรมนอกบ้านคนเดียวก็ชิลๆ แบตเตอรี่อยู่ได้ถึง 16 ชั่วโมง ฟังเพลินได้ทั้งวัน
• จุดเด่นสินค้า: ขนาดเล็กพกพาง่าย, กันน้ำกันฝุ่น IP67, มีสายคล้องในตัว, แบตเตอรี่ใช้งานได้นาน, เสียงดังชัดเจน
• ฟังก์ชันการใช้งาน:
  • เพื่อนร่วมทางขนาดพกพา: ด้วยขนาดที่เล็กและน้ำหนักเบา พร้อมสายคล้องในตัว ทำให้ SRS-XB100 เหมาะสุดๆ สำหรับการพกพาไปได้ทุกที่ ไม่ว่าจะเดินทาง ปีนเขา หรือทำกิจกรรมกลางแจ้งต่างๆ
  • ไม่กลัวน้ำและฝุ่น: ได้มาตรฐาน IP67 ทำให้ลำโพงรุ่นนี้สามารถจมน้ำได้ลึก 1 เมตร เป็นเวลา 30 นาที และกันฝุ่นได้แบบสมบูรณ์ เหมาะกับการใช้งานริมน้ำหรือในสภาพแวดล้อมที่มีฝุ่นเยอะ
  • ใช้งานง่ายและสะดวก: เชื่อมต่อผ่าน Bluetooth 5.3 ได้อย่างรวดเร็วและเสถียร มีปุ่มควบคุมที่ตัวลำโพง ทำให้การเล่นเพลง การปรับระดับเสียง หรือการรับสายทำได้ง่ายแม้ไม่ได้หยิบสมาร์ทโฟนขึ้นมา
• กลุ่มผู้ใช้งาน/สถานการณ์: คนชอบเดินทางคนเดียว/กลุ่มเล็ก, ทำกิจกรรมกลางแจ้ง, ปั่นจักรยาน, แบ็คแพ็คเกอร์, ใช้ริมสระเล็กๆ

มาตรฐานกันน้ำ/ฝุ่น	ระยะเวลาใช้งาน	การเชื่อมต่อ	น้ำหนัก	ขนาด	สายคล้อง	Bluetooth Version
IP67	สูงสุด 16 ชั่วโมง	Bluetooth 5.3	ประมาณ 274 กรัม	8.6 x 8.6 x 9.8 ซม.	มีในตัว	5.3

4. Soundcore Motion Boom

• ชื่อแบรนด์: Soundcore (by Anker)
• ชื่อสินค้า: Motion Boom
• ราคาสินค้า: ประมาณ 3,000 - 4,000 บาท
• คำอธิบายสินค้า: อยากได้ลำโพงที่เสียงดังสะใจ เบสหนักๆ สำหรับปาร์ตี้กลางแจ้ง Motion Boom คือคำตอบ! รุ่นนี้ออกแบบมาให้เสียงดังกระหึ่มเกินตัวด้วย Driver คุณภาพและเทคโนโลยี BassUp™ ที่ช่วยเพิ่มพลังเบสแบบเรียลไทม์ ตัวลำโพงแข็งแรงทนทาน มีหูหิ้วในตัว พกพาง่าย ที่เด็ดสุดคือแบตเตอรี่อึดมากก ใช้งานได้สูงสุดถึง 24 ชั่วโมง! จะปาร์ตี้กันทั้งวันทั้งคืนก็เอาอยู่ แถมยังกันน้ำระดับ IPX7 ตกน้ำก็ไม่กลัว เหมาะกับสายปาร์ตี้ สายลุย ที่เน้นเสียงดัง เบสแน่น และแบตอึดเป็นพิเศษ
• จุดเด่นสินค้า: เสียงดังทรงพลังเบสแน่น, แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนานถึง 24 ชั่วโมง, กันน้ำระดับ IPX7, มีหูหิ้วในตัวพกพาสะดวก, เทคโนโลยี BassUp™ เพิ่มพลังเบส
• ฟังก์ชันการใช้งาน:
  • สุดยอดลำโพงปาร์ตี้: ด้วยกำลังขับที่สูงและเทคโนโลยี BassUp™ ทำให้ Motion Boom ให้เสียงที่ดังและเบสที่หนักแน่น เหมาะสุดๆ สำหรับการเปิดเพลงในงานปาร์ตี้กลางแจ้ง หรือพื้นที่กว้างๆ ที่ต้องการเสียงที่ชัดเจนและเต็มพลัง
  • แบตเตอรี่ Non-Stop: แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ที่ใช้งานได้ต่อเนื่องสูงสุด 24 ชั่วโมง ทำให้คุณไม่ต้องกังวลเรื่องแบตหมดกลางคัน จะฟังเพลงยาวๆ ระหว่างเดินทางไกล หรือจัดปาร์ตี้ข้ามคืนก็เอาอยู่
  • ลุยได้ทุกสภาพอากาศ: ด้วยมาตรฐานกันน้ำ IPX7 ลำโพงสามารถจมน้ำได้ ทำให้ใช้งานได้อย่างมั่นใจริมสระ ริมทะเล หรือในสภาพอากาศที่ไม่แน่นอน
• กลุ่มผู้ใช้งาน/สถานการณ์: สายปาร์ตี้, คนชอบฟังเพลงเสียงดัง/เบสหนัก, แคมป์ปิ้ง, กิจกรรมริมน้ำ, เดินทางไกล

