10 อันดับ การ์ด Wi-Fi SD ยี่ห้อไหนดี ปี 2025 โอนรูปไร้สาย สะดวกสุดๆ

สวัสดีค่า เหล่าคนรักการถ่ายรูปทั้งหลายยย! ยุคนี้อะไรๆ ก็ต้องไว ต้องทันใจเนอะ ถ่ายรูปสวยๆ มาแล้วก็อยากจะอวดเพื่อน อวดโซเชียลให้โลกรู้ซะเดี๋ยวนั้นเลย แต่เอ๊ะ กล้องคู่ใจตัวเก่าดันไม่มี Wi-Fi ในตัวน่ะสิ ทำไงดีล่ะ? ไม่ต้องกังวลไปค่ะซิส! เพราะวันนี้เจนี่ นางฟ้าแห่งวงการช้อปปิ้งออนไลน์เมืองไทย จะมาเปิดกรุ "10 อันดับ การ์ด Wi-Fi SD ยี่ห้อไหนดี ปี 2025 โอนรูปไร้สาย สะดวกสุดๆ" ที่จะมาเป็นผู้ช่วยชีวิต ให้กล้องตัวเก่งของคุณเชื่อมต่อโลกออนไลน์ได้แบบไม่มีสะดุด โอนรูปปุ๊บ แชร์ได้ปั๊บ ไม่ต้องง้อสาย ไม่ต้องง้อคอมฯ ให้วุ่นวายอีกต่อไป เตรียมตัวให้พร้อม แล้วตามมาดูกันเลยว่าจะมียี่ห้อไหน รุ่นไหนเด็ดๆ โดนใจบ้าง!

1. Eye-Fi Mobi

• ชื่อแบรนด์: Eye-Fi
• ชื่อสินค้า: การ์ด Wi-Fi SD รุ่น Mobi
• ราคาสินค้า: ประมาณ 1,800 - 2,500 บาท
• คำอธิบายสินค้า: การ์ด Eye-Fi Mobi ถือเป็นตำนานของการ์ด Wi-Fi SD เลยก็ว่าได้ แม้บริษัทแม่จะมีการเปลี่ยนแปลงไปบ้าง แต่ชื่อชั้นและประสิทธิภาพยังคงเป็นที่ยอมรับในหมู่นักถ่ายภาพ. รุ่น Mobi เน้นความเรียบง่าย ใช้ง่าย แค่ใส่การ์ดเข้ากล้อง เปิดกล้อง ดาวน์โหลดแอป Eye-Fi Mobi บนสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ต แล้วเชื่อมต่อ Wi-Fi กับการ์ด รูปภาพที่คุณถ่ายก็จะเด้งมาให้ดูบนมือถือทันที. เหมาะมากสำหรับคนที่ต้องการความสะดวกแบบสุดๆ ในการโอนรูปไปแชร์ลงโซเชียลแบบเรียลไทม์ ไม่ต้องตั้งค่าอะไรยุ่งยากเลยค่ะ เหมาะกับไลฟ์สไตล์คนไทยที่ชอบอัปเดตทุกโมเมนต์.
• จุดเด่นสินค้า: ใช้งานง่ายมาก แค่เสียบก็พร้อมใช้、โอนรูปเร็วทันใจ、มีแอปพลิเคชันรองรับทั้ง iOS และ Android、เชื่อมต่อเสถียรในระยะใกล้、ประหยัดพลังงานกล้อง
• ฟังก์ชันการใช้งาน:
  • โอนรูปภาพแบบไร้สาย: สามารถส่งไฟล์ภาพ JPEG จากกล้องไปยังสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตได้ทันทีผ่านสัญญาณ Wi-Fi ที่การ์ดปล่อยออกมา. สะดวกสุดๆ เวลานั่งชิลล์รออาหาร หรือระหว่างเดินทาง ก็เลือกรูปสวยๆ เตรียมลงโซเชียลได้เลย.
  • รองรับการเชื่อมต่อหลายอุปกรณ์: สามารถเชื่อมต่อและโอนภาพไปยังอุปกรณ์ได้พร้อมกันหลายเครื่อง (มักจะประมาณ 5-7 เครื่อง). ดีงามมากสำหรับทริปเที่ยวกับเพื่อน ถ่ายปุ๊บ เพื่อนๆ ก็เลือกรูปตัวเองไปโพสต์ได้เลย ไม่ต้องรอกันนาน.
  • ทำงานร่วมกับแอปพลิเคชัน: มีแอป Eye-Fi Mobi ที่ใช้งานง่าย ช่วยให้คุณดูรูป จัดการไฟล์ และตั้งค่าการเชื่อมต่อเบื้องต้นได้สะดวกบนมือถือ. แอปออกแบบมาให้เป็นมิตรกับผู้ใช้ ไม่ซับซ้อน ถูกใจสายไอทีมือใหม่แน่นอน.
• กลุ่มผู้ใช้งาน/สถานการณ์: ช่างภาพสมัครเล่น, นักเดินทาง, คนที่ใช้กล้องรุ่นเก่าไม่มี Wi-Fi, คนที่ชอบแชร์รูปขึ้นโซเชียลเร็วๆ, ทริปเที่ยวกับเพื่อน

ความจุ	มาตรฐาน SD Card	มาตรฐาน Wi-Fi	รองรับไฟล์	ระยะส่งสัญญาณ (ในร่ม)	รองรับระบบปฏิบัติการ	การรับประกัน
8GB, 16GB, 32GB	SDHC Class 10	802.11 b/g/n	JPEG	ประมาณ 5-10 เมตร	iOS, Android	(ขึ้นอยู่กับผู้จำหน่าย)

