สวัสดีครับทุกคน! กลับมาแล้วจ้ากับสาระแน่นๆ สไตล์คนวงการไอทีและเกมมิ่ง ที่สำคัญคือเอาใจสายช้อปออนไลน์แบบเราๆ นี่แหละ! วันนี้จะมาคุยกันเรื่องคีย์บอร์ด Mechanical Switch สุดฮิต โดยเฉพาะเจ้า Blue Switch ที่หลายคนเลิฟในเสียงคลิกอันเป็นเอกลักษณ์ พิมพ์ก็มันส์ เล่นเกมก็เร้าใจ บอกเลยว่าปี 2025 นี้มีตัวเด็ดๆ น่าโดนเพียบ ใครที่กำลังเล็งหาคู่หูคนใหม่ให้โต๊ะคอมฯ เตรียมตัวให้พร้อม!
1. Keychron K8
- ชื่อแบรนด์: Keychron
- ชื่อสินค้า: K8 Wireless Mechanical Keyboard (Thai-ENG)
- ราคาสินค้า: 3,000 - 4,000 บาท
- คำอธิบายสินค้า: Keychron K8 เป็นคีย์บอร์ด TKL (Tenkeyless) ยอดนิยมที่ครบเครื่องทั้งการใช้งานแบบมีสายและไร้สายผ่าน Bluetooth เชื่อมต่อได้หลายอุปกรณ์พร้อมกัน ดีไซน์มินิมอล วัสดุดีงาม ให้สัมผัสการพิมพ์ที่ยอดเยี่ยม มีไฟ RGB ปรับได้หลากหลายรูปแบบ แบตเตอรี่อึดใช้ได้นาน เหมาะกับคนที่ต้องการคีย์บอร์ดคู่ใจที่ใช้ได้ทั้งทำงานและเล่นเกมในชีวิตประจำวัน ด้วยขนาดที่ไม่ใหญ่เกินไป ทำให้มีพื้นที่บนโต๊ะมากขึ้นสำหรับการใช้งานเมาส์ โดยเฉพาะชาว Mac ก็ใช้งานได้ดีเยี่ยมเช่นกัน
- จุดเด่นสินค้า: รองรับ Mac/Windows, เชื่อมต่อไร้สายหลายอุปกรณ์, ดีไซน์มินิมอลสวยงาม, ไฟ RGB สวยงาม, แบตเตอรี่อึด
- ฟังก์ชันการใช้งาน:
- การเชื่อมต่อแบบไร้สายและมีสาย: สามารถสลับการใช้งานระหว่าง Bluetooth และ USB Type-C ได้อย่างง่ายดาย เหมาะกับการใช้งานกับคอมพิวเตอร์หลายเครื่องหรือพกพาไปใช้นอกสถานที่ได้อย่างสะดวกสบาย ไม่ต้องยุ่งยากเรื่องสายเกะกะ
- รองรับการใช้งานข้ามระบบปฏิบัติการ: มีสวิตช์สำหรับสลับโหมดระหว่าง Windows และ macOS ทำให้ผู้ใช้งาน Apple สามารถใช้งานฟังก์ชันคีย์ลัดต่างๆ ได้อย่างครบถ้วนและไม่มีปัญหาในการใช้งานประจำวัน
- ไฟ RGB ปรับแต่งได้: มาพร้อมระบบไฟ RGB ที่สามารถปรับเปลี่ยนโหมด สี และความสว่างได้หลากหลายรูปแบบ ช่วยเพิ่มความสวยงามและบรรยากาศให้กับโต๊ะทำงานหรือโต๊ะเกมมิ่งของคุณ สร้างความเพลิดเพลินในการใช้งานยามค่ำคืน
- กลุ่มผู้ใช้งาน/สถานการณ์: นักเรียน นักศึกษา, คนทำงานออฟฟิศ, โปรแกรมเมอร์, เกมเมอร์ทั่วไป, ผู้ใช้ Mac
ประเภทสวิตช์ | รูปแบบ | การเชื่อมต่อ | ไฟ Backlight | วัสดุเฟรม | รองรับ OS | ขนาด (ปุ่ม) |
---|
Gateron/Keychron Blue | TKL (87) | Bluetooth 5.1 / USB-C | RGB | Aluminum / Plastic | Windows / macOS / iOS / Android | 87 |
2. ASUS ROG Strix Scope II
- ชื่อแบรนด์: ASUS ROG
- ชื่อสินค้า: Strix Scope II Mechanical Gaming Keyboard
- ราคาสินค้า: 3,500 - 4,500 บาท
- คำอธิบายสินค้า: คีย์บอร์ดเกมมิ่ง Full-size จาก ROG ที่ออกแบบมาเพื่อการเล่นเกมโดยเฉพาะ มาพร้อมสวิตช์ ROG NX Storm (Clicky) ซึ่งเทียบเคียง Blue Switch แต่ปรับแต่งมาเพื่อการตอบสนองที่ดียิ่งขึ้น มีฟีเจอร์ครบครันสำหรับเกมเมอร์ ทั้งปุ่ม Macro, ปุ่มควบคุมสื่อ, ที่วางข้อมือแม่เหล็ก และไฟ RGB Aura Sync ที่ซิงค์กับอุปกรณ์อื่นๆ ของ ROG ได้ วัสดุแข็งแรงทนทาน ตอบสนองรวดเร็ว เหมาะกับเกมเมอร์ที่ต้องการความแม่นยำและฟังก์ชันเสริมในการแข่งขัน
- จุดเด่นสินค้า: สวิตช์ ROG คุณภาพสูง, มีปุ่ม Macro/Multimedia, ที่วางข้อมือแม่เหล็ก, ไฟ Aura Sync RGB, วัสดุแข็งแรง
- ฟังก์ชันการใช้งาน:
- สวิตช์ ROG NX Storm: เป็นสวิตช์แบบ Clicky ที่พัฒนาโดย ROG เอง ให้เสียงคลิกที่ชัดเจนและสัมผัสการกดที่ตอบสนองได้ทันที มีระยะการทำงานและการคืนตัวที่เหมาะสมสำหรับการเล่นเกมที่ต้องการความเร็วและความแม่นยำ