มาตรฐานกันน้ำ/ฝุ่น	ระยะเวลาใช้งาน	การเชื่อมต่อ	กำลังขับ	แบตเตอรี่	เทคโนโลยีเสียง	หูหิ้ว
IPX7	สูงสุด 24 ชั่วโมง	Bluetooth 5.0	30W (สูงสุด 80W ด้วย BassUp)	Li-ion (ไม่ระบุความจุ)	BassUp™ Technology	มีในตัว

5. Ultimate Ears WonderBoom 3

• ชื่อแบรนด์: Ultimate Ears (UE)
• ชื่อสินค้า: WonderBoom 3
• ราคาสินค้า: ประมาณ 3,000 - 4,000 บาท
• คำอธิบายสินค้า: ลำโพงทรงกลมสุดน่ารัก สีสันสดใส UE WonderBoom 3 นี่แหละตัวจริงเรื่องความทนทานและความสะดวกในการพกพา! ตัวเล็กกลมๆ แต่เสียงดังเกินคาด ให้เสียงแบบ 360 องศา จะวางไว้ตรงไหนก็ได้ยินเสียงทั่วถึง แถมยังอึดสุดๆ กันน้ำกันฝุ่นระดับ IP67 จมน้ำได้สบายๆ แถมยังลอยน้ำได้ด้วย! เหมาะมากกับปาร์ตี้ริมสระ หรือกิจกรรมทางน้ำทั้งหลาย แบตเตอรี่อยู่ได้นาน 14 ชั่วโมง พกพาง่าย มีห่วงสำหรับคล้อง จะคล้องกับกระเป๋าหรือห้อยไว้เฉยๆ ก็สะดวก เหมาะกับคนที่ชอบลำโพงดีไซน์เก๋ๆ สีสันสดใส เน้นความทนทานและพกพาง่าย
• จุดเด่นสินค้า: กันน้ำกันฝุ่น IP67 และลอยน้ำได้, เสียง 360 องศา, ดีไซน์น่ารักสีสันสดใส, ขนาดเล็กพกพาง่ายมีห่วงคล้อง, แบตเตอรี่ใช้งานได้นานพอสมควร
• ฟังก์ชันการใช้งาน:
  • สนุกได้เต็มที่กับกิจกรรมทางน้ำ: ด้วยคุณสมบัติกันน้ำระดับ IP67 และความสามารถในการลอยน้ำ ทำให้ WonderBoom 3 เป็นเพื่อนคู่ใจสำหรับทุกกิจกรรมริมสระ ชายหาด หรือแม้แต่ในอ่างอาบน้ำ!
  • เสียงครอบคลุมทั่วบริเวณ: การออกแบบให้กระจายเสียงได้ 360 องศา ทำให้ไม่ว่าคุณจะวางลำโพงไว้ตรงไหน ทุกคนในบริเวณนั้นก็จะได้ยินเสียงเพลงอย่างชัดเจน เหมาะกับการตั้งวงคุยกันชิลๆ
  • จับคู่ลำโพงเพื่อเสียงที่ใหญ่ขึ้น: สามารถจับคู่ WonderBoom 3 สองตัวเข้าด้วยกันเพื่อสร้างระบบเสียงสเตอริโอ ให้เสียงที่ดังและมีมิติมากขึ้นสำหรับปาร์ตี้ที่ใหญ่ขึ้นอีกนิด
• กลุ่มผู้ใช้งาน/สถานการณ์: คนชอบดีไซน์น่ารัก, กิจกรรมทางน้ำ, ปาร์ตี้ริมสระ/ชายหาด, เดินทางท่องเที่ยว, ใช้งานง่ายๆ ได้ทุกที่

มาตรฐานกันน้ำ/ฝุ่น	ระยะเวลาใช้งาน	การเชื่อมต่อ	ประเภทเสียง	ขนาด	น้ำหนัก	ลอยน้ำได้
IP67	สูงสุด 14 ชั่วโมง	Bluetooth	360 องศา	10.4 x 9.5 ซม.	ประมาณ 420 กรัม	ได้

