10 ซาวด์การ์ด เล่นเกม ปี 2025 เสียงสมจริง เพิ่มอรรถรสเกมมิ่ง

user avatar
ZestOfficeSupplies·2025-05-27 18:48
点赞
10 ซาวด์การ์ด เล่นเกม ปี 2025 เสียงสมจริง เพิ่มอรรถรสเกมมิ่ง

สวัสดีค่าาา เหล่าเกมเมอร์และขาช้อปออนไลน์ที่น่ารักทุกคน! วันนี้เจ๊ขอมาเม้าท์มอยเรื่องอุปกรณ์คู่ใจชาวเกมที่เราอาจจะมองข้ามไป นั่นก็คือ "ซาวด์การ์ด" นั่นเองค่ะ! เชื่อมะว่าเสียงเนี่ยแหละ ตัวช่วยเพิ่มอรรถรสเกมมิ่งของเราได้แบบคูณสิบไปเลยนะ ยิ่งปี 2025 นี้ เทคโนโลยีเสียงไปไกลม้ากกกกก เสียงในเกมนี่เหมือนจริงจนขนลุก! ถ้ายังใช้เสียงออนบอร์ดธรรมดาๆ อาจจะพลาดอะไรเด็ดๆ ไปเยอะเลยน้าาา วันนี้เจ๊เลยรวบรวม 10 ซาวด์การ์ดตัวตึงแห่งปี 2025 ที่จะช่วยให้เสียงในเกมเราสมจริง จัดเต็มทุกเม็ด เพิ่มความฟินในการเล่นเกมแบบ non-stop มาฝากกันจ้ะ พร้อมทริคเลือกซื้อแบบง่ายๆ สไตล์เจ๊ รับรองว่าโดนใจ แถมสบายกระเป๋าเหมือนเดิม!

1. Creative – Sound BlasterX G6 (Updated 2025 Edition)

  • ชื่อแบรนด์: Creative
  • ชื่อสินค้า: Sound BlasterX G6 (Updated 2025 Edition)
  • ราคาสินค้า: ประมาณ 4,500 - 6,000 บาท
  • คำอธิบายสินค้า: ตัวนี้คือตำนานแห่งวงการ External Sound Card ที่ Creative เอามาอัปเกรดใหม่ให้ไฉไลกว่าเดิมสำหรับปี 2025 ดีไซน์ยังคงความคลาสสิก พกพาง่าย แต่ข้างในอัดแน่นด้วยชิป DAC/Amp คุณภาพสูง รองรับเสียงระดับ Hi-Res ให้เสียงในเกมคมชัดทุกรายละเอียด แยกมิติเสียงได้แม่นยำจนเหมือนมีหูทิพย์ ช่วยให้จับตำแหน่งศัตรูง่ายขึ้นเยอะ แถมยังขับหูฟังเทพๆ ได้สบาย ตอบโจทย์ทั้งเกมเมอร์สายจริงจังและสายฟังเพลงดูหนัง จัดว่าเป็น External Sound Card ตัวจบที่ครบเครื่องจริงๆ ค่ะ.
  • จุดเด่นสินค้า: ชิป DAC/Amp คุณภาพสูง, เสียงคมชัดระดับ Hi-Res, ระบบจำลองเสียงรอบทิศทางแม่นยำ, รองรับหูฟังหลากหลายอิมพีแดนซ์, ขนาดกะทัดรัดพกพาง่าย
  • ฟังก์ชันการใช้งาน:
    • ระบบจำลองเสียงรอบทิศทาง 7.1 Super X-Fi (Gen 2): เทคโนโลยีเสียงสุดล้ำที่ Creative พัฒนามาจำลองระบบเสียงเซอร์ราวด์ 7.1 ให้สมจริงผ่านหูฟังสเตอริโอธรรมดาๆ ช่วยให้ได้ยินเสียงฝีเท้า เสียงกระสุน หรือเสียงสิ่งแวดล้อมในเกมได้แม่นยำ บอกตำแหน่งเป๊ะๆ เพิ่มความได้เปรียบในการแข่งขัน.
    • ขับหูฟังได้หลากหลาย (สูงสุด 600 โอห์ม): มีแอมพลิฟายเออร์ในตัวที่ทรงพลังพอจะขับหูฟังเกมมิ่งหรือหูฟัง Audiophile ระดับสูงที่มีค่าอิมพีแดนซ์สูงๆ ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ให้เสียงดังฟังชัด มีพลัง และดึงรายละเอียดเสียงออกมาได้ครบถ้วน.
    • ปรับแต่งเสียงผ่านซอฟต์แวร์ Creative App: มาพร้อมซอฟต์แวร์ที่ใช้งานง่าย ให้เราปรับ Equalizer (EQ) สร้างโปรไฟล์เสียงสำหรับเกมแต่ละแนว ปรับการตั้งค่าไมโครโฟน รวมถึงเปิดใช้งานฟีเจอร์ Noise Reduction เพื่อการสื่อสารที่ชัดเจนกับเพื่อนร่วมทีม.
  • กลุ่มผู้ใช้งาน/สถานการณ์ที่เหมาะสม: เกมเมอร์ PC และ Console (PS4, PS5, Switch, Xbox) ที่ต้องการคุณภาพเสียงที่ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด, คนที่ใช้หูฟังคุณภาพสูง, สตรีมเมอร์ที่ต้องการเสียงเกมและเสียงพูดที่คมชัด, ผู้ที่มองหา External Sound Card ที่จบครบในตัว.
อินเตอร์เฟสชิปเสียงความละเอียดเสียงระบบเสียงรองรับหูฟังSNRการเชื่อมต่อ
USB Type-CCustom DAC/Amp32-bit / 384kHzVirtual 7.1 (Super X-Fi), Discrete 5.1 (เฉพาะ Line Out)16 - 600 โอห์ม130 dBOptical In/Out, Line In/Out, Mic In (3.5mm), Headphone Out (3.5mm)

