Amazon Consumer Express: Prime Day สร้างสถิติยอดขาย 24.1 พันล้านเหรียญสหรัฐ | Olivia Garden แบรนด์หวีผมจากเบลเยียม แซงหน้า Amazon ด้วยนวัตกรรมที่ได้รับการจดสิทธิบัตร


ในปี 2568 Amazon Prime Day สร้างสถิติใหม่ด้วยยอดขาย 2.41 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ และกลุ่มเสื้อผ้าเด็กมียอดขายสูงสุดด้วยการเติบโตปีต่อปีถึง 250% Olivia Garden แบรนด์ทำผมมืออาชีพจากเบลเยียม กลายเป็นแบรนด์แนะนำอย่างเป็นทางการด้วยนวัตกรรมสิทธิบัตร 55 รายการ และหวีลมแบบ 3-in-1 ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์เด่นของบริษัท มียอดขายมากกว่า 10,000 ชิ้นต่อเดือน แบรนด์ประสบความสำเร็จในการขยายธุรกิจจากตลาดมืออาชีพในร้านเสริมสวยไปสู่กลุ่มผู้บริโภคทั่วไป ผ่านเมทริกซ์ผลิตภัณฑ์ที่แบ่งกลุ่ม (ตั้งแต่หวีไม้ไผ่ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมไปจนถึงหวีย้อมผม) และระบบแนะนำแบบสอบถามส่วนบุคคล ขณะเดียวกัน ยังได้เพิ่มอัตราการซื้อซ้ำด้วยแผนการรีไซเคิลหวี ซึ่งเป็นรูปแบบการเปลี่ยนแปลงสำหรับแบรนด์ข้ามพรมแดนจาก "มืออาชีพสู่มวลชน"
โปรโมชั่น Prime Day สี่วันนี้สิ้นสุดลงแล้ว ระหว่างที่เรากำลังพักจากช่วงที่ยุ่งวุ่นวาย เราจะพาย้อนกลับไปดู Prime Day ปีนี้ และเจาะลึกแบรนด์ที่ประสบความสำเร็จอย่างมากใน Prime Day
สถิติสูงสุด

ข่าวประชาสัมพันธ์อย่างเป็นทางการของ Amazon ระบุว่า Prime Day 2025 สร้างยอดขายและยอดขายสินค้าสูงสุดเป็นประวัติการณ์ แซงหน้าทุกงานที่ผ่านมา ขณะเดียวกัน ผู้ขายอิสระหลายรายก็สร้างยอดขายและยอดขายสินค้าสูงสุดเป็นประวัติการณ์เช่นกัน ยอดขายสูงแค่ไหน?
ข้อมูลจาก Adobe คาดการณ์ว่ายอดใช้จ่ายออนไลน์ในสหรัฐอเมริกาจะสูงถึง 2.41 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐในช่วงสี่วันของ Prime Day เมื่อเทียบกับ Black Friday ซึ่งดูเหมือนจะเป็นเทศกาลช้อปปิ้งมากกว่า ยอดขายในวัน Prime Day ปีนี้สูงกว่า Black Friday ปีที่แล้วถึงสองเท่า แม้จะมีความไม่แน่นอนจากสงครามภาษีของทรัมป์และความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่ต่ำ แต่ยอดขายกลับเพิ่มขึ้น ตัวเลขนี้ยังถือเป็นสัญญาณบ่งชี้ถึงความเชื่อมั่นที่เพิ่มขึ้นในการใช้จ่ายซื้อสินค้าในช่วงฤดูร้อนอีกด้วย
เสื้อผ้าเด็กขายดีที่สุด
ผลสำรวจยังแสดงให้เห็นว่าผู้ซื้อมากกว่า 53% เลือกซื้อของผ่านอุปกรณ์มือถือ (แทนที่จะเป็นคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ) คิดเป็นมูลค่า 12.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยยอดขายเสื้อผ้าเด็กเพิ่มขึ้น 250% ซึ่งถือเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุด (เมื่อเทียบกับยอดขายเฉลี่ยต่อวันในเดือนมิถุนายน 2568)
หมวดหมู่อื่นๆ ที่มีประสิทธิภาพการเติบโตที่โดดเด่น ได้แก่:
ผลิตภัณฑ์รักษาความปลอดภัยบ้าน +185%
อุปกรณ์การเรียน +175%
ตู้เย็นและตู้แช่แข็ง +160%
เกม +160%
หูฟังและลำโพง +155%
เบาะรถยนต์ +145%
สัมภาระ +145%
เครื่องดูดฝุ่น +140%
เครื่องมือไฟฟ้า +135%
คอมพิวเตอร์ +125%
อุปกรณ์เสริมสมาร์ทโฟน +120%
อุปกรณ์จัดเก็บ +120%
ทีวี +90%
เครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวขนาดเล็ก +90%
ของใช้จำเป็นในหอพัก +84%
อุปกรณ์ฟิตเนส +80%
ดังที่ได้กล่าวไปแล้ว ผู้ขายอิสระก็ทำยอดขายและยอดขายสินค้าได้ทำลายสถิติเช่นกัน Olivia Garden เป็นแบรนด์เดียวที่ปรากฏในข่าวประชาสัมพันธ์ของ Amazon เพื่อพิสูจน์ประเด็นนี้ อะไรคือเอกลักษณ์ของแบรนด์นี้ที่ Amazon เลือก?
Olivia Garden: แบรนด์เครื่องมือจัดแต่งทรงผมกลายเป็นไวรัล
Olivia Garden เป็นแบรนด์เครื่องมือจัดแต่งทรงผมระดับมืออาชีพระดับร้านเสริมสวยที่ก่อตั้งในประเทศเบลเยียมเมื่อปี พ.ศ. 2510 ก่อนที่จะมาอยู่บน Amazon แบรนด์นี้เป็นที่รู้จักเฉพาะในหมู่ช่างทำผมและร้านทำผมเท่านั้น และไม่เคยเป็นที่รู้จักกับผู้บริโภคทั่วไป
ปัจจุบัน สินค้าที่ได้รับความนิยมสูงสุดของ Olivia Garden บน Amazon คือหวีลมแบบถอดได้ 3-in-1 ฐานข้อมูลการเลือกผลิตภัณฑ์ของ FindNiche-Amazon แสดงให้เห็นว่าผลิตภัณฑ์นี้เปิดตัวในปี 2011 และยอดขายโดยประมาณในเดือนที่ผ่านมายังคงสูงกว่า 10,000 รายการ

