10 หูฟัง JBL รุ่นไหนดี ปี 2025 เสียงเอกลักษณ์ JBL เบสหนักโดนใจ

user avatar
ZestOfficeSupplies·2025-05-27 11:33
点赞
10 หูฟัง JBL รุ่นไหนดี ปี 2025 เสียงเอกลักษณ์ JBL เบสหนักโดนใจ

สวัสดีครับทุกคน! วันนี้พ่อบ้านใจกล้า เอ้ย! ไม่ใช่ครับ วันนี้ผู้เชี่ยวชาญเรื่อง gadget คู่ใจสไตล์สายช้อปอย่างผม จะมาบอกต่อของดีที่ชาวแก๊งค์คนรักเสียงเพลง เบสแน่นๆ ต้องเลิฟ นั่นก็คือหูฟัง JBL นั่นเอง! รู้ๆ กันอยู่ว่า JBL เค้าเรื่องเสียงระดับโลก ยิ่งเบสนี่ไม่ต้องพูดถึง ตึ้บถึงใจ จัดจ้านในย่านความถี่ต่ำสุดๆ ปี 2025 นี้มีรุ่นไหนเด็ด รุ่นไหนโดน ที่จะทำให้ชีวิตการฟังเพลง การดูหนัง หรือแม้แต่การเล่นเกมของเราฟินกว่าเดิมบ้าง มาดูกันเลยครับ เตรียมตัวให้พร้อม แล้วมาเลือกหูฟังคู่ใจไปใช้กันยาวๆ ไม่ว่าจะเทศกาลไหนๆ หรือใช้ในชีวิตประจำวัน เพลงเพราะ เบสดี มีชัยไปกว่าครึ่ง!

รวม 10 หูฟัง JBL รุ่นน่าตำ เสียงดี เบสแน่น ปี 2025

มาเริ่มกันที่รุ่นเด็ดๆ ที่คัดมาให้แล้วเน้นๆ ตอบโจทย์ทุกการใช้งาน ทุกงบประมาณ และที่สำคัญคือ "เบสต้องโดนใจ" ตามสไตล์ JBL Signature Sound ที่เป็นเอกลักษณ์กันเลยครับ!

1. JBL Tour Pro 3

  • ชื่อแบรนด์: JBL
  • ชื่อสินค้า: Tour Pro 3
  • ราคาสินค้า: ประมาณ 7,000 - 9,000 บาท
  • คำอธิบายสินค้า: หูฟัง True Wireless ระดับเรือธงจาก JBL ที่มาพร้อมเคสชาร์จสุดล้ำ หน้าจอสัมผัสในตัว! ช่วยให้คุณควบคุมการทำงานต่างๆ ได้ง่ายโดยไม่ต้องหยิบมือถือ. ให้เสียง JBL Pro Sound ที่ยอดเยี่ยม พร้อมเบสที่ทั้งทรงพลังและแม่นยำ. ระบบตัดเสียงรบกวน True Adaptive ANC 2.0 ที่ปรับตามสภาพแวดล้อมแบบเรียลไทม์ ทำให้คุณจมดิ่งไปกับเสียงเพลงหรือพอดแคสต์คู่ใจ ไม่ว่าจะอยู่ท่ามกลางความวุ่นวายในเมืองหลวง หรือเดินทางช่วงเทศกาลที่คนเยอะๆ. แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนาน และรองรับการชาร์จไร้สาย สะดวกสุดๆ. ไมโครโฟน 6 ตัวพร้อม AI ช่วยให้การคุยโทรศัพท์ชัดเจน แม้อยู่ในที่เสียงดัง. เป็นหูฟังที่รวมสุดยอดเทคโนโลยีไว้ในขนาดกะทัดรัด เหมาะกับคนเมืองที่ต้องการทั้งคุณภาพเสียง ฟีเจอร์ครบครัน และความสะดวกสบายระดับพรีเมียม.
  • จุดเด่นสินค้า: เคสชาร์จจอสัมผัสสุดล้ำ, ระบบตัดเสียงรบกวนอัจฉริยะ, เสียง JBL Pro Sound เบสทรงพลัง, ไมค์ชัด ตัดเสียงรบกวนดีเยี่ยม, ดีไซน์สวย พรีเมียม
  • ฟังก์ชันการใช้งาน:
    • ควบคุมผ่านเคสชาร์จจอสัมผัส: สามารถปรับ EQ, ควบคุม ANC, ดูการแจ้งเตือน หรือแม้แต่ค้นหาหูฟังได้จากหน้าจอเคส โดยไม่ต้องเปิดแอปบนมือถือ สะดวกมากๆ สำหรับคนที่ชอบความรวดเร็วในการเข้าถึงฟีเจอร์ต่างๆ ในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นตอนเดินทาง หรือระหว่างทำงานที่ต้องการสมาธิและไม่อยากวุ่นวายกับมือถือบ่อยๆ.
    • ระบบตัดเสียงรบกวน True Adaptive ANC 2.0: เทคโนโลยีนี้จะปรับระดับการตัดเสียงรบกวนให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมรอบตัวคุณแบบอัตโนมัติ ช่วยบล็อกเสียงที่ไม่ต้องการได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็นเสียงรถไฟฟ้า เสียงคนคุยกัน หรือเสียงจอแจในออฟฟิศ ทำให้คุณได้ฟังเพลงโปรดแบบเต็มอิ่ม ไม่มีอะไรมารบกวน เหมาะมากสำหรับใช้เดินทางช่วงเทศกาลหรือทำงานในพื้นที่เปิด.
    • รองรับ Hi-Res Audio Wireless ด้วย LDAC: สำหรับนักฟังเพลงที่ต้องการคุณภาพเสียงที่ดีที่สุด หูฟังรุ่นนี้รองรับ codec LDAC ซึ่งส่งข้อมูลได้มากกว่า Bluetooth ทั่วไปถึง 3 เท่า ทำให้ได้รายละเอียดเสียงที่ครบถ้วน สมจริง โดยเฉพาะเสียงเบสที่เป็นเอกลักษณ์ของ JBL จะยิ่งรู้สึกถึงพลังและอิมแพ็คได้ชัดเจนขึ้นไปอีกขั้นเมื่อฟังไฟล์เพลงคุณภาพสูง.
  • กลุ่มผู้ใช้งาน/สถานการณ์: คนเมืองที่เดินทางบ่อย, ผู้บริหาร, คนที่ต้องการหูฟัง True Wireless ฟีเจอร์ครบครัน, นักฟังเพลงจริงจัง, ใช้ในการทำงานหรือพักผ่อนที่ต้องการสมาธิ.
ประเภทการเชื่อมต่อระบบตัดเสียงรบกวนแบตเตอรี่ (รวมเคส)Codec เสียงไมโครโฟนการชาร์จ
True Wireless In-EarBluetooth 5.3 (LE Audio)True Adaptive ANC 2.0สูงสุด 44 ชั่วโมง (ปิด ANC)LDAC, AAC, SBC6 ตัวพร้อม AIUSB-C, ไร้สาย