2. EPOS – GSX 1000 2nd Edition

  • ชื่อแบรนด์: EPOS
  • ชื่อสินค้า: GSX 1000 2nd Edition
  • ราคาสินค้า: ประมาณ 7,000 - 9,000 บาท
  • คำอธิบายสินค้า: ซาวด์การ์ดดีไซน์ล้ำที่เกมเมอร์หลายคนใฝ่ฝัน รุ่นที่ 2 นี้ยิ่งน่าสนใจ มาพร้อมปุ่มควบคุมแบบสัมผัสขนาดใหญ่ ใช้งานง่ายสุดๆ ขณะเล่นเกม จุดเด่นคือระบบจำลองเสียงรอบทิศทาง Binaural Rendering ที่ EPOS พัฒนาเอง ให้มิติเสียงที่กว้างและแม่นยำมาก เหมาะกับเกมแนว FPS หรือ Battle Royale ที่เสียงสำคัญมากๆ มี EQ Preset สำหรับเกมโดยเฉพาะ และสลับเสียงระหว่างหูฟังกับลำโพงได้สะดวกโดยไม่ต้องถอดสาย ถือเป็น Sound Card ระดับพรีเมียมที่เน้นประสบการณ์เสียงสำหรับการเล่นเกมโดยเฉพาะ.
  • จุดเด่นสินค้า: ระบบเสียงรอบทิศทาง Binaural Rendering สุดแม่น, ปุ่มควบคุมระบบสัมผัสใช้งานง่าย, EQ Preset สำหรับเกมโดยเฉพาะ, สลับเสียงออกได้สะดวก, ดีไซน์โดดเด่น.
  • ฟังก์ชันการใช้งาน:
    • EPOS 7.1 Binaural Rendering Engine: สร้างประสบการณ์เสียงรอบทิศทาง 7.1 ที่สมจริงและมีมิติเชิงพื้นที่สูง ช่วยให้ผู้เล่นระบุทิศทางและระยะห่างของเสียงต่างๆ ในเกมได้อย่างแม่นยำ ทำให้ตอบสนองต่อสถานการณ์ในเกมได้รวดเร็วยิ่งขึ้น.
    • ควบคุมเสียงและตั้งค่าได้ทันทีด้วย Touch Panel: แผงควบคุมระบบสัมผัสขนาดใหญ่ที่ด้านบนตัวเครื่องช่วยให้ปรับระดับเสียง เปิด/ปิดระบบเสียงรอบทิศทาง หรือเลือก EQ Preset ได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำโดยไม่ต้องออกจากเกม ทำให้ไม่พลาดจังหวะสำคัญ.
    • Game/Chat Audio Mixing: สามารถปรับสมดุลความดังระหว่างเสียงในเกมกับเสียงเพื่อนร่วมทีมในโปรแกรม Voice Chat ได้โดยตรงบนตัว Sound Card ช่วยให้ได้ยินเสียงสื่อสารชัดเจนโดยที่เสียงเกมไม่กลบ ทำให้การทำงานเป็นทีมราบรื่นขึ้น.
  • กลุ่มผู้ใช้งาน/สถานการณ์ที่เหมาะสม: เกมเมอร์ Competitive ที่ต้องการความแม่นยำของเสียงสูงในเกม FPS/Battle Royale, สตรีมเมอร์, ผู้ที่ชื่นชอบดีไซน์ล้ำยุคและการควบคุมที่ง่ายดาย, ผู้ที่ต้องการ Sound Card คุณภาพสูงสำหรับการเล่นเกมเป็นหลัก.
อินเตอร์เฟสชิปเสียงความละเอียดเสียงระบบเสียงรองรับหูฟังSNRการเชื่อมต่อ
USB Type-ADedicated Gaming DAC24-bit / 96kHz (Stereo), 24-bit / 48kHz (7.1 Surround)Virtual 7.1 (EPOS Binaural)25 - 75 โอห์ม>110 dBHeadset Port (3.5mm 4-pole), Speaker Out (3.5mm), Mic In (3.5mm)

3. Creative – Sound Blaster AE-9 (2025 Refresh)

  • ชื่อแบรนด์: Creative
  • ชื่อสินค้า: Sound Blaster AE-9 (2025 Refresh)
  • ราคาสินค้า: ประมาณ 10,000 - 13,000 บาท
  • คำอธิบายสินค้า: ถ้า G6 ว่าเด็ดแล้ว AE-9 คือตัวท็อปสำหรับสาย Internal Sound Card จาก Creative ที่ได้รับการปรับปรุงสำหรับปี 2025 เน้นคุณภาพเสียงระดับ Audiophile พร้อมฟีเจอร์สำหรับเกมเมอร์และ Creator ตัวการ์ดติดตั้งในสล็อต PCIe บนเมนบอร์ด มาพร้อม Audio Control Module แยกสำหรับควบคุมและเชื่อมต่อได้สะดวก มีภาคจ่ายไฟแยกสำหรับเสียงโดยเฉพาะ ทำให้ได้เสียงที่สะอาดและทรงพลัง รองรับหูฟังระดับสูงมากๆ เป็นตัวเลือกสำหรับคนที่ต้องการสุดยอดคุณภาพเสียงและฟังก์ชันที่ครบครันจริงๆ.
  • จุดเด่นสินค้า: คุณภาพเสียงระดับ Audiophile, มาพร้อม Audio Control Module, ภาคจ่ายไฟเสียงแยก, รองรับหูฟังระดับสูงพิเศษ, ฟีเจอร์ครบวงจรสำหรับเกม/เพลง/สตรีมมิ่ง.
  • ฟังก์ชันการใช้งาน:
    • DAC ESS SABRE Class 9038 และ Xamp Bi-amp: ใช้ชิป Digital-to-Analog Converter (DAC) ระดับเรือธงที่ให้คุณภาพเสียงคมชัด มีรายละเอียดสูง และมีแอมพลิฟายเออร์หูฟังแบบ Bi-amp แยกช่องสัญญาณซ้ายขวาเพื่อขับหูฟังได้อย่างทรงพลังและแม่นยำ ลดการรบกวนของสัญญาณ.
    • Audio Control Module (ACM) พร้อม Phantom Power: โมดูลควบคุมที่วางบนโต๊ะ มีช่องเชื่อมต่อหูฟัง ไมโครโฟน (รองรับ XLR พร้อม Phantom Power สำหรับไมค์คอนเดนเซอร์ระดับสตูดิโอ) และปุ่มควบคุมเสียงต่างๆ ช่วยให้เข้าถึงการตั้งค่าได้ง่ายและสะดวก โดยเฉพาะสำหรับสตรีมเมอร์หรือนักร้องที่ใช้ไมค์คุณภาพสูง.
    • CleanLine™ Technology และ DSP ขั้นสูง: เทคโนโลยี CleanLine™ ช่วยตัดเสียงรบกวนจากภาคจ่ายไฟในตัวเคสคอมพิวเตอร์ ทำให้ได้เสียงที่สะอาดบริสุทธิ์ พร้อมชิป Digital Signal Processor (DSP) ขั้นสูงที่ช่วยในการจำลองเสียงรอบทิศทางและประมวลผลเสียงต่างๆ ในเกมได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ.
  • กลุ่มผู้ใช้งาน/สถานการณ์ที่เหมาะสม: เกมเมอร์ Enthusiast ที่ต้องการคุณภาพเสียงสูงสุด, Audiophile ที่ต้องการฟังเพลงคุณภาพสูงบน PC, สตรีมเมอร์/Creator ที่ใช้ไมโครโฟน XLR คุณภาพสตูดิโอ, ผู้ที่ต้องการ Internal Sound Card ระดับ Hi-End พร้อมฟีเจอร์ครบวงจร.
อินเตอร์เฟสชิปเสียงความละเอียดเสียงระบบเสียงรองรับหูฟังSNRการเชื่อมต่อ (บน ACM)การเชื่อมต่อ (บน Card)
PCIeESS SABRE 9038, Xamp32-bit / 384kHzVirtual 7.1 (Super X-Fi), Discrete 5.116 - 600 โอห์ม (หรือสูงกว่า)127 dBHeadphone (3.5mm, 6.3mm), Mic (3.5mm, XLR w/ Phantom Power)Line Out (RCA), Rear Out (3.5mm), Center/Sub Out (3.5mm), Optical In/Out