2. Eye-Fi Mobi Pro

• ชื่อแบรนด์: Eye-Fi
• ชื่อสินค้า: การ์ด Wi-Fi SD รุ่น Mobi Pro
• ราคาสินค้า: ประมาณ 2,500 - 3,500 บาท
• คำอธิบายสินค้า: ขยับขึ้นมาจากรุ่น Mobi ธรรมดา Mobi Pro มาพร้อมฟังก์ชันที่โปรขึ้นไปอีกระดับ เหมาะสำหรับคนที่ต้องการความยืดหยุ่นและการควบคุมที่มากกว่าเดิม. จุดเด่นคือสามารถเลือกโอนไฟล์แบบ RAW ได้ นอกเหนือจาก JPEG และยังเลือกโอนไฟล์แบบเลือกรูปได้ ไม่ใช่แค่โอนมาทั้งหมด. นอกจากนี้ ยังรองรับการโอนไฟล์ผ่านเครือข่าย Wi-Fi ในบ้านหรือออฟฟิศได้ด้วย ไม่จำกัดแค่สัญญาณตรงจากการ์ด. แม้จะเป็นรุ่นที่อาจจะหายากขึ้นมาหน่อยในปี 2025 แต่ถ้าเจอ บอกเลยว่าคุ้มสำหรับมือโปรหรือคนที่ต้องการฟังก์ชันครบๆ.
• จุดเด่นสินค้า: รองรับไฟล์ RAW และ JPEG、เลือกโอนไฟล์เฉพาะรูปได้、โอนผ่าน Wi-Fi ปกติได้、มี Cloud Storage ให้ใช้ (เดิม)、ประสิทธิภาพเสถียร
• ฟังก์ชันการใช้งาน:
  • โอนไฟล์ RAW และ JPEG: ช่างภาพมืออาชีพหรือคนที่ต้องการไฟล์คุณภาพสูงเพื่อนำไป Process ต่อ จะปลื้มมาก เพราะ Mobi Pro โอนไฟล์ RAW ขนาดใหญ่ได้สบายๆ. ไม่ต้องรอเสียบสายหรือถอดการ์ดให้วุ่นวาย.
  • เลือกโอนรูปภาพที่ต้องการ: ไม่ต้องโอนมาทั้งหมดให้เปลืองพื้นที่มือถือ สามารถเลือกรูปที่ถูกใจ หรือรูปที่ต้องการใช้งานจริงๆ เพื่อโอนมาเท่านั้น. ประหยัดเวลาและจัดการไฟล์ได้เป็นระเบียบมากขึ้นเยอะ.
  • โหมด Direct และโหมด Network: เลือกระหว่างการเชื่อมต่อ Wi-Fi ตรงจากการ์ด (Direct Mode) หรือเชื่อมต่อผ่านเครือข่าย Wi-Fi ปกติ (Network Mode) เพื่อความยืดหยุ่นในการใช้งาน. เหมาะกับทั้งการใช้งานนอกสถานที่และในบ้าน.
  • รองรับ Eye-Fi Cloud (เดิม): เดิมมีบริการ Cloud Storage ให้ซิงค์และเข้าถึงรูปภาพได้จากทุกที่ (เช็คสถานะบริการปัจจุบันอีกครั้ง). ช่วยเพิ่มความสะดวกในการสำรองและเข้าถึงรูปภาพของคุณ.
• กลุ่มผู้ใช้งาน/สถานการณ์: ช่างภาพมืออาชีพ, ช่างภาพที่ต้องการไฟล์ RAW, คนที่ต้องการเลือกโอนไฟล์, คนที่ต้องการความยืดหยุ่นในการเชื่อมต่อ, งานถ่ายภาพที่ต้องการความรวดเร็วในการส่งไฟล์ให้ลูกค้า

ความจุ	มาตรฐาน SD Card	มาตรฐาน Wi-Fi	รองรับไฟล์	โหมดการเชื่อมต่อ	รองรับระบบปฏิบัติการ	การรับประกัน	คุณสมบัติพิเศษ
16GB, 32GB	SDHC Class 10	802.11 b/g/n	JPEG, RAW	Direct Mode, Network Mode	iOS, Android, Windows, Mac	(ขึ้นอยู่กับผู้จำหน่าย)	Selective Transfer

3. Toshiba FlashAir W-04

• ชื่อแบรนด์: Toshiba
• ชื่อสินค้า: การ์ด Wi-Fi SD รุ่น FlashAir W-04
• ราคาสินค้า: ประมาณ 1,500 - 2,200 บาท (สำหรับความจุ 32GB-64GB)
• คำอธิบายสินค้า: Toshiba FlashAir เป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่ได้รับความนิยมมายาวนานในตลาด Wi-Fi SD Card. รุ่น W-04 เป็นรุ่นที่ใหม่กว่า มักมาพร้อมกับความเร็วในการอ่าน-เขียนที่สูงขึ้น และปรับปรุงประสิทธิภาพการเชื่อมต่อ Wi-Fi ให้เสถียรและรวดเร็วยิ่งขึ้น. มีแอปพลิเคชัน FlashAir พัฒนาต่อเนื่อง ใช้งานง่ายขึ้นกว่ารุ่นก่อนๆ. จุดเด่นคือฟังก์ชัน Internet Pass-Thru ที่ช่วยให้เชื่อมต่อกับการ์ดและใช้งานอินเทอร์เน็ตมือถือไปพร้อมๆ กันได้. เหมาะสำหรับคนที่ต้องการการ์ดที่เชื่อถือได้ ประสิทธิภาพดี และมีฟังก์ชันเสริมที่เป็นประโยชน์ในยุคที่ทุกคนออนไลน์ตลอดเวลา.
• จุดเด่นสินค้า: ประสิทธิภาพโดยรวมดี、มีฟังก์ชัน Internet Pass-Thru、แอปพลิเคชันใช้งานง่าย、เชื่อมต่ออุปกรณ์ได้หลายเครื่องพร้อมกัน (สูงสุด 7 เครื่อง)、มีให้เลือกหลายความจุ
• ฟังก์ชันการใช้งาน:
  • โอนรูปภาพและวิดีโอไร้สาย: สามารถส่งไฟล์ JPEG และวิดีโอจากกล้องไปยังสมาร์ทโฟน แท็บเล็ต หรือคอมพิวเตอร์ผ่าน Wi-Fi. ช่วยให้การทำงานหลังบ้านเร็วขึ้นเยอะ โดยเฉพาะเวลาเร่งรีบ.
  • ฟังก์ชัน Internet Pass-Thru: ขณะที่เชื่อมต่อ Wi-Fi ของ FlashAir อยู่ ยังสามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่าน Cellular Data ของมือถือได้พร้อมกัน. ไม่ต้องสลับ Wi-Fi ไปมา สะดวกสุดๆ เวลาจะแชร์รูปลงโซเชียลทันที.
  • ใช้งานผ่านแอป FlashAir: ควบคุม จัดการไฟล์ และตั้งค่าต่างๆ ผ่านแอป FlashAir บนมือถือได้ง่ายๆ. แอปมีการอัปเดตเรื่อยๆ เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพให้ดียิ่งขึ้น.
  • ตั้งค่า Folder ที่ต้องการแชร์ได้: สามารถกำหนดได้ว่าจะให้แชร์รูปภาพจาก Folder ไหนในการ์ดบ้าง ช่วยเพิ่มความเป็นส่วนตัวและจัดการไฟล์ได้ง่ายขึ้น.
• กลุ่มผู้ใช้งาน/สถานการณ์: ช่างภาพที่ต้องการความเร็วและความเสถียร, คนที่ต้องการใช้เน็ตมือถือไปพร้อมกับการโอนรูป, นักท่องเที่ยวที่ชอบแชร์รูปทันที, การใช้งานในงานอีเวนต์หรืองานที่ต้องการส่งไฟล์เร็วๆ