2. JBL Tour ONE M2

  • ชื่อแบรนด์: JBL
  • ชื่อสินค้า: Tour ONE M2
  • ราคาสินค้า: ประมาณ 9,000 - 11,000 บาท
  • คำอธิบายสินค้า: หูฟัง Over-Ear ตัวท็อปสำหรับคนทำงานและนักเดินทาง. โดดเด่นด้วยระบบตัดเสียงรบกวน True Adaptive ANC ที่เงียบสงัด ช่วยให้คุณมีสมาธิได้เต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นบนเครื่องบิน รถไฟ หรือในออฟฟิศที่เสียงดัง. คุณภาพเสียง JBL Pro Sound รายละเอียดครบถ้วน เบสแน่นตามสไตล์ แต่ให้ความสมดุลที่ดีเยี่ยม. ใส่สบายด้วยฟองน้ำหูฟัง Memory Foam และดีไซน์ที่พับเก็บได้ พกพาสะดวก. แบตเตอรี่อึดสุดๆ ใช้งานได้ยาวนานหลายวันต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง. รองรับ Spatial Sound เพื่อประสบการณ์เสียงรอบทิศทาง และมีฟีเจอร์ Smart Talk ที่จะหยุดเพลงเมื่อคุณเริ่มพูด. เหมาะกับคนที่ต้องเดินทางบ่อยๆ หรือต้องการหูฟังที่ให้ความเป็นส่วนตัวสูง คุณภาพเสียงเยี่ยม และใส่สบายได้ทั้งวัน.
  • จุดเด่นสินค้า: ระบบตัดเสียงรบกวนดีที่สุด, คุณภาพเสียง JBL Pro Sound สมดุลและเบสแน่น, ใส่สบาย พับเก็บง่าย, แบตเตอรี่โคตรอึด, มีฟีเจอร์ Smart Talk
  • ฟังก์ชันการใช้งาน:
    • True Adaptive Noise Cancelling: ระบบตัดเสียงรบกวนที่ปรับตามสภาพแวดล้อมแบบเรียลไทม์ ช่วยลดเสียงรบกวนภายนอกได้อย่างแม่นยำ ให้ความเงียบสงัดในระดับที่น่าประทับใจ เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการเดินทางไกลๆ ในช่วงเทศกาล หรือใช้ในสภาพแวดล้อมที่เสียงดังมากๆ เพื่อให้คุณมีสมาธิกับงานหรือพักผ่อนได้อย่างเต็มที่โดยไม่มีเสียงรบกวนมาทำให้หงุดหงิดใจ.
    • Smart Talk: ฟังก์ชันอัจฉริยะที่ใช้เสียงของคุณเป็นตัวสั่งการ เมื่อคุณเริ่มพูดคุยกับคนรอบข้าง หูฟังจะหยุดเพลงและเปิดรับเสียงภายนอกให้โดยอัตโนมัติ ทำให้คุณสนทนาได้ทันทีโดยไม่ต้องถอดหูฟัง พอคุยเสร็จ เพลงก็จะกลับมาเล่นต่อและระบบ ANC ก็จะทำงานอีกครั้ง สะดวกสุดๆ เวลาไปซื้อของ หรือคุยกับพนักงานระหว่างเดินทาง.
    • แบตเตอรี่ใช้งานสูงสุด 50 ชั่วโมง (ปิด ANC): ด้วยแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ยาวนานถึง 50 ชั่วโมงเมื่อปิดระบบตัดเสียงรบกวน และยังใช้งานได้ถึง 30 ชั่วโมงเมื่อเปิด ANC ทำให้ JBL Tour ONE M2 เป็นเพื่อนร่วมเดินทางที่ไว้ใจได้ตลอดทริปยาวๆ ไม่ต้องกังวลเรื่องแบตหมดบ่อยๆ ชาร์จครั้งเดียวใช้ได้หลายวัน เหมาะกับไลฟ์สไตล์คนไทยที่ชอบเดินทางไกลในช่วงวันหยุดยาว หรือต้องใช้หูฟังต่อเนื่องทั้งวัน.
  • กลุ่มผู้ใช้งาน/สถานการณ์: นักเดินทาง, ผู้ที่ต้องทำงานในสภาพแวดล้อมเสียงดัง, คนที่ให้ความสำคัญกับการตัดเสียงรบกวน, คนที่ต้องการหูฟัง Over-Ear ใส่สบายคุณภาพสูง, ใช้บนเครื่องบิน รถไฟ ออฟฟิศ.
ประเภทการเชื่อมต่อระบบตัดเสียงรบกวนแบตเตอรี่ (เปิด ANC)น้ำหนักดีไซน์ฟีเจอร์เด่น
Over-EarBluetooth 5.3 (LE Audio)True Adaptive ANCสูงสุด 30 ชั่วโมง268 กรัมพับเก็บได้Smart Talk, Spatial Sound

3. JBL Live Pro 2 TWS

  • ชื่อแบรนด์: JBL
  • ชื่อสินค้า: Live Pro 2 TWS
  • ราคาสินค้า: ประมาณ 5,000 - 6,000 บาท
  • คำอธิบายสินค้า: หูฟัง True Wireless ดีไซน์แบบก้าน ขนาดเล็ก ใส่สบาย. มอบเสียง JBL Signature Sound ที่ปรับจูนมาอย่างดี ให้เบสแน่นถึงใจ แต่ยังคงความสมดุล รายละเอียดเสียงกลางแหลมคมชัด. มาพร้อมระบบตัดเสียงรบกวน True Adaptive Noise Cancelling ช่วยให้คุณจดจ่อกับเสียงเพลงได้เต็มที่ในทุกสถานการณ์. มี Ambient Aware และ TalkThru ให้เลือกปรับรับเสียงภายนอกได้ตามต้องการ. แบตเตอรี่ใช้งานรวมเคสได้ยาวนานถึง 40 ชั่วโมง. กันน้ำระดับ IPX5 ใส่ไปออกกำลังกาย หรือเจอฝนตกปรอยๆ ได้สบาย. เหมาะกับคนที่มองหาหูฟัง True Wireless ที่ให้เสียงคุณภาพดี เบสแน่น ฟีเจอร์ครบครัน โดยเฉพาะระบบตัดเสียงรบกวนที่ดีเยี่ยม ในราคาที่เข้าถึงง่ายกว่ารุ่นเรือธง.
  • จุดเด่นสินค้า: เสียง JBL Signature Sound เบสแน่นสมดุล, ตัดเสียงรบกวน True Adaptive ANC, แบตเตอรี่นาน 40 ชม. (รวมเคส), กันน้ำ IPX5, ดีไซน์แบบก้านใส่สบาย
  • ฟังก์ชันการใช้งาน:
    • True Adaptive Noise Cancelling: ระบบนี้ช่วยปรับระดับการตัดเสียงรบกวนให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมที่คุณอยู่จริง ทำให้เสียงรบกวนภายนอกลดลงอย่างมีนัยสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นเสียงรถบนท้องถนน หรือเสียงพูดคุยในที่สาธารณะ ช่วยให้คุณฟังเพลงหรือพอดแคสต์ได้อย่างเต็มอรรถรส โดยไม่ต้องเร่งเสียงจนเป็นอันตรายต่อหู เหมาะกับการใช้เดินทางในเมือง หรือช่วงเทศกาลที่คนเยอะๆ.
    • Smart Ambient & TalkThru: Ambient Aware ช่วยให้คุณได้ยินเสียงรอบตัวในขณะที่ยังฟังเพลงอยู่ เหมาะสำหรับเวลาเดินบนฟุตบาท ใกล้ถนน หรืออยู่ในสถานีขนส่งที่ต้องคอยฟังประกาศ ส่วน TalkThru จะลดเสียงเพลงลงและเปิดรับเสียงพูดคุยเข้ามา ทำให้คุณสนทนากับคนอื่นได้โดยไม่ต้องถอดหูฟัง สะดวกสุดๆ เวลาไปซื้อของ หรือคุยกับคนในครอบครัวในช่วงวันหยุด.
    • แบตเตอรี่รวมเคสสูงสุด 40 ชั่วโมง: ด้วยแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ต่อเนื่อง 10 ชั่วโมงต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง และชาร์จเพิ่มจากเคสได้อีก 30 ชั่วโมง ทำให้รวมแล้วใช้งานได้ยาวนานถึง 40 ชั่วโมง ซึ่งเพียงพอสำหรับการใช้งานตลอดวัน หรือแม้แต่เดินทางไกลๆ ในช่วงเทศกาลโดยไม่ต้องกังวลเรื่องแบตหมดระหว่างทาง.
  • กลุ่มผู้ใช้งาน/สถานการณ์: คนที่เดินทางด้วยรถไฟฟ้า/รถสาธารณะ, คนที่ออกกำลังกาย, คนที่ต้องการหูฟัง True Wireless เสียงดี เบสแน่น มี ANC ในงบที่จับต้องได้, ใช้ในชีวิตประจำวัน ออกกำลังกาย เดินทาง.
ประเภทการเชื่อมต่อระบบตัดเสียงรบกวนแบตเตอรี่ (รวมเคส)การกันน้ำดีไซน์ฟีเจอร์เสริม
True Wireless In-EarBluetooth 5.2True Adaptive ANCสูงสุด 40 ชั่วโมงIPX5แบบก้านAmbient Aware, TalkThru

