ท่องเที่ยวทั่วโลก | 4 จุดหมายปลายทางที่ดีที่สุดของไอร์แลนด์ที่ควรไปเยือนในปี 2025


ไอร์แลนด์ ดินแดนแห่งบทกวีและความโรแมนติก ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกด้วยชนบทอันเขียวขจีอันกว้างใหญ่ สถานที่ทางประวัติศาสตร์โบราณ และการต้อนรับอย่างอบอุ่น ในปี 2025 ห้ามพลาดสถานที่ท่องเที่ยว 4 แห่งต่อไปนี้ เพื่อให้คุณได้สัมผัสเสน่ห์อันเป็นเอกลักษณ์ที่สุดของไอร์แลนด์
1. หน้าผาโมเฮอร์

หน้าผาโมเฮอร์ตั้งอยู่บนชายฝั่งตะวันตกของไอร์แลนด์ เป็นหนึ่งในหน้าผาที่สูงที่สุดในยุโรป สูง 214 เมตร และทอดยาว 8 กิโลเมตร ทอดยาวตามแนวมหาสมุทรแอตแลนติก ทัศนียภาพอันงดงามตระการตานั้นงดงามจับใจอย่างแท้จริง เมื่อยืนอยู่บนขอบหน้าผา คุณจะได้พบกับคลื่นซัดฝั่งเบื้องล่างและมหาสมุทรแอตแลนติกอันกว้างใหญ่เบื้องหน้า สายลมทะเลที่พัดผ่านราวกับเสียงหัวใจของธรรมชาติ บริเวณนี้ยังเคยเป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์แฮร์รี่ พอตเตอร์ พาแฟนๆ เข้าสู่โลกแห่งเวทมนตร์
วิธีการเดินทาง🗺️:
จากดับลิน คุณสามารถนั่งรถไฟไปลิเมอริก แล้วต่อรถบัสไปคลิฟส์ออฟโมเฮอร์ หรือจะเลือกทัวร์แบบไปเช้าเย็นกลับก็ได้ เพื่อประสบการณ์ที่สะดวกและไร้กังวลยิ่งขึ้น หากคุณขับรถมา เส้นทาง N18 จะเป็นเส้นทางที่สวยงาม แต่โปรดระมัดระวังเรื่องการขับรถชิดขวา
แนะนำสั้นๆ 📌 :
หน้าผาโมเฮอร์ประกอบด้วยหินดินดานและหินทราย ซึ่งถูกกัดเซาะจนกลายเป็นรูปร่างอันงดงามตระการตาในปัจจุบันจากการกัดเซาะของลมและคลื่นนับล้านปี จุดชมวิวและเส้นทางเดินป่าช่วยให้เข้าถึงทิวทัศน์อันน่าทึ่งได้อย่างปลอดภัย หน้าผาแห่งนี้ยังเป็นที่อยู่อาศัยของนกทะเลจำนวนมาก ซึ่งมาผสมพันธุ์และเกาะคอนที่นี่ทุกปี ยิ่งเพิ่มความงดงามมีชีวิตชีวาให้กับภูมิทัศน์อันงดงามนี้
การวางแผนเส้นทาง🚴 :
เมื่อเดินทางมาถึงหน้าผาโมเฮอร์ คุณสามารถเยี่ยมชมศูนย์บริการนักท่องเที่ยวเพื่อเรียนรู้เกี่ยวกับโครงสร้างทางธรณีวิทยาและประวัติความเป็นมาของหน้าผา จากนั้นเดินเล่นไปตามทางเดินหน้าผาเพื่อชื่นชมหน้าผาจากมุมมองที่แตกต่างกัน สุดทางเดินจะมีประภาคารเก่าแก่ ซึ่งเป็นจุดถ่ายภาพที่สมบูรณ์แบบ การเดินทางทั้งหมดใช้เวลาประมาณ 2-3 ชั่วโมง
2. วิทยาลัยทรินิตี้ ดับลิน

