ซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้า | ตู้เย็นของฉันหยุดทำความเย็นกะทันหันใช่ไหม? อย่าเพิ่งรีบเรียกช่างซ่อม ตรวจสอบ 4 ปัญหาหลักๆ เหล่านี้

ในสภาพอากาศร้อนระอุของประเทศไทย ตู้เย็นเปรียบเสมือน “เทวดาผู้พิทักษ์” ของเราในการถนอมอาหารให้สดใหม่และยืดอายุการเก็บรักษา อย่างไรก็ตาม เมื่อตู้เย็นไม่เย็น หรือไฟเปิดอยู่แต่ตู้เย็นไม่เย็น อาจทำให้รู้สึกหงุดหงิดและไม่สะดวกอย่างยิ่ง ลองนึกภาพว่าต้องเก็บอาหารไว้หลายชั่วโมง แต่กลับเน่าเสียภายในไม่กี่ชั่วโมงเพราะตู้เย็นทำงานผิดปกติ ช่างน่าปวดหัวเสียจริง ๆ เรามาเจาะลึกถึงสาเหตุทั่วไปของปัญหาตู้เย็นเหล่านี้และวิธีแก้ไขที่อาจเกิดขึ้น

สาเหตุทั่วไปที่ตู้เย็นไม่เย็นหรือไฟติดแต่ไม่เย็น

การรั่วไหลของสารทำความเย็น

สารทำความเย็นคือ "หัวใจ" ของระบบทำความเย็นของตู้เย็น เฉกเช่นพอร์ตเตอร์ที่ขยันขันแข็ง สารทำความเย็นจะไหลเวียนไปทั่วระบบทำความเย็นของตู้เย็น ดูดซับความร้อนจากภายในอย่างต่อเนื่องและปล่อยออกสู่ภายนอก ทำให้เกิดความเย็น อย่างไรก็ตาม การรั่วไหลของสารทำความเย็นเปรียบเสมือนการลดจำนวนพอร์ตเตอร์ลงอย่างมาก และความสามารถในการทำความเย็นก็ลดลงตามไปด้วย การรั่วไหลของสารทำความเย็นสามารถเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ซึ่งอาจรวมถึงการสึกหรอและการกัดกร่อนของท่อตู้เย็นเมื่อเวลาผ่านไป ทำให้ผนังท่อบางลงและแตกในที่สุด อีกทางเลือกหนึ่งคือ ท่ออาจเสียหายจากแรงภายนอกระหว่างการขนส่งหรือการติดตั้ง เมื่อสารทำความเย็นรั่วไหล ประสิทธิภาพการทำความเย็นของตู้เย็นอาจค่อยๆ ลดลง หรืออาจหยุดทำความเย็นไปเลยก็ได้

คอมเพรสเซอร์เสีย

คอมเพรสเซอร์คือหัวใจสำคัญของระบบทำความเย็นของตู้เย็น ทำหน้าที่จ่ายพลังงานให้กับสารทำความเย็น หากคอมเพรสเซอร์ทำงานผิดปกติ สารทำความเย็นก็จะหมุนเวียนได้ไม่ดี และตู้เย็นก็จะทำความเย็นไม่ได้ ความเสียหายที่พบบ่อยของคอมเพรสเซอร์ ได้แก่ ความเสียหายของมอเตอร์และการสึกหรอของลูกสูบ ความเสียหายของมอเตอร์อาจเกิดขึ้นเนื่องจากอายุการใช้งานที่ยาวนานจากการใช้งานเป็นเวลานาน หรือการเผาไหม้เนื่องจากแรงดันไฟฟ้าที่ไม่เสถียร การสึกหรอของลูกสูบมักเกิดจากแรงเสียดทานระหว่างส่วนประกอบต่างๆ จากการทำงานเป็นเวลานานของคอมเพรสเซอร์ เมื่อคอมเพรสเซอร์ทำงานผิดปกติ คุณอาจได้ยินเสียงผิดปกติจากตู้เย็น หรือคอมเพรสเซอร์อาจไม่เริ่มทำงานเลย

เทอร์โมสตัทเสีย

เทอร์โมสตัททำหน้าที่เป็น "ตัวควบคุมอุณหภูมิ" ของตู้เย็น โดยทำหน้าที่ตรวจจับอุณหภูมิภายในและควบคุมการเริ่มและหยุดการทำงานของคอมเพรสเซอร์ตามอุณหภูมิที่ตั้งไว้ หากเทอร์โมสตัททำงานผิดปกติ จะไม่สามารถตรวจจับการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิได้อย่างแม่นยำ ส่งผลให้คอมเพรสเซอร์ทำงานผิดปกติ ตัวอย่างเช่น หากการตั้งค่าเทอร์โมสตัทต่ำเกินไป แต่อุณหภูมิจริงถึงค่าที่ตั้งไว้ เทอร์โมสตัทจะไม่ส่งสัญญาณให้คอมเพรสเซอร์หยุดทำงาน คอมเพรสเซอร์จะยังคงทำงานต่อไป ส่งผลให้สิ้นเปลืองพลังงานและอาจทำให้อายุการใช้งานของตู้เย็นสั้นลง ในทางกลับกัน หากการตั้งค่าเทอร์โมสตัทสูงเกินไปหรือไม่สามารถตรวจจับอุณหภูมิที่ลดลงได้ คอมเพรสเซอร์อาจไม่เริ่มทำงาน ส่งผลให้ตู้เย็นไม่สามารถทำความเย็นได้

