กล้องวงจรปิดแบบไหนดี? เลือกซื้อยังไงให้เหมาะกับบ้านและธุรกิจของคุณ

กล้องวงจรปิด (CCTV) ทำงานอย่างไร?

กล้องวงจรปิด หรือที่หลายคนเรียกสั้น ๆ ว่า CCTV เป็นอุปกรณ์ที่ใช้สำหรับเฝ้าระวังและรักษาความปลอดภัย โดยเรามักเห็นการใช้งานในบ้านเรือน ธุรกิจ ไปจนถึงพื้นที่สาธารณะ

หลักการทำงานของกล้องคือ บันทึกภาพวิดีโอแบบสด (เรียลไทม์) แล้วส่งข้อมูลไปยังอุปกรณ์ปลายทาง เช่น เครื่องบันทึกภาพ ระบบคลาวด์ หรือจอมอนิเตอร์ เพื่อให้เจ้าของสามารถดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้ทันที หรือย้อนกลับมาดูย้อนหลังได้ในภายหลัง ขึ้นอยู่กับรุ่นและระบบของกล้องที่ใช้งาน

กล้องบางรุ่นอาจมาพร้อมฟีเจอร์เพิ่มเติม เช่น การตรวจจับความเคลื่อนไหว การแจ้งเตือนผ่านมือถือ หรือแม้แต่การบันทึกเสียง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการดูแลความปลอดภัยให้มากยิ่งขึ้น

ประเภทการเชื่อมต่อของกล้องวงจรปิด

กล้องวงจรปิดมีการเชื่อมต่อหลัก ๆ อยู่ 3 ประเภท โดยแต่ละแบบใช้เทคโนโลยีและอุปกรณ์บันทึกต่างกัน ดังนี้:

กล้อง BNC
เป็นระบบอนาล็อกแบบใช้สายที่นิยมใช้กันมานาน ภาพจากกล้องจะถูกส่งตรงไปยังเครื่องบันทึกวิดีโอดิจิทัล (DVR) โดยยังไม่ผ่านการประมวลผลมากนัก

กล้อง Wi-Fi
ส่งภาพผ่านอินเทอร์เน็ต ใช้งานผ่านระบบ IP และบันทึกวิดีโอในรูปแบบดิจิทัลที่ถูกบีบอัด สามารถดูภาพผ่าน NVR หรืออุปกรณ์ต่าง ๆ เช่น สมาร์ทโฟน แท็บเล็ต และสมาร์ททีวี

กล้อง Ethernet (PoE)

กล้องวงจรปิดแบบ Ethernet หรือที่รู้จักกันในชื่อ PoE (Power over Ethernet) จะเชื่อมต่อและจ่ายไฟผ่านสาย LAN (RJ45) เส้นเดียว กล้องชนิดนี้ใช้ระบบ IP ในการบันทึกวิดีโอดิจิทัลแบบบีบอัด และสามารถส่งภาพไปยัง NVR หรืออุปกรณ์อื่น ๆ เช่น สมาร์ทโฟน แท็บเล็ต คอมพิวเตอร์ หรือสมาร์ททีวีได้เช่นเดียวกับกล้อง Wi-Fi

ประเภทของกล้องวงจรปิด

กล้องวงจรปิดมีให้เลือกหลากหลาย ขึ้นอยู่กับการใช้งาน เช่น:

• กล้องภายในและภายนอกอาคาร
  กล้องบางรุ่นสามารถใช้ได้ทั้งภายในและภายนอก แต่ส่วนใหญ่จะออกแบบมาเฉพาะด้าน เช่น

  • กล้องภายนอก: ตัวกล้องมักแข็งแรง ทนแดด ทนฝน มีเคสกันน้ำ และมุมมองกว้าง เหมาะสำหรับติดตั้งรอบบ้านหรือพื้นที่กลางแจ้ง