- ปุ่ม Macro และปุ่มควบคุมสื่อ: สามารถตั้งค่าปุ่ม Macro เพื่อใช้งานคำสั่งที่ซับซ้อนในการเล่นเกมได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ยังมีปุ่มแยกสำหรับควบคุมระดับเสียงและการเล่นเพลง/วิดีโอ ทำให้ไม่ต้องละสายตาจากหน้าจอระหว่างเล่นเกม
- ระบบไฟ Aura Sync RGB: ปรับแต่งแสงไฟ RGB ได้อย่างอิสระกว่า 16.8 ล้านสี และสามารถซิงค์เอฟเฟกต์แสงกับอุปกรณ์เกมมิ่งอื่นๆ ในระบบ ASUS Aura Sync ได้ สร้างบรรยากาศการเล่นเกมที่สมจริงและสวยงาม
- กลุ่มผู้ใช้งาน/สถานการณ์: เกมเมอร์ฮาร์ดคอร์, นักกีฬา E-sports, ผู้ที่ต้องการคีย์บอร์ดเกมมิ่งฟังก์ชันครบครัน
ประเภทสวิตช์ | รูปแบบ | การเชื่อมต่อ | ไฟ Backlight | วัสดุ | ฟีเจอร์เด่น | N-Key Rollover |
---|
ROG NX Storm (Clicky) | Full-size (100%) | USB 2.0 | Aura Sync RGB | Aluminum / Plastic | Macro, Multimedia Keys, Wrist Rest | 100% Anti-Ghosting |
3. Corsair K70 RGB MK.2
- ชื่อแบรนด์: Corsair
- ชื่อสินค้า: K70 RGB MK.2 Mechanical Gaming Keyboard
- ราคาสินค้า: 4,000 - 5,500 บาท
- คำอธิบายสินค้า: หนึ่งในคีย์บอร์ดเกมมิ่งระดับท็อปที่เกมเมอร์หลายคนใฝ่ฝัน ด้วยโครงสร้างอลูมิเนียมเกรดอากาศยานที่แข็งแรงทนทาน มาพร้อม Cherry MX Blue Switch ที่ให้สัมผัสและเสียงอันเป็นเอกลักษณ์ มีปุ่ม Macro แยก, ปุ่มควบคุมสื่อโดยเฉพาะ, ลูกกลิ้งปรับเสียง, พอร์ต USB Passthrough และไฟ RGB Per-key ปรับแต่งได้อิสระผ่านซอฟต์แวร์ iCUE ตอบสนองการใช้งานที่หนักหน่วงและมอบประสบการณ์การเล่นเกมที่ดีที่สุด
- จุดเด่นสินค้า: โครงสร้างอลูมิเนียม, Cherry MX Blue Switch, ปุ่ม Macro/Multimedia ครบครัน, พอร์ต USB Passthrough, ซอฟต์แวร์ iCUE
- ฟังก์ชันการใช้งาน:
- Cherry MX Blue Switch: ใช้สวิตช์กลไก Cherry MX Blue แท้ๆ ซึ่งเป็นที่ยอมรับในเรื่องความทนทานและความแม่นยำ ให้ฟีดแบ็กการกดแบบ Tactile พร้อมเสียง Clicky ที่ชัดเจน เหมาะสำหรับทั้งการพิมพ์งานและเล่นเกมที่ต้องการจังหวะการกดที่แม่นยำ
- ปุ่ม Macro และควบคุมสื่อ: มีปุ่ม G-keys เฉพาะสำหรับตั้งค่า Macro ที่ซับซ้อนในการเล่นเกมได้อย่างรวดเร็ว และมีชุดปุ่มควบคุมสื่อพร้อมลูกกลิ้งปรับเสียงโลหะที่ใช้งานง่าย ทำให้ควบคุมความบันเทิงได้โดยไม่ต้องออกจากเกม
- พอร์ต USB Passthrough: สะดวกสบายด้วยพอร์ต USB ที่อยู่บนตัวคีย์บอร์ด ทำให้สามารถเสียบเมาส์ ชุดหูฟัง หรืออุปกรณ์อื่นๆ ได้โดยตรง ไม่ต้องเอื้อมไปเสียบที่เคสคอมพิวเตอร์ ลดความยุ่งยากในการเชื่อมต่อ
- กลุ่มผู้ใช้งาน/สถานการณ์: เกมเมอร์มืออาชีพ, ผู้ที่ต้องการคีย์บอร์ดคุณภาพสูง ทนทาน พร้อมฟีเจอร์ครบครัน, คนที่ชอบแบรนด์ Corsair
ประเภทสวิตช์ | รูปแบบ | การเชื่อมต่อ | ไฟ Backlight | วัสดุ | ฟีเจอร์เสริม | N-Key Rollover | Software |
---|
Cherry MX Blue | Full-size (100%) | USB 2.0 (Passthrough) | Per-key RGB | Aircraft-grade Aluminum | Macro Keys, Multimedia Controls, USB Passthrough | 100% Anti-Ghosting | Corsair iCUE |
4. Logitech G512 SE
- ชื่อแบรนด์: Logitech
- ชื่อสินค้า: G512 SE Mechanical Gaming Keyboard (GX Blue Switch)
- ราคาสินค้า: 2,500 - 3,500 บาท
- คำอธิบายสินค้า: คีย์บอร์ดเกมมิ่งดีไซน์เรียบหรูจาก Logitech ที่มาพร้อมสวิตช์ GX Blue (Clicky) ให้สัมผัสการกดแบบสองจังหวะพร้อมเสียงคลิกที่ตอบสนองได้ดี โครงสร้างทำจากอลูมิเนียมอัลลอยด์ 5052 เกรดเดียวกับที่ใช้ในอากาศยาน ทนทานแข็งแรง มีไฟ LIGHTSYNC RGB ปรับแต่งได้ผ่านซอฟต์แวร์ G HUB รองรับการกดพร้อมกันหลายปุ่ม เหมาะสำหรับเกมเมอร์และคนที่มองหาคีย์บอร์ด Mechanical คุณภาพดีในราคาที่เข้าถึงง่าย