ผลิตภัณฑ์ที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นที่ชื่นชอบของช่างทำผม “หลุดออกมาจากแท่นบูชา” และกลายเป็นผลิตภัณฑ์ที่คนทั่วไปยินดีบริโภคได้อย่างไร? เรื่องนี้เริ่มต้นจากกลยุทธ์ผลิตภัณฑ์ของ Olivia Garden
ประการแรก การนำเสนอผลิตภัณฑ์นวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง เช่น เทคโนโลยีหรือวัสดุใหม่ๆ ที่ก้าวล้ำ (ซึ่งสะสมสิทธิบัตรไว้มากกว่า 55 ฉบับ) ถือเป็นจุดเด่นของแบรนด์ Olivia Garden มาโดยตลอด การมุ่งเน้นพัฒนาผลิตภัณฑ์และการแก้ไขปัญหาอย่างต่อเนื่องนี้เป็นพื้นฐานในการสร้างความไว้วางใจในแบรนด์และผลักดันยอดขาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตลาดผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมที่มีการแข่งขันสูง
ในปี พ.ศ. 2549 โอลิเวีย การ์เดน ได้เปิดตัวหวีนวดไอออนไม้ไผ่ Healthy Hair ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมสำหรับผู้บริโภคภายในบ้าน คุณสมบัติที่สำคัญที่สุดของหวีไม้ไผ่คือตัววัสดุเอง ไม้ไผ่เป็นทรัพยากรธรรมชาติ 100% ที่สามารถหมุนเวียนได้ มีน้ำหนักเบากว่า แข็งแรงกว่า และทนทานกว่าไม้ อีกทั้งยังป้องกันไฟฟ้าสถิตย์ ไม้ไผ่จึงดึงดูดผู้ที่ชื่นชอบการทำผมจำนวนมากที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม
ในปี 2010 โอลิเวีย การ์เดน ได้เปิดตัว Fingerbrush และ MultiBrush โดย Fingerbrush นั้นมีรูปทรงโค้งมนเป็นเอกลักษณ์และมีช่องระบายอากาศที่ออกแบบมาเพื่อคลายปมผม และยังสามารถใช้นวดศีรษะได้อีกด้วย