ความจุ	มาตรฐาน SD Card	มาตรฐาน Wi-Fi	ความเร็ว (อ่าน/เขียน)	รองรับไฟล์	รองรับระบบปฏิบัติการ	การรับประกัน	ฟังก์ชันพิเศษ
16GB, 32GB, 64GB	SDHC/SDXC UHS-I U3 (ขึ้นอยู่กับความจุ)	802.11 b/g/n	สูงสุดถึง 90MB/s (อ่าน), 70MB/s (เขียน) (โดยประมาณ)	JPEG, RAW, วิดีโอ (AVI, MOV, MP4 ฯลฯ)	iOS, Android, Windows, Mac, Linux	5 ปี (โดยประมาณ)	Internet Pass-Thru

4. Toshiba FlashAir W-03 32GB

• ชื่อแบรนด์: Toshiba
• ชื่อสินค้า: การ์ด Wi-Fi SD รุ่น FlashAir W-03 32GB
• ราคาสินค้า: ประมาณ 1,200 - 1,800 บาท
• คำอธิบายสินค้า: Toshiba FlashAir W-03 เป็นรุ่นยอดนิยมอีกรุ่นที่ยังคงมีขายในตลาดและเป็นที่ต้องการของหลายๆ คน. ความจุ 32GB เป็นขนาดที่กำลังดี ไม่น้อยไป ไม่มากไป สำหรับการใช้งานทั่วไปและการถ่ายรูปจำนวนพอสมควร. รุ่น W-03 มีความเสถียรและเชื่อถือได้ในการเชื่อมต่อ Wi-Fi และการโอนถ่ายข้อมูล. เหมาะสำหรับคนที่มองหาการ์ด Wi-Fi SD ที่คุ้มค่า ราคาไม่แรงมาก แต่ยังคงได้ประสิทธิภาพที่ดีในการใช้งานพื้นฐาน เช่น การโอนรูปภาพ JPEG ไปยังมือถือเพื่อแชร์ต่อในโซเชียล. เป็นตัวเลือกที่เข้าถึงง่ายสำหรับมือใหม่ที่อยากลองใช้การ์ด Wi-Fi.
• จุดเด่นสินค้า: ราคาย่อมเยาเข้าถึงง่าย、มีความเสถียรในการเชื่อมต่อ、ใช้งานร่วมกับแอป FlashAir ได้、ประหยัดพลังงานกล้อง、ความจุ 32GB เพียงพอต่อการใช้งานทั่วไป
• ฟังก์ชันการใช้งาน:
  • โอนรูปภาพ JPEG ไร้สาย: ส่งรูปภาพสกุล JPEG จากกล้องไปยังสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตได้ทันทีผ่านสัญญาณ Wi-Fi. เหมาะกับการแชร์โมเมนต์ประทับใจในชีวิตประจำวันแบบไม่ต้องรอนาน.
  • ดูรูปภาพผ่าน Browser ได้: นอกจากแอปพลิเคชัน ยังสามารถเข้าถึงและดูรูปภาพในการ์ดผ่าน Web Browser บนอุปกรณ์ต่างๆ ได้ด้วย. เพิ่มความสะดวกในการเข้าถึง โดยไม่ต้องติดตั้งแอปเสริม.
  • เชื่อมต่อได้หลายอุปกรณ์: รองรับการเชื่อมต่อพร้อมกันสูงสุด 7 เครื่อง. ดีสำหรับการไปเที่ยวกับกลุ่มเพื่อน ทุกคนดูรูปจากกล้องได้พร้อมกันเลย.
• กลุ่มผู้ใช้งาน/สถานการณ์: ผู้เริ่มต้นใช้งานการ์ด Wi-Fi SD, คนที่ใช้กล้องเก่าที่ไม่มี Wi-Fi, นักเรียนนักศึกษา, คนที่เน้นแชร์รูป JPEG ลงโซเชียล, การใช้งานทั่วไปในครอบครัว

ความจุ	มาตรฐาน SD Card	มาตรฐาน Wi-Fi	ความเร็ว	รองรับไฟล์	รองรับระบบปฏิบัติการ	การรับประกัน	การเข้ารหัส Wi-Fi
32GB	SDHC Class 10	802.11 b/g/n	Class 10 (โดยประมาณ)	JPEG, วิดีโอ	iOS, Android, Windows, Mac, Linux	5 ปี (โดยประมาณ)	WEP, TKIP, AES (WPA, WPA2)

5. Toshiba FlashAir W-02 16GB

• ชื่อแบรนด์: Toshiba
• ชื่อสินค้า: การ์ด Wi-Fi SD รุ่น FlashAir W-02 16GB
• ราคาสินค้า: ประมาณ 900 - 1,500 บาท
• คำอธิบายสินค้า: FlashAir W-02 เป็นอีกหนึ่งรุ่นของ Toshiba ที่เน้นความเรียบง่ายและราคาที่เข้าถึงง่าย. แม้จะไม่ใช่รุ่นใหม่ล่าสุด แต่ยังคงทำหน้าที่โอนไฟล์ผ่าน Wi-Fi ได้เป็นอย่างดี. ความจุ 16GB เหมาะสำหรับคนที่ไม่ได้ถ่ายรูปเยอะมาก หรือเน้นการเคลียร์การ์ดบ่อยๆ. จุดเด่นคือการเป็น Class 10 ซึ่งให้ความเร็วในการเขียนข้อมูลที่เหมาะสมสำหรับการถ่ายภาพนิ่งและวิดีโอพื้นฐาน. เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับคนงบน้อยที่อยากได้การ์ด Wi-Fi SD จากแบรนด์ที่เชื่อถือได้ และเน้นฟังก์ชันการโอนรูปภาพเป็นหลัก โดยไม่ได้ต้องการความเร็วสูงลิบลิ่วหรือฟังก์ชันซับซ้อน.
• จุดเด่นสินค้า: ราคาเป็นมิตร、แบรนด์ Toshiba เชื่อถือได้、มาตรฐาน Class 10、ใช้งานง่าย、ประหยัดพลังงาน
• ฟังก์ชันการใช้งาน:
  • โอนรูปภาพไร้สายพื้นฐาน: สามารถส่งรูปภาพ JPEG จากกล้องไปยังอุปกรณ์พกพาได้ง่ายๆ ผ่านการเชื่อมต่อ Wi-Fi โดยตรง. เหมาะกับการแชร์ภาพถ่ายสบายๆ ระหว่างวัน.
  • เข้าถึงไฟล์ผ่าน Browser ได้: เช่นเดียวกับรุ่นอื่นๆ ของ FlashAir สามารถดูและดาวน์โหลดรูปภาพได้ผ่าน Web Browser บนอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อ Wi-Fi. ไม่ต้องพึ่งแอปพลิเคชันเสมอไป.
  • ความเร็ว Class 10: ให้ความเร็วในการเขียนข้อมูลขั้นต่ำที่ 10MB/s ซึ่งเพียงพอสำหรับการถ่ายภาพนิ่งต่อเนื่องในระดับหนึ่ง และการบันทึกวิดีโอ HD ทั่วไป.
• กลุ่มผู้ใช้งาน/สถานการณ์: คนงบน้อย, ผู้ที่ใช้กล้องคอมแพคหรือกล้องรุ่นเก่า, คนที่เพิ่งเริ่มต้นกับการถ่ายภาพ, การใช้งานในครอบครัว, การถ่ายภาพที่ไม่ต้องการความเร็วสูงมาก