- จุดเด่นสินค้า: GX Blue Switch, โครงสร้างอลูมิเนียม, ไฟ LIGHTSYNC RGB, ซอฟต์แวร์ G HUB, ราคาเข้าถึงง่าย
- ฟังก์ชันการใช้งาน:
- สวิตช์ GX Blue: เป็นสวิตช์ Mechanical สไตล์ Clicky ที่ให้ฟีดแบ็กการกดที่ชัดเจน พร้อมเสียงคลิกที่เป็นเอกลักษณ์ เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบความรู้สึกเหมือนพิมพ์ดีด ได้ความแม่นยำในการพิมพ์และตอบสนองได้ดีในการเล่นเกม
- โครงสร้างอลูมิเนียมอัลลอยด์: วัสดุอลูมิเนียมเกรดพรีเมียมไม่เพียงแต่ให้ความสวยงาม แต่ยังเพิ่มความแข็งแรงทนทานให้กับคีย์บอร์ด ทำให้มั่นใจได้ว่าจะใช้งานได้ยาวนาน แม้จะผ่านการใช้งานหนักๆ ก็ตาม
- ไฟ LIGHTSYNC RGB: ระบบไฟ RGB ของ Logitech ที่สามารถปรับแต่งเอฟเฟกต์แสง สี และรูปแบบการแสดงผลได้อย่างละเอียดผ่านซอฟต์แวร์ Logitech G HUB สร้างบรรยากาศที่เข้ากับสไตล์การเล่นเกมหรือการทำงานของคุณ
- กลุ่มผู้ใช้งาน/สถานการณ์: เกมเมอร์งบปานกลาง, คนทำงานที่ชอบคีย์บอร์ด Mechanical เสียงคลิก, ผู้ใช้ผลิตภัณฑ์ Logitech อื่นๆ
ประเภทสวิตช์ | รูปแบบ | การเชื่อมต่อ | ไฟ Backlight | วัสดุ | Software | N-Key Rollover |
---|
Logitech GX Blue | Full-size (100%) | USB | LIGHTSYNC RGB | Aluminum-Magnesium Alloy | Logitech G HUB | Supported |
5. Razer BlackWidow V3
- ชื่อแบรนด์: Razer
- ชื่อสินค้า: BlackWidow V3 Mechanical Gaming Keyboard (Razer Green Switch)
- ราคาสินค้า: 4,000 - 5,000 บาท
- คำอธิบายสินค้า: คีย์บอร์ดเกมมิ่ง iconic จาก Razer ที่หลายคนรู้จัก มาพร้อม Razer Green Mechanical Switch ซึ่งเป็นสวิตช์สไตล์ Clicky ที่ให้เสียงและสัมผัสใกล้เคียง Blue Switch แต่มีความเป็น Razer เอกลักษณ์เฉพาะตัว Keycaps ดับเบิ้ลช็อต ABS ทนทาน ปุ่มโปรแกรม Macro ได้เต็มรูปแบบ ผ่านซอฟต์แวร์ Razer Synapse 3 มีที่พักข้อมือตามหลักสรีรศาสตร์ และไฟ Razer Chroma™ RGB ปรับแต่งได้อิสระ เหมาะกับเกมเมอร์ที่ต้องการคีย์บอร์ดประสิทธิภาพสูงจากแบรนด์ชั้นนำ
- จุดเด่นสินค้า: Razer Green Switch, Keycaps ดับเบิ้ลช็อต ABS, ซอฟต์แวร์ Razer Synapse 3, ที่พักข้อมือ, ไฟ Razer Chroma RGB
- ฟังก์ชันการใช้งาน:
- Razer Green Mechanical Switch: สวิตช์เฉพาะของ Razer ที่ออกแบบมาเพื่อการเล่นเกมโดยเฉพาะ ให้เสียงคลิกที่ชัดเจนและสัมผัสการตอบสนองที่แม่นยำ มีระยะการกดและการคืนตัวที่เหมาะสม ช่วยให้มั่นใจได้ทุกการสั่งการในเกม
- Keycaps ดับเบิ้ลช็อต ABS: ผลิตด้วยกระบวนการดับเบิ้ลช็อต ทำให้ตัวอักษรบนปุ่มมีความทนทาน ไม่ลอกหรือจางง่าย แม้จะใช้งานหนักเป็นเวลานาน ให้ความรู้สึกในการพิมพ์ที่แข็งแรงและมั่นคง
- ระบบไฟ Razer Chroma™ RGB: ปรับแต่งแสงไฟ RGB ได้อย่างละเอียดและซิงค์กับอุปกรณ์อื่นๆ ในระบบ Razer Chroma™ ได้ สร้างประสบการณ์การเล่นเกมที่สมจริงและเต็มอิ่มด้วยแสงสีที่เข้ากัน
- กลุ่มผู้ใช้งาน/สถานการณ์: เกมเมอร์ที่เน้นแบรนด์ Razer, ผู้ที่ต้องการคีย์บอร์ดเกมมิ่งพร้อมที่พักข้อมือ, คนที่ชอบแสงไฟ RGB จัดเต็ม
ประเภทสวิตช์ | รูปแบบ | การเชื่อมต่อ | ไฟ Backlight | วัสดุ | Software | อายุการใช้งาน (คลิก) |
---|
Razer Green (Clicky) | Full-size / TKL | USB | Razer Chroma RGB | Aluminum / Plastic | Razer Synapse 3 | 80 ล้าน |
6. Nubwo X804 CYGNU
- ชื่อแบรนด์: Nubwo
- ชื่อสินค้า: X804 CYGNU Mechanical Keyboard (Blue Switch)
- ราคาสินค้า: 600 - 800 บาท