6. JBL Charge 5

• ชื่อแบรนด์: JBL
• ชื่อสินค้า: Charge 5
• ราคาสินค้า: ประมาณ 5,000 - 7,000 บาท
• คำอธิบายสินค้า: พี่ใหญ่ของ Flip 6! JBL Charge 5 มาพร้อมกำลังขับที่มากกว่า ให้เสียงที่ดังและเบสที่แน่นสะใจยิ่งขึ้น เหมาะสำหรับปาร์ตี้ขนาดกลางถึงใหญ่ หรือพื้นที่กลางแจ้งที่ต้องการเสียงที่ทรงพลัง ตัวเครื่องแข็งแรงทนทาน กันน้ำกันฝุ่นระดับ IP67 เหมือนน้องเล็ก แต่จุดเด่นของ Charge 5 คือเป็น Power Bank ในตัว! สามารถชาร์จแบตมือถือหรืออุปกรณ์อื่นๆ ได้ขณะฟังเพลง เหมาะสุดๆ กับการไปแคมป์ปิ้งค้างคืน หรือกิจกรรมยาวๆ ที่ไม่มีปลั๊กไฟ แบตเตอรี่ใช้งานได้นานถึง 20 ชั่วโมง ฟังเพลงยาวไป ชาร์จแบตไปได้เลย
• จุดเด่นสินค้า: เป็น Power Bank ในตัว, เสียงดังเบสแน่นกว่า Flip 6, กันน้ำกันฝุ่น IP67, แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนานถึง 20 ชั่วโมง, รองรับ PartyBoost
• ฟังก์ชันการใช้งาน:
  • ลำโพงและพาวเวอร์แบงค์ในหนึ่งเดียว: ไม่ต้องพกพาวเวอร์แบงค์แยก Charge 5 มีพอร์ต USB-A ให้คุณชาร์จสมาร์ทโฟน แท็บเล็ต หรืออุปกรณ์อื่นๆ ได้ในตัว เหมาะมากๆ เวลาไปเที่ยวค้างคืนหรือในที่ที่ไม่มีไฟฟ้า
  • พลังเสียงเต็มอิ่มสำหรับปาร์ตี้ขนาดใหญ่: ด้วยกำลังขับที่มากขึ้นและเทคโนโลยีเสียงคุณภาพจาก JBL ทำให้ Charge 5 สามารถเติมเต็มพื้นที่ปาร์ตี้ขนาดกลางได้อย่างสบาย ให้เสียงเพลงที่สนุกและเร้าใจ
  • ลุยได้ทุกสภาพแวดล้อม: มาตรฐาน IP67 ทำให้ Charge 5 ทนทานต่อการโดนน้ำและฝุ่นได้อย่างสมบูรณ์แบบ จะตั้งริมสระ โดนฝน หรือมีฝุ่นทรายก็ไม่เป็นปัญหา
• กลุ่มผู้ใช้งาน/สถานการณ์: สายปาร์ตี้ขนาดกลาง, แคมป์ปิ้งค้างคืน, เดินทางไกล, กิจกรรมกลางแจ้งที่ต้องการ Power Bank, คนที่ชอบเสียงดังและเบสหนักเป็นพิเศษ

มาตรฐานกันน้ำ/ฝุ่น	ระยะเวลาใช้งาน	การเชื่อมต่อ	กำลังขับ	แบตเตอรี่	ฟังก์ชันพิเศษ	PartyBoost
IP67	สูงสุด 20 ชั่วโมง	Bluetooth 5.1, USB-A (ชาร์จอุปกรณ์)	40W RMS	Li-ion polymer 7500mAh	Power Bank ในตัว	รองรับ

7. Harman Kardon Onyx Studio 8

• ชื่อแบรนด์: Harman Kardon
• ชื่อสินค้า: Onyx Studio 8
• ราคาสินค้า: ประมาณ 9,000 - 14,000 บาท
• คำอธิบายสินค้า: ลำโพงดีไซน์สวยหรูเหมือนงานศิลปะ วางตรงไหนก็ดูแพง Harman Kardon Onyx Studio 8 ไม่ได้มีดีแค่ดีไซน์นะจ๊ะ เสียงก็คุณภาพสุดๆ ให้เสียงที่เป็นเอกลักษณ์ของ Harman Kardon คือเสียงใส คมชัด มีมิติ และเบสที่นุ่มลึก ไม่เน้นกระหึ่มตู้มต้าม แต่เน้นคุณภาพเสียงที่ละเอียด เหมาะกับการฟังเพลงหลากหลายแนว ไม่ว่าจะ Jazz, Acoustic หรือ Pop ชิลๆ มีหูหิ้วอะลูมิเนียมแข็งแรง พกพาไปได้สะดวก แต่รุ่นนี้เน้นการใช้งานในพื้นที่ Outdoor แบบมีหลังคา หรือริมสระแบบระมัดระวัง เพราะมาตรฐานกันน้ำอาจไม่สูงเท่ารุ่นอื่นๆ แต่ถ้าเน้นเสียงดี ดีไซน์สวย พกไปเปิดในงานสังสรรค์เบาๆ หรือริมระเบียงบ้าน นี่ใช่เลย
• จุดเด่นสินค้า: ดีไซน์สวยหรูมีเอกลักษณ์, คุณภาพเสียงพรีเมียม, เสียงใสคมชัดเบสนุ่มลึก, มีหูหิ้วในตัว, รองรับการเชื่อมต่อ 2 อุปกรณ์พร้อมกัน
• ฟังก์ชันการใช้งาน:
  • มอบประสบการณ์เสียงคุณภาพสูง: ด้วย Driver คุณภาพและการปรับจูนเสียงที่เป็นเอกลักษณ์ของ Harman Kardon ทำให้ Onyx Studio 8 มอบเสียงเพลงที่ละเอียดและมีมิติ สร้างบรรยากาศที่ผ่อนคลายหรือสนุกสนานได้ตามต้องการ
  • เชื่อมต่อพร้อมกันได้ 2 อุปกรณ์: สะดวกสุดๆ เวลาสลับกันเปิดเพลงกับเพื่อนๆ เพราะสามารถเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตได้พร้อมกันถึง 2 เครื่อง
  • เป็น Speakerphone ในตัว: มีไมโครโฟนในตัว ทำให้สามารถรับสายเรียกเข้าและสนทนาผ่านลำโพงได้ เสียงคมชัด เหมาะกับการใช้งานเวลาทำงานหรือประชุมแบบกลุ่มเล็กๆ นอกสถานที่
• กลุ่มผู้ใช้งาน/สถานการณ์: คนที่เน้นคุณภาพเสียงและดีไซน์, ปาร์ตี้ชิลๆ, ใช้งานในสวน/ระเบียง, ฟังเพลงในวันพักผ่อน, คนที่ชอบแบรนด์ Harman Kardon