4. JBL Live 770NC

  • ชื่อแบรนด์: JBL
  • ชื่อสินค้า: Live 770NC
  • ราคาสินค้า: ประมาณ 6,000 - 7,500 บาท
  • คำอธิบายสินค้า: หูฟัง Over-Ear ไร้สายที่ให้เสียง JBL Signature Sound คุณภาพเยี่ยม พร้อมเบสที่หนักแน่นและมีรายละเอียด. มาพร้อมระบบตัดเสียงรบกวน True Adaptive Noise Cancelling ที่ช่วยให้คุณตัดขาดจากโลกภายนอกได้อย่างมีประสิทธิภาพ. ใส่สบายด้วยฟองน้ำที่นุ่มและระบายอากาศได้ดี เหมาะกับการฟังเพลงต่อเนื่องเป็นเวลานาน. แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนานสูงสุดถึง 65 ชั่วโมงเมื่อปิด ANC. รองรับ Spatial Sound และ Multi-Point Connection สามารถเชื่อมต่อได้พร้อมกัน 2 อุปกรณ์. เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับคนที่ต้องการหูฟัง Over-Ear ที่เน้นคุณภาพเสียง เบสดี ตัดเสียงรบกวนเยี่ยม และแบตอึดๆ สำหรับใช้งานได้หลากหลาย ไม่ว่าจะฟังเพลง ดูหนัง หรือใช้ทำงาน.
  • จุดเด่นสินค้า: เสียง JBL Signature Sound เบสแน่น รายละเอียดดี, ระบบตัดเสียงรบกวน True Adaptive ANC, แบตเตอรี่สุดอึด 65 ชม. (ปิด ANC), ใส่สบาย ฟังได้นาน, เชื่อมต่อได้ 2 อุปกรณ์พร้อมกัน
  • ฟังก์ชันการใช้งาน:
    • True Adaptive Noise Cancelling: เทคโนโลยีนี้จะปรับระดับการตัดเสียงรบกวนให้เข้ากับสภาพแวดล้อมของคุณโดยอัตโนมัติ ช่วยลดเสียงรบกวนรอบข้างได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็นเสียงเครื่องยนต์บนรถเมล์ เสียงคนคุยกันในร้านกาแฟ หรือเสียงจอแจในที่ทำงาน ทำให้คุณมีพื้นที่ส่วนตัวในการฟังเพลงหรือทำงานที่ต้องการสมาธิ เหมาะกับการใช้เดินทางช่วงเทศกาล หรือทำงานที่บ้านที่มีเสียงรบกวน.
    • แบตเตอรี่ใช้งานสูงสุด 65 ชั่วโมง (ปิด ANC): ความโดดเด่นอีกอย่างคือแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ยาวนานมากๆ ถึง 65 ชั่วโมงเมื่อปิด ANC และยังใช้งานได้ถึง 50 ชั่วโมงเมื่อเปิด ANC ทำให้คุณใช้งานได้ต่อเนื่องหลายวันโดยไม่ต้องชาร์จบ่อยๆ เหมาะสำหรับการเดินทางไกลๆ หรือคนที่ต้องใช้หูฟังเป็นเวลานานในแต่ละวัน ไม่ต้องคอยกังวลเรื่องแบตเตอรี่เลย.
    • Multi-Point Connection: ฟังก์ชันนี้ช่วยให้คุณเชื่อมต่อหูฟังกับอุปกรณ์ Bluetooth ได้พร้อมกัน 2 เครื่อง เช่น โทรศัพท์มือถือและแล็ปท็อป คุณสามารถสลับการใช้งานระหว่างสองอุปกรณ์ได้อย่างราบรื่น เช่น ฟังเพลงจากแล็ปท็อป แล้วรับสายเรียกเข้าจากโทรศัพท์มือถือได้ทันที สะดวกมากๆ สำหรับคนที่ต้องทำงานสลับไปมาระหว่างอุปกรณ์ต่างๆ.
  • กลุ่มผู้ใช้งาน/สถานการณ์: คนที่เดินทางบ่อย, นักเรียน/นักศึกษา, คนทำงาน, คนที่ต้องการหูฟัง Over-Ear คุณภาพเสียงดี เบสแน่น แบตอึด มี ANC ในราคาปานกลาง, ใช้เรียนออนไลน์ ทำงาน ดูหนัง ฟังเพลง เดินทาง.
ประเภทการเชื่อมต่อระบบตัดเสียงรบกวนแบตเตอรี่ (ปิด ANC)ขนาดไดรเวอร์การเชื่อมต่อพร้อมกันฟีเจอร์เสียง
Over-EarBluetooth 5.3 (LE Audio)True Adaptive ANCสูงสุด 65 ชั่วโมง40 มม.Multi-PointSpatial Sound

5. JBL Tune 770NC

  • ชื่อแบรนด์: JBL
  • ชื่อสินค้า: Tune 770NC
  • ราคาสินค้า: ประมาณ 4,000 - 5,500 บาท
  • คำอธิบายสินค้า: หูฟัง Over-Ear ไร้สายยอดนิยมจากตระกูล Tune ที่เน้นความคุ้มค่า. ให้เสียง JBL Pure Bass Sound ที่หนักแน่น ฟังสนุกตามแบบฉบับ JBL. มาพร้อมระบบ Adaptive Noise Cancelling ที่ช่วยลดเสียงรบกวนรอบข้างได้ดีในระดับที่น่าพอใจเมื่อเทียบกับราคา. ดีไซน์พับเก็บได้ พกพาสะดวก. แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนานสูงสุด 70 ชั่วโมงเมื่อปิด ANC. รองรับ Multi-Point Connection และ Google Fast Pair. เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับคนที่ต้องการหูฟัง Over-Ear คุณภาพเสียงดี เบสหนัก มี ANC และแบตอึด ในงบที่เป็นมิตรกับกระเป๋าสตางค์มากๆ เหมาะสำหรับวัยรุ่น วัยเรียน หรือคนเริ่มต้นใช้หูฟัง ANC.
  • จุดเด่นสินค้า: เสียง JBL Pure Bass เบสหนักฟังสนุก, Adaptive Noise Cancelling, แบตเตอรี่ใช้งานโคตรยาวนาน 70 ชม., ราคาคุ้มค่าเข้าถึงง่าย, ดีไซน์พับเก็บได้
  • ฟังก์ชันการใช้งาน:
    • Adaptive Noise Cancelling: แม้จะไม่ใช่ True Adaptive เหมือนรุ่นท็อป แต่ระบบ ANC ใน JBL Tune 770NC ก็ช่วยลดเสียงรบกวนได้ดีพอตัว เหมาะสำหรับลดเสียง Background ทั่วไป เช่น เสียงพัดลม เสียงแอร์ หรือเสียงคนคุยกันเบาๆ ทำให้การฟังเพลงของคุณราบรื่นขึ้น เหมาะกับการใช้ในบ้าน ห้องสมุด หรือบนรถสาธารณะที่ไม่พลุกพล่านมากนัก.
    • แบตเตอรี่ใช้งานสูงสุด 70 ชั่วโมง (ปิด ANC): จุดเด่นที่ทำให้รุ่นนี้น่าสนใจสุดๆ คือแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ยาวนานถึง 70 ชั่วโมงเมื่อปิด ANC และ 44 ชั่วโมงเมื่อเปิด ANC. นี่คือหูฟังที่แบตอึดอันดับต้นๆ ในตลาดเลย ทำให้คุณใช้งานได้ต่อเนื่องยาวๆ เป็นสัปดาห์ โดยไม่ต้องกังวลเรื่องการชาร์จเลย เหมาะมากสำหรับคนที่เดินทางบ่อย หรือลืมชาร์จหูฟังบ่อยๆ.
    • Multi-Point Connection และ Google Fast Pair: รองรับการเชื่อมต่อพร้อมกัน 2 อุปกรณ์ ช่วยให้สลับการใช้งานระหว่างมือถือกับแล็ปท็อปได้สะดวก. ส่วน Google Fast Pair ช่วยให้การจับคู่กับอุปกรณ์ Android เป็นไปอย่างรวดเร็ว เพียงแค่วางหูฟังไว้ใกล้มือถือ ก็มี Pop-up ขึ้นมาให้เชื่อมต่อทันที ใช้งานง่ายสุดๆ.
  • กลุ่มผู้ใช้งาน/สถานการณ์: นักเรียน/นักศึกษา, คนที่มองหาหูฟัง ANC ราคาประหยัด, คนที่เน้นแบตเตอรี่อึด, ใช้ฟังเพลงทั่วไป, ดูหนัง, เรียนออนไลน์.
ประเภทการเชื่อมต่อระบบตัดเสียงรบกวนแบตเตอรี่ (ปิด ANC)ขนาดไดรเวอร์การเชื่อมต่อพร้อมกันการพับเก็บ
Over-EarBluetooth 5.3 (LE Audio)Adaptive ANCสูงสุด 70 ชั่วโมง40 มม.Multi-Pointพับได้