4. ASUS ROG – Clavis USB-C to 3.5mm DAC (2025 Refresh)

  • ชื่อแบรนด์: ASUS ROG
  • ชื่อสินค้า: Clavis USB-C to 3.5mm DAC (2025 Refresh)
  • ราคาสินค้า: ประมาณ 2,500 - 3,500 บาท
  • คำอธิบายสินค้า: สำหรับเกมเมอร์สายมินิมอล หรือคนที่ใช้โน้ตบุ๊กและต้องการอัปเกรดเสียงแบบง่ายๆ ตัวนี้คือคำตอบ! เป็น DAC/Amp ขนาดเล็กจิ๋วเชื่อมต่อผ่าน USB-C พกพาสะดวกสุดๆ แต่คุณภาพเสียงไม่จิ๋วนะจ๊ะ ให้เสียงที่คมชัดกว่าเสียงออนบอร์ดเยอะมาก มี AI Noise-Canceling Microphone ในตัว ช่วยให้เสียงไมค์เราชัดใส ไร้เสียงรบกวน เหมาะมากสำหรับการเล่นเกมออนไลน์ หรือประชุมงาน ที่สำคัญรองรับหลากหลายแพลตฟอร์ม ทั้ง PC, Mac, มือถือ, หรือแม้แต่เครื่องคอนโซล.
  • จุดเด่นสินค้า: ขนาดเล็กพกพาง่าย, เชื่อมต่อ USB-C, AI Noise-Canceling Mic, คุณภาพเสียงดีกว่าออนบอร์ด, รองรับหลายแพลตฟอร์ม.
  • ฟังก์ชันการใช้งาน:
    • AI Noise-Canceling Microphone Technology: ใช้พลัง AI ในการตรวจจับและลดเสียงรบกวนรอบข้างที่ไม่ต้องการออกจากเสียงไมโครโฟนของเรา ทำให้เสียงพูดของเราชัดเจนและเข้าใจง่ายขึ้นมาก เหมาะกับสภาพแวดล้อมที่มีเสียงดัง เช่น ตอนเล่นเกมกับเพื่อน หรือประชุมงานนอกสถานที่.
    • Integrated DAC and Amplifier: แม้จะเล็กแต่ข้างในมีชิป DAC และ Amp คุณภาพดีกว่าที่อยู่บนเมนบอร์ดทั่วไป ช่วยเพิ่มคุณภาพเสียงของหูฟังตัวโปรด ให้เสียงมีมิติและรายละเอียดมากขึ้น สัมผัสประสบการณ์เสียงที่ดีขึ้นได้ทันทีที่เสียบใช้งาน.
    • USB-C Connectivity and Multi-Platform Support: เชื่อมต่อผ่านพอร์ต USB-C ซึ่งเป็นมาตรฐานใหม่ที่พบได้ทั่วไป ทั้งบน PC, โน้ตบุ๊ก, Mac, สมาร์ทโฟน, และเครื่องเกมคอนโซล ทำให้ใช้งานได้หลากหลายอุปกรณ์ สะดวกสบาย ไม่ต้องพกหลายอย่าง.
  • กลุ่มผู้ใช้งาน/สถานการณ์ที่เหมาะสม: เกมเมอร์โน้ตบุ๊ก, ผู้ที่ต้องการอัปเกรดคุณภาพเสียงและไมโครโฟนแบบง่ายๆ พกพาสะดวก, คนที่เล่นเกมหรือทำงานที่ต้องใช้ Voice Chat บ่อยๆ, ผู้ที่ใช้หลายอุปกรณ์และต้องการ Sound Solution เดียวที่รองรับทั้งหมด.
อินเตอร์เฟสชิปเสียงความละเอียดเสียงระบบเสียงรองรับหูฟังSNRการเชื่อมต่อน้ำหนัก
USB Type-CIntegrated DAC/Amp24-bit / 96kHzStereo (รองรับ Virtual Surround จากซอฟต์แวร์หูฟัง)ทั่วไป (ขึ้นอยู่กับหูฟัง)>100 dB (โดยประมาณ)Headphone/Mic Combo (3.5mm 4-pole)ประมาณ 10 กรัม

5. Creative – Sound Blaster GC7

  • ชื่อแบรนด์: Creative
  • ชื่อสินค้า: Sound Blaster GC7
  • ราคาสินค้า: ประมาณ 5,500 - 7,000 บาท
  • คำอธิบายสินค้า: ตัวนี้เจ๊ว่าเหมาะมากสำหรับเกมเมอร์ที่ชอบสตรีม หรือคนที่ต้องการ Sound Card ที่มีปุ่มควบคุมเยอะๆ ปรับง่ายๆ GC7 เป็น External Sound Card ที่มาพร้อมดีไซน์เหมือน Mixer ขนาดเล็ก มีปุ่มหมุนและปุ่มกดให้ปรับเสียงต่างๆ ได้สะดวก โดยเฉพาะ GameVoice Mix ที่ปรับเสียงเกมกับเสียงแชทได้ทันที มี Super X-Fi ในตัว และเชื่อมต่อได้หลากหลายอุปกรณ์มากๆ ทั้ง PC, Mac, Console รุ่นใหม่ๆ เหมาะสำหรับคนที่อยากควบคุมเสียงได้แบบเรียลไทม์โดยไม่ต้องเข้าโปรแกรม.
  • จุดเด่นสินค้า: แผงควบคุมแบบ Mixer, GameVoice Mix ปรับเสียงแชทได้ทันที, มีปุ่มตั้งค่าโปรแกรมได้ (Programmable Buttons), Super X-Fi ในตัว, รองรับหลายแพลตฟอร์ม.
  • ฟังก์ชันการใช้งาน:
    • GameVoice Mix Feature: ฟังก์ชันนี้ช่วยให้ปรับสมดุลระหว่างความดังของเสียงในเกมและเสียงจากแอปพลิเคชัน Voice Chat (เช่น Discord, TeamSpeak) ได้อย่างง่ายดาย โดยใช้ปุ่มหมุนบนตัวเครื่อง ทำให้สามารถเน้นเสียงเพื่อนร่วมทีมในช่วงเวลาสำคัญในเกมได้อย่างรวดเร็ว.
    • Programmable Buttons: ปุ่ม S1-S4 บนตัวเครื่องสามารถตั้งค่าฟังก์ชันต่างๆ ได้ตามต้องการ เช่น เปิด/ปิด Super X-Fi, เปลี่ยน EQ Profile, หรือ Mute ไมโครโฟน ช่วยให้เข้าถึงคำสั่งที่ใช้บ่อยได้อย่างรวดเร็วโดยไม่ต้องละสายตาจากหน้าจอเกม.
    • Multi-Platform Connectivity: รองรับการเชื่อมต่อที่หลากหลาย ทั้ง USB-C สำหรับ PC/Mac/Switch/PS5, Optical In สำหรับ PS4/Xbox/Soundbar, Line In/Out และช่อง Headset/Mic ทำให้เป็น Sound Card ตัวเดียวที่ใช้งานได้กับอุปกรณ์เกมและเอนเตอร์เทนเมนต์เกือบทุกชนิด.
  • กลุ่มผู้ใช้งาน/สถานการณ์ที่เหมาะสม: สตรีมเมอร์, เกมเมอร์ที่ต้องการควบคุมเสียงแบบเรียลไทม์, ผู้ที่เล่นเกมบนหลายแพลตฟอร์ม, ผู้ที่ต้องการ Sound Card External ที่มีปุ่มควบคุมครบครันและใช้งานง่าย.
อินเตอร์เฟสชิปเสียงความละเอียดเสียงระบบเสียงรองรับหูฟังSNRการเชื่อมต่อ
USB Type-C, Optical InCreative DSP24-bit / 192kHz (Stereo), 24-bit / 48kHz (Surround)Virtual 7.1 (Super X-Fi)16 - 300 โอห์ม (โดยประมาณ)120 dBHeadset (3.5mm 4-pole), Mic In (3.5mm), Line In (3.5mm), Line Out (3.5mm), Optical In/Out, USB-C

