แนะนำ 3 หุ่นยนต์ดูดฝุ่น ที่ควรมีติดบ้านแล้วชีวิตจะสบายขึ้น

หากพูดถึง “ของใช้ในบ้าน” ที่คนยุคนี้ให้ความสำคัญมากขึ้น หนึ่งในไอเทมที่มาแรงแบบฉุดไม่อยู่ก็คือ หุ่นยนต์ดูดฝุ่น เพราะในยุคที่ทุกนาทีมีค่า การมีผู้ช่วยที่สามารถทำความสะอาดบ้านให้แทนเราได้โดยไม่ต้องลงแรง ถือเป็นความสุขเล็ก ๆ ที่สร้างคุณภาพชีวิตแบบใหญ่โตเลยก็ว่าได้

ลองนึกภาพดูสิ หลังกลับจากที่ทำงานเหนื่อย ๆ หรือวันหยุดที่อยากพักเต็มที่ แทนที่จะต้องหยิบไม้กวาดหรือเครื่องดูดฝุ่นมาลุยเอง แค่เปิดแอปหรือกดปุ่มเดียว หุ่นยนต์ดูดฝุ่นก็เริ่มทำงาน เดินสำรวจทุกซอกมุม กวาดฝุ่น ดูดขนสัตว์ ถูพื้นจนเงาวับ เรียกว่าแทบไม่ต้องยกมือทำอะไรเลย

วันนี้เราจะพาไปแนะนำ 3 หุ่นยนต์ดูดฝุ่นรุ่นใหม่ที่น่าสนใจที่สุดในปีนี้ ซึ่งแต่ละรุ่นมาพร้อมเทคโนโลยีอัจฉริยะ ฟังก์ชันครบครัน และที่สำคัญคือ ช่วย “ยกระดับความสบายในบ้าน” ได้อย่างแท้จริง

ทำไม “หุ่นยนต์ดูดฝุ่น” ถึงกลายเป็นของจำเป็นในยุคนี้

จากเดิมที่หลายคนคิดว่าหุ่นยนต์ดูดฝุ่นเป็นของฟุ่มเฟือย ตอนนี้กลับกลายเป็นของที่ “ควรมี” มากกว่า “อยากได้” เพราะเทคโนโลยีได้พัฒนาไปมากจนเครื่องสามารถดูดฝุ่น ถูพื้น แยกพื้นที่ และล้างผ้าม็อบอัตโนมัติได้ครบจบในตัวเดียว

นอกจากนี้ หุ่นยนต์ดูดฝุ่นสมัยใหม่ยังเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนได้ ทำให้เราควบคุมการทำงานได้จากทุกที่ ตั้งเวลา กำหนดโซนห้ามเข้า หรือแม้แต่ตั้งให้ถูพื้นเฉพาะห้องครัวเท่านั้นก็ทำได้สะดวกสุด ๆ

พูดง่าย ๆ คือ มันไม่ได้เป็นแค่ “เครื่องทำความสะอาด” อีกต่อไป แต่เป็น “ผู