มาตรฐานกันน้ำ/ฝุ่น	ระยะเวลาใช้งาน	การเชื่อมต่อ	กำลังขับ	ขนาด	น้ำหนัก	ดีไซน์
ไม่ระบุชัดเจน (ระมัดระวังน้ำ)	สูงสุด 8 ชั่วโมง	Bluetooth 5.2	50W RMS	31.2 x 27.5 x 16.3 ซม.	3.5 กก.	สวยหรูพร้อมหูหิ้ว

8. Bose SoundLink Flex

• ชื่อแบรนด์: Bose
• ชื่อสินค้า: SoundLink Flex
• ราคาสินค้า: ประมาณ 5,000 - 6,000 บาท
• คำอธิบายสินค้า: ลำโพงจิ๋วแต่พลังเสียงไม่จิ๋ว! Bose SoundLink Flex มาพร้อมเทคโนโลยี PositionIQ™ ที่ปรับเสียงให้เหมาะสมกับทิศทางที่วางลำโพง ไม่ว่าจะวาง นอน ตะแคง เสียงก็ยังดีเยี่ยม ตัวเครื่องทนทานสุดๆ กันน้ำกันฝุ่นระดับ IP67 แถมยังลอยน้ำได้ด้วย! เหมาะกับสายลุยทุกรูปแบบ ตกน้ำก็ไม่จม หายห่วงเรื่องทำตกหรือโดนน้ำโดยไม่ตั้งใจ เสียงเบสแน่นตามสไตล์ Bose ขนาดเล็กพกพาง่าย มีห่วงคล้องที่ยืดหยุ่น จะห้อยกับกระเป๋าหรือจักรยานก็สะดวก แบตเตอรี่ใช้งานได้ 12 ชั่วโมง พกพาไปได้ทุกที่จริงๆ
• จุดเด่นสินค้า: เทคโนโลยี PositionIQ™ ปรับเสียงอัตโนมัติ, กันน้ำกันฝุ่น IP67 และลอยน้ำได้, เสียงเบสแน่นคุณภาพดี, ขนาดเล็กพกพาง่ายมีห่วงคล้อง, ตัวเครื่องทนทานแข็งแรง
• ฟังก์ชันการใช้งาน:
  • เสียงดีทุกท่วงท่า: เทคโนโลยี PositionIQ™ อัจฉริยะช่วยให้ลำโพงตรวจจับทิศทางการวางและปรับเสียงให้เหมาะสมโดยอัตโนมัติ ทำให้คุณได้เสียงที่ดีที่สุดไม่ว่าจะวางลำโพงในแนวตั้ง แนวนอน หรือแขวนไว้
  • เพื่อนคู่ใจสายแอดเวนเจอร์: ด้วยมาตรฐานกันน้ำกันฝุ่น IP67 และความสามารถในการลอยน้ำ ทำให้ SoundLink Flex พร้อมลุยไปกับคุณในทุกกิจกรรม ไม่ว่าจะริมลำธาร ชายหาด หรือป่าฝน
  • เชื่อมต่อหลายตัวเพื่อเสียงที่ใหญ่ขึ้น: สามารถจับคู่ SoundLink Flex กับลำโพง Bose อีกตัวที่รองรับ เพื่อเปิดโหมด Party Mode ฟังเพลงพร้อมกันสองตัว หรือโหมด Stereo Mode เพื่อแยกเสียงซ้ายขวา สร้างมิติเสียงที่สมจริงยิ่งขึ้น
• กลุ่มผู้ใช้งาน/สถานการณ์: สายลุย, ทำกิจกรรม Outdoor ผาดโผน, เที่ยวทะเล/น้ำตก, คนที่ต้องการลำโพงทนทานพิเศษ, คนที่ชอบแบรนด์ Bose

มาตรฐานกันน้ำ/ฝุ่น	ระยะเวลาใช้งาน	การเชื่อมต่อ	เทคโนโลยีเสียง	ขนาด	น้ำหนัก	ลอยน้ำได้
IP67	สูงสุด 12 ชั่วโมง	Bluetooth 4.2	PositionIQ™	9 x 20.1 x 5.2 ซม.	ประมาณ 590 กรัม	ได้