- คำอธิบายสินค้า: คีย์บอร์ดเกมมิ่งขนาด 82 ปุ่ม (Compact TKL) ที่คุ้มค่าเกินราคา มาพร้อม Blue Switch (ส่วนใหญ่เป็น Outemu) ให้เสียงคลิกที่โดนใจ และสัมผัสที่ตอบสนองได้ดี มีไฟ Mini RGB หลายโหมดให้เลือก ปรับแต่ง Macro ได้ง่ายผ่านซอฟต์แวร์ เชื่อมต่อด้วยสาย USB Type-C มี Knob สำหรับปรับเสียงและไฟ ดีไซน์สวยงาม ขนาดกะทัดรัด เหมาะสำหรับเกมเมอร์เริ่มต้นหรืองบจำกัดที่อยากลองสัมผัสคีย์บอร์ด Mechanical Blue Switch
- จุดเด่นสินค้า: ราคาประหยัด, ขนาดกะทัดรัด, มี Knob ปรับเสียง/ไฟ, ไฟ Mini RGB, เหมาะสำหรับมือใหม่
- ฟังก์ชันการใช้งาน:
- Blue Switch (Outemu): ใช้สวิตช์ Blue จาก Outemu ซึ่งให้ฟีดแบ็กการกดแบบ Clicky พร้อมเสียงคลิกที่เป็นเอกลักษณ์ ให้ความรู้สึกเหมือนพิมพ์ดีด เหมาะสำหรับคนที่ชอบเสียงดังๆ และสัมผัสที่ชัดเจน
- Knob ควบคุมมัลติมีเดีย: มี Knob หรือปุ่มหมุนอเนกประสงค์ที่ใช้สำหรับปรับเพิ่ม/ลดระดับเสียง หรือเปลี่ยนโหมดไฟ RGB ได้อย่างรวดเร็วและสะดวกสบาย ทำให้ควบคุมฟังก์ชันพื้นฐานได้โดยไม่ต้องใช้ปุ่ม Fn ร่วมกับปุ่มอื่นๆ
- ไฟ Mini RGB และซอฟต์แวร์: มาพร้อมไฟ Mini RGB ที่สามารถปรับเปลี่ยนโหมดและสีได้หลากหลายรูปแบบ นอกจากนี้ยังรองรับซอฟต์แวร์ของ Nubwo ในการปรับแต่ง Macro หรือการตั้งค่าอื่นๆ เพื่อให้คีย์บอร์ดตรงกับการใช้งานของคุณมากขึ้น
- กลุ่มผู้ใช้งาน/สถานการณ์: เกมเมอร์เริ่มต้น, ผู้ใช้งบประมาณจำกัด, คนที่ต้องการคีย์บอร์ด Blue Switch ราคาเบาๆ, ผู้ที่ชอบคีย์บอร์ดขนาดเล็ก
ประเภทสวิตช์ | รูปแบบ | การเชื่อมต่อ | ไฟ Backlight | วัสดุ | ฟีเจอร์เสริม | ขนาด (ปุ่ม) | ราคาประมาณ |
---|
Outemu Blue | Compact TKL (82) | USB Type-C | Mini RGB | Plastic | Knob Control, Macro | 82 | ต่ำกว่า 1,000 บาท |
7. Fantech MAXFIT61
- ชื่อแบรนด์: Fantech
- ชื่อสินค้า: MAXFIT61 Mechanical Keyboard (Blue Switch)
- ราคาสินค้า: 800 - 1,200 บาท
- คำอธิบายสินค้า: คีย์บอร์ด 60% ขนาดเล็กกะทัดรัด พกพาสะดวก เหมาะสำหรับเกมเมอร์ที่ต้องการพื้นที่บนโต๊ะเยอะๆ มาพร้อม Blue Switch (ส่วนใหญ่เป็น Gateron หรือ Outemu) รองรับ Hot-swappable 3-pin เปลี่ยนสวิตช์ได้ง่าย มีไฟ RGB Per-key ปรับแต่งได้อิสระผ่านซอฟต์แวร์ Anti-Ghosting 100% สายถัก Type-C ถอดได้ วัสดุแข็งแรงคุ้มราคา เหมาะกับคนที่ชอบคีย์บอร์ดขนาดเล็ก ประสิทธิภาพดี และปรับแต่งได้
- จุดเด่นสินค้า: ขนาด 60%, Hot-swappable 3-pin, ไฟ RGB Per-key, ราคาคุ้มค่า, Anti-Ghosting 100%
- ฟังก์ชันการใช้งาน:
- ขนาด 60%: เป็นคีย์บอร์ดขนาดเล็กที่มีเพียงปุ่มหลักๆ ช่วยประหยัดพื้นที่บนโต๊ะได้อย่างมาก ทำให้มีพื้นที่เหลือเฟือสำหรับการขยับเมาส์ เหมาะสำหรับเกมเมอร์ที่ใช้ค่า DPI ต่ำ หรือคนที่โต๊ะมีพื้นที่จำกัด
- Hot-swappable 3-pin: รองรับการถอดเปลี่ยนสวิตช์ Mechanical แบบ 3 Pin ได้ทันทีโดยไม่ต้องบัดกรี ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถทดลองเปลี่ยนสวิตช์ชนิดอื่นเพื่อหาสัมผัสที่ชอบ หรือเปลี่ยนสวิตช์ที่เสียได้ง่ายๆ
- ไฟ RGB Per-key: มีระบบไฟ RGB ใต้ปุ่มแต่ละปุ่มที่สามารถปรับแต่งสีและเอฟเฟกต์แสงได้แบบแยกอิสระผ่านซอฟต์แวร์ของ Fantech สร้างแสงสีที่สวยงามและเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวคีย์บอร์ดของคุณ
- กลุ่มผู้ใช้งาน/สถานการณ์: เกมเมอร์ที่ต้องการพื้นที่เมาส์เยอะๆ, คนที่ชอบคีย์บอร์ดขนาดเล็กพกพา, ผู้ที่สนใจการปรับแต่งสวิตช์คีย์บอร์ด
ประเภทสวิตช์ | รูปแบบ | การเชื่อมต่อ | ไฟ Backlight | Hot-swappable | Anti-Ghosting | ขนาด (ปุ่ม) | สาย |
---|
Gateron/Outemu Blue | 60% (61) | USB Type-C | Per-key RGB | 3-pin | 100% | 61 | Detachable Braided |