วิทยาลัยทรินิตี้ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1592 เป็นหนึ่งในมหาวิทยาลัยที่เก่าแก่และทรงเกียรติที่สุดของไอร์แลนด์ วิทยาลัยแห่งนี้มีประวัติศาสตร์อันยาวนานและมรดกทางวัฒนธรรมอันล้ำลึก พร้อมด้วยสถาปัตยกรรมอันสง่างามที่อบอวลไปด้วยบรรยากาศคลาสสิก ห้องลองรูม (Long Room) ซึ่งมีชื่อเสียงมากที่สุดในบรรดาห้องเหล่านี้ เก็บรักษาหนังสือหายากกว่า 200,000 เล่ม ชั้นวางหนังสืออันวิจิตรงดงามและการตกแต่งอันวิจิตรบรรจงชวนให้นึกถึงยุคกลาง วิทยาลัยแห่งนี้ยังเก็บรักษาหนังสือเคลส์ (Book of Kells) ต้นฉบับพระวรสารอันเลื่องชื่อระดับโลก อายุกว่าพันปี ประดับประดาด้วยภาพประกอบอันน่าทึ่งและงานศิลปะตกแต่งอันวิจิตรบรรจง
วิธีการเดินทาง🗺️:
สามารถเดินทางไปยังวิทยาลัยทรินิตี้ ดับลิน ได้อย่างสะดวกด้วยรถประจำทาง รถไฟใต้ดิน หรือรถไฟฟ้ารางเบา หากคุณอาศัยอยู่ในใจกลางเมือง ก็สามารถเดินไปได้สะดวกเช่นกัน
แนะนำสั้นๆ 📌 :
วิทยาลัยทรินิตี้ไม่เพียงแต่เป็นศูนย์รวมแห่งการศึกษาเท่านั้น แต่ยังเป็นขุมทรัพย์ทางศิลปะและประวัติศาสตร์อีกด้วย วิทยาเขตแห่งนี้มีสถาปัตยกรรมหลากหลายรูปแบบ ผสมผสานองค์ประกอบจากสถาปัตยกรรมแบบโกธิกและเรอเนซองส์ หอสมุดลองเป็นหนึ่งในอาคารสำคัญของวิทยาลัย ชั้นวางหนังสือสองชั้นเต็มไปด้วยหนังสือโบราณ ภาพจิตรกรรมฝาผนังและโคมระย้าอันวิจิตรงดงามบนเพดานล้วนเสริมซึ่งกันและกัน ก่อให้เกิดบรรยากาศที่เคร่งขรึมและสง่างาม ห้องสมุดเคลส์ สมบัติล้ำค่าของวิทยาลัย ดึงดูดนักท่องเที่ยวจำนวนนับไม่ถ้วนด้วยงานฝีมืออันประณีตและมรดกทางวัฒนธรรมอันรุ่มรวย
การวางแผนเส้นทาง🚴:
หลังจากเข้ามหาวิทยาลัยแล้ว คุณสามารถเยี่ยมชมอาคารหลักของมหาวิทยาลัย เช่น หอนาฬิกาและจัตุรัสรัฐสภา จากนั้นมุ่งหน้าไปยังห้องสมุดลอง ซึ่งต้องจองตั๋วล่วงหน้า ภายในห้องสมุดคุณจะได้ชื่นชมหนังสือและสถาปัตยกรรม รวมถึงนิทรรศการเกี่ยวกับหนังสือเคลส์ ทัวร์ทั้งหมดใช้เวลาประมาณ 2-3 ชั่วโมง หลังจากนั้นคุณสามารถผ่อนคลายที่ร้านกาแฟในมหาวิทยาลัย และดื่มด่ำกับความเงียบสงบและความงามของมหาวิทยาลัย
ไจแอนต์คอสเวย์

ไจแอนต์สคอสเวย์ ตั้งอยู่ในเขตแอนทริม ประเทศไอร์แลนด์เหนือ เป็นสิ่งมหัศจรรย์ทางธรรมชาติ ประกอบด้วยเสาหินบะซอลต์รูปหกเหลี่ยมกว่า 40,000 ต้น เสาที่เรียงชิดกันเหล่านี้มีลักษณะคล้ายบันไดอันวิจิตรบรรจงของยักษ์ที่นำลงไปสู่ห้วงลึกของทะเล ตำนานเล่าว่าไจแอนต์สคอสเวย์สร้างขึ้นโดยฟินน์ แมคคูล ยักษ์ชาวไอริช เพื่อต่อสู้กับยักษ์ชาวสกอตแลนด์ แต่ในความเป็นจริงแล้ว เกิดจากการเย็นตัวและการหดตัวของลาวาอันเนื่องมาจากการปะทุของภูเขาไฟ ในปี พ.ศ. 2529 ไจแอนต์สคอสเวย์ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกขององค์การยูเนสโก และดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก
วิธีการเดินทาง🗺️:
จากเบลฟาสต์ คุณสามารถนั่งรถบัสหรือเข้าร่วมทัวร์หนึ่งวันไปยังไจแอนต์สคอสเวย์ได้ หากขับรถมา ให้ใช้ถนน A2 Coast Road ซึ่งมีทิวทัศน์ชายฝั่งที่สวยงาม
แนะนำสั้นๆ📌:
เสาหลักของไจแอนต์สคอสเวย์มีรูปทรงและขนาดสม่ำเสมอ โดยเสาที่สูงที่สุดมีความสูงถึง 12 เมตร บางต้นตั้งตรง บางต้นเอียง และบางต้นตัดกัน ก่อให้เกิดภูมิทัศน์อันหลากหลายและเป็นเอกลักษณ์ บริเวณใกล้เคียงยังมีสถานที่ท่องเที่ยวในตำนานหลายแห่ง เช่น รองเท้าบูทไจแอนต์สและไจแอนต์สคอสเวย์ ซึ่งยิ่งเพิ่มความลึกลับให้กับพื้นที่ นอกจากนี้ ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวยังมีการจัดแสดงมัลติมีเดียและประสบการณ์แบบอินเทอร์แอคทีฟ ซึ่งช่วยให้เข้าใจการก่อตัวและความสำคัญทางธรณีวิทยาของไจแอนต์สคอสเวย์ได้อย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้น
การวางแผนเส้นทาง🚴:
เมื่อเดินทางมาถึงไจแอนต์สคอสเวย์แล้ว โปรดเยี่ยมชมศูนย์บริการนักท่องเที่ยวเพื่อสอบถามข้อมูล จากนั้น เดินตามเส้นทางเดินไปยังไจแอนต์สคอสเวย์ ซึ่งคุณสามารถชมเสาหินอันวิจิตรบรรจงอย่างใกล้ชิด จากทางเดินนี้ คุณสามารถเดินลงไปที่ชายทะเลและสัมผัสกับทัศนียภาพอันงดงามของคลื่นซัดสาดเสาหิน ทัวร์นี้ใช้เวลาประมาณ 2-3 ชั่วโมง และคุณสามารถเพลิดเพลินกับทิวทัศน์แบบพาโนรามาจากจุดชมวิวโดยรอบ
อุทยานแห่งชาติคิลลาร์นีย์

อุทยานแห่งชาติคิลลาร์นีย์ เป็นอุทยานแห่งชาติแห่งแรกของไอร์แลนด์ ตั้งอยู่ในเขตเคอร์รี ทางตะวันตกเฉียงใต้ของไอร์แลนด์ อุทยานแห่งนี้เปี่ยมล้นด้วยทรัพยากรธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ ทั้งทะเลสาบ ภูเขา ป่าไม้ และสัตว์ป่า จุดเด่นของอุทยานคือทะเลสาบคิลลาร์นีย์ ที่มีน้ำใสดุจคริสตัล โอบล้อมด้วยป่าไม้เขียวชอุ่มและเนินเขาสลับซับซ้อน ก่อเกิดเป็นภูมิทัศน์ที่งดงาม อุทยานแห่งนี้ยังมีปราสาทและคฤหาสน์เก่าแก่ เช่น ปราสาทรอสส์ และบ้านมัคครอสส์ ซึ่งเป็นเครื่องยืนยันถึงประวัติศาสตร์ของไอร์แลนด์
ตัวเลือกการเดินทาง🗺️:
จากเมืองต่างๆ เช่น ดับลินหรือคอร์ก คุณสามารถนั่งรถไฟหรือรถบัสไปคิลลาร์นีย์แล้วต่อรถไปสวนสาธารณะได้ หากขับรถมา มีที่จอดรถรอบๆ สวนสาธารณะให้จอดรถได้สะดวก