ความจุ	มาตรฐาน SD Card	มาตรฐาน Wi-Fi	ความเร็ว	รองรับไฟล์	รองรับระบบปฏิบัติการ	การรับประกัน	ขนาด
16GB	SDHC Class 10	802.11 b/g/n	Class 10 (เขียนขั้นต่ำ 10MB/s)	JPEG, วิดีโอ	iOS, Android, Windows, Mac, Linux	(ขึ้นอยู่กับผู้จำหน่าย)	มาตรฐาน SD Card

6. ez Share SD Adapter

• ชื่อแบรนด์: ez Share
• ชื่อสินค้า: ez Share Wi-Fi SD Adapter (ใช้ร่วมกับ Micro SD Card)
• ราคาสินค้า: ประมาณ 400 - 700 บาท (ไม่รวม Micro SD Card)
• คำอธิบายสินค้า: ez Share มีทั้งแบบที่เป็นการ์ด SD ในตัว และแบบที่เป็น Adapter ที่ต้องใส่ Micro SD Card เข้าไป. รุ่น Adapter นี้เป็นที่นิยมเพราะมีความยืดหยุ่นสูง สามารถใช้ร่วมกับ Micro SD Card ที่คุณมีอยู่แล้วได้ หรือจะซื้อ Micro SD Card ความจุและคลาสความเร็วที่ต้องการมาใส่ก็ได้. เป็นโซลูชันที่คุ้มค่ามากๆ สำหรับคนที่อยากเพิ่มฟังก์ชัน Wi-Fi ให้กล้อง โดยเฉพาะถ้ามี Micro SD Card ดีๆ อยู่ในมือแล้ว. ใช้งานง่ายผ่านแอป ez Share หรือ Web Browser.
• จุดเด่นสินค้า: ราคาย่อมเยา、ใช้ร่วมกับ Micro SD Card ได้、เลือกความจุและความเร็วได้เอง、ใช้งานง่ายผ่านแอป/Browser、มีสวิตช์เปิด-ปิด Wi-Fi
• ฟังก์ชันการใช้งาน:
  • แปลง Micro SD Card ให้เป็น Wi-Fi SD Card: เสียบ Micro SD Card ที่ต้องการเข้า Adapter แล้วเสียบ Adapter เข้ากล้องธรรมดาๆ ก็จะกลายเป็นกล้องที่มี Wi-Fi ทันที. เป็นการอัปเกรดกล้องเก่าให้ทันสมัยได้ง่ายๆ.
  • โอนถ่ายรูปภาพและวิดีโอไร้สาย: สามารถส่งไฟล์ภาพและวิดีโอจาก Micro SD Card ที่อยู่ใน Adapter ไปยังสมาร์ทโฟน แท็บเล็ต หรือคอมพิวเตอร์แบบไร้สายได้. สะดวกสบาย ไม่ต้องถอดการ์ดบ่อยๆ.
  • ใช้งานผ่านแอป ez Share หรือ Web Browser: มีแอปพลิเคชันสำหรับ iOS และ Android รวมถึงสามารถเข้าถึงผ่าน Web Browser ได้. ทำให้การดูและดาวน์โหลดไฟล์เป็นเรื่องง่ายสำหรับทุกคน.
  • สวิตช์เปิด-ปิด Wi-Fi: มีสวิตช์ที่ตัว Adapter ให้เปิดหรือปิดฟังก์ชัน Wi-Fi ได้ ช่วยประหยัดแบตเตอรี่กล้องเมื่อไม่ต้องการใช้งาน Wi-Fi. ฟังก์ชันเล็กๆ น้อยๆ แต่มีประโยชน์มาก.
• กลุ่มผู้ใช้งาน/สถานการณ์: คนที่ต้องการโซลูชัน Wi-Fi SD Card ราคาประหยัด, คนที่มี Micro SD Card อยู่แล้ว, นักเรียนนักศึกษา, คนที่ต้องการความยืดหยุ่นในการเลือกความจุและความเร็วของการ์ด, ผู้ที่ใช้กล้องรุ่นเก่า

ประเภท	รองรับ Micro SD Card	มาตรฐาน Wi-Fi	รองรับไฟล์	รองรับระบบปฏิบัติการ	การรับประกัน	ฟังก์ชันพิเศษ	ขนาด
Adapter SD to Micro SD	Micro SD/SDHC/SDXC สูงสุด 32GB (รุ่นเก่า), 64GB (รุ่นใหม่)	802.11 b/g/n	JPEG, วิดีโอ, RAW (ขึ้นอยู่กับ Micro SD)	iOS, Android, Windows, Mac	(ขึ้นอยู่กับผู้จำหน่าย)	Wi-Fi Switch, Access via Browser	มาตรฐาน SD Card

7. ez Share 32GB SD Card

• ชื่อแบรนด์: ez Share
• ชื่อสินค้า: ez Share Wi-Fi SD Card 32GB (การ์ด SD ในตัว)
• ราคาสินค้า: ประมาณ 700 - 1,200 บาท
• คำอธิบายสินค้า: นอกจาก Adapter แล้ว ez Share ยังมีการ์ด SD ที่มี Wi-Fi ในตัวด้วย โดยมีความจุ 32GB เป็นขนาดที่นิยมใช้งานกัน. รุ่นนี้สะดวกตรงที่เป็นการ์ด SD ในตัว เสียบเข้ากล้องแล้วใช้งานได้เลย ไม่ต้องพึ่ง Micro SD Card. ให้ความจุที่เพียงพอสำหรับการถ่ายรูปและวิดีโอในการใช้งานทั่วไป. ราคาไม่แรงมากเมื่อเทียบกับการ์ด Wi-Fi SD จากแบรนด์อื่นๆ ทำให้เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับคนที่อยากได้ความสะดวกแบบ All-in-One และมีงบประมาณจำกัด. ใช้งานผ่านแอป ez Share หรือ Web Browser ได้เช่นกัน.
• จุดเด่นสินค้า: เป็นการ์ด SD ในตัว ใช้งานง่าย、ราคาสมเหตุสมผล、ความจุ 32GB เพียงพอต่อการใช้งาน、มีแอป/Browser รองรับ、มีสวิตช์เปิด-ปิด Wi-Fi
• ฟังก์ชันการใช้งาน:
  • โอนถ่ายรูปภาพและวิดีโอไร้สาย: ส่งไฟล์ภาพและวิดีโอจากกล้องไปยังสมาร์ทโฟน แท็บเล็ต หรือคอมพิวเตอร์ผ่าน Wi-Fi ได้โดยตรง. สะดวก รวดเร็ว เหมาะกับไลฟ์สไตล์ที่ต้องการความคล่องตัว.
  • ใช้งานง่ายแบบ Plug-and-Play: แค่เสียบการ์ดเข้าช่อง SD Card ในกล้อง ก็พร้อมใช้งานฟังก์ชัน Wi-Fi ได้ทันที. ไม่ต้องตั้งค่าซับซ้อน เหมาะกับมือใหม่.
  • เข้าถึงและจัดการไฟล์สะดวก: ใช้แอปพลิเคชัน ez Share หรือเข้าผ่าน Web Browser เพื่อดู ดาวน์โหลด หรือจัดการไฟล์รูปภาพและวิดีโอในการ์ดได้ง่ายๆ.
  • มีสวิตช์ควบคุม Wi-Fi: สามารถเปิดหรือปิดการทำงานของ Wi-Fi ได้ด้วยสวิตช์เล็กๆ บนตัวการ์ด ช่วยประหยัดพลังงานแบตเตอรี่กล้อง.
• กลุ่มผู้ใช้งาน/สถานการณ์: คนที่ต้องการการ์ด Wi-Fi SD แบบ All-in-One, ผู้ที่ใช้กล้องเก่าไม่มี Wi-Fi, คนที่มองหาการ์ดราคาไม่แพงแต่มีฟังก์ชันครบ, การใช้งานทั่วไปในชีวิตประจำวัน, นักเดินทางที่ไม่ต้องการพกอุปกรณ์หลายชิ้น