6. ASUS – Xonar AE

  • ชื่อแบรนด์: ASUS
  • ชื่อสินค้า: Xonar AE
  • ราคาสินค้า: ประมาณ 2,000 - 3,000 บาท
  • คำอธิบายสินค้า: ถ้ามองหา Internal Sound Card คุณภาพดี ในงบไม่แรงมาก Xonar AE จาก ASUS เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจค่ะ ติดตั้งบนสล็อต PCIe ให้เสียง 7.1 Channel ที่คมชัดกว่าเสียงออนบอร์ดเยอะ มีแอมพลิฟายเออร์หูฟังในตัวที่ขับหูฟังได้ถึง 150 โอห์ม เหมาะกับเกมเมอร์ PC ที่อยากอัปเกรดเสียงแบบถาวรภายในเคส และไม่ได้ต้องการฟีเจอร์หวือหวามากนัก เน้นคุณภาพเสียงที่คุ้มค่ากับราคา.
  • จุดเด่นสินค้า: Internal Sound Card ราคาย่อมเยา, เสียง 7.1 Channel คมชัด, แอมป์หูฟัง 150 โอห์ม, ติดตั้งง่ายบน PCIe, คุณภาพเสียงดีกว่าออนบอร์ด.
  • ฟังก์ชันการใช้งาน:
    • True 7.1 Channel HD Audio: รองรับระบบเสียง 7.1 Channel แบบ Native ทำให้ได้ยินเสียงแยกแชนเนลได้อย่างชัดเจน เมื่อใช้ร่วมกับชุดลำโพง 7.1 หรือหูฟังที่รองรับ ช่วยเพิ่มความดื่มด่ำและความแม่นยำของทิศทางเสียงในเกมได้เป็นอย่างดี.
    • Built-in Headphone Amplifier (150 Ohms): มีภาคขยายสัญญาณสำหรับหูฟังในตัวที่สามารถขับหูฟังที่มีอิมพีแดนซ์สูงถึง 150 โอห์มได้ ให้เสียงที่ดัง มีพลัง และมีรายละเอียดมากขึ้นกว่าการต่อหูฟังกับช่องเสียบออนบอร์ดโดยตรง.
    • Shielding Technology: มีการออกแบบเพื่อลดสัญญาณรบกวนทางไฟฟ้าจากส่วนประกอบอื่นๆ ภายในเคสคอมพิวเตอร์ ทำให้ได้เสียงที่สะอาดและมีคุณภาพสัญญาณต่อเสียงรบกวน (SNR) ที่ดีขึ้น มั่นใจได้ว่าเสียงที่ได้ยินจะใสเคลียร์.
  • กลุ่มผู้ใช้งาน/สถานการณ์ที่เหมาะสม: เกมเมอร์ PC ที่ต้องการอัปเกรดคุณภาพเสียงแบบ Internal, ผู้ที่ใช้หูฟังเกมมิ่งที่มีอิมพีแดนซ์ปานกลาง, ผู้ที่ต้องการระบบเสียง 7.1 Channel ในงบประมาณที่จำกัด, ผู้ที่ต้องการเสียงที่สะอาดกว่าเสียงออนบอร์ด.
อินเตอร์เฟสชิปเสียงความละเอียดเสียงระบบเสียงรองรับหูฟังSNRการเชื่อมต่อฟอร์มแฟคเตอร์
PCIe x1ASUS C-Media CM6632AE24-bit / 192kHzTrue 7.1 Channel16 - 150 โอห์ม110 dBFront Out (3.5mm), Side Out (3.5mm), Rear Out (3.5mm), Center/Sub Out (3.5mm), Mic In (3.5mm), Line In (3.5mm)Half-height

7. EPOS – GSX 300

  • ชื่อแบรนด์: EPOS
  • ชื่อสินค้า: GSX 300
  • ราคาสินค้า: ประมาณ 2,500 - 3,500 บาท
  • คำอธิบายสินค้า: External Sound Card ขนาดเล็กกะทัดรัดจาก EPOS ที่เน้นความเรียบง่ายแต่ให้คุณภาพเสียงที่ดีเกินตัว เหมาะสำหรับเกมเมอร์ที่ต้องการอัปเกรดเสียงจากโน้ตบุ๊กหรือ PC แบบง่ายๆ แค่เสียบ USB ก็ใช้งานได้เลย รองรับเสียงจำลอง 7.1 ช่วยเพิ่มมิติเสียงในเกมได้ดี มีซอฟต์แวร์ให้ปรับ EQ และตั้งค่าต่างๆ ได้ ดีไซน์เรียบหรู มีปุ่มควบคุมเสียงขนาดใหญ่ ใช้งานสะดวก เป็นตัวเริ่มต้นที่ดีสำหรับคนที่อยากลองใช้ External Sound Card.
  • จุดเด่นสินค้า: ราคาเข้าถึงง่าย, ขนาดเล็กพกพาง่าย, ติดตั้งง่ายแบบ Plug and Play, เสียงจำลอง 7.1 คุณภาพดี, มีซอฟต์แวร์ปรับแต่งได้.
  • ฟังก์ชันการใช้งาน:
    • EPOS Gaming Suite Software: มาพร้อมซอฟต์แวร์ที่ช่วยให้ปรับตั้งค่าเสียงต่างๆ ได้อย่างละเอียด เช่น ปรับ Equalizer (EQ) ตามแนวเกมที่เล่น เปิดใช้งานระบบเสียงจำลอง 7.1 ปรับ Gain ไมโครโฟน หรือเปิดใช้งานฟีเจอร์ Noise Reduction เพื่อคุณภาพเสียงที่ดีที่สุด.
    • Virtual 7.1 Surround Sound: จำลองระบบเสียงรอบทิศทาง 7.1 เพื่อเพิ่มมิติและความสมจริงให้กับเสียงในเกม ช่วยให้ระบุทิศทางของเสียงต่างๆ ได้ดีขึ้น แม้จะใช้หูฟังสเตอริโอ ทำให้ดื่มด่ำกับบรรยากาศในเกมได้เต็มที่.
    • Easy Plug-and-Play USB Connection: เชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ผ่านพอร์ต USB Type-A ใช้งานง่ายแบบ Plug-and-Play ไม่ต้องติดตั้งไดรเวอร์ที่ซับซ้อน เพียงเสียบก็พร้อมใช้งานได้ทันที เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่ถนัดเรื่องการติดตั้งฮาร์ดแวร์ภายใน.
  • กลุ่มผู้ใช้งาน/สถานการณ์ที่เหมาะสม: เกมเมอร์โน้ตบุ๊ก, ผู้เริ่มต้นใช้ Sound Card, ผู้ที่ต้องการอัปเกรดเสียงจากออนบอร์ดในงบประมาณจำกัด, ผู้ที่ต้องการ External Sound Card ขนาดเล็กพกพาสะดวก.
อินเตอร์เฟสชิปเสียงความละเอียดเสียงระบบเสียงรองรับหูฟังSNRการเชื่อมต่อน้ำหนัก
USB Type-AEPOS DSP24-bit / 96kHzVirtual 7.125 - 75 โอห์ม>100 dB (โดยประมาณ)Headset Port (3.5mm 4-pole)ประมาณ 160 กรัม