เมื่อมองจากด้านล่างของภาพด้านบน คุณจะสังเกตเห็นว่าแปรงนี้มีให้เลือกทั้งขนาดเล็ก กลาง และใหญ่ เพื่อให้เหมาะกับผู้ใช้ที่มีปริมาณเส้นผมที่แตกต่างกัน อันที่จริง ไม่ใช่แค่ Fingerbrush เท่านั้นที่มีด้ามแปรงหลากหลายรุ่น ผลิตภัณฑ์ที่แบรนด์นี้เปิดตัวมาทุกชิ้นมีให้เลือกหลายขนาด ซึ่งเป็นหนึ่งในกลยุทธ์ผลิตภัณฑ์ที่ Olivia Garden ให้ความสำคัญอย่างยิ่ง
MultiBrush คือชุดด้ามจับแบบถอดได้และแกนหวี ซึ่งให้การผสมผสานที่หลากหลายสำหรับผู้บริโภคขั้นสูงที่มีความต้องการจัดแต่งทรงผมที่แตกต่างกัน
iBlend ที่เปิดตัวในปี 2017 มีความพิเศษอย่างยิ่ง หวีนี้ออกแบบมาเป็นพิเศษเพื่อการย้อมสีผมให้สม่ำเสมอ ฟันหวีออกแบบมาเป็นพิเศษ ช่วยให้สีผมกระจายตัวสม่ำเสมอทั่วถึงทุกชั้นของเส้นผม
คอลเลกชัน NewCycle ซึ่งเปิดตัวในปี 2022 เป็นหวีเก็บความร้อนระดับมืออาชีพที่ให้ความร้อนเร็วขึ้นและคงความร้อนได้นานขึ้น เหมาะสำหรับผู้ที่มีความต้องการเครื่องมือจัดแต่งทรงผมมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ทางแบรนด์ไม่ได้ระบุว่าระยะเวลาในการทำความร้อนจะเร็วขึ้นเท่าใดและระยะเวลาในการเก็บความร้อนจะนานขึ้นเท่าใด
โดยรวมแล้ว ด้วยนวัตกรรมที่ไม่หยุดนิ่ง Olivia Garden ได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายและครอบคลุมทุกความต้องการ มีทั้งผลิตภัณฑ์ยอดนิยมที่เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่ใช่มืออาชีพ ผลิตภัณฑ์ขั้นสูงที่ตอบสนองความต้องการของมืออาชีพ และผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับความต้องการเฉพาะด้านการทำผม (เช่น การย้อมสี) เรียกได้ว่าครอบคลุมทุกมิติ ทั้งด้านจำนวนผู้ใช้ ฟังก์ชันการใช้งาน และสถานการณ์การใช้งาน
อีกสิ่งหนึ่งที่น่าเรียนรู้คือ บริการลูกค้าของ Olivia Garden นั้นมีทักษะที่ยอดเยี่ยม สำหรับผู้ใช้ใหม่ พวกเขาจะมีคู่มือการช้อปปิ้งส่วนตัวในรูปแบบแบบสอบถามเพื่อช่วยให้ผู้ใช้ค้นหาผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมที่สุดสำหรับตนเอง แบบสอบถามจะอธิบายรายละเอียดเกี่ยวกับสภาพผม ความยาว และทรงผมที่คุณต้องการ หลังจากทำแบบทดสอบรวมชุดหนึ่งเสร็จแล้ว จะมีการแนะนำผลิตภัณฑ์หลายรายการปรากฏขึ้น

สำหรับลูกค้าเก่า Olivia Garden มีโปรแกรมรีไซเคิลหวี เพียงส่งหวีไปยังที่อยู่ที่กำหนดก็รับคูปองอิเล็กทรอนิกส์ส่วนลด 10% ลูกค้าแต่ละคนสามารถรับคูปองได้สูงสุด 4 ใบต่อปี นี่ไม่เพียงแต่เป็นมาตรการรักษาสิ่งแวดล้อมเพื่อหลีกเลี่ยงการสิ้นเปลืองทรัพยากรเท่านั้น แต่ยังเป็นกลยุทธ์ที่แบรนด์ต่างๆ ใช้เพื่อกระตุ้นให้ผู้บริโภคอัปเกรดและเพิ่มอัตราการซื้อซ้ำอีกด้วย
แนะนำสำหรับคุณ
ไม่เคยตกกระแส! แนะนำรองเท้า Crocs แบรนด์มีสไตล์ ใส่สบาย
4 เสื้อเชิ้ตสุดฮอตแห่งปี จะทำให้คุณกลายเป็นจุดสนใจแฟชั่นทันที!
10 ชุดไทยรับปี 2568 สวยเก๋ เหมาะกับทุกโอกาส
VR โลกเสมือนจริงที่จะทำให้จินตนาการไร้ขอบเขต
เทรนด์ BEAUTY เกาหลีประจำซัมเมอร์ 2025 🔥
คาเฟ่ อเมซอน: กาแฟระดับพรีเมียม เพื่อช่วงเวลาแห่งความสุข