  • กล้องภายใน: ขนาดกะทัดรัด เหมาะกับการเฝ้าระวังในบ้านหรือสำนักงาน

• กล้องมีสาย / ไร้สาย / Wi-Fi
  กล้องมีสายมักเสถียรกว่า แต่การติดตั้งอาจยุ่งยาก ขณะที่กล้องไร้สายหรือ Wi-Fi เหมาะกับผู้ที่ต้องการความสะดวกในการติดตั้งและใช้งานผ่านมือถือ

⚡️ส่งด่วน กรุงเทพ Xiaomi Mi Smart Camera C300 3MP Home Security Camera กล้องวงจรปิดไร้สาย 2K

฿369-฿1,799

ซื้อสินค้า

กล้องวงจรปิดแบบมีสาย

กล้องวงจรปิดแบบมีสายจะใช้สายไฟในการเชื่อมต่อกับแหล่งจ่ายไฟและระบบอินเทอร์เน็ต ซึ่งต่างจากกล้อง WiFi ที่หลายคนมักเข้าใจผิดว่าเป็นกล้องไร้สายจริง ๆ

ในความเป็นจริง กล้อง WiFi ส่วนใหญ่จะเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตแบบไร้สาย แต่ยังต้องใช้สายไฟในการจ่ายพลังงานอยู่ ขณะที่กล้องวงจรปิดแบบไร้สายแท้ ๆ จะไม่มีสายไฟเลย ใช้แบตเตอรี่เป็นแหล่งพลังงานและเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่าน WiFi

ในส่วนนี้ เราจะพูดถึงตัวเลือกทั้ง 3 แบบ คือ

• กล้องแบบมีสาย

• กล้อง WiFi (ใช้สายไฟแต่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตไร้สาย)

• กล้องไร้สายแท้ ๆ (ใช้แบตเตอรี่และเชื่อมต่อ WiFi)

รูปทรงและฟังก์ชันของกล้องวงจรปิด

กล้องโดม (Dome Camera)
กล้องโดมมีขนาดเล็ก รูปทรงกลมคล้ายโดม ช่วยป้องกันการงัดแงะและเหมาะกับการติดตั้งบนเพดาน รูปทรงและตำแหน่งติดตั้งนี้ยังช่วยให้กล้องสามารถจับภาพมุมกว้างได้ดี เหมาะกับการเฝ้าระวังในพื้นที่กว้าง เช่น ห้องโถง หรือทางเดิน

กล้องวงจรปิดแบบกระสุน (Bullet Camera)

กล้องแบบกระสุนมีขนาดกะทัดรัด ออกแบบมาให้ติดตั้งบนผนัง มักใช้ในมุมห้องหรือพื้นที่แคบ ๆ เพื่อจับภาพได้อย่างชัดเจนและครอบคลุม กล้องชนิดนี้ยังมีความทนทานและป้องกันการงัดแงะได้ดี

กล้องวงจรปิดแบบแพน เอียง และซูม (PTZ Camera)

กล้อง PTZ มีความยืดหยุ่นสูง สามารถหมุนได้ 360 องศา ทั้งในแนวนอนและแนวตั้ง รวมถึงซูมภาพเพื่อโฟกัสวัตถุที่ต้องการ เหมาะกับการเฝ้าระวังพื้นที่กว้าง เช่น สนามจอดรถ หรือโรงงาน

กล้องวงจรปิดแบบซ่อนเร้น (Hidden Camera)

กล้องซ่อนเร้นถูกออกแบบให้ดูเหมือนไม่ใช่กล้อง เช่น รูปทรงเครื่องตรวจจับควัน ใช้สำหรับการรักษาความปลอดภัยภายในบ้าน แต่แม้จะมีประโยชน์ กล้องที่เห็นได้ชัดเจนยังมีข้อดีตรงที่ช่วยเป็น “ตัวบ่งชี้” ป้องกันการลักขโมยหรือเหตุไม่พึงประสงค์ได้ดีกว่า

Philips กล้องวงจรปิด Smart Camera Home Security Camera กล้องวงจรปิด 2K กล้องวงจรปิด พาโนรามา360°

฿140-฿1,619

ซื้อสินค้า

กล้องวงจรปิดแบบสแตนด์อโลน (Standalone Camera)