ความจุ	มาตรฐาน SD Card	มาตรฐาน Wi-Fi	ความเร็ว	รองรับไฟล์	รองรับระบบปฏิบัติการ	การรับประกัน	ฟังก์ชันพิเศษ
32GB	SDHC Class 10 (โดยประมาณ)	802.11 b/g/n	Class 10 (โดยประมาณ)	JPEG, วิดีโอ	iOS, Android, Windows, Mac	1 ปี (โดยประมาณ)	Wi-Fi Switch, Access via Browser

8. ez Share 64GB SD Card

• ชื่อแบรนด์: ez Share
• ชื่อสินค้า: ez Share Wi-Fi SD Card 64GB (การ์ด SD ในตัว)
• ราคาสินค้า: ประมาณ 1,200 - 1,800 บาท
• คำอธิบายสินค้า: สำหรับสายที่เน้นถ่ายเยอะๆ หรือต้องการเก็บไฟล์วิดีโอความละเอียดสูงหน่อย ez Share รุ่น 64GB ก็น่าสนใจ. ให้ความจุที่มากขึ้น ทำให้ไม่ต้องคอยเปลี่ยนการ์ดบ่อยๆ หรือกังวลว่าพื้นที่เก็บข้อมูลจะไม่พอ. ยังคงความสะดวกในการเป็น SD Card ในตัว เสียบเข้ากล้องแล้วใช้งานฟังก์ชัน Wi-Fi ได้เลย. เหมาะสำหรับคนที่ถ่ายงาน หรือไปทริปยาวๆ ที่ต้องการพื้นที่เก็บรูปและวิดีโอเยอะๆ พร้อมฟังก์ชันการโอนไฟล์แบบไร้สายที่ใช้งานง่ายและราคาไม่แพง. ใช้งานผ่านแอป ez Share หรือ Web Browser ได้เหมือนเดิม.
• จุดเด่นสินค้า: ความจุเยอะสะใจ 64GB、เป็นการ์ด SD ในตัว สะดวกใช้、ราคายังคงเข้าถึงง่าย、มีแอป/Browser รองรับ、มีสวิตช์เปิด-ปิด Wi-Fi
• ฟังก์ชันการใช้งาน:
  • โอนถ่ายรูปภาพและวิดีโอจำนวนมาก: ด้วยความจุ 64GB ทำให้สามารถเก็บรูปภาพและวิดีโอได้เป็นจำนวนมาก ก่อนจะเลือกโอนไฟล์ที่ต้องการไปยังอุปกรณ์อื่นๆ ผ่าน Wi-Fi. ลดความยุ่งยากในการจัดการหลายๆ การ์ด.
  • รองรับการใช้งานที่ยาวนานขึ้น: เหมาะสำหรับการไปเที่ยวหรือถ่ายงานที่กินเวลานาน ไม่ต้องคอยกังวลเรื่องพื้นที่เต็มเร็วๆ. ถ่ายได้ยาวๆ แล้วค่อยมาโอนทีเดียวก็ได้.
  • เข้าถึงและแชร์ไฟล์ได้สะดวก: ใช้แอปพลิเคชัน ez Share หรือเข้าผ่าน Web Browser เพื่อดูตัวอย่างรูปภาพและวิดีโอ รวมถึงดาวน์โหลดไฟล์ที่ต้องการไปยังมือถือหรือคอมพิวเตอร์. แชร์ขึ้นโซเชียลได้ทันใจ.
  • ควบคุมการทำงาน Wi-Fi ด้วยสวิตช์: มีสวิตช์บนตัวการ์ดให้เปิด/ปิด Wi-Fi เพื่อช่วยประหยัดพลังงานแบตเตอรี่กล้องเมื่อไม่ได้ใช้งานฟังก์ชันไร้สาย.
• กลุ่มผู้ใช้งาน/สถานการณ์: ช่างภาพที่ถ่ายรูป/วิดีโอจำนวนมาก, นักเดินทางที่ไปทริปยาวๆ, คนที่ใช้กล้องที่รองรับ SDXC (สำหรับ 64GB), การถ่ายวิดีโอ, การใช้งานที่ต้องการพื้นที่เก็บข้อมูลเยอะๆ

ความจุ	มาตรฐาน SD Card	มาตรฐาน Wi-Fi	ความเร็ว	รองรับไฟล์	รองรับระบบปฏิบัติการ	การรับประกัน	คุณสมบัติพิเศษ
64GB	SDXC Class 10 (โดยประมาณ)	802.11 b/g/n	Class 10 (โดยประมาณ)	JPEG, วิดีโอ	iOS, Android, Windows, Mac	1 ปี (โดยประมาณ)	Wi-Fi Switch, High Capacity