9. Marshall Emberton II

• ชื่อแบรนด์: Marshall
• ชื่อสินค้า: Emberton II
• ราคาสินค้า: ประมาณ 6,000 - 8,000 บาท
• คำอธิบายสินค้า: ลำโพงบลูทูธขนาดเล็กสุดคลาสสิกจาก Marshall! Emberton II ยังคงดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์พร้อมโลโก้ Marshall สีขาวโดดเด่น ขนาดกะทัดรัด พกพาง่ายด้วยน้ำหนักเพียง 0.7 กก. แต่เสียงไม่เล็กนะจ๊ะ ให้เสียง 360 องศา สไตล์ Marshall เอกลักษณ์คือเสียงเบสแน่น กลางชัด ฟังสนุกทุกแนว รุ่นนี้อัปเกรดความทนทานขึ้นเป็น IP67 กันน้ำกันฝุ่นได้เต็มที่ ลุยได้มากกว่ารุ่นก่อนๆ แบตเตอรี่อึดถึง 30 ชั่วโมง! ฟังเพลงยาวๆ ข้ามวันข้ามคืนได้สบายๆ เหมาะกับคนที่ชอบดีไซน์ Marshall เน้นพกพาง่าย เสียงดี แบตอึด และทนทานต่อสภาพอากาศต่างๆ
• จุดเด่นสินค้า: ดีไซน์ Marshall สุดคลาสสิก, ขนาดเล็กพกพาง่าย, กันน้ำกันฝุ่น IP67, แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนานถึง 30 ชั่วโมง, เสียง 360 องศา
• ฟังก์ชันการใช้งาน:
  • สุนทรียภาพแห่งเสียงเพลงทุกที่: ด้วยเสียง 360 องศาและคุณภาพเสียงสไตล์ Marshall Emberton II ทำให้คุณเพลิดเพลินกับเพลงโปรดได้อย่างเต็มอิ่ม ไม่ว่าจะวางไว้กลางวงปาร์ตี้ หรือมุมห้อง
  • แบตเตอรี่สุดอึดสำหรับกิจกรรมยาวนาน: แบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ต่อเนื่องสูงสุด 30 ชั่วโมง ทำให้ Emberton II เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับการเดินทางไกล แคมป์ปิ้งหลายวัน หรือกิจกรรมที่ไม่มีไฟฟ้าใช้
  • ทนทานทุกสภาพอากาศ: มาตรฐาน IP67 ช่วยให้ลำโพงรุ่นนี้ทนทานต่อการโดนน้ำและฝุ่นได้อย่างสมบูรณ์แบบ ทำให้คุณใช้งานได้อย่างไร้กังวลไม่ว่าสภาพอากาศจะเป็นอย่างไร
• กลุ่มผู้ใช้งาน/สถานการณ์: คนชอบดีไซน์ Marshall, เดินทางท่องเที่ยว, แคมป์ปิ้ง, กิจกรรมกลางแจ้ง, คนที่ต้องการลำโพงพกพาง่ายแบตอึด

มาตรฐานกันน้ำ/ฝุ่น	ระยะเวลาใช้งาน	การเชื่อมต่อ	ประเภทเสียง	ขนาด	น้ำหนัก	Quick Charge
IP67	สูงสุด 30 ชั่วโมง	Bluetooth 5.1	Stereo, True Stereophonic (360°)	6.8 x 16 x 7.6 ซม.	0.7 กก.	รองรับ (ชาร์จ 20 นาที ฟังได้ 4 ชม.)

10. Anker Soundcore Flare 2

• ชื่อแบรนด์: Soundcore (by Anker)
• ชื่อสินค้า: Flare 2
• ราคาสินค้า: ประมาณ 2,000 - 3,000 บาท
• คำอธิบายสินค้า: ลำโพงบลูทูธที่มาพร้อมแสงสีสุดจี๊ด! Anker Soundcore Flare 2 ไม่ได้มีดีแค่เสียง 360 องศาและเบสแน่นๆ แต่ยังมาพร้อมไฟ LED Ring ด้านบนและด้านล่าง ที่สามารถซิงค์กับจังหวะเพลงได้ถึง 6 โหมด! สร้างบรรยากาศปาร์ตี้ให้สนุกกว่าเดิม ตัวเครื่องกันน้ำระดับ IPX7 ตกน้ำก็ไม่กลัว เหมาะกับปาร์ตี้ริมสระ หรือเปิดเพลงแดนซ์เบาๆ ที่บ้าน มีเทคโนโลยี PartyCast™ เชื่อมต่อ Flare 2 ได้มากกว่า 100 ตัว! สร้างระบบเสียงและแสงที่อลังการสุดๆ แบตเตอรี่ใช้งานได้ 12 ชั่วโมง เหมาะกับสายปาร์ตี้ที่ชอบแสงสี และต้องการลำโพงที่เชื่อมต่อกันได้เยอะๆ
• จุดเด่นสินค้า: ไฟ LED Ring เปลี่ยนสีตามจังหวะเพลง, เสียง 360 องศาเบสแน่น, กันน้ำระดับ IPX7, เทคโนโลยี PartyCast™ เชื่อมต่อได้มากกว่า 100 ตัว, สร้างบรรยากาศปาร์ตี้ได้ดี
• ฟังก์ชันการใช้งาน:
  • ยกระดับปาร์ตี้ด้วยแสงสี: ไฟ LED Ring ที่สามารถปรับโหมดและสีสันได้ตามจังหวะเพลง ช่วยเพิ่มความสนุกและความตื่นเต้นให้กับงานปาร์ตี้ สร้างบรรยากาศที่ไม่เหมือนใคร
  • เสียงครอบคลุมทั่วพื้นที่: การออกแบบให้เสียงออกรอบทิศทาง 360 องศา ช่วยให้เสียงเพลงกระจายตัวได้ดี ไม่ว่าผู้ร่วมงานจะอยู่มุมไหนของบริเวณ ก็ยังได้ยินเสียงที่ชัดเจน
  • สร้างเครือข่ายเสียงและแสงขนาดใหญ่: ด้วยเทคโนโลยี PartyCast™ ทำให้ Flare 2 สามารถเชื่อมต่อกับลำโพง Flare 2 หรือ Soundcore ที่รองรับ PartyCast ได้มากกว่า 100 ตัวพร้อมกัน เพื่อสร้างระบบเสียงและแสงที่ยิ่งใหญ่และน่าประทับใจสำหรับงานปาร์ตี้ขนาดใหญ่จริงๆ
• กลุ่มผู้ใช้งาน/สถานการณ์: สายปาร์ตี้ที่ชอบแสงสี, จัดงานอีเวนท์ขนาดเล็ก-กลาง, ใช้งานริมสระน้ำ, คนที่ชอบเชื่อมต่อลำโพงหลายๆ ตัว, ฟังเพลงสร้างบรรยากาศ