8. Ajazz AK33
- ชื่อแบรนด์: Ajazz
- ชื่อสินค้า: AK33 Mechanical Keyboard (Blue Switch)
- ราคาสินค้า: 700 - 1,000 บาท
- คำอธิบายสินค้า: คีย์บอร์ด TKL ขนาดกะทัดรัดอีกรุ่นที่น่าสนใจในงบประหยัด มาพร้อม ZT Blue Switch ให้สัมผัสและเสียง Clicky ที่เป็นเอกลักษณ์ มีไฟ Backlight สีฟ้า หรือ RGB บางรุ่น ดีไซน์สวยงามแปลกตาด้วย Layout 82 ปุ่มที่ไม่เหมือนใคร ขนาดกำลังดี ไม่เล็กหรือใหญ่จนเกินไป เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นที่อยากได้คีย์บอร์ด Mechanical คุณภาพดีในราคาจับต้องได้ เน้นใช้งานทั่วไปและเล่นเกม
- จุดเด่นสินค้า: ราคาเป็นมิตร, ขนาดกะทัดรัด (82 ปุ่ม), ZT Blue Switch, ดีไซน์เฉพาะตัว
- ฟังก์ชันการใช้งาน:
- ZT Blue Switch: ใช้สวิตช์ ZT Blue ซึ่งเป็นสวิตช์ Mechanical สไตล์ Clicky ที่มีเสียงและสัมผัสคล้าย Blue Switch ทั่วไป ให้ฟีดแบ็กการกดที่ชัดเจนพร้อมเสียงคลิก เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบเสียงดังๆ และต้องการความรู้สึกในการพิมพ์ที่ตอบสนองได้ดี
- Layout 82 ปุ่ม: รูปแบบ Layout ที่มีจำนวนปุ่ม 82 ปุ่ม ซึ่งเป็นการผสมผสานระหว่าง Full-size และ TKL โดยตัดปุ่มบางส่วนที่ไม่จำเป็นออกไป ทำให้ได้คีย์บอร์ดที่มีขนาดเล็กลงแต่ยังคงมีปุ่มฟังก์ชันที่สำคัญครบถ้วนสำหรับการใช้งานทั่วไปและเล่นเกม
- ไฟ Backlight: มาพร้อมระบบไฟ Backlight ที่แตกต่างกันไปในแต่ละรุ่น มีทั้งแบบสีฟ้าสีเดียว หรือบางรุ่นอาจเป็นไฟ RGB ช่วยเพิ่มความสวยงามและช่วยให้มองเห็นปุ่มได้ชัดเจนในที่แสงน้อย
- กลุ่มผู้ใช้งาน/สถานการณ์: ผู้เริ่มต้นใช้ Mechanical Keyboard, คนทำงานงบประมาณจำกัด, เกมเมอร์ทั่วไป, ผู้ที่ต้องการคีย์บอร์ดขนาดกลางๆ
ประเภทสวิตช์ | รูปแบบ | การเชื่อมต่อ | ไฟ Backlight | วัสดุ | ขนาด (ปุ่ม) | ราคาประมาณ |
---|
ZT Blue | 82-key | USB | Blue / RGB (บางรุ่น) | Plastic | 82 | ต่ำกว่า 1,000 บาท |
9. Royal Kludge RK100
- ชื่อแบรนด์: Royal Kludge
- ชื่อสินค้า: RK100 Wireless Mechanical Keyboard (Blue Switch)
- ราคาสินค้า: 1,800 - 2,500 บาท
- คำอธิบายสินค้า: คีย์บอร์ดขนาด 96% ที่มีปุ่มครบเกือบเท่า Full-size แต่ประหยัดพื้นที่มากกว่า มาพร้อม RK Blue Switch รองรับการเชื่อมต่อไร้สาย 3 โหมด (Bluetooth, 2.4GHz, มีสาย) เชื่อมต่อได้หลายอุปกรณ์ Hot-swappable 5-pin เปลี่ยนสวิตช์ได้ง่าย มีไฟ RGB ปรับแต่งได้ แบตเตอรี่ความจุสูง ใช้งานได้ยาวนาน Keycaps คุณภาพดี เหมาะสำหรับคนที่ต้องการคีย์บอร์ดปุ่มครบ แต่ประหยัดพื้นที่ และยังใช้งานแบบไร้สายได้สะดวก
- จุดเด่นสินค้า: ขนาด 96%, เชื่อมต่อ 3 โหมดไร้สาย/มีสาย, Hot-swappable 5-pin, แบตเตอรี่อึด, ปุ่มครบแต่ประหยัดพื้นที่
- ฟังก์ชันการใช้งาน:
- การเชื่อมต่อ 3 โหมด: รองรับการเชื่อมต่อทั้งแบบมีสายผ่าน USB Type-C และไร้สาย 2 ระบบคือ Bluetooth และ Wireless 2.4GHz ทำให้มีความยืดหยุ่นสูงในการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นคอมพิวเตอร์ แท็บเล็ต หรือสมาร์ทโฟน
- Hot-swappable 5-pin: สามารถถอดเปลี่ยนสวิตช์ Mechanical ได้หลากหลายยี่ห้อทั้งแบบ 3 Pin และ 5 Pin โดยไม่ต้องบัดกรี เหมาะสำหรับคนที่ชอบลองสวิตช์ใหม่ๆ หรือต้องการเปลี่ยนสวิตช์บางปุ่มที่ใช้งานบ่อยให้ตรงกับความต้องการมากขึ้น
- แบตเตอรี่ความจุสูง: มาพร้อมแบตเตอรี่ภายในที่มีความจุสูง ทำให้สามารถใช้งานในโหมดไร้สายได้ยาวนานต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง ลดความกังวลเรื่องแบตเตอรี่หมดระหว่างการใช้งาน เหมาะกับการพกพาไปใช้นอกสถานที่