6. JBL Tune Beam 2

  • ชื่อแบรนด์: JBL
  • ชื่อสินค้า: Tune Beam 2
  • ราคาสินค้า: ประมาณ 3,000 - 4,500 บาท
  • คำอธิบายสินค้า: หูฟัง True Wireless ดีไซน์แบบก้านอีกรุ่นในซีรีส์ Tune ที่เน้นความคุ้มค่า. มอบเสียง JBL Pure Bass Sound ที่ให้เบสหนักแน่น ฟังสนุก เหมาะกับเพลงแนว Pop, Hip-Hop หรือ Electronic ที่เน้นจังหวะ. มีระบบ Adaptive Noise Cancelling ช่วยลดเสียงรบกวนได้ในระดับหนึ่ง. กันน้ำและฝุ่นระดับ IP54 เหมาะกับการพกพาไปใช้งานนอกบ้าน หรือใส่ออกกำลังกายที่ไม่หนักมาก. แบตเตอรี่ใช้งานรวมเคสได้นานสูงสุดถึง 48 ชั่วโมง. รองรับ Dual Connect สามารถใช้หูฟังข้างเดียวได้. เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับคนที่ต้องการหูฟัง True Wireless เบสดี มี ANC และแบตอึด ในงบที่ไม่สูงมาก.
  • จุดเด่นสินค้า: เสียง JBL Pure Bass ฟังสนุก, Adaptive Noise Cancelling, แบตเตอรี่นานสุดๆ 48 ชม. (รวมเคส), กันน้ำและฝุ่น IP54, ราคาคุ้มค่า
  • ฟังก์ชันการใช้งาน:
    • Adaptive Noise Cancelling: ระบบนี้ช่วยลดเสียงรบกวนรอบข้างได้พอสมควร ช่วยให้คุณได้ยินเสียงเพลงชัดเจนขึ้นในสภาพแวดล้อมที่มีเสียงรบกวนไม่มากนัก เหมาะกับการใช้งานในชีวิตประจำวัน เช่น นั่งทำงานในร้านกาแฟ นั่งรถเมล์ หรือเดินเล่นในสวนสาธารณะ ช่วยให้คุณมีสมาธิกับเสียงเพลงได้ดีขึ้น.
    • แบตเตอรี่รวมเคสสูงสุด 48 ชั่วโมง: ด้วยแบตเตอรี่ที่ตัวหูฟังและเคสรวมกันสามารถใช้งานได้ยาวนานถึง 48 ชั่วโมง ทำให้ JBL Tune Beam 2 เป็นหูฟังที่พร้อมไปกับคุณได้ทั้งวัน หรือแม้แต่เดินทางไปเที่ยวต่างจังหวัดช่วงสุดสัปดาห์โดยไม่ต้องกังวลเรื่องแบตเตอรี่หมดเลย สะดวกมากๆ สำหรับคนที่ไม่ชอบพกที่ชาร์จไปไหนมาไหนบ่อยๆ.
    • กันน้ำและฝุ่น IP54: ระดับการป้องกันน้ำและฝุ่น IP54 ทำให้หูฟังรุ่นนี้ทนทานต่อเหงื่อและละอองน้ำได้ดี เหมาะกับการใส่ออกกำลังกายเบาๆ เช่น วิ่ง ลู่ หรือเข้าฟิตเนส รวมถึงใช้งานในสภาพอากาศที่มีฝนตกปรอยๆ ได้อย่างมั่นใจ ไม่ต้องกลัวว่าหูฟังจะเสียหายจากความชื้นหรือฝุ่นละอองในอากาศ.
  • กลุ่มผู้ใช้งาน/สถานการณ์: คนที่ออกกำลังกายเบาๆ, คนที่เดินทางในชีวิตประจำวัน, นักเรียน/นักศึกษา, คนที่ต้องการหูฟัง True Wireless เบสดี แบตอึด ราคาประหยัด, ใช้ฟังเพลง ออกกำลังกาย เดินทาง.
ประเภทการเชื่อมต่อระบบตัดเสียงรบกวนแบตเตอรี่ (รวมเคส)การกันน้ำ/ฝุ่นขนาดไดรเวอร์ฟีเจอร์เสียง
True Wireless In-EarBluetooth 5.3 (LE Audio)Adaptive ANCสูงสุด 48 ชั่วโมงIP5410 มม.JBL Pure Bass, Spatial Sound

7. JBL Tune Buds 2

  • ชื่อแบรนด์: JBL
  • ชื่อสินค้า: Tune Buds 2
  • ราคาสินค้า: ประมาณ 2,800 - 4,000 บาท
  • คำอธิบายสินค้า: หูฟัง True Wireless ดีไซน์แบบ Earbuds ขนาดเล็ก ใส่สบายหู เหมาะกับคนที่ชอบหูฟังที่ไม่ยื่นออกมานอกหูมากนัก. ให้เสียง JBL Pure Bass Sound ที่เน้นเสียงเบสหนักแน่น ฟังสนุก. มีระบบ Adaptive Noise Cancelling ช่วยลดเสียงรบกวนได้พอประมาณ. กันน้ำและฝุ่นระดับ IP54 เหมาะกับการใช้งานทั่วไปและออกกำลังกายที่ไม่หนักมาก. แบตเตอรี่ใช้งานรวมเคสได้ยาวนานถึง 48 ชั่วโมง. รองรับ Dual Connect และปรับแต่งเสียงได้ผ่านแอป JBL Headphones. เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่คุ้มค่าสำหรับคนที่ต้องการหูฟัง True Wireless เบสดี ANC มี แบตอึด ในราคาที่จับต้องได้ง่าย.
  • จุดเด่นสินค้า: ดีไซน์แบบ Earbuds ใส่สบาย ไม่ยื่นมาก, เสียง JBL Pure Bass เบสหนัก, Adaptive Noise Cancelling, แบตเตอรี่นานถึง 48 ชม. (รวมเคส), กันน้ำและฝุ่น IP54
  • ฟังก์ชันการใช้งาน:
    • Adaptive Noise Cancelling: ระบบช่วยลดเสียงรบกวนภายนอกในระดับที่เหมาะสม ช่วยให้การฟังเพลงในสภาพแวดล้อมที่มีเสียง Background เช่น ในสำนักงาน ร้านกาแฟ หรือระหว่างเดินทางด้วยรถสาธารณะเป็นไปอย่างราบรื่นมากขึ้น ทำให้คุณมีสมาธิกับเนื้อหาที่ฟังได้ดีขึ้นโดยไม่ถูกรบกวนมากนัก.
    • แบตเตอรี่รวมเคสสูงสุด 48 ชั่วโมง: ความอึดของแบตเตอรี่เป็นจุดแข็งของรุ่นนี้ ทำให้ใช้งานได้ยาวนานต่อเนื่องรวมกับเคสได้ถึง 48 ชั่วโมง เพียงพอสำหรับการใช้งานได้ตลอดทั้งสัปดาห์ หรือพกพาไปเที่ยวต่างจังหวัดในช่วงวันหยุดยาวโดยไม่ต้องกังวลว่าแบตจะหมดระหว่างทาง ทำให้คุณเพลิดเพลินกับเสียงเพลงได้ไม่มีสะดุด.
    • การป้องกันน้ำและฝุ่น IP54: ด้วยมาตรฐาน IP54 ทำให้หูฟังรุ่นนี้ทนทานต่อเหงื่อและละอองน้ำ เหมาะกับการใช้งานในชีวิตประจำวันทั่วไป และสามารถนำไปใส่ออกกำลังกายเบาๆ หรือเผชิญสภาพอากาศที่มีฝนตกปรอยๆ ได้อย่างมั่นใจ โดยไม่ต้องกังวลเรื่องความเสียหายจากน้ำหรือฝุ่นละอองที่อาจเข้าไปในตัวหูฟัง.
  • กลุ่มผู้ใช้งาน/สถานการณ์: คนที่ชอบหูฟังดีไซน์ Earbuds, คนที่ออกกำลังกายเบาๆ, คนที่เดินทางในชีวิตประจำวัน, นักเรียน/นักศึกษา, คนที่ต้องการหูฟัง True Wireless ราคาคุ้มค่า เน้นเบสและแบตอึด.
ประเภทการเชื่อมต่อระบบตัดเสียงรบกวนแบตเตอรี่ (รวมเคส)การกันน้ำ/ฝุ่นขนาดไดรเวอร์ฟีเจอร์เสียง
True Wireless In-EarBluetooth 5.3 (LE Audio)Adaptive ANCสูงสุด 48 ชั่วโมงIP5410 มม.JBL Pure Bass, Spatial Sound