มาตรฐานกันน้ำ/ฝุ่น	ระยะเวลาใช้งาน	การเชื่อมต่อ	ประเภทเสียง	ฟังก์ชันพิเศษ	การเชื่อมต่อหลายตัว	แสงไฟ
IPX7	สูงสุด 12 ชั่วโมง	Bluetooth 5.0	360 องศา	PartyCast™	มากกว่า 100 ตัว	LED Ring (6 โหมด)

วิธีเลือกลำโพงบลูทูธกลางแจ้งให้โดนใจสายตี้และสายลุย

• 1. เช็คให้ชัวร์ เรื่องความทนทาน (มาตรฐานกันน้ำกันฝุ่น IP Rating)
  เวลาจะเลือกลำโพงไปใช้กลางแจ้ง สิ่งแรกที่ต้องดูแบบเน้นๆ เลยคือเรื่องความทนทานนี่แหละพี่น้อง! โดยเฉพาะมาตรฐาน IP Rating (Ingress Protection Rating) ที่เป็นตัวบอกว่าน้องลำโพงของเราเนี่ย ทนน้ำทนฝุ่นได้แค่ไหน ตัวเลขสองหลักที่ตามหลัง IP เนี่ยสำคัญมากนะจ๊ะ เลขตัวแรกบอกระดับการป้องกันของแข็งหรือฝุ่น ไล่ตั้งแต่ 0 (ไม่ป้องกันเลย) ไปจนถึง 6 (ป้องกันฝุ่นได้สมบูรณ์) ส่วนเลขตัวที่สองบอกระดับการป้องกันของเหลวหรือน้ำ อันนี้แหละทีเด็ดสำหรับลำโพงกลางแจ้ง เริ่มตั้งแต่ 0 (ไม่ป้องกันเลย) ไปจนถึง 8 (จมน้ำได้ตามที่ผู้ผลิตกำหนด) ทีนี้ถ้าจะเอาไปปาร์ตี้ริมสระ ริมทะเล หรือพกไปลุยๆ เจอฝนบ้างอะไรบ้าง อย่างน้อยๆ ควรเลือกที่มาตรฐาน IPX4 ขึ้นไปนะจ๊ะ อันนี้คือกันน้ำกระเซ็นได้แล้ว พอไหวอยู่ แต่ถ้าอยากได้แบบมั่นใจหายห่วง ตกน้ำไม่พัง จมน้ำได้สบายๆ ต้องมองหา IPX7 หรือ IP67 เลยนะจ๊ะ IPX7 นี่คือกันน้ำลึก 1 เมตร ได้ 30 นาที ส่วน IP67 คือกันฝุ่นได้สมบูรณ์และกันน้ำได้ลึก 1 เมตร เหมือนกัน แต่ถ้าเจอ IP68 นี่คือสุดจริง กันน้ำได้ลึกกว่า 1 เมตร ตามที่ระบุไว้เลย ทีนี้เวลาไปเลือกซื้อก็พลิกดูสเปคเลยจ้า IP เท่านู้นเท่านี้ เราจะได้รู้ว่าลำโพงตัวไหนพร้อมจะไปลุยกับเราได้ถึงไหน ไม่ใช่ซื้อมาแล้วเจอฝนปรอยๆ ต้องรีบวิ่งเก็บ แบบนี้ปาร์ตี้หมดสนุกพอดี นอกจาก IP Rating แล้ว วัสดุที่ใช้ทำลำโพงก็สำคัญนะ ควรเลือกที่แข็งแรง ทนทานต่อแรงกระแทกได้ด้วย เพราะชีวิตสายตี้สายลุย อะไรก็เกิดขึ้นได้จริงมะ
• 2. พลังเสียงต้องถึงใจ และคุณภาพเสียงต้องได้เรื่อง!
  ลำโพงกลางแจ้งทั้งที เสียงต้องดังไว้ก่อนสิ ถึงจะเรียกว่า "เสียงกระหึ่ม"! แต่แค่ดังอย่างเดียวไม่พอ คุณภาพเสียงก็ต้องดีด้วยนะจ๊ะ ไม่ใช่ดังแบบแตกๆ ซ่าๆ ฟังไม่รู้เรื่อง เวลาดูสเปคเรื่องเสียง เขาจะมีบอกค่ากำลังขับเป็นวัตต์ (Watt หรือ W) ตัวเลขวัตต์เยอะๆ ส่วนใหญ่ก็จะให้เสียงที่ดังตามไปด้วย แต่กำลังขับไม่ใช่ทุกอย่างนะจ๊ะ ยังมีเรื่องของขนาดและจำนวน Driver (ตัวขับเสียง) ด้วย