9. Transcend Wi-Fi SD Card 16GB

• ชื่อแบรนด์: Transcend
• ชื่อสินค้า: Transcend Wi-Fi SD Card 16GB
• ราคาสินค้า: ประมาณ 800 - 1,300 บาท
• คำอธิบายสินค้า: Transcend เป็นอีกแบรนด์ที่คุ้นหูในวงการ Memory Card และมีผลิตภัณฑ์ Wi-Fi SD Card ออกมาให้เลือกใช้เช่นกัน. รุ่น 16GB เป็นตัวเลือกเริ่มต้นที่เหมาะสำหรับคนที่ต้องการการ์ด Wi-Fi SD ในราคาที่ไม่สูงมากนัก และเน้นการใช้งานที่ไม่หนักหน่วง เช่น การถ่ายภาพนิ่งทั่วๆ ไป. มาตรฐาน Class 10 ทำให้มั่นใจได้ในความเร็วขั้นพื้นฐานในการบันทึกข้อมูล. Transcend มีแอปพลิเคชันสำหรับใช้งานร่วมกับการ์ด ช่วยให้การโอนรูปภาพไปยังมือถือทำได้ง่ายขึ้น. เป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับคนไทยที่มองหาการ์ด Wi-Fi จากแบรนด์ที่เชื่อถือได้ในราคาประหยัด.
• จุดเด่นสินค้า: แบรนด์ Transcend เชื่อถือได้、ราคาประหยัด、มาตรฐาน Class 10、ใช้งานง่าย、มีแอปพลิเคชันรองรับ
• ฟังก์ชันการใช้งาน:
  • โอนรูปภาพ JPEG ไร้สาย: สามารถส่งรูปภาพ JPEG จากกล้องไปยังสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตผ่านการเชื่อมต่อ Wi-Fi ได้อย่างสะดวก. เหมาะกับการแชร์ภาพถ่ายในชีวิตประจำวัน.
  • ใช้งานร่วมกับแอป Transcend: มีแอปพลิเคชันเฉพาะของ Transcend สำหรับการจัดการและโอนถ่ายรูปภาพบนอุปกรณ์พกพา. ช่วยให้การใช้งานง่ายและเป็นระบบ.
  • ความเร็วในการบันทึกพื้นฐาน: ด้วยมาตรฐาน Class 10 ทำให้มีความเร็วในการเขียนข้อมูลขั้นต่ำที่ 10MB/s ซึ่งเพียงพอสำหรับการถ่ายภาพนิ่งทั่วไปและการบันทึกวิดีโอ HD.
• กลุ่มผู้ใช้งาน/สถานการณ์: ผู้เริ่มต้นใช้งานการ์ด Wi-Fi SD, คนที่มองหาการ์ดราคาเป็นมิตร, คนที่ใช้กล้องคอมแพคหรือกล้องรุ่นเก่า, การใช้งานทั่วไปที่ไม่ต้องการความเร็วสูงมาก, นักเรียนนักศึกษา

ความจุ	มาตรฐาน SD Card	มาตรฐาน Wi-Fi	ความเร็ว	รองรับไฟล์	รองรับระบบปฏิบัติการ	การรับประกัน	คุณสมบัติเด่น
16GB	SDHC Class 10	802.11 b/g/n (โดยประมาณ)	Class 10 (อ่านสูงสุด 30MB/s โดยประมาณ)	JPEG, วิดีโอ	iOS, Android	(ขึ้นอยู่กับผู้จำหน่าย)	Great bargain

10. Transcend Wi-Fi SD Card 32GB

• ชื่อแบรนด์: Transcend
• ชื่อสินค้า: Transcend Wi-Fi SD Card 32GB
• ราคาสินค้า: ประมาณ 1,000 - 1,600 บาท
• คำอธิบายสินค้า: ขยับความจุขึ้นมาเป็น 32GB สำหรับ Transcend Wi-Fi SD Card. รุ่นนี้เหมาะสำหรับคนที่ต้องการพื้นที่เก็บข้อมูลมากขึ้นหน่อย เพื่อรองรับการถ่ายรูปหรือวิดีโอที่มากขึ้นในแต่ละครั้ง. ยังคงได้ความน่าเชื่อถือจากแบรนด์ Transcend และความสะดวกในการโอนไฟล์แบบไร้สาย. มาตรฐาน Class 10 ทำให้ใช้งานได้ดีกับการถ่ายภาพทั่วไปและการบันทึกวิดีโอ Full HD. เป็นตัวเลือกที่สมดุลระหว่างราคาและความจุ สำหรับคนที่ต้องการการ์ด Wi-Fi SD ที่ใช้งานได้หลากหลายขึ้น โดยไม่ต้องจ่ายแพงเท่ารุ่นโปร. มีแอปพลิเคชันรองรับการใช้งานบนมือถือเช่นกัน.
• จุดเด่นสินค้า: ความจุ 32GB เพียงพอต่อการใช้งาน、แบรนด์ Transcend เชื่อถือได้、มาตรฐาน Class 10、ใช้งานง่ายด้วยแอป、คุ้มค่าคุ้มราคา
• ฟังก์ชันการใช้งาน:
  • โอนถ่ายรูปภาพและวิดีโอไร้สาย: ส่งไฟล์ภาพและวิดีโอจากกล้องไปยังอุปกรณ์พกพาผ่าน Wi-Fi ได้สะดวก รวดเร็ว เหมาะกับการแชร์โมเมนต์สำคัญต่างๆ.
  • พื้นที่เก็บข้อมูลเพียงพอสำหรับการเดินทาง: ความจุ 32GB เพียงพอสำหรับการถ่ายรูปและวิดีโอระหว่างไปเที่ยวทริปสั้นๆ ทำให้ไม่ต้องเปลี่ยนการ์ดบ่อย.
  • ใช้งานร่วมกับแอป Transcend: ควบคุมและจัดการไฟล์ รวมถึงโอนถ่ายข้อมูลผ่านแอปพลิเคชันของ Transcend ที่มีให้ดาวน์โหลดบนสมาร์ทโฟน.
  • ความเร็วที่เหมาะสมกับการใช้งานทั่วไป: ด้วยมาตรฐาน Class 10 ทำให้บันทึกภาพนิ่งและวิดีโอ Full HD ได้อย่างราบรื่น ไม่ติดขัด.
• กลุ่มผู้ใช้งาน/สถานการณ์: ผู้ที่ต้องการความจุมากขึ้น, นักเดินทาง, คนที่ถ่ายวิดีโอ Full HD, ผู้ที่ใช้กล้องรุ่นเก่าไม่มี Wi-Fi, คนที่มองหาการ์ด Wi-Fi SD ที่สมดุลระหว่างราคากับประสิทธิภาพ

ความจุ	มาตรฐาน SD Card	มาตรฐาน Wi-Fi	ความเร็ว	รองรับไฟล์	รองรับระบบปฏิบัติการ	การรับประกัน	คุณสมบัติเด่น
32GB	SDHC Class 10	802.11 b/g/n (โดยประมาณ)	Class 10 (อ่านสูงสุด 30MB/s โดยประมาณ)	JPEG, วิดีโอ	iOS, Android	(ขึ้นอยู่กับผู้จำหน่าย)	Equips a camera with Wi-Fi