8. Creative – Sound Blaster Z SE

  • ชื่อแบรนด์: Creative
  • ชื่อสินค้า: Sound Blaster Z SE
  • ราคาสินค้า: ประมาณ 3,500 - 4,500 บาท
  • คำอธิบายสินค้า: Sound Blaster Z SE เป็น Internal Sound Card ยอดนิยมตลอดกาลจาก Creative ที่ได้รับการอัปเดตให้ทันสมัยขึ้นสำหรับปี 2025 ยังคงให้คุณภาพเสียงที่ยอดเยี่ยมด้วยชิปเสียง Sound Core3D™ และ SNR สูงถึง 116dB มาพร้อมซอฟต์แวร์รุ่นใหม่ที่ปรับแต่งได้ง่ายขึ้น รองรับทั้งระบบเสียง 5.1 Discrete และ 7.1 Virtual Surround เหมาะสำหรับเกมเมอร์ที่ต้องการ Internal Sound Card คุณภาพดี ในราคาที่สมเหตุสมผล และเน้นคุณภาพเสียงที่ชัดเจน รายละเอียดดี ทั้งสำหรับการเล่นเกม ดูหนัง และฟังเพลง.
  • จุดเด่นสินค้า: คุณภาพเสียงชัดเจนด้วย SNR สูง, ชิปเสียง Sound Core3D™, รองรับ 5.1 Discrete และ 7.1 Virtual, ซอฟต์แวร์ใช้งานง่าย, คุ้มค่าราคา.
  • ฟังก์ชันการใช้งาน:
    • Sound Core3D™ Audio Processor: ชิปประมวลผลเสียงเฉพาะของ Creative ช่วยในการประมวลผลเสียงต่างๆ ในเกมและแอปพลิเคชันได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ รองรับฟีเจอร์เสียงขั้นสูงต่างๆ เช่น EAX Effects, Scout Mode และการจำลองเสียงรอบทิศทาง.
    • High Signal-to-Noise Ratio (116 dB): มีอัตราส่วนสัญญาณต่อเสียงรบกวนที่สูงถึง 116 เดซิเบล ซึ่งหมายถึงสัญญาณเสียงที่บริสุทธิ์ มีเสียงรบกวนน้อย ทำให้ได้ยินรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ในเสียงได้ชัดเจนขึ้น เสียงพื้นหลังที่เคยมี Noise ก็จะเงียบลง สัมผัสได้ถึงความสะอาดของเสียง.
    • CrystalVoice Technology: เทคโนโลยีสำหรับการปรับปรุงคุณภาพเสียงไมโครโฟน ช่วยลดเสียงรบกวนรอบข้าง เสียงสะท้อน และช่วยรักษาความดังของเสียงพูดให้คงที่ ทำให้เสียงสื่อสารกับเพื่อนร่วมทีมชัดเจน ฟังง่าย ไม่มีเสียงรบกวนมากวนใจ.
  • กลุ่มผู้ใช้งาน/สถานการณ์ที่เหมาะสม: เกมเมอร์ PC ที่ต้องการ Internal Sound Card คุณภาพดีในราคาคุ้มค่า, ผู้ที่เน้นคุณภาพเสียงที่ชัดเจนทั้งการเล่นเกม ดูหนัง และฟังเพลง, ผู้ที่ใช้ชุดลำโพง 5.1 หรือหูฟังที่ต้องการเสียงรอบทิศทาง, ผู้ที่ต้องการเสียงไมค์ที่ชัดเจนในการสื่อสาร.
อินเตอร์เฟสชิปเสียงความละเอียดเสียงระบบเสียงรองรับหูฟังSNRการเชื่อมต่อฟอร์มแฟคเตอร์
PCIe x1Sound Core3D™24-bit / 192kHzDiscrete 5.1, Virtual 7.116 - 600 โอห์ม116 dBLine Out (Front, Rear, Center/Sub - 3.5mm), Mic In/Line In (3.5mm), Headphone Out (3.5mm), Optical OutFull-height (รวม Braket)

9. FiiO – K11

  • ชื่อแบรนด์: FiiO
  • ชื่อสินค้า: K11
  • ราคาสินค้า: ประมาณ 3,000 - 4,000 บาท
  • คำอธิบายสินค้า: จริงๆ FiiO เค้าดังเรื่อง DAC/Amp สำหรับสาย Audiophile แต่ K11 ตัวนี้ก็เป็นที่นิยมในกลุ่มเกมเมอร์ที่เน้นคุณภาพเสียงหูฟังแบบเน้นๆ เหมือนกันค่ะ เป็น External DAC/Amp ขนาดกะทัดรัดที่ให้กำลังขับหูฟังสูงมาก คุณภาพเสียงดี สะอาด รายละเอียดชัดเจน เหมาะกับคนที่ใช้หูฟังเกมมิ่งคุณภาพดี หรือหูฟัง Audiophile ที่ต้องการกำลังขับพิเศษ ตัวนี้เน้นคุณภาพเสียงในการฟังโดยตรง ไม่มีฟีเจอร์จำลองเสียงรอบทิศทางหวือหวา แต่ให้เสียง Stereo ที่คมชัดมากๆ.
  • จุดเด่นสินค้า: กำลังขับหูฟังสูงมาก, คุณภาพเสียงดี สะอาด รายละเอียดชัดเจน, เหมาะกับหูฟังขับยาก, ขนาดเล็กเรียบง่าย, ใช้งานง่าย.
  • ฟังก์ชันการใช้งาน:
    • High-Power Headphone Amplifier: มีแอมพลิฟายเออร์หูฟังที่ให้กำลังขับสูง สามารถขับหูฟังที่มีค่าอิมพีแดนซ์สูงๆ หรือหูฟังที่ต้องการกำลังขับมากเป็นพิเศษได้อย่างสบาย ให้เสียงดัง ฟังชัด และดึงศักยภาพสูงสุดของหูฟังออกมาได้.
    • Dedicated DAC Chip: ใช้ชิป Digital-to-Analog Converter (DAC) แยกต่างหาก เพื่อแปลงสัญญาณดิจิทัลจากคอมพิวเตอร์ให้เป็นสัญญาณอนาล็อกสำหรับหูฟัง/ลำโพง โดยลดการรบกวนจากส่วนประกอบอื่นๆ ในคอมพิวเตอร์ ทำให้ได้เสียงที่สะอาดและแม่นยำมากขึ้น.
    • Multiple Gain Levels: มีการตั้งค่า Gain หลายระดับ (Low, Medium, High) ให้เลือก เพื่อให้เหมาะสมกับหูฟังแต่ละรุ่น สามารถปรับกำลังขับให้พอดีกับความต้องการของหูฟังและระดับความดังที่ต้องการฟัง.
  • กลุ่มผู้ใช้งาน/สถานการณ์ที่เหมาะสม: เกมเมอร์ที่ใช้หูฟังเกมมิ่งระดับไฮเอนด์หรือหูฟัง Audiophile, ผู้ที่ต้องการคุณภาพเสียง Stereo ที่คมชัด รายละเอียดดี, ผู้ที่เน้นการฟังเพลงหรือดูหนังบน PC ด้วยหูฟังคุณภาพสูง, ผู้ที่มองหา External DAC/Amp คุณภาพดีในราคาไม่แพง.
อินเตอร์เฟสชิป DACความละเอียดเสียงระบบเสียงกำลังขับหูฟัง (ที่ 32 โอห์ม)SNRการเชื่อมต่อขนาด
USB Type-C, Optical In, Coaxial InCS4319832-bit / 384kHz (USB), DSD256 (USB)Stereo>520 mW>123 dB (A-weighted)Headphone Out (6.35mm, 4.4mm Balanced), Line Out (RCA)105 x 105 x 34 mm