ลำโพงที่มี Driver ขนาดใหญ่ หรือมีหลายตัว ก็จะให้เสียงที่เต็มอิ่ม มีมิติ และดังกว่าลำโพงตัวเล็กๆ ที่มี Driver ตัวเดียว สำหรับปาร์ตี้กลางแจ้งเนี่ย แนะนำให้มองหาลำโพงที่มีกำลังขับพอสมควร ยิ่งพื้นที่กว้าง คนเยอะ ก็ยิ่งต้องการกำลังขับที่สูงขึ้น นอกจากความดังแล้ว คุณภาพเสียงย่านต่างๆ ก็สำคัญนะจ๊ะ เบสต้องแน่นถึงใจ ฟังแล้วคึกคัก เสียงกลางต้องชัดเจน ฟังเสียงร้องหรือเครื่องดนตรีได้ชัดๆ ส่วนเสียงแหลมก็ต้องใส ไม่บาดหู ลำโพงบางรุ่นจะมีเทคโนโลยีเสริมที่ช่วยเรื่องเสียงเบส เช่น BassUp™ ของ Soundcore หรือมีโหมดเสียงกลางแจ้ง Outdoor Mode ที่ปรับจูนเสียงให้เหมาะกับการใช้งานนอกอาคาร ลองดูตรงนี้ด้วยก็ได้ หรือถ้ามีโอกาสได้ลองฟังก่อนซื้อจะดีที่สุด จะได้รู้ว่าเสียงลำโพงตัวไหนถูกหูเรามากที่สุด เพราะสุดท้ายแล้ว ความชอบเรื่องเสียงเป็นเรื่องส่วนตัวเนอะ บางคนชอบเบสหนักๆ บางคนชอบเสียงใสๆ ก็เลือกที่ใช่ ที่ชอบเลยจ้า
• 3. แบตเตอรี่ต้องอึด พกพาต้องง่าย!
  ไปปาร์ตี้กลางแจ้ง หรือไปเที่ยวทั้งที คงไม่มีใครอยากให้ลำโพงแบตหมดกลางคันใช่ไหมล่ะ? เพราะงั้นเรื่องแบตเตอรี่เนี่ย สำคัญสุดๆ ไปเลย! ต้องดูว่าลำโพงที่เราเล็งไว้นั้น ใช้งานต่อเนื่องได้นานแค่ไหน หน่วยเป็นชั่วโมง ยิ่งตัวเลขเยอะ ยิ่งดีเยี่ยม! จะได้ฟังเพลงยาวๆ เพลินๆ ไปเลย ปกติลำโพงบลูทูธกลางแจ้งส่วนใหญ่จะใช้งานได้ตั้งแต่ 8 ชั่วโมง ไปจนถึง 20 ชั่วโมง หรือบางรุ่นอึดจัดๆ ได้ถึง 30 ชั่วโมงเลยก็มีนะจ๊ะ เวลาเลือกก็ลองกะดูว่าเราจะเอาไปใช้ทำกิจกรรมอะไร ใช้ประมาณกี่ชั่วโมง ถ้าแค่ปาร์ตี้สั้นๆ ริมสระ อาจจะไม่ต้องแบตอึดมากก็ได้ แต่ถ้าจะไปแคมป์ปิ้งค้างคืน หรือเดินทางไกลหลายวัน ไม่มีแหล่งชาร์จไฟเนี่ย ต้องเลือกรุ่นที่แบตอึดเข้าไว้เลย นอกจากระยะเวลาการใช้งานแล้ว บางรุ่นยังมีฟังก์ชันเป็น Power Bank ในตัวด้วยนะ! อันนี้สะดวกมากๆ ชาร์จแบตมือถือหรืออุปกรณ์อื่นๆ ได้จากลำโพงเลย ไม่ต้องพกพาวเวอร์แบงค์แยก ประหยัดพื้นที่ไปได้อีก ส่วนเรื่องการพกพา ก็ดูขนาดและน้ำหนักของลำโพงด้วย ถ้าเน้นพกใส่เป้เดินทางบ่อยๆ ก็ควรเลือกรุ่นที่ขนาดกะทัดรัด น้ำหนักเบา มีสายคล้องหรือหูหิ้วที่แข็งแรง แต่ถ้าเน้นตั้งประจำที่ หรือเคลื่อนย้ายไม่บ่อยมาก อาจจะเลือกรุ่นที่ใหญ่ขึ้นมาหน่อย เน้นพลังเสียงเต็มที่ก็ได้ ลองพิจารณาดูว่าไลฟ์สไตล์เราเป็นแบบไหน แล้วเลือกลำโพงที่ตอบโจทย์การพกพาของเรามากที่สุดนะจ๊ะ