คำแนะนำการเลือกซื้อการ์ด Wi-Fi SD ฉบับเซียนช้อปออนไลน์

• 1. เช็คความเข้ากันได้กับกล้องคู่ใจก่อนเลยจ้า!
  อันดับแรกที่สำคัญมากๆ เหมือนเช็คโปรโมชั่นก่อนกดใส่รถเข็นเลยนะ คือต้องดูก่อนว่ากล้องที่คุณใช้อยู่เนี่ย รองรับการ์ด Wi-Fi SD รุ่นที่เราเล็งไว้รึเปล่า. การ์ดพวกนี้บางทีก็เลือกเยอะกับกล้องเก่าๆ หรือกล้องบางยี่ห้อ บางรุ่นนะคะ ไม่ใช่ว่าจะเสียบได้ปุ๊บ ใช้ได้ปั๊บเหมือนการ์ด SD ธรรมดา. ทางที่ดีที่สุดคือ เข้าเว็บไซต์ของผู้ผลิตการ์ด Wi-Fi SD ที่สนใจ แล้วมองหารายชื่อกล้องที่รองรับ (Compatibility List). เค้าจะมีลิสต์มาให้เลยว่ารุ่นไหน ยี่ห้ออะไร ใช้กับการ์ดเค้าได้ชัวร์. ถ้ากล้องของคุณอยู่ในลิสต์ ก็กดสั่งซื้อได้สบายใจหายห่วง. แต่ถ้าไม่เห็นชื่อกล้องของคุณในลิสต์ล่ะ? อันนี้ก็ต้องเสี่ยงดวงหน่อย หรือลองค้นหารีวิวจากคนที่ใช้กล้องรุ่นเดียวกับคุณดูว่าเค้าใช้การ์ด Wi-Fi SD รุ่นไหนได้บ้าง. บางทีก่อนซื้อก็อ่านรีวิวจากคนไทยใน Shopee หรือ Lazada ก็ช่วยได้เยอะนะ เค้าจะบอกเลยว่าใช้กับกล้องรุ่นไหนได้ไม่ได้บ้าง. อย่าเพิ่งวู่วามเห็นแก่ของถูกแล้วซื้อมาเลยนะจ๊ะ เดี๋ยวจะเสียเงินฟรี อดได้รูปสวยๆ มาอวดเพื่อนช่วงเทศกาล ไม่รู้ด้วยน้า! การเช็คความเข้ากันได้เนี่ยเป็นขั้นตอนพื้นฐานที่ห้ามมองข้ามเด็ดขาด เหมือนเวลาเราจะซื้อเสื้อผ้า ก็ต้องเช็คไซส์ก่อนถูกมั้ยล่ะ การ์ดกับกล้องก็เหมือนกัน ต้องเข้ากันได้ถึงจะไปด้วยกันรอดจ้า ไม่งั้นต่อให้การ์ดดีแค่ไหน กล้องไม่รับก็จบเห่เลยนะคะซิส แถมบางทีถ้าใช้การ์ดที่ไม่รองรับ อาจจะมีปัญหาจุกจิกตามมา เช่น โอนไฟล์ช้าบ้าง หลุดบ่อยบ้าง หรือบางฟังก์ชันใช้งานไม่ได้เต็มที่. ดังนั้น ย้ำอีกครั้งว่าเช็ค Compatibility List ก่อนซื้อ สำคัญมาก!
• 2. ความจุและความเร็ว: เลือกให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์การถ่ายรูปของคุณนะจ๊ะ
  เรื่อง ความจุของการ์ด ก็เป็นอีกเรื่องที่ต้องคิดให้ดีก่อนจะเสียตังค์นะคะซิส ถ้าคุณเป็นสายถ่ายรูปเล่นๆ ไม่ได้ถ่ายเยอะมาก ถ่ายเก็บความทรงจำวันหยุด หรือถ่ายอาหารลงสตอรี่ไอจีเบาๆ, การ์ดความจุ 16GB หรือ 32GB ก็อาจจะเพียงพอแล้ว. ราคาก็จะน่ารักๆ หน่อย. แต่ถ้าคุณเป็นสายลั่นชัตเตอร์ ถ่ายรัวๆ เหมือนกลัวโลกแตก หรือชอบถ่ายวิดีโอความละเอียดสูงๆ แบบ Full HD หรือ 4K, อันนี้ต้องจัดความจุเยอะขึ้นมาหน่อยแล้วล่ะค่ะ 64GB หรือมากกว่านั้น ก็จะช่วยให้คุณไม่ต้องคอยลบรูปหรือเปลี่ยนการ์ดบ่อยๆ. คิดดูสิ กำลังเพลินๆ กับการถ่ายรูปสวยๆ อยู่ดีๆ การ์ดเต็ม อารมณ์เสียเลยนะ! นอกจากความจุแล้ว ความเร็วของการ์ด (Class Speed หรือ UHS Speed) ก็มีผลกับการใช้งานโดยตรงนะจ๊ะ ยิ่งตัวเลข Class หรือ UHS สูง ความเร็วในการอ่านและเขียนข้อมูลก็จะยิ่งเร็วขึ้น. สำหรับการ์ด Wi-Fi SD เนี่ย ส่วนใหญ่จะเป็น Class 10 ซึ่งถือว่ามีความเร็วขั้นต่ำที่โอเคสำหรับการถ่ายภาพนิ่งทั่วไปและวิดีโอ Full HD. แต่ถ้าคุณถ่ายวิดีโอ 4K หรือถ่ายภาพรัวมากๆ ในโหมดต่อเนื่อง (Burst Mode) อาจจะต้องมองหาการ์ดที่ระบุความเร็วสูงกว่านี้ หรือมีมาตรฐาน UHS Speed Class (U1, U3) หรือ Video Speed Class (V10, V30, V60, V90) ที่สูงขึ้นตามไปด้วยนะคะ เพราะถ้าการ์ดช้า กล้องอาจจะบันทึกไม่ทัน ถ่ายแล้วค้าง หรือได้ไฟล์ที่ไม่สมบูรณ์นะ. ดังนั้น เลือกความจุให้พอดีกับปริมาณรูปที่คุณถ่าย และเลือกความเร็วให้เหมาะกับประเภทการใช้งานของคุณนะคะ จะได้ไม่หงุดหงิดตอนใช้จริงจ้า.
• 3. แอปพลิเคชันและฟังก์ชันเสริม: ตัวช่วยเพิ่มความสะดวกที่คุณต้องดู!
  สิ่งหนึ่งที่ทำให้การ์ด Wi-Fi SD มันเจ๋งกว่าการ์ดธรรมดาก็ตรงที่มันมีฟังก์ชันเชื่อมต่อไร้สายนี่แหละ. ซึ่งการจะใช้ฟังก์ชันนี้ได้เต็มที่เนี่ย ส่วนใหญ่เราจะต้อง ติดตั้งแอปพลิเคชันเฉพาะของการ์ดนั้นๆ บนสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ต. ก่อนซื้อก็ลองเช็คดูนะว่าแอปของยี่ห้อนั้นๆ เค้า ใช้งานง่ายรึเปล่า มีฟังก์ชันอะไรให้บ้าง. บางแอปเค้าก็แค่ให้ดูรูปและดาวน์โหลดได้ธรรมดา, แต่บางแอปเนี่ยเค้ามีฟังก์ชันเจ๋งๆ อย่างเช่น ดูรูปพรีวิวได้ทันทีหลังจากถ่ายเสร็จ, เลือกโอนเฉพาะรูปที่ต้องการได้, ตั้งค่าการเชื่อมต่อต่างๆ ได้ละเอียดขึ้น, หรือบางรุ่นอย่าง Toshiba FlashAir เค้าก็มีฟังก์ชัน Internet Pass-Thru ที่ให้เราต่อเน็ตมือถือไปพร้อมๆ กับที่เชื่อม Wi-Fi การ์ดได้ด้วยนะ. ฟังก์ชันพวกนี้ช่วยให้ชีวิตง่ายขึ้นเยอะมากๆ โดยเฉพาะเวลาที่เราต้องการความรวดเร็วในการทำงานหรือการแชร์รูป. ลองดูรีวิวแอปของแต่ละยี่ห้อก่อนตัดสินใจก็ได้นะ เค้ามีคนรีวิวไว้เยอะเลยว่าแอปตัวไหนใช้ง่าย ตัวไหนยุ่งยาก. นอกจากแอปแล้ว บางยี่ห้ออย่าง ez Share เค้าก็มีฟังก์ชัน สวิตช์เปิด-ปิด Wi-Fi บนตัวการ์ด ให้ด้วย. อันนี้ก็มีประโยชน์มากๆ ในการ ประหยัดแบตเตอรี่กล้อง เพราะถ้าไม่ได้ใช้ Wi-Fi ก็ปิดไว้ได้เลย ไม่ต้องให้มันทำงานตลอดเวลา. คิดดูสิ กำลังจะถ่ายรูปสวยๆ แบตหมดซะงั้น เสียอารมณ์แย่เลยเนอะ! ดังนั้น นอกจากสเปคการ์ดแล้ว อย่าลืมดูฟังก์ชันเสริมและคุณภาพของแอปพลิเคชันด้วยนะคะ จะได้ใช้งานได้สะดวกและคุ้มค่าที่สุดจ้า.