แนะนำสั้นๆ 📌 :
อุทยานแห่งชาติคิลลาร์นีย์ครอบคลุมพื้นที่กว้างใหญ่และอุดมไปด้วยระบบนิเวศที่หลากหลาย ปราสาทรอสส์สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 15 เป็นปราสาทยุคกลางที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้อย่างดีภายในอุทยาน นักท่องเที่ยวสามารถเยี่ยมชมภายในและเรียนรู้เกี่ยวกับภูมิหลังทางประวัติศาสตร์ บ้านมัคครอสส์ คฤหาสน์สไตล์วิกตอเรียนสมัยศตวรรษที่ 19 โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมอันสง่างามและสวนที่ออกแบบอย่างสวยงาม สะท้อนวิถีชีวิตของชนชั้นสูงในยุคนั้น นอกจากนี้ อุทยานแห่งนี้ยังเป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่านานาชนิด เช่น กวางแดง สุนัขจิ้งจอก และกระต่ายป่า ซึ่งเปิดโอกาสให้คุณได้พบปะกับสัตว์น่ารักเหล่านี้ระหว่างการเยี่ยมชม
การวางแผนเส้นทาง🚴:
เริ่มต้นวันใหม่ด้วยการล่องเรือชมทะเลสาบคิลลาร์นีย์เพื่อชื่นชมทัศนียภาพอันงดงาม จากนั้นเยี่ยมชมปราสาทรอสส์เพื่อเรียนรู้ประวัติศาสตร์และสถาปัตยกรรมอันงดงาม จากนั้นเดินทางต่อไปยังมัคครอสส์เฮาส์เพื่อสำรวจอาคารและสวนต่างๆ ภายในสวน คุณยังสามารถเดินป่าหรือปั่นจักรยานไปตามเส้นทางป่าเพื่อสัมผัสกับความเงียบสงบและความงามของธรรมชาติ เราขอแนะนำให้ใช้เวลาทั้งวันสำหรับทัวร์นี้
สรุป
สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญทั้งสี่แห่งในไอร์แลนด์แห่งนี้มอบประสบการณ์ที่หลากหลาย ตั้งแต่ทัศนียภาพทางธรรมชาติอันงดงาม ประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมอันรุ่มรวย ไปจนถึงย่านเมืองที่มีชีวิตชีวา เมื่อวางแผนการเดินทาง คุณสามารถปรับเปลี่ยนให้เหมาะกับความสนใจและเวลาว่างของคุณได้ หากคุณมีเวลามากขึ้น เราขอแนะนำให้รวมสถานที่ท่องเที่ยวทั้งห้าแห่งนี้เข้าด้วยกันเพื่อสัมผัสเสน่ห์อันหลากหลายของไอร์แลนด์ ไม่ว่าคุณจะเดินทางด้วยวิธีใดหรือมีแผนการเดินทางแบบใด ไอร์แลนด์จะมอบความทรงจำอันน่าจดจำให้กับคุณอย่างแน่นอน
แนะนำสำหรับคุณ
สิ่งจำเป็นสำหรับการตั้งแคมป์: วิธีเลือกเต็นท์ให้เหมาะสม
รองเท้าแตะที่แนะนำสำหรับฤดูร้อนปี 2025
BAGSMART: แบรนด์กระเป๋ายุคใหม่ที่สะท้อนตัวตนของคนรุ่นใหม่
คนเก็บตัวเข้ามหาวิทยาลัย: ทำยังไงถึงจะมีเพื่อน?
ผู้กำกับผู้ยิ่งใหญ่เหล่านั้น 2 | มาร์ติน สกอร์เซซี: วิญญาณอันธพาล ความศรัทธายังคงมีอยู่
iPhone 17 กำลังจะมา: อัปเกรดครั้งใหญ่ที่แฟน Apple รอคอย