- กลุ่มผู้ใช้งาน/สถานการณ์: คนทำงานที่ต้องการปุ่ม Numpad, เกมเมอร์ที่ชอบความสะดวกไร้สาย, ผู้ที่ต้องการคีย์บอร์ดปุ่มครบแต่ขนาดไม่ใหญ่มาก, ผู้ที่ชอบปรับแต่งสวิตช์
ประเภทสวิตช์ | รูปแบบ | การเชื่อมต่อ | ไฟ Backlight | Hot-swappable | แบตเตอรี่ | ขนาด (ปุ่ม) | วัสดุ Keycaps |
---|
RK Blue | 96% (100) | Bluetooth / 2.4GHz / USB-C | RGB | 5-pin | Yes | 100 | ABS Double Shot |
10. IWACHI IK-68
- ชื่อแบรนด์: IWACHI
- ชื่อสินค้า: IK-68 RGB Mechanical Keyboard (Blue Switch)
- ราคาสินค้า: 1,300 - 1,800 บาท
- คำอธิบายสินค้า: คีย์บอร์ดขนาด 65% ที่เน้นความกะทัดรัดและพกพาสะดวก มาพร้อม Blue Switch (Outemu) ให้สัมผัสและเสียง Clicky มีไฟ RGB 19 โหมด รองรับการเชื่อมต่อหลากหลายทั้งมีสาย, Wireless 2.4G และ Bluetooth ใช้งานได้กับหลายอุปกรณ์ มีขาตั้งปรับระดับได้ Keycaps ถอดเปลี่ยนได้ เหมาะสำหรับคนที่ต้องการคีย์บอร์ด Mechanical ขนาดเล็กที่เชื่อมต่อได้หลากหลาย พกพาง่าย และมีไฟสวยงามในราคาที่เหมาะสม
- จุดเด่นสินค้า: ขนาด 65%, เชื่อมต่อหลากหลาย (3 โหมด), ไฟ RGB 19 โหมด, ราคาไม่แรง, พกพาสะดวก
- ฟังก์ชันการใช้งาน:
- การเชื่อมต่อแบบ Tri-Mode: รองรับการเชื่อมต่อถึง 3 รูปแบบ ทั้งแบบมีสาย USB, ไร้สายผ่าน Dongle 2.4G และ Bluetooth ทำให้สามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นคอมพิวเตอร์ โน้ตบุ๊ก แท็บเล็ต หรือสมาร์ทโฟนได้อย่างสะดวก
- ขนาด 65%: มีขนาดเล็กกว่าคีย์บอร์ดทั่วไป โดยตัดส่วน Numpad และปุ่ม Function บางส่วนออกไป เหลือเพียงปุ่มที่จำเป็นสำหรับการพิมพ์และเล่นเกม ทำให้ประหยัดพื้นที่บนโต๊ะและง่ายต่อการพกพาไปใช้งานนอกสถานที่
- ไฟ RGB 19 โหมด: มาพร้อมระบบไฟ RGB ที่มีรูปแบบการแสดงผลให้เลือกถึง 19 โหมด สามารถปรับเปลี่ยนสีและความสว่างได้ตามความชอบ ช่วยเพิ่มความสวยงามและบรรยากาศในการใช้งานได้เป็นอย่างดี
- กลุ่มผู้ใช้งาน/สถานการณ์: ผู้ที่เน้นความกะทัดรัดพกพา, คนที่ใช้หลายอุปกรณ์, เกมเมอร์แคชชวล, ผู้ที่ต้องการคีย์บอร์ด Blue Switch ราคากลางๆ
ประเภทสวิตช์ | รูปแบบ | การเชื่อมต่อ | ไฟ Backlight | ขนาด (ซม.) | น้ำหนัก (กรัม) | รองรับ OS | จำนวนปุ่ม |
---|
Outemu Blue | 65% (68) | USB / 2.4G / Bluetooth | RGB (19 Modes) | 30.8 x 10.1 x 3.9 | N/A (Lightweight) | Windows / macOS / iOS / Android | 68 |
คำแนะนำการเลือกซื้อคีย์บอร์ด Blue Switch
-
1. ทำความรู้จักกับ Blue Switch และความต้องการของคุณก่อนตัดสินใจซื้อ
ก่อนจะเสียเงินเปย์คีย์บอร์ด Blue Switch ตัวโปรด เราต้องเข้าใจหัวใจของเจ้าสวิตช์สีฟ้าตัวนี้ก่อนเลยว่ามันคืออะไร มีจุดเด่น จุดด้อยยังไง และที่สำคัญคือมันตอบโจทย์การใช้งานของเราจริงๆ ไหม Blue Switch เป็นสวิตช์ Mechanical ประเภท Clicky ที่มีเอกลักษณ์คือเสียง "คลิก" อันดังฟังชัดทุกครั้งที่กด ให้ฟีดแบ็กการกดแบบสองจังหวะ ทำให้เรารู้สึกได้ถึงการทำงานของปุ่มอย่างชัดเจน เหมาะมากๆ สำหรับคนที่ชอบสัมผัสแบบเดียวกับเครื่องพิมพ์ดีดเก่าๆ หรือคนที่พิมพ์สัมผัสและต้องการเสียงและฟีดแบ็กที่ชัดเจนเพื่อยืนยันว่ากดปุ่มแล้วนะ ข้อดีคือมันพิมพ์สนุก ได้อรรถรส เล่นเกมบางประเภทที่ต้องการความแม่นยำก็ดี แต่ข้อที่ต้องพิจารณาอย่างแรงคือเสียงของมันค่อนข้างดัง อาจรบกวนคนรอบข้างได้ง่าย โดยเฉพาะถ้าต้องใช้งานในที่สาธารณะ ออฟฟิศ หรืออยู่ร่วมกับผู้อื่นในห้องเดียวกัน เพราะฉะนั้น ลองถามตัวเองก่อนว่าเราโอเคกับเสียงดังประมาณนี้ไหม สภาพแวดล้อมที่เราจะใช้งานเป็นแบบไหน ถ้าอยู่บ้านคนเดียว