8. JBL Endurance Peak 3

  • ชื่อแบรนด์: JBL
  • ชื่อสินค้า: Endurance Peak 3
  • ราคาสินค้า: ประมาณ 3,500 - 4,500 บาท
  • คำอธิบายสินค้า: หูฟัง True Wireless สำหรับสายออกกำลังกายโดยเฉพาะ! ดีไซน์แบบ Ear Hook พร้อมเทคโนโลยี Powerhook™ ที่จะเปิด/ปิดหูฟังอัตโนมัติเมื่อสวมใส่/ถอดออก. ให้เสียง JBL Pure Bass Sound ที่หนักแน่น ฟังแล้วมีพลัง ช่วยกระตุ้นให้อยากออกกำลังกาย. กันน้ำและฝุ่นระดับ IP68 ซึ่งเป็นระดับสูงสุด ทนทานต่อเหงื่อ น้ำ และฝุ่นได้ดีเยี่ยม. ใส่กระชับ ไม่หลุดง่าย แม้จะเคลื่อนไหวหนักหน่วง. แบตเตอรี่ใช้งานรวมเคสได้นานถึง 50 ชั่วโมง. เป็นตัวเลือกที่สมบูรณ์แบบสำหรับนักกีฬาหรือคนที่ออกกำลังกายหนักๆ ที่ต้องการหูฟังที่ทนทาน เสียงดี เบสแน่น และใส่กระชับไม่มีหลุด.
  • จุดเด่นสินค้า: ออกแบบมาเพื่อการออกกำลังกาย, กันน้ำและฝุ่น IP68 ทนทานสุดๆ, เสียง JBL Pure Bass เบสหนักมีพลัง, ใส่กระชับ ไม่หลุดง่ายด้วย Ear Hook, แบตเตอรี่นาน 50 ชม. (รวมเคส)
  • ฟังก์ชันการใช้งาน:
    • การป้องกันน้ำและฝุ่น IP68: นี่คือจุดเด่นที่สุดสำหรับสายกีฬา ด้วยมาตรฐาน IP68 ทำให้หูฟังรุ่นนี้สามารถทนทานต่อเหงื่อ น้ำฝน และฝุ่นละอองได้อย่างสมบูรณ์แบบ รวมถึงสามารถจุ่มน้ำได้ในระดับความลึกและระยะเวลาที่กำหนด ทำให้คุณสามารถใส่ออกกำลังกายหนักๆ กลางแจ้ง หรือในยิมที่มีความชื้นสูงได้อย่างมั่นใจ ไม่ต้องกลัวว่าหูฟังจะเสียหายจากสภาพแวดล้อม.
    • ดีไซน์ Ear Hook และ Powerhook™: การออกแบบให้มี Ear Hook คล้องหลังหูช่วยเพิ่มความกระชับและความมั่นคงในการสวมใส่ ทำให้หูฟังไม่หลุดง่ายแม้ในขณะที่เคลื่อนไหวร่างกายอย่างรวดเร็วหรือหนักหน่วง. เทคโนโลยี Powerhook™ จะเปิดหูฟังอัตโนมัติเมื่อคล้องหู และปิดอัตโนมัติเมื่อถอดออก สะดวกมากๆ ไม่ต้องคอยกดปุ่มเปิด/ปิดเอง.
    • แบตเตอรี่รวมเคสสูงสุด 50 ชั่วโมง: ด้วยแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ยาวนานถึง 10 ชั่วโมงต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง และชาร์จเพิ่มจากเคสได้อีก 40 ชั่วโมง ทำให้รวมแล้วใช้งานได้ยาวนานถึง 50 ชั่วโมง ซึ่งเพียงพอสำหรับการออกกำลังกายได้หลายครั้งต่อสัปดาห์โดยไม่ต้องชาร์จบ่อยๆ ทำให้เพลงโปรดของคุณเป็นเพื่อนร่วมทางในการออกกำลังกายได้อย่างต่อเนื่อง.
  • กลุ่มผู้ใช้งาน/สถานการณ์: นักกีฬา, คนที่ออกกำลังกายเป็นประจำ (วิ่ง ฟิตเนส ปั่นจักรยาน), คนที่ต้องการหูฟังที่ทนทาน กันน้ำ/ฝุ่นได้ดีมาก, ใช้ขณะออกกำลังกาย.
ประเภทการเชื่อมต่อการกันน้ำ/ฝุ่นแบตเตอรี่ (รวมเคส)ดีไซน์ขนาดไดรเวอร์ฟีเจอร์เสริม
True Wireless In-EarBluetoothIP68สูงสุด 50 ชั่วโมงEar Hook10 มม.Powerhook™