ฝุ่นละอองสะสมในคอนเดนเซอร์

คอนเดนเซอร์เป็นส่วนประกอบสำคัญในการระบายความร้อนในตู้เย็น คอนเดนเซอร์ตั้งอยู่ด้านหลังหรือด้านล่างของตู้เย็น ทำหน้าที่ระบายความร้อนที่สารทำความเย็นปล่อยออกมาสู่อากาศโดยรอบในระหว่างกระบวนการทำความเย็น อย่างไรก็ตาม หากมีฝุ่นละอองและสิ่งสกปรกสะสมอยู่บนคอนเดนเซอร์จำนวนมาก คอนเดนเซอร์จะทำหน้าที่เสมือนชั้นผ้าฝ้ายหนาๆ ขัดขวางการระบายความร้อนและลดประสิทธิภาพการระบายความร้อน ส่งผลให้สารทำความเย็นไม่สามารถระบายความร้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพการทำความเย็นอย่างรุนแรง และอาจทำให้ตู้เย็นได้รับความเย็นไม่เพียงพอ

วิธีแก้ปัญหาเบื้องต้น

ตรวจสอบสารทำความเย็น

หากคุณสงสัยว่ามีการรั่วไหลของสารทำความเย็น ให้สังเกตก่อนว่าประสิทธิภาพการทำความเย็นของตู้เย็นลดลงเรื่อยๆ หรือไม่ นอกจากนี้ ควรตรวจสอบคราบน้ำมันรอบๆ ตู้เย็นด้วย เนื่องจากสารทำความเย็นมักผสมกับน้ำมันสารทำความเย็น และการรั่วไหลอาจทำให้เกิดคราบน้ำมันได้ หากพบคราบน้ำมัน แสดงว่าอาจมีการรั่วไหลของสารทำความเย็น และจำเป็นต้องติดต่อผู้เชี่ยวชาญเพื่อตรวจสอบและเติมสารทำความเย็น

การแก้ไขปัญหาคอมเพรสเซอร์ล้มเหลว

หากตู้เย็นของคุณมีเสียงผิดปกติหรือคอมเพรสเซอร์ไม่ทำงาน อาจเป็นปัญหาเกี่ยวกับคอมเพรสเซอร์ ขั้นแรก ให้ตรวจสอบว่าแหล่งจ่ายไฟของตู้เย็นทำงานปกติ จากนั้นเคาะเบาๆ ที่ตัวเรือนคอมเพรสเซอร์ บางครั้งการสั่นเล็กน้อยอาจช่วยให้คอมเพรสเซอร์กลับมาทำงานได้ตามปกติ อย่างไรก็ตาม หากคอมเพรสเซอร์ยังคงไม่ทำงานหรือมีเสียงผิดปกติ โปรดติดต่อผู้เชี่ยวชาญเพื่อซ่อมแซมหรือเปลี่ยนใหม่

ปรับหรือเปลี่ยนเทอร์โมสตัท

หากคุณสงสัยว่าเทอร์โมสตัททำงานผิดปกติ ให้ลองปรับอุณหภูมิที่ตั้งไว้เพื่อดูว่าประสิทธิภาพการทำความเย็นของตู้เย็นดีขึ้นหรือไม่ หากการปรับยังไม่ทำงาน อาจจำเป็นต้องเปลี่ยนเทอร์โมสตัท เมื่อเปลี่ยนเทอร์โมสตัท โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่าเลือกเทอร์โมสตัทที่ตรงกับรุ่นเดิมและติดตั้งอย่างถูกต้องตามคำแนะนำ

ทำความสะอาดคอนเดนเซอร์

การทำความสะอาดคอนเดนเซอร์อย่างสม่ำเสมอเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งต่อการรักษาประสิทธิภาพการทำความเย็นให้อยู่ในระดับสูงสุด ใช้เครื่องดูดฝุ่นหรือแปรงขนนุ่มปัดฝุ่นและสิ่งสกปรกออกจากคอนเดนเซอร์อย่างเบามือ เพื่อให้มั่นใจว่าการระบายความร้อนเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ขอแนะนำให้ทำความสะอาดคอนเดนเซอร์เป็นประจำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากใช้งานตู้เย็นในสภาพแวดล้อมที่มีฝุ่นละอองมาก

สรุปคือ หากตู้เย็นของคุณไม่เย็น หรือไฟติดแต่ตู้เย็นไม่เย็น อย่าเพิ่งตกใจ การทำความเข้าใจปัญหาที่พบบ่อยและดำเนินการเบื้องต้นที่เหมาะสม จะช่วยให้คุณแก้ไขปัญหาได้อย่างรวดเร็วและกลับมาใช้งานได้ตามปกติ อย่างไรก็ตาม หากปัญหามีความซับซ้อนและเกินการควบคุมของคุณ โปรดติดต่อช่างซ่อมมืออาชีพทันทีเพื่อหลีกเลี่ยงความเสียหายเพิ่มเติม มาดูแลตู้เย็นของเราให้ดี เพื่อให้ตู้เย็นยังคงมอบความสดใหม่ให้กับชีวิตของเราต่อไป

Toshiba GR-C149

฿4,390-฿4,390

ซื้อสินค้า