10. Creative – Sound Blaster G1

  • ชื่อแบรนด์: Creative
  • ชื่อสินค้า: Sound Blaster G1
  • ราคาสินค้า: ประมาณ 1,000 - 1,500 บาท
  • คำอธิบายสินค้า: สำหรับเกมเมอร์งบน้อย หรือคนที่อยากลองอัปเกรดเสียงจากโน้ตบุ๊ก/PC แบบประหยัด Sound Blaster G1 เป็นตัวเลือกที่น่ารักน่าคบหาเลยค่ะ เป็น External Sound Card ขนาดเล็กเท่าแฟลชไดรฟ์ เสียบผ่าน USB ให้เสียงดีขึ้นกว่าออนบอร์ดพอสมควร รองรับเสียงจำลอง 7.1 และมีซอฟต์แวร์ให้ปรับแต่งได้นิดหน่อย ถึงจะไม่เทพเท่ารุ่นพี่ๆ แต่ก็ช่วยเพิ่มอรรถรสเกมมิ่งและคุณภาพเสียงไมค์ได้ในราคาเบาๆ เหมาะเป็น Sound Card ตัวแรก หรือเอาไว้ใช้กับโน้ตบุ๊กเวลาเดินทาง.
  • จุดเด่นสินค้า: ราคาถูกมาก, ขนาดเล็กพกพาง่ายสุดๆ, เสียบ USB ใช้งานได้เลย, เสียงดีกว่าออนบอร์ด, รองรับ 7.1 Virtual.
  • ฟังก์ชันการใช้งาน:
    • Virtual 7.1 Surround Sound Engine: แม้ตัวเล็กก็รองรับการจำลองเสียงรอบทิศทาง 7.1 ผ่านซอฟต์แวร์ ช่วยให้สัมผัสได้ถึงมิติเสียงในเกมที่ดีขึ้น ระบุทิศทางของเสียงได้ง่ายขึ้น เพิ่มความสนุกในการเล่นเกมหลากหลายแนว.
    • Scout Mode: ฟังก์ชันพิเศษของ Creative ที่ช่วยเน้นเสียงสำคัญในเกม เช่น เสียงฝีเท้า เสียงโหลดกระสุน ทำให้ได้ยินเสียงเหล่านี้ชัดเจนขึ้น และตอบสนองต่อศัตรูได้เร็วกว่าเดิม เหมาะมากสำหรับเกมแนว FPS ที่ต้องใช้เสียงในการตัดสินใจ.
    • Creative Software Support: สามารถใช้งานร่วมกับซอฟต์แวร์ของ Creative เพื่อปรับ Equalizer (EQ) และตั้งค่าเสียงพื้นฐานอื่นๆ ได้ ทำให้ปรับเสียงให้เข้ากับแนวเกมหรือหูฟังที่ใช้ได้ตามต้องการ.
  • กลุ่มผู้ใช้งาน/สถานการณ์ที่เหมาะสม: เกมเมอร์งบน้อย, ผู้ที่ต้องการอัปเกรดเสียงโน้ตบุ๊กแบบพกพาง่าย, ผู้เริ่มต้นใช้ Sound Card, ผู้ที่ต้องการเสียงที่ดีกว่าออนบอร์ดในราคาประหยัดที่สุด.
อินเตอร์เฟสชิปเสียงความละเอียดเสียงระบบเสียงรองรับหูฟังSNRการเชื่อมต่อขนาด
USB Type-ACreative DSP24-bit / 96kHzVirtual 7.116 - 150 โอห์ม (โดยประมาณ)>90 dB (โดยประมาณ)Headphone/Mic Combo (3.5mm 4-pole)เล็กมาก (ประมาณแฟลชไดรฟ์)

คำแนะนำการเลือกซื้อ Sound Card เล่นเกม ปี 2025

มาถึงช่วงสำคัญละค่ะซิส! หลังจากเห็นตัวเลือก Sound Card ตัวเด็ดๆ ไปแล้ว ทีนี้เรามาดูกันว่า จะเลือกซื้อยังไงให้โดนใจ ได้ของที่คุ้มค่ากับเงินที่เสียไปที่สุด ในฐานะตัวแม่วงการช้อปออนไลน์ เจ๊ขอแนะนำแบบหมดเปลือกตามสไตล์เราๆ ค่ะ.

1. ดูที่ประเภทการเชื่อมต่อและความสะดวกในการใช้งาน
อย่างแรกเลยที่ต้องดูก็คือ Sound Card ที่เราเล็งไว้มันเชื่อมต่อแบบไหน เพราะมันมีหลักๆ อยู่ 2 แบบ คือ Internal Sound Card กับ External Sound Card. Internal เนี่ยจะเสียบเข้ากับสล็อต PCIe บนเมนบอร์ดในเครื่องคอมพิวเตอร์ของเราเลย ข้อดีคือมันติดตั้งอยู่ข้างในเคสเรียบร้อย ไม่เกะกะบนโต๊ะ และโดยทั่วไปมักจะมีคุณภาพเสียงที่ดีและมีฟีเจอร์ครบครันกว่ารุ่น External ในราคาเดียวกัน เพราะใช้พลังงานจากเมนบอร์ดโดยตรง และมักจะใช้ชิปประมวลผลเสียงที่ทรงพลังกว่า ข้อเสียคือต้องเปิดเคสคอมพิวเตอร์เพื่อติดตั้ง อาจจะต้องมีความรู้เรื่องคอมพิวเตอร์นิดหน่อย และจะใช้ได้กับ PC Desktop เท่านั้น โน้ตบุ๊กใช้ไม่ได้นะจ๊ะ. ส่วนแบบ External เนี่ยจะเชื่อมต่อผ่านสาย USB (ส่วนใหญ่จะเป็น USB Type-A หรือ Type-C) ข้อดีคือติดตั้งง่ายมาก แค่เสียบสาย USB ก็พร้อมใช้งานได้เลย พกพาสะดวก สามารถใช้ได้ทั้งกับ PC, โน้ตบุ๊ก, หรือบางรุ่นอาจจะใช้กับเครื่องเกมคอนโซลหรือมือถือได้ด้วย (ตามที่เจ๊แนะนำไปหลายตัวด้านบน). ข้อเสียคือมันจะวางอยู่บนโต๊ะ กินพื้นที่นิดหน่อย และคุณภาพเสียงต่อราคาอาจจะไม่เท่า Internal ในบางกรณี แต่รุ่นใหม่ๆ ก็ทำได้ดีมากๆ แล้วนะ. ถ้าเราใช้ PC Desktop เป็นหลัก อยากได้เสียงที่ดีที่สุดและไม่ติดเรื่องการเปิดเคส เจ๊ว่า Internal ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ แต่ถ้าเน้นความสะดวก พกพาง่าย ใช้กับหลายอุปกรณ์ หรือใช้โน้ตบุ๊กเป็นหลัก External คือคำตอบเลยจ้ะ พิจารณาจากไลฟ์สไตล์การใช้งานของเรานี่แหละ ง่ายสุด!