9. JBL Quantum 100

  • ชื่อแบรนด์: JBL
  • ชื่อสินค้า: Quantum 100
  • ราคาสินค้า: ประมาณ 1,000 - 1,500 บาท
  • คำอธิบายสินค้า: หูฟัง Gaming Headset แบบมีสายรุ่นเริ่มต้นจากซีรีส์ Quantum. ให้เสียง JBL QuantumSOUND Signature ที่ปรับจูนมาสำหรับการเล่นเกมโดยเฉพาะ ช่วยให้ได้ยินเสียงฝีเท้า เสียงระเบิด หรือเสียงรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ในเกมได้อย่างชัดเจน ทำให้ได้เปรียบในการแข่งขัน. ไมโครโฟนแบบ Boom ที่ถอดได้ พร้อมฟังก์ชัน Flip-up Mute พับไมค์ขึ้นเพื่อปิดเสียงอัตโนมัติ. ใส่สบายด้วยฟองน้ำหูฟัง Memory Foam เหมาะกับการเล่นเกมนานๆ. เป็นหูฟัง Gaming ราคาประหยัดที่ให้คุณภาพเสียงที่ดีสำหรับการเล่นเกม และไมค์สื่อสารชัดเจน เหมาะสำหรับเกมเมอร์มือใหม่ หรือคนที่มองหาหูฟังเกมมิ่งคุ้มค่าๆ.
  • จุดเด่นสินค้า: เสียง JBL QuantumSOUND Signature สำหรับเกมมิ่ง, ไมโครโฟน Boom ถอดได้ พับเพื่อปิดเสียงได้, ใส่สบายด้วย Memory Foam, ราคาเป็นมิตรกับงบประมาณ, เหมาะกับเกมเมอร์เริ่มต้น
  • ฟังก์ชันการใช้งาน:
    • เสียง JBL QuantumSOUND Signature: เสียงที่ปรับแต่งมาเป็นพิเศษสำหรับสภาพแวดล้อมในเกม ช่วยเน้นเสียงที่สำคัญในการเล่นเกม เช่น เสียงฝีเท้าของศัตรู เสียงทิศทางของกระสุน หรือเสียงเอฟเฟกต์ต่างๆ ในเกม ทำให้คุณระบุตำแหน่งของคู่ต่อสู้หรือเหตุการณ์สำคัญในเกมได้อย่างแม่นยำ เพิ่มโอกาสในการเอาชนะ และทำให้ประสบการณ์การเล่นเกมสมจริงและตื่นเต้นยิ่งขึ้น.
    • ไมโครโฟนแบบ Boom ถอดได้พร้อม Flip-up Mute: ไมโครโฟนแบบก้านยาวที่สามารถปรับตำแหน่งได้อิสระ ช่วยให้การสื่อสารกับเพื่อนร่วมทีมเป็นไปอย่างชัดเจน เสียงพูดของคุณจะถูกส่งไปอย่างแม่นยำ. ฟังก์ชัน Flip-up Mute ช่วยให้ปิดเสียงไมค์ได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย เพียงแค่พับก้านไมค์ขึ้นไป สะดวกมากๆ เมื่อต้องการความเป็นส่วนตัวชั่วคราวระหว่างเล่นเกม.
    • ความเข้ากันได้หลายแพลตฟอร์ม: แม้จะเป็นหูฟังแบบมีสาย แต่ JBL Quantum 100 สามารถใช้งานร่วมกับแพลตฟอร์มเกมมิ่งได้หลากหลาย ทั้ง PC, Xbox, PlayStation, Nintendo Switch และอุปกรณ์มือถืออื่นๆ ที่มีช่องต่อ 3.5 มม. ทำให้คุณสามารถใช้หูฟังตัวเดียวเล่นเกมได้บนหลายๆ อุปกรณ์ โดยไม่ต้องซื้อหูฟังแยกสำหรับแต่ละเครื่อง ประหยัดและสะดวกสุดๆ.
  • กลุ่มผู้ใช้งาน/สถานการณ์: เกมเมอร์มือใหม่, คนที่เล่นเกมบนหลายแพลตฟอร์ม, คนที่มองหาหูฟังเกมมิ่งราคาไม่แพงแต่เสียงดี, ใช้เล่นเกม พูดคุยกับเพื่อนร่วมทีม.
ประเภทการเชื่อมต่อขนาดไดรเวอร์ไมโครโฟนความเข้ากันได้น้ำหนักวัสดุฟองน้ำหูฟัง
Over-Ear Gaming (มีสาย)3.5 มม.40 มม.Boom (ถอดได้, Flip-up Mute)Multi-Platformประมาณ 220 กรัมMemory Foam

10. JBL Tune 520BT

  • ชื่อแบรนด์: JBL
  • ชื่อสินค้า: Tune 520BT
  • ราคาสินค้า: ประมาณ 1,500 - 2,000 บาท
  • คำอธิบายสินค้า: หูฟัง On-Ear ไร้สายรุ่นยอดนิยมในราคาเบาๆ จาก JBL. ให้เสียง JBL Pure Bass Sound ที่เน้นเบสหนักแน่นสะใจ ฟังสนุกตามแบบฉบับ JBL. ดีไซน์น้ำหนักเบา สวมใส่สบาย พับเก็บได้ พกพาสะดวก. แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนานสูงสุดถึง 57 ชั่วโมง. รองรับ Multi-Point Connection และ Speed Charge ชาร์จ 5 นาที ฟังได้ 3 ชั่วโมง. เป็นหูฟังไร้สายที่เหมาะสำหรับใช้ในชีวิตประจำวัน ฟังเพลงระหว่างเดินทาง หรือพักผ่อนสบายๆ ที่บ้าน ด้วยคุณภาพเสียงที่ดีในราคาที่เข้าถึงง่ายมากๆ.
  • จุดเด่นสินค้า: เสียง JBL Pure Bass เบสหนักสะใจ, ราคาประหยัดสุดๆ, แบตเตอรี่ใช้งานนาน 57 ชม., น้ำหนักเบา ใส่สบาย, ดีไซน์พับเก็บได้ พกพาง่าย
  • ฟังก์ชันการใช้งาน:
    • เสียง JBL Pure Bass Sound: เอกลักษณ์ของหูฟังซีรีส์ Tune ที่เน้นย่านเบสเป็นพิเศษ ให้เสียงที่หนักแน่น มีพลัง ฟังสนุก เหมาะกับแนวเพลง Pop, Dance, R&B หรือ Hip-Hop ที่มีจังหวะและเบสเด่นๆ ทำให้การฟังเพลงในชีวิตประจำวันไม่น่าเบื่อ รู้สึกถึงแรงปะทะของเสียงดนตรีได้อย่างเต็มที่ตามสไตล์ JBL.
    • แบตเตอรี่ใช้งานสูงสุด 57 ชั่วโมง: แม้จะเป็นรุ่นประหยัด แต่แบตเตอรี่ของ JBL Tune 520BT ก็อึดมากๆ ใช้งานได้ต่อเนื่องถึง 57 ชั่วโมงต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง ทำให้คุณใช้งานได้ยาวนานตลอดสัปดาห์ หรือแม้แต่เดินทางไกลๆ ในช่วงเทศกาลโดยไม่ต้องกังวลเรื่องการชาร์จบ่อยๆ. และยังมี Speed Charge ที่ชาร์จแค่ 5 นาที ก็ฟังได้อีก 3 ชั่วโมง สะดวกมากๆ ในเวลาเร่งรีบ.
    • ดีไซน์น้ำหนักเบา พับเก็บได้: ด้วยการออกแบบให้มีน้ำหนักเบาและสามารถพับเก็บหูฟังได้ ทำให้ JBL Tune 520BT สะดวกต่อการพกพาใส่กระเป๋าไปไหนมาไหนได้อย่างง่ายดาย ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางไปทำงาน ไปเรียน หรือไปเที่ยว. สวมใส่สบายหูด้วยฟองน้ำที่นุ่ม ไม่บีบรัดจนเกินไป ทำให้ใส่ฟังเพลงได้นานๆ โดยไม่รู้สึกเมื่อยล้า.
  • กลุ่มผู้ใช้งาน/สถานการณ์: คนที่มองหาหูฟังไร้สายราคาประหยัด, นักเรียน/นักศึกษา, คนที่เน้นเบสหนักๆ ฟังสนุก, ใช้ฟังเพลงในชีวิตประจำวัน, เดินทางระยะสั้น.
ประเภทการเชื่อมต่อแบตเตอรี่การชาร์จด่วนการเชื่อมต่อพร้อมกันน้ำหนักดีไซน์
On-EarBluetooth 5.3สูงสุด 57 ชั่วโมง5 นาที = 3 ชั่วโมงMulti-Pointน้ำหนักเบาพับได้