เวลาซื้อกล้องวงจรปิด คุณอาจเจอกับระบบครบชุดที่มีทั้งกล่องบันทึกภาพ (NVR หรือ DVR) พร้อมกล้องตั้งแต่ 2 ตัวขึ้นไป ซึ่งถ้าต้องการเพิ่มกล้องในภายหลัง ก็ต้องซื้อกล้องที่เข้ากันกับระบบเดิม เช่น หากใช้ NVR ก็ต้องซื้อกล้อง NVR เท่านั้น

แต่ถ้าไม่อยากยุ่งยาก คุณสามารถเลือก กล้องแบบสแตนด์อโลน ที่ทำงานแยกจากระบบอื่น ๆ ได้เลย ไม่ต้องใช้กล่องบันทึก เพราะกล้องจะส่งข้อมูลผ่าน WiFi ไปเก็บไว้บนคลาวด์โดยตรง หรือจะเก็บในการ์ด SD ที่ติดมากับกล้องก็ได้

ข้อดีคือ หากต้องการติดตั้งกล้องเพิ่มในอนาคต ก็ไม่ต้องซื้อระบบใหม่ทั้งหมดหรือกังวลเรื่องความเข้ากันได้ ทำให้สะดวกและยืดหยุ่นมากขึ้น

Xiaomi Outdoor Camera BW300 ภาพสีความละเอียดสูง 2K เพื่อการ|รักษาความปลอดภัยอัจฉริยะที่เชื่อถือ|ได้ในทุกสภาพอากาศ

฿804-฿804

ซื้อสินค้า

คำแนะนำระบบกล้องวงจรปิดแบบมีสาย

กล้องวงจรปิดแบบมีสายจะใช้สายไฟและสายเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตเพื่อส่งสัญญาณวิดีโอ โดยทั่วไปมีกล้อง 2 ประเภทหลักที่ใช้งานกันคือ:

• กล้องที่ใช้ขั้วต่อ BNC
  กล้องประเภทนี้จะเชื่อมต่อกับเครื่องบันทึกภาพ (DVR) ด้วยสาย BNC หนึ่งเส้น และใช้สายอีกเส้นเชื่อม DVR กับเราเตอร์อินเทอร์เน็ตเพื่อส่งข้อมูล

• กล้องที่รองรับ Power over Ethernet (PoE)
  กล้องแบบนี้ใช้สาย LAN (RJ45) เส้นเดียวที่ทำหน้าที่ทั้งจ่ายไฟและส่งข้อมูลไปยังเครื่องบันทึกภาพแบบเครือข่าย (NVR) ซึ่งจะเชื่อมต่อกับเราเตอร์อินเทอร์เน็ตของคุณ

แนะนำกล้องวงจรปิด WiFi

กล้องวงจรปิด WiFi หรือที่บางคนเรียกว่ากล้องวงจรปิดอัจฉริยะ มักถูกเข้าใจผิดว่าเป็นกล้องไร้สายเต็มรูปแบบ แต่ความจริงคือ กล้องเหล่านี้ส่งสัญญาณภาพแบบไร้สายผ่าน WiFi ไปยังสมาร์ทโฟน แท็บเล็ต หรืออุปกรณ์อื่น ๆ ได้โดยไม่ต้องลากสายเชื่อมต่อภาพ

อย่างไรก็ตาม กล้อง WiFi ส่วนใหญ่ยังต้องใช้ สายไฟ เพื่อจ่ายพลังงาน

ข้อดีของกล้อง WiFi คือการติดตั้งที่ง่ายและสะดวกกว่าแบบมีสายมาก แต่ก็มีข้อจำกัดเรื่องความเสถียรของสัญญาณ หากสัญญาณ WiFi ในบางจุดของบ้านหรือธุรกิจอ่อน อาจทำให้ภาพกระตุกหรือขาดช่วงได้

ทางแก้ไขคือการติดตั้ง ตัวขยายสัญญาณ WiFi เพื่อเพิ่มความแรงและความครอบคลุมของสัญญาณในพื้นที่ที่ต้องการ