คำถามที่พบบ่อย (FAQ) เกี่ยวกับลำโพงบลูทูธกลางแจ้ง

• Q: มาตรฐาน IP67 กับ IPX7 ต่างกันยังไง เลือกแบบไหนดี?
  A: มาตรฐาน IP จะมีตัวเลขสองหลักตามหลัง โดยเลขตัวแรกบอกระดับการป้องกันของแข็ง/ฝุ่น และเลขตัวที่สองบอกระดับการป้องกันน้ำ IP67 หมายถึงป้องกันฝุ่นได้สมบูรณ์ (เลข 6) และป้องกันน้ำจากการจมน้ำชั่วคราวได้ (เลข 7) ส่วน IPX7 หมายถึงไม่ได้ทดสอบเรื่องการป้องกันของแข็ง/ฝุ่น (ตัว X) แต่ป้องกันน้ำจากการจมน้ำชั่วคราวได้เหมือนกัน (เลข 7) ถ้าต้องการลำโพงที่ลุยได้ทั้งฝุ่นและน้ำ เช่น เอาไปทะเลเจอทั้งทรายทั้งน้ำ หรือไปแคมป์ปิ้งที่อาจมีฝุ่นเยอะๆ ด้วย ก็ควรเลือก IP67 ไปเลยจะดีที่สุดครับ แต่ถ้าเน้นแค่กันน้ำสาด ตกน้ำ หรือโดนฝนอย่างเดียว IPX7 ก็เพียงพอแล้วครับ ขึ้นอยู่กับลักษณะการใช้งานของคุณเลย
• Q: ลำโพงบลูทูธกลางแจ้งที่เสียงดังมากๆ กินแบตเยอะไหม?
  A: โดยทั่วไปแล้ว ลำโพงที่ให้เสียงดังและมีกำลังขับสูง มักจะใช้พลังงานแบตเตอรี่มากกว่าลำโพงขนาดเล็กที่มีกำลังขับน้อยกว่าครับ เพราะต้องใช้พลังงานในการขับ Driver ให้ทำงานมากขึ้นเพื่อให้ได้เสียงที่ดังกระหึ่ม อย่างไรก็ตาม เทคโนโลยีแบตเตอรี่ในปัจจุบันพัฒนาไปมาก ลำโพงรุ่นใหม่ๆ หลายรุ่นแม้จะเสียงดังแต่ก็ยังสามารถใช้งานได้ยาวนานครับ แนะนำให้ดูที่ระบุ "ระยะเวลาการใช้งาน" ในสเปคสินค้าประกอบด้วยครับ และบางรุ่นที่มีฟังก์ชัน Power Bank ในตัวก็อาจจะใช้แบตเตอรี่ที่ใหญ่เป็นพิเศษ เพื่อให้สามารถใช้งานได้นานและมีแบตพอสำหรับชาร์จอุปกรณ์อื่นด้วยครับ
• Q: สามารถเชื่อมต่อลำโพงบลูทูธกลางแจ้งหลายๆ ตัวพร้อมกันได้ไหม?
  A: ได้ครับ ลำโพงบลูทูธกลางแจ้งหลายๆ รุ่น โดยเฉพาะรุ่นที่ออกแบบมาเพื่อการปาร์ตี้ จะมีฟังก์ชันที่เรียกว่า Party Mode หรือ Multi-speaker Pairing ซึ่งช่วยให้คุณสามารถเชื่อมต่อลำโพงรุ่นเดียวกัน หรือรุ่นที่รองรับฟังก์ชันนี้เข้าด้วยกันหลายๆ ตัวได้ เพื่อสร้างระบบเสียงที่ดังและครอบคลุมพื้นที่ได้กว้างขึ้น เช่น JBL มี PartyBoost หรือ Anker Soundcore มี PartyCast™ ลองมองหารุ่นที่มีฟังก์ชันนี้หากคุณต้องการสร้างระบบเสียงสำหรับงานปาร์ตี้ขนาดใหญ่ครับ จำนวนลำโพงที่เชื่อมต่อได้พร้อมกันจะแตกต่างกันไปในแต่ละรุ่นและแต่ละแบรนด์ครับ
• Q: ควรดูแลรักษาลำโพงบลูทูธกลางแจ้งที่ทนน้ำทนฝุ่นยังไง?
  A: แม้ลำโพงจะทนน้ำทนฝุ่นได้ แต่การดูแลรักษาก็ยังสำคัญครับ หลังใช้งานกลางแจ้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังโดนน้ำทะเลหรือน้ำที่มีคลอรีน ควรล้างทำความสะอาดด้วยน้ำเปล่าเพื่อเอาคราบเกลือหรือสารเคมีออก จากนั้นเช็ดให้แห้งสนิทก่อนเก็บรักษา หลีกเลี่ยงการนำลำโพงไปแช่น้ำโดยไม่จำเป็น หรือใช้งานในสภาวะที่รุนแรงเกินกว่าที่ระบุไว้ในมาตรฐาน IP ครับ และควรปิดฝาครอบพอร์ตเชื่อมต่อต่างๆ ให้สนิททุกครั้งก่อนใช้งาน เพื่อป้องกันน้ำและฝุ่นเข้าไปทำความเสียหายภายในครับ การดูแลอย่างถูกวิธีจะช่วยยืดอายุการใช้งานของลำโพงให้ยาวนานขึ้นครับ

วิดีโอที่เกี่ยวข้อง

• 10 ลำโพง บลูทูธ พกพา ยี่ห้อไหนดี | ล่าสุด 2025 | @thailand_smile
• 10 อันดับ ลำโพงบลูทูธกลางแจ้งยี่ห้อไหนดี 2023 พกพาง่าย กันน้ำได้
• 10 ลำโพง JBL รุ่นไหนดี 2025 ที่ยังน่าใช้อยู่
• 10 อันดับ ลำโพงบลูทูธ ยี่ห้อไหนดี 2025
• 10 ลำโพง พกพา บลูทูธ ยี่ห้อไหนดี ล่าสุด ต้อนรับ ปี 2024 ...