เคล็ดลับเลือกซื้อหูฟัง JBL คู่ใจสายเบส ปี 2025

  • 1. เบสต้องใช่ เสียงต้องโดน สไตล์ที่เราชอบ
    แน่นอนว่ามาเลือกหูฟัง JBL ทั้งที หัวใจหลักคือเรื่องเสียง! ยิ่งถ้าเป็นสายเบสหนักแบบชาวแก๊งค์เราเนี่ย ยิ่งต้องพิถีพิถันหน่อยครับ JBL มีเอกลักษณ์เสียงที่เรียกว่า JBL Signature Sound หรือบางรุ่นก็เป็น Pure Bass Sound ที่เน้นเบสเป็นพิเศษ แต่ไม่ใช่ทุกรุ่นที่จะเบสเหมือนกันเป๊ะ บางรุ่นอาจจะเบสแน่นๆ ลงลึกเป็นลูกๆ เหมาะกับเพลง Hip-Hop, EDM ที่ต้องการแรงปะทะ หรือบางรุ่นอาจจะเบสกระชับ เก็บตัวเร็ว เหมาะกับเพลง Pop, Rock ที่ต้องการความชัดเจนของเครื่องดนตรีชิ้นอื่นๆ ด้วย ดังนั้น ก่อนตัดสินใจซื้อ ลองเช็คดูรีวิว หรือถ้ามีโอกาสก็ลองไปฟังเสียงจริงที่ร้านดูก่อนเลยครับ ว่าเบสของรุ่นนั้นๆ มัน "โดนใจ" เราจริงๆ ไหม มันหนักแน่นพอไหม มันกลบเสียงร้องหรือเสียงเครื่องดนตรีอื่นไปหรือเปล่า แล้วนอกจากเบส เสียงกลาง เสียงแหลมมันคมชัด รายละเอียดดีพอที่จะฟังเพลงแนวอื่นที่เราชอบด้วยไหม บางทีเราอาจจะไม่ได้ฟังแต่เพลงเบสหนักตลอดเวลาเนอะ ดูรีวิวจากคนไทยด้วยกันก็มีประโยชน์นะ เพราะรสนิยมการฟังเพลงของคนไทยอาจจะแตกต่างจากฝั่งตะวันตก ลองหาข้อมูลว่ารุ่นไหนที่คนไทยเค้าบอกว่าเบสดี ฟังสนุก หรือเหมาะกับเพลงไทยที่เราฟังบ่อยๆ ครับ การเลือกเสียงที่ใช่ จะทำให้เรามีความสุขกับการฟังเพลงได้ยาวๆ ใช้หูฟังได้คุ้มค่าเงินที่จ่ายไปแน่นอน อย่าเลือกแค่ตามกระแส หรือแค่เพราะเห็นว่าลดราคาแรงๆ ครับ ลองเอาเพลงที่เราฟังบ่อยๆ ไปเปิดฟังทดสอบเลย จะได้รู้ว่ามันเข้ากับแนวเพลงของเราจริงๆ ไหม พิจารณาทั้งคุณภาพเบส แรงปะทะ ความชัดเจนของเสียงย่านอื่นๆ และมิติของเสียงโดยรวมด้วยครับ บางรุ่นมีแอปให้ปรับ EQ ได้ ก็เป็นตัวช่วยที่ดีในการปรับเสียงเบสให้ได้ตามที่เราต้องการเลย.
  • 2. เลือกประเภทหูฟังให้เหมาะกับชีวิตประจำวันและเทศกาล
    หูฟัง JBL มีหลายแบบ ทั้ง True Wireless (ไร้สายแบบไม่มีสายคล้อง), On-Ear (วางบนหู) และ Over-Ear (ครอบหู) แต่ละแบบก็มีข้อดีข้อเสียต่างกันไป ต้องเลือกให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของเราครับ ถ้าเป็นสายเดินทางบ่อย ขึ้นรถไฟฟ้า BTS MRT วินมอเตอร์ไซค์ หรือเดินทางข้ามจังหวัดช่วงเทศกาลต่างๆ ที่คนเยอะๆ เสียงดังๆ แนะนำเป็นแบบ True Wireless หรือ Over-Ear ที่มีระบบตัดเสียงรบกวน (ANC) ดีๆ ไปเลยครับ จะช่วยให้เราได้ยินเสียงเพลงชัดๆ ไม่ต้องเร่งเสียงดังเกินไปจนทำลายแก้วหู แถมยังช่วยสร้างพื้นที่ส่วนตัวให้เราได้พักผ่อน หรือมีสมาธิระหว่างเดินทางได้ด้วย รุ่น Over-Ear อาจจะใส่สบายกว่าสำหรับการฟังนานๆ และตัดเสียงรบกวนได้ดีที่สุด แต่ก็ขนาดใหญ่ พกพายากหน่อย ส่วน True Wireless ก็กะทัดรัด พกง่าย เหมาะกับการใช้งานหลากหลาย ทั้งเดินทาง ออกกำลังกาย หรือใช้ในชีวิตประจำวัน แต่ก็ต้องเช็คเรื่องความกระชับในการสวมใส่ด้วย โดยเฉพาะถ้าเป็นสายออกกำลังกาย เลือกแบบที่มี Ear Hook หรือครีบเกี่ยวหู (Wingtip) จะช่วยให้หูฟังไม่หลุดง่ายขณะเคลื่อนไหวครับ ถ้าเน้นใส่สบายๆ อยู่บ้าน ฟังเพลงชิลๆ หรือทำงานที่ไม่ได้เดินทางไปไหน On-Ear หรือ Over-Ear ก็เป็นตัวเลือกที่ดีครับ ลองคิดดูว่าเราจะใช้หูฟังในสถานการณ์แบบไหนบ่อยที่สุด แล้วเลือกประเภทที่ตอบโจทย์การใช้งานของเราจริงๆ ครับ อย่าลืมดูเรื่องน้ำหนักและการระบายอากาศด้วยนะ ประเทศไทยอากาศร้อน ใส่หูฟังนานๆ อาจจะเหงื่อออกได้ เลือกรุ่นที่วัสดุระบายอากาศดีๆ หรือมีมาตรฐานกันเหงื่อกันน้ำไว้ด้วยก็ดีครับ ยิ่งถ้าแพลนจะใส่เดินทางไปเที่ยวช่วงสงกรานต์ ปีใหม่ หรือเทศกาลอื่นๆ ที่อาจจะมีกิจกรรม outdoor หรือเจออากาศร้อนอบอ้าว เลือกรุ่นที่กันเหงื่อกันน้ำได้ดีๆ จะช่วยยืดอายุการใช้งานหูฟังของเราได้ยาวนานขึ้นครับ.
  • 3. ฟีเจอร์เสริมที่จำเป็น และงบประมาณในกระเป๋า
    นอกจากคุณภาพเสียงและประเภทหูฟังแล้ว ฟีเจอร์เสริมต่างๆ ก็เป็นสิ่งที่เราต้องพิจารณาด้วยครับ เช่น ระบบตัดเสียงรบกวน (ANC) จำเป็นแค่ไหนสำหรับเรา ถ้าเราอยู่ในสภาพแวดล้อมที่เสียงดังบ่อยๆ เช่น เดินทางในเมือง หรือทำงานในออฟฟิศที่มีเสียงจอแจ ANC ก็สำคัญมากๆ ครับ แต่ถ้าส่วนใหญ่เราใช้หูฟังในที่เงียบๆ ฟีเจอร์นี้อาจจะไม่จำเป็นเท่าไหร่ และเลือกรุ่นที่ไม่มี ANC ก็ช่วยประหยัดงบได้ครับ แบตเตอรี่ก็เป็นเรื่องสำคัญมากๆ สำหรับหูฟังไร้สาย ลองดูว่าเราต้องการใช้งานต่อเนื่องนานแค่ไหน บางรุ่นแบตอึดมาก ชาร์จครั้งเดียวใช้ได้เป็นสัปดาห์ บางรุ่นก็อยู่ได้ไม่กี่ชั่วโมง ถ้าเราเดินทางไกล หรือต้องใช้หูฟังตลอดวัน เลือกรุ่นที่แบตอึดๆ หรือรองรับ Speed Charge ชาร์จเร็วๆ ก็สะดวกครับ การเชื่อมต่อพร้อมกันหลายอุปกรณ์ (Multi-Point Connection) ก็มีประโยชน์สำหรับคนที่ใช้ทั้งมือถือ แท็บเล็ต และแล็ปท็อป สลับใช้งานไปมาได้ง่ายๆ ครับ คุณภาพไมโครโฟนก็สำคัญ ถ้าเราใช้หูฟังคุยโทรศัพท์บ่อยๆ เลือกรุ่นที่มีไมค์หลายตัวและมีเทคโนโลยีตัดเสียงรบกวนสำหรับไมค์ด้วย จะช่วยให้ปลายสายได้ยินเสียงเราชัดเจนมากขึ้น แม้อยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีเสียงดังครับ สุดท้ายคืองบประมาณที่เราตั้งไว้ หูฟัง JBL มีหลากหลายราคา ตั้งแต่หลักพันต้นๆ ไปจนถึงหลักหมื่น ลองกำหนดงบประมาณคร่าวๆ แล้วมองหารุ่นที่ให้ฟีเจอร์และคุณภาพเสียงที่ดีที่สุดในงบนั้นๆ ครับ อย่าเพิ่งตัดสินใจซื้อทันที ลองเปรียบเทียบราคาจากร้านค้าออนไลน์หลายๆ แห่ง หรือดูโปรโมชั่นพิเศษตามช่วงเทศกาลต่างๆ ด้วย อาจจะได้หูฟังรุ่นที่เราเล็งไว้ในราคาที่ดีกว่าเดิมก็ได้ครับ การวางแผนเรื่องงบประมาณและเปรียบเทียบฟีเจอร์ต่างๆ จะช่วยให้เราได้หูฟังที่คุ้มค่าและตรงใจที่สุดครับ บางรุ่นอาจจะมีฟีเจอร์ที่เราไม่ได้ใช้เลย เลือกรุ่นที่ตอบโจทย์ความต้องการหลักๆ ของเราจะดีที่สุดครับ.