2. คุณภาพเสียงและฟีเจอร์สำหรับเกมโดยเฉพาะ
ซื้อ Sound Card เล่นเกมทั้งที ก็ต้องดูที่คุณภาพเสียงและฟีเจอร์ที่มันมีสำหรับเกมเมอร์ด้วยนะจ๊ะ ตัวเลขที่ควรรู้ก็คือ ความละเอียดเสียง (Sample Rate และ Bit Depth) ยิ่งสูงยิ่งดี เช่น 24-bit / 192kHz หรือ 32-bit / 384kHz มันบอกถึงความสามารถในการแปลงสัญญาณเสียงดิจิทัลเป็นอนาล็อกที่ละเอียดแค่ไหน เสียงที่ได้ก็จะยิ่งคมชัด มีรายละเอียดมากขึ้น. อีกอันคือค่า SNR (Signal-to-Noise Ratio) ยิ่งสูงยิ่งดี หมายถึงอัตราส่วนของสัญญาณเสียงที่ต้องการต่อเสียงรบกวน ยิ่ง SNR สูง เสียงที่ได้ก็จะยิ่งสะอาด มี Noise หรือเสียงซ่าๆ น้อยลงอย่างเห็นได้ชัด. สำหรับเกมเมอร์ ฟีเจอร์ที่สำคัญมากๆ ก็คือระบบเสียงรอบทิศทาง หรือ Virtual Surround Sound (เช่น 5.1, 7.1) เนี่ยแหละ ตัวนี้จะช่วยจำลองทิศทางของเสียงในเกมได้แม่นยำสุดๆ ทำให้เรารู้ว่าเสียงฝีเท้า เสียงกระสุนมาจากทางไหน ทำให้เราได้เปรียบในการเล่นเกมแนว FPS หรือ Battle Royale เป็นพิเศษ บางตัวอาจจะมีเทคโนโลยีเฉพาะของแบรนด์นั้นๆ ที่ช่วยเพิ่มมิติเสียงให้สมจริงยิ่งขึ้นไปอีก. แอมพลิฟายเออร์หูฟังในตัวก็สำคัญนะ ถ้าเราใช้หูฟังคุณภาพดีที่มีค่าอิมพีแดนซ์สูงๆ (พวกหูฟัง Audiophile หรือหูฟังเกมมิ่งบางรุ่น) Sound Card ที่มีแอมป์ดีๆ จะช่วยขับหูฟังพวกนี้ได้เต็มประสิทธิภาพ ให้เสียงดัง มีพลัง และดึงรายละเอียดเสียงออกมาได้หมด. นอกจากนี้ บางรุ่นยังมีฟีเจอร์พิเศษอื่นๆ เช่น AI Noise-Canceling สำหรับไมโครโฟน ช่วยให้เสียงเราชัดเจนเวลาคุยกับเพื่อนร่วมทีม หรือมี Software Control Panel ที่ให้เราปรับ EQ สร้าง Profile เสียงสำหรับเกมแต่ละแนวได้ ซึ่งฟีเจอร์เหล่านี้ช่วยเพิ่มความได้เปรียบและความสะดวกในการเล่นเกมได้อย่างมากค่ะ.

3. งบประมาณและความคุ้มค่า
แน่นอนว่าปัจจัยเรื่องงบประมาณก็สำคัญไม่แพ้เรื่องฟีเจอร์นะจ๊ะ Sound Card มีให้เลือกหลากหลายราคามากๆ ตั้งแต่หลักพันต้นๆ ไปจนถึงหลักหมื่นเลยทีเดียว. ก่อนซื้อลองตั้งงบประมาณในใจไว้ก่อน แล้วค่อยมาดูว่าในงบที่เรามี ได้ Sound Card ที่มีฟีเจอร์และคุณภาพเสียงที่เราต้องการหรือเปล่า. ถ้าเป็นเกมเมอร์ทั่วไปที่อยากได้เสียงที่ดีขึ้นจากออนบอร์ด แต่ไม่ได้จริงจังถึงขั้นแข่งขันระดับโปร หรือไม่ได้ใช้หูฟังราคาสูงลิบลิ่ว Sound Card ในช่วงราคาไม่เกิน 3,000-5,000 บาท ก็มีตัวเลือกที่ดีและให้คุณภาพเสียงที่น่าพอใจเยอะเลยค่ะ. แต่ถ้าเป็นเกมเมอร์จริงจัง สตรีมเมอร์ หรือ Audiophile ที่ใช้หูฟังเทพๆ หรือต้องการฟีเจอร์ขั้นสูง เช่น การเชื่อมต่อไมค์แบบ XLR หรือคุณภาพเสียงระดับสตูดิโอ ก็อาจจะต้องขยับงบขึ้นไปอีกหน่อยเพื่อให้ได้ Sound Card ระดับ Hi-End ที่ตอบโจทย์การใช้งานได้อย่างเต็มที่. อย่าลืมดูโปรโมชั่นในช่วงเทศกาลต่างๆ หรือช่วงโปรโมชั่นใหญ่ๆ ของแพลตฟอร์มช้อปปิ้งออนไลน์ในไทยด้วยนะจ๊ะ บางทีอาจจะได้ Sound Card ตัวท็อปในราคาที่คุ้มค่ากว่าเดิมเยอะเลย! การซื้อออนไลน์ในไทยก็สะดวกสบาย มีรีวิวจากผู้ใช้จริงให้อ่านประกอบการตัดสินใจเยอะแยะ แถมบางร้านยังมีบริการเก็บเงินปลายทางด้วยนะ ถูกใจขาช้อปสุดๆ. สรุปคือ เลือกให้เหมาะสมกับการใช้งานและงบที่เราตั้งไว้ ไม่จำเป็นต้องซื้อแพงที่สุดเสมอไป เลือกตัวที่ฟีเจอร์ตอบโจทย์และให้คุณภาพเสียงที่เราพอใจในราคาที่เราไหว แค่นี้ก็คุ้มค่าแล้วจ้า.