คำถามพบบ่อย (FAQ) เกี่ยวกับการ์ด Wi-Fi SD

• Q: การ์ด Wi-Fi SD ใช้กับกล้องทุกรุ่นได้ไหม?
  A: ไม่ได้เสมอไปค่ะคุณขา! ความเข้ากันได้ของการ์ด Wi-Fi SD ขึ้นอยู่กับรุ่นและยี่ห้อของกล้องด้วย. กล้องรุ่นเก่ามากๆ หรือบางรุ่นอาจจะไม่รองรับการ์ดประเภทนี้. ควรตรวจสอบ Compatibility List บนเว็บไซต์ของผู้ผลิตการ์ดก่อนซื้อทุกครั้ง เพื่อให้แน่ใจว่ากล้องของคุณใช้งานร่วมกับการ์ดรุ่นนั้นๆ ได้อย่างไม่มีปัญหา. ไม่งั้นอาจจะซื้อมาแล้วใช้ไม่ได้นะจ๊ะ เสียดายเงินแย่เลย.
• Q: ความเร็วของการ์ด Wi-Fi SD มีผลต่อการโอนไฟล์ไหม?
  A: มีผลแน่นอนค่ะ! ความเร็วในการอ่านข้อมูลของการ์ดมีผลโดยตรงกับความเร็วในการโหลดรูปพรีวิวและดาวน์โหลดไฟล์ไปยังอุปกรณ์อื่น. ถ้าการ์ดมีความเร็วในการอ่านสูง คุณก็จะเห็นรูปตัวอย่างและดาวน์โหลดรูปได้เร็วขึ้น. ส่วนความเร็วในการเขียนข้อมูลจะสำคัญตอนที่เราถ่ายรูปหรือบันทึกวิดีโอค่ะ ถ้าความเร็วในการเขียนไม่พอ อาจจะทำให้กล้องบันทึกช้าลงหรือไฟล์เสียได้. ส่วนใหญ่การ์ด Wi-Fi SD มักจะเป็น Class 10 ซึ่งเพียงพอต่อการใช้งานทั่วไป.
• Q: แบตเตอรี่กล้องจะหมดเร็วขึ้นไหมถ้าใช้การ์ด Wi-Fi SD?
  A: ใช่ค่ะ การทำงานของ Wi-Fi บนการ์ดจะใช้พลังงานแบตเตอรี่กล้องเพิ่มขึ้น. ปริมาณการใช้พลังงานจะแตกต่างกันไปในแต่ละรุ่นและยี่ห้อ. บางรุ่นจะมีฟังก์ชันหรือสวิตช์ให้เปิด-ปิด Wi-Fi ได้ ซึ่งช่วยประหยัดแบตเตอรี่ได้มากเมื่อไม่ได้ใช้งานฟังก์ชันไร้สาย. ถ้าคุณกังวลเรื่องแบตหมดเร็ว ก็เลือกการ์ดที่มีฟังก์ชันเปิด-ปิด Wi-Fi ได้ หรือพกแบตเตอรี่สำรองไปด้วยนะคะ.
• Q: การ์ด Wi-Fi SD โอนไฟล์ RAW ได้ไหม?
  A: ส่วนใหญ่การ์ด Wi-Fi SD ทั่วไปจะเน้นการโอนไฟล์ JPEG, เนื่องจากเป็นไฟล์ที่มีขนาดเล็กกว่าและเหมาะกับการแชร์บนโซเชียลมีเดียมากกว่า. แต่ก็มีการ์ด Wi-Fi SD บางรุ่นที่เป็นระดับโปร อย่าง Eye-Fi Mobi Pro ที่สามารถโอนไฟล์ RAW ได้ด้วย. ถ้าคุณเป็นช่างภาพที่ต้องการไฟล์ RAW เพื่อนำไป Process ต่อ ต้องตรวจสอบสเปคของตัวการ์ดให้ดีก่อนซื้อนะคะ ว่ารองรับการโอนไฟล์ประเภท RAW ด้วยรึเปล่า.
• Q: ซื้อการ์ด Wi-Fi SD ได้จากที่ไหนในไทย?
  A: หาซื้อได้ไม่ยากเลยค่ะในยุคช้อปออนไลน์แบบนี้! สามารถหาซื้อได้ตามร้านค้าออนไลน์ชื่อดังในไทย เช่น Shopee และ Lazada. นอกจากนี้ ยังมีร้านขายอุปกรณ์กล้องและไอทีบางร้านที่ยังมีสต็อกการ์ด Wi-Fi SD อยู่บ้าง. แนะนำให้เปรียบเทียบราคาและอ่านรีวิวจากผู้ซื้อคนอื่นๆ ก่อนตัดสินใจ. เช็คชื่อร้านค้าและความน่าเชื่อถือด้วยนะคะ จะได้มั่นใจว่าได้ของแท้และมีการรับประกันที่ดีจ้า.