หรือห้องส่วนตัว ไม่มีปัญหาเรื่องเสียงรบกวน ก็ลุยเลย! แต่ถ้าต้องเอาไปใช้ที่ทำงาน หรือมีรูมเมทที่ต้องการความเงียบ อาจจะต้องคิดหนักหน่อย หรือมองหาสวิตช์ประเภทอื่นอย่าง Brown Switch (Tactile แต่เสียงเบากว่า) หรือ Red Switch (Linear เสียงเงียบ) แทน นอกจากเรื่องสวิตช์แล้ว ลองดูความต้องการอื่นๆ ด้วย เช่น ขนาดของคีย์บอร์ด (Full-size, TKL, 60%) ต้องการปุ่ม Numpad ไหม ต้องการคีย์บอร์ดมีสายหรือไร้สาย (หรือแบบ Tri-mode เชื่อมได้หลายแบบ) ฟีเจอร์เสริมอื่นๆ เช่น ไฟ RGB, ปุ่ม Macro, ที่พักข้อมือ, Hot-swappable (เปลี่ยนสวิตช์เองได้) พวกนี้จะช่วยให้เราจำกัดตัวเลือกและหาคีย์บอร์ดที่ใช่สำหรับเราจริงๆ ได้ง่ายขึ้น งบประมาณก็สำคัญ กำหนดงบคร่าวๆ ไว้ก่อน จะได้ไม่หลงไปกับรุ่นที่เกินงบไปไกลลิบ แล้วมานั่งเสียดายทีหลัง จำไว้ว่าคีย์บอร์ดที่ดีที่สุดคือตัวที่เหมาะสมกับการใช้งานและความชอบของเราที่สุด ไม่ใช่ตัวที่แพงที่สุดเสมอไปนะจ๊ะ
-
2. พิจารณาคุณภาพวัสดุและฟีเจอร์เพิ่มเติมที่จำเป็นสำหรับการใช้งาน
เมื่อเรารู้แล้วว่า Blue Switch คือทางของเรา ต่อมาก็ต้องมาดูเรื่องคุณภาพของคีย์บอร์ดโดยรวมกันบ้าง อย่ามองแค่เรื่องสวิตช์อย่างเดียวนะจ๊ะ วัสดุที่ใช้ทำตัวคีย์บอร์ดและ Keycaps มีผลกับความทนทาน ความรู้สึกในการพิมพ์ และความสวยงามมากๆ คีย์บอร์ด Mechanical ส่วนใหญ่มักทำจากพลาสติก ABS หรือ PBT บางรุ่นพรีเมียมหน่อยก็เป็นอลูมิเนียม วัสดุ ABS มักจะราคาถูกกว่า แต่ใช้นานๆ ผิวอาจจะมันเงาได้ ส่วน PBT จะด้านกว่า ทนทานกว่า และให้สัมผัสที่ดีกว่า แต่ราคาก็จะสูงขึ้นตามไปด้วย Keycaps เองก็มีหลายแบบ ทั้งแบบธรรมดา หรือแบบ Double Shot ที่ตัวอักษรจะหล่อมาพร้อมเนื้อพลาสติก ทำให้ตัวอักษรไม่มีวันลอกหรือจาง รับรองว่าใช้กันไปยาวๆ โครงสร้างของคีย์บอร์ดก็สำคัญ บางรุ่นอาจมีโครงสร้างแบบ Gasket Mount หรือ Foam Layer ภายในที่ช่วยซับเสียงและแรงกระแทก ทำให้เสียงพิมพ์แน่นขึ้นและรู้สึกนุ่มนวลขึ้นด้วย ฟีเจอร์เพิ่มเติมอื่นๆ ก็ควรพิจารณาตามความจำเป็น เช่น ถ้าเป็นเกมเมอร์ที่เน้นความรวดเร็ว ควรดูคีย์บอร์ดที่มีฟังก์ชัน Anti-Ghosting หรือ N-Key Rollover เต็มรูปแบบ เพื่อให้แน่ใจว่าคีย์บอร์ดจะรับคำสั่งทุกปุ่มที่เรากดพร้อมกันได้โดยไม่มีปัญหา ถ้าชอบปรับแต่ง ควรเลือกรุ่นที่รองรับ Hot-swappable Switch ซึ่งช่วยให้เราเปลี่ยนสวิตช์เองได้ง่ายๆ โดยไม่ต้องบัดกรี สะดวกมากๆ สำหรับคนที่ชอบลองสวิตช์ใหม่ๆ หรืออยากเปลี่ยนสวิตช์บางปุ่มให้ตรงใจมากขึ้น การเชื่อมต่อก็สำคัญ มีทั้งแบบมีสาย USB ที่เสถียรที่สุด เหมาะกับเกมเมอร์ที่ต้องการความแม่นยำสูงสุด หรือแบบไร้สายผ่าน Bluetooth หรือ Wireless 2.4GHz ที่สะดวกสบาย ไม่เกะกะ เหมาะกับการใช้งานทั่วไปหรือพกพา บางรุ่นมี Tri-mode เชื่อมได้ทั้ง 3 แบบก็ยืดหยุ่นดี สุดท้ายอย่าลืมเรื่องซอฟต์แวร์สำหรับปรับตั้งค่าต่างๆ ทั้งไฟ RGB, Macro, หรือการตั้งค่าอื่นๆ ที่ช่วยให้คีย์บอร์ดของเราทำงานได้เต็มประสิทธิภาพและตรงกับการใช้งานของเรามากที่สุด เลือกที่มีซอฟต์แวร์ที่ใช้งานง่ายและมีฟังก์ชันที่เราต้องการด้วยนะ
-
3. เปรียบเทียบราคา, การรับประกัน, และบริการหลังการขาย