คำถามพบบ่อย (FAQ) เกี่ยวกับ Sound Card เล่นเกม

  • Q: เสียงออนบอร์ดบนเมนบอร์ดสมัยนี้ดีพอสำหรับการเล่นเกมแล้วหรือยัง?
    A: เสียงออนบอร์ดบนเมนบอร์ดรุ่นใหม่ๆ พัฒนาไปมากและดีขึ้นกว่าสมัยก่อนเยอะค่ะ สำหรับเกมเมอร์ทั่วไปที่ไม่ได้เน้นคุณภาพเสียงระดับสูงมาก หรือไม่ได้ใช้หูฟังราคาสูงลิบ เสียงออนบอร์ดก็อาจจะเพียงพอต่อการใช้งานได้. แต่ถ้าคุณเป็นเกมเมอร์ที่จริงจัง ต้องการความได้เปรียบด้านเสียงในการแข่งขัน หรืออยากได้ความดื่มด่ำในบรรยากาศเกมสูงสุด หรือใช้หูฟังคุณภาพดีที่ต้องการกำลังขับ Sound Card แยกจะให้คุณภาพเสียงที่ดีกว่าอย่างเห็นได้ชัด ทั้งในเรื่องความคมชัด รายละเอียด มิติเสียง และฟีเจอร์พิเศษต่างๆ ที่ไม่มีในออนบอร์ดค่ะ. การมี Sound Card แยกยังช่วยลดภาระ CPU ในการประมวลผลเสียงได้อีกด้วยนะ.
  • Q: External Sound Card กับ Internal Sound Card แบบไหนดีกว่าสำหรับเล่นเกม?
    A: ไม่มีแบบไหนดีกว่าแบบไหนแบบฟันธง ขึ้นอยู่กับความต้องการและการใช้งานของคุณเลยค่ะ. Internal Sound Card มักจะให้คุณภาพเสียงที่สูงกว่าในราคาที่เท่ากัน และไม่มีสายเกะกะบนโต๊ะ เหมาะกับ PC Desktop. ส่วน External Sound Card ติดตั้งง่ายกว่า พกพาสะดวก ใช้ได้กับหลายอุปกรณ์ และหลีกเลี่ยงสัญญาณรบกวนภายในเคสได้ดีกว่า. ถ้าเน้นความสะดวกและใช้หลายอุปกรณ์ เลือก External แต่ถ้าเน้นคุณภาพเสียงสูงสุดบน PC Desktop และไม่ติดเรื่องการติดตั้ง Internal ก็เป็นตัวเลือกที่ดีค่ะ.
  • Q: ระบบเสียง 5.1 กับ 7.1 Surround Sound ต่างกันอย่างไร และจำเป็นสำหรับเกมเมอร์ไหม?
    A: ระบบ 5.1 Surround Sound จะมีลำโพง 5 ตัว (หน้าซ้าย, หน้าขวา, กลาง, หลังซ้าย, หลังขวา) และ 1 Subwoofer. ระบบ 7.1 จะเพิ่มลำโพงด้านข้างเข้ามาอีก 2 ตัว (ข้างซ้าย, ข้างขวา) ทำให้มีลำโพงรวม 7 ตัว บวก 1 Subwoofer. ระบบ 7.1 ให้มิติเสียงรอบทิศทางที่ละเอียดและแม่นยำกว่า 5.1 ช่วยให้ระบุตำแหน่งเสียงในเกมได้ดีขึ้น. สำหรับเกมเมอร์ โดยเฉพาะแนว FPS หรือ Battle Royale ระบบ Surround Sound ถือว่าจำเป็นมากๆ เพราะช่วยเพิ่มความได้เปรียบในการได้ยินเสียงฝีเท้าหรือเสียงอื่นๆ จากทิศทางที่ถูกต้อง. Sound Card ส่วนใหญ่จะรองรับ Virtual Surround Sound ซึ่งเป็นการจำลองเสียงรอบทิศทางผ่านหูฟังสเตอริโอ ซึ่งก็ให้ประสบการณ์ที่สมจริงใกล้เคียงกับการใช้ชุดลำโพงจริงในห้องขนาดเล็กแล้วค่ะ.
  • Q: Sound Card ช่วยให้เสียงไมโครโฟนดีขึ้นจริงไหม?
    A: จริงค่ะ Sound Card ที่มีคุณภาพดีมักจะมีชิปประมวลผลเสียงและเทคโนโลยีพิเศษสำหรับไมโครโฟนโดยเฉพาะ เช่น ระบบ Noise Reduction (ลดเสียงรบกวน), Echo Cancellation (ตัดเสียงสะท้อน) หรือ Auto Gain Control (ปรับความดังเสียงอัตโนมัติ). ฟีเจอร์เหล่านี้ช่วยให้เสียงพูดของเราผ่านไมค์ชัดเจนขึ้นมาก ลดเสียงพื้นหลังที่ไม่ต้องการ ทำให้เพื่อนร่วมทีมได้ยินเราชัดเจนในการสื่อสารระหว่างเล่นเกม หรือทำให้เสียงเราดีขึ้นเวลาสตรีมหรือประชุมออนไลน์ค่ะ.
  • Q: ควรตั้งงบประมาณเท่าไหร่ในการซื้อ Sound Card เล่นเกม?
    A: งบประมาณในการซื้อ Sound Card เล่นเกมมีความยืดหยุ่นมากค่ะ ขึ้นอยู่กับความต้องการและอุปกรณ์เสียงที่เราใช้. ถ้าเริ่มต้นและอยากได้เสียงที่ดีกว่าออนบอร์ดชัดเจน ในช่วงราคา 1,000 - 3,000 บาท ก็มี External Sound Card ขนาดเล็กที่ให้คุณภาพเสียงที่ดีขึ้นพอตัว. ถ้าต้องการคุณภาพเสียงที่ดีขึ้นไปอีก มีฟีเจอร์ครบครันขึ้น รองรับหูฟังได้หลากหลายขึ้น ในช่วงราคา 3,000 - 7,000 บาท มีตัวเลือกทั้ง Internal และ External คุณภาพดีมากมาย. ส่วนถ้าเป็นเกมเมอร์ Enthusiast, สตรีมเมอร์จริงจัง, หรือ Audiophile ที่ต้องการคุณภาพเสียงสูงสุด รองรับหูฟังขับยากมาก หรือต้องการเชื่อมต่อระดับโปร งบประมาณ 7,000 บาทขึ้นไป ก็จะได้ Sound Card ระดับ Hi-End ที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการค่ะ. อย่าลืมเปรียบเทียบราคาจากหลายๆ ร้านและดูรีวิวประกอบการตัดสินใจเพื่อให้ได้ของที่คุ้มค่าที่สุดนะคะ.

วิดีโอที่เกี่ยวข้อง

บทความล่าสุดดูเพิ่มเติม

สวัสดีครับสายช้อปออนไลน์ทุกท่าน! ถ้าคุณกำลังมองหาหูฟังใหม่ไว้ฟังเพลง ดูหนัง หรือเล่นเกมปี 2025 นี้ บอกเลยว่าตลาดหูฟังเดือดสุดๆ รุ่นใหม่ๆ โผล่มาเพียบ ทั้งดีไซน์ล้ำ เสียงเทพ ฟีเจอร์จัดเต็ม จะสายเปย์ สายประหยัด หรือสายแฟชั่นก็มีให้เลือกครบ วัน
10 Headphone ยี่ห้อไหนดี ปี 2025 เสียงเทพ ดีไซน์โดนใจ
สวัสดีครับเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ เกมเมอร์ชาวไทย! วันนี้มาเจอกับผมในฐานะกูรูนักช้อปออนไลน์เจ้าเก่า ที่จะมาเจาะลึกเรื่องอุปกรณ์คู่ใจของชาวเรา นั่นก็คือ "หูฟังเกมมิ่ง" นั่นเอง! สำหรับใครที่งบน่ารักๆ ไม่เกิน 1,000 บาท แต่อยากได้หูฟังเสียงชัด แยกทิศ
10 หูฟังเกมมิ่ง ราคาไม่เกิน 1000 ยี่ห้อไหนดี ปี 2025 เสียงชัด แยกทิศทางแม่น
สวัสดีครับพี่น้องชาวนักช้อปออนไลน์ทุกท่าน! วันนี้ผมผู้เชี่ยวชาญด้านการช้อปปิ้งออนไลน์ตัวยงของเมืองไทย ขอพาทุกคนดำดิ่งสู่โลกแห่งเสียงเพลงแบบสบายกระเป๋า กับหัวข้อที่ว่าด้วย "10 หูฟัง ราคาไม่เกิน 2000 ยี่ห้อไหนดี ปี 2025 เสียงดีเกินราคา ฟังก์ช
10 หูฟัง ราคาไม่เกิน 2000 ยี่ห้อไหนดี ปี 2025 เสียงดีเกินราคา ฟังก์ชันครบ

บทความยอดนิยม