คำถามพบบ่อย (FAQ) เกี่ยวกับหูฟัง JBL

  • Q: หูฟัง JBL เบสหนักทุกรุ่นเลยไหม?
    A: โดยทั่วไปแล้ว หูฟัง JBL มีชื่อเสียงเรื่องเสียงเบสที่เด่นชัดและทรงพลังตามสไตล์ JBL Signature Sound ครับ แต่ความหนักแน่นและลักษณะของเบสอาจแตกต่างกันไปในแต่ละซีรีส์และแต่ละรุ่นครับ ซีรีส์ Tune และ Vibe มักจะเน้นเบสเป็นพิเศษแบบ Pure Bass ที่หนักแน่นสะใจ ส่วนซีรีส์ Live หรือ Tour อาจจะให้เบสที่สมดุลมากขึ้น แต่ก็ยังคงความหนักแน่นและอิมแพ็คที่ดีครับ ถ้าเน้นเบสมากๆ ควรดูรุ่นที่มีคำว่า "Pure Bass" หรืออ่านรีวิวที่เน้นเรื่องเสียงเบสของรุ่นนั้นๆ โดยเฉพาะครับ
  • Q: หูฟัง JBL กันน้ำกันเหงื่อได้ทุกรุ่นหรือเปล่า?
    A: ไม่ได้กันน้ำกันเหงื่อทุกรุ่นครับ ความสามารถในการกันน้ำและฝุ่นจะระบุเป็นมาตรฐาน IP (Ingress Protection) เช่น IPX4, IP54, IP67, IP68 ซึ่งแต่ละระดับก็ป้องกันได้แตกต่างกันไปครับ รุ่นที่ออกแบบมาสำหรับการออกกำลังกายโดยเฉพาะอย่างซีรีส์ Endurance หรือ Reflect มักจะมีมาตรฐาน IP ที่สูงกว่า เพื่อให้ทนทานต่อเหงื่อและความชื้นได้ดี ก่อนซื้อควรตรวจสอบมาตรฐาน IP ของรุ่นที่สนใจว่าเหมาะสมกับการใช้งานของเราหรือไม่ครับ
  • Q: ซื้อหูฟัง JBL ผ่านช่องทางออนไลน์ในไทย ปลอดภัยไหม?
    A: ปลอดภัยครับ ถ้าเลือกซื้อจากร้านค้าออนไลน์ที่เป็นตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการของ JBL ในประเทศไทย หรือแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซที่น่าเชื่อถืออย่าง Shopee, Lazada ที่มีร้านค้าทางการของ JBL อยู่ครับ ควรตรวจสอบชื่อร้านค้า ดูคะแนนรีวิว และนโยบายการรับประกันสินค้าให้ชัดเจนก่อนตัดสินใจซื้อ เพื่อให้มั่นใจว่าจะได้สินค้าของแท้ มีคุณภาพ และสามารถเคลมสินค้าได้หากมีปัญหาครับ การซื้อออนไลน์สะดวกสบาย ได้ของเร็ว และมักจะมีโปรโมชั่นดีๆ ให้เลือกครับ.
  • Q: หูฟัง JBL รุ่นไหนเหมาะกับการใช้งานในเมืองที่เสียงดังมากๆ?
    A: สำหรับการใช้งานในเมืองที่เสียงดังมากๆ แนะนำหูฟังที่มีระบบตัดเสียงรบกวน (Active Noise Cancelling - ANC) ครับ โดยเฉพาะรุ่นที่มีระบบ True Adaptive Noise Cancelling อย่าง JBL Tour Pro 3 (True Wireless) หรือ JBL Tour ONE M2 (Over-Ear) รุ่นเหล่านี้สามารถปรับระดับการตัดเสียงรบกวนให้เข้ากับสภาพแวดล้อมได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยบล็อกเสียงรบกวนจากรถยนต์ คน หรือเสียงรอบข้างได้ดีเยี่ยม ทำให้คุณมีสมาธิหรือพักผ่อนได้อย่างเต็มที่ครับ รุ่นอื่นๆ ที่มี Adaptive Noise Cancelling ในซีรีส์ Tune หรือ Live บางรุ่นก็ช่วยลดเสียงรบกวนได้ดีในระดับหนึ่งเช่นกันครับ
  • Q: การปรับแต่งเสียงผ่านแอป JBL Headphones จำเป็นไหม?
    A: แอป JBL Headphones เป็นแอปที่ช่วยเพิ่มประสบการณ์การใช้งานหูฟัง JBL ให้ดียิ่งขึ้นครับ ในแอปคุณสามารถปรับตั้งค่า EQ (Equalizer) เพื่อปรับแนวเสียงให้เข้ากับความชอบส่วนตัวได้ เช่น เพิ่มเสียงเบส ลดเสียงแหลม หรือเลือก Preset เสียงที่มีให้ นอกจากนี้ ยังสามารถควบคุมระบบตัดเสียงรบกวน Ambient Aware และ TalkThru ตั้งค่าปุ่มควบคุม และอัปเดตเฟิร์มแวร์ของหูฟังได้ด้วย แม้จะไม่จำเป็นสำหรับการใช้งานพื้นฐาน แต่ถ้าต้องการปรับแต่งเสียงหรือฟีเจอร์ให้ตรงใจมากขึ้น การใช้แอปก็มีประโยชน์มากๆ ครับ โดยเฉพาะถ้าคุณเป็นคนที่ชอบปรับเสียงให้ได้ตามต้องการเพื่อประสบการณ์การฟังที่ดีที่สุด.

วิดีโอที่เกี่ยวข้อง

บทความล่าสุดดูเพิ่มเติม

สวัสดีครับสายช้อปออนไลน์ทุกท่าน! ถ้าคุณกำลังมองหาหูฟังใหม่ไว้ฟังเพลง ดูหนัง หรือเล่นเกมปี 2025 นี้ บอกเลยว่าตลาดหูฟังเดือดสุดๆ รุ่นใหม่ๆ โผล่มาเพียบ ทั้งดีไซน์ล้ำ เสียงเทพ ฟีเจอร์จัดเต็ม จะสายเปย์ สายประหยัด หรือสายแฟชั่นก็มีให้เลือกครบ วัน
10 Headphone ยี่ห้อไหนดี ปี 2025 เสียงเทพ ดีไซน์โดนใจ
สวัสดีครับเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ เกมเมอร์ชาวไทย! วันนี้มาเจอกับผมในฐานะกูรูนักช้อปออนไลน์เจ้าเก่า ที่จะมาเจาะลึกเรื่องอุปกรณ์คู่ใจของชาวเรา นั่นก็คือ "หูฟังเกมมิ่ง" นั่นเอง! สำหรับใครที่งบน่ารักๆ ไม่เกิน 1,000 บาท แต่อยากได้หูฟังเสียงชัด แยกทิศ
10 หูฟังเกมมิ่ง ราคาไม่เกิน 1000 ยี่ห้อไหนดี ปี 2025 เสียงชัด แยกทิศทางแม่น
สวัสดีครับพี่น้องชาวนักช้อปออนไลน์ทุกท่าน! วันนี้ผมผู้เชี่ยวชาญด้านการช้อปปิ้งออนไลน์ตัวยงของเมืองไทย ขอพาทุกคนดำดิ่งสู่โลกแห่งเสียงเพลงแบบสบายกระเป๋า กับหัวข้อที่ว่าด้วย "10 หูฟัง ราคาไม่เกิน 2000 ยี่ห้อไหนดี ปี 2025 เสียงดีเกินราคา ฟังก์ช
10 หูฟัง ราคาไม่เกิน 2000 ยี่ห้อไหนดี ปี 2025 เสียงดีเกินราคา ฟังก์ชันครบ

บทความยอดนิยม