หลังจากที่เราพอจะรู้สเปกคีย์บอร์ด Blue Switch ที่ต้องการแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการเปรียบเทียบราคาและเงื่อนไขต่างๆ เพื่อให้ได้ของดีในราคาที่คุ้มค่าที่สุด ตลาดคีย์บอร์ด Mechanical ในไทยมีตัวเลือกเยอะมากๆ ตั้งแต่รุ่นราคาหลักร้อยไปจนถึงหลักหมื่น ราคาจะแตกต่างกันไปตามแบรนด์ คุณภาพวัสดุ ประเภทสวิตช์ ฟีเจอร์ และการเชื่อมต่อ ลองเปรียบเทียบราคาจากร้านค้าออนไลน์ต่างๆ หรือหน้าร้านจริง เพื่อหาร้านที่ให้ราคาดีที่สุด อาจจะมีโปรโมชั่น ส่วนลด หรือของแถมในช่วงเทศกาลต่างๆ ด้วย อันนี้ต้องหมั่นเช็กให้ดี! แต่จำไว้ว่าราคาถูกที่สุดอาจไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีที่สุดเสมอไปนะ ต้องดูเรื่องคุณภาพและความน่าเชื่อถือของร้านค้าด้วย สิ่งที่ไม่ควรมองข้ามเลยคือการรับประกันสินค้า คีย์บอร์ด Mechanical เป็นอุปกรณ์ที่มีกลไกภายใน การรับประกันจะช่วยให้เราอุ่นใจได้ว่าถ้าสินค้ามีปัญหาภายในระยะเวลารับประกัน เราสามารถส่งเคลมหรือซ่อมได้โดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม ระยะเวลาการรับประกันก็แตกต่างกันไปในแต่ละแบรนด์และรุ่น ควรเลือกรุ่นที่มีการรับประกันที่เหมาะสมกับการใช้งานของเรา อย่างน้อยก็ 1-2 ปีก็ยังดี นอกจากนี้ บริการหลังการขายก็สำคัญไม่แพ้กัน ถ้ามีปัญหาในการใช้งาน การตั้งค่า หรือต้องการสอบถามข้อมูล ร้านค้าหรือตัวแทนจำหน่ายควรมีช่องทางให้ติดต่อที่สะดวกและให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ได้ บางแบรนด์อาจมี Commmunity หรือกลุ่มผู้ใช้งานในไทยที่เราสามารถเข้าไปสอบถามแลกเปลี่ยนความรู้กันได้ อันนี้ก็เป็นข้อดีเพิ่มเติม นอกจากซื้อคีย์บอร์ดแล้ว เรายังได้สังคมดีๆ ด้วยนะ สุดท้ายนี้ อยากจะบอกว่าการได้ลองสัมผัสคีย์บอร์ดจริงๆ ก่อนตัดสินใจซื้อจะดีที่สุด ถ้ามีโอกาส ลองไปที่ร้านค้าไอทีที่มีคีย์บอร์ด Mechanical ให้ทดลองกด ลองฟังเสียง ลองสัมผัสความรู้สึกของสวิตช์ Blue Switch ด้วยตัวเองว่าชอบจริงๆ ไหม เพราะความรู้สึกของแต่ละคนไม่เหมือนกัน การได้ลองด้วยตัวเองจะช่วยให้ตัดสินใจได้ง่ายขึ้นและได้คีย์บอร์ดที่ถูกใจจริงๆ จ้า
คำถามที่พบบ่อย (FAQ) เกี่ยวกับคีย์บอร์ด Blue Switch
- Q: Blue Switch เหมาะกับการเล่นเกมไหม?
A: เหมาะเลยครับ Blue Switch ให้ฟีดแบ็กการกดที่ชัดเจนและเสียงคลิกที่ช่วยยืนยันการทำงานของปุ่ม ทำให้รู้จังหวะการกดได้แม่นยำ เหมาะกับเกมที่ต้องการความแม่นยำในการควบคุม แต่ถ้าเน้นเกมที่ต้องกดปุ่มเร็วๆ ต่อเนื่องมากๆ หรือต้องการความเงียบ Red Switch หรือ Brown Switch อาจเป็นตัวเลือกที่ดีกว่านะครับ
- Q: เสียง Blue Switch ดังแค่ไหน?
A: เสียงดังพอสมควรเลยครับ มีเอกลักษณ์เป็นเสียง "คลิก" ชัดเจนทุกครั้งที่กด เทียบแล้วจะดังกว่า Red Switch และ Brown Switch อย่างชัดเจน ถ้าใช้งานในที่ที่มีคนอยู่เยอะๆ หรือในที่เงียบๆ อาจจะรบกวนคนอื่นได้นะครับ
- Q: คีย์บอร์ด Blue Switch ราคาประมาณเท่าไหร่?
A: ราคาคีย์บอร์ด Blue Switch ในไทยมีความหลากหลายมากครับ มีตั้งแต่หลักร้อยปลายๆ สำหรับรุ่นเริ่มต้น ไปจนถึงหลายพันหรือเป็นหมื่นบาทสำหรับรุ่นไฮเอนด์จากแบรนด์ดัง ขึ้นอยู่กับแบรนด์ วัสดุ ฟีเจอร์ และคุณภาพของสวิตช์ที่ใช้ครับ
- Q: Blue Switch ของแต่ละยี่ห้อต่างกันไหม?
A: ต่างกันเล็กน้อยครับ แม้จะเป็นสวิตช์ประเภท Blue เหมือนกัน แต่แบรนด์ผู้ผลิตสวิตช์ (เช่น Cherry MX, Gateron, Outemu, Kailh, TTC, RK, ZT) อาจมีความแตกต่างในเรื่องแรงกด ระยะ actuation หรือวัสดุที่ใช้ ทำให้ฟิลลิ่งและเสียงอาจแตกต่างกันไปบ้าง ถ้าซีเรียสเรื่องสัมผัสจริงๆ แนะนำให้ลองกดของจริงดูก่อนครับ
- Q: คีย์บอร์ด Blue Switch จำเป็นต้องมีไฟ RGB ไหม?
A: ไม่จำเป็นครับ ขึ้นอยู่กับความชอบและการใช้งานส่วนบุคคล ไฟ RGB ช่วยเพิ่มความสวยงาม สร้างบรรยากาศ และช่วยให้มองเห็นปุ่มในที่มืดได้ แต่ถ้าไม่ได้เน้นเรื่องความสวยงามหรือใช้งานในที่สว่างตลอด ก็เลือกรุ่นที่ไม่มีไฟ หรือมีแค่ไฟสีเดียวก็ได้ครับ ราคาก็จะถูกลงด้วย
วิดีโอที่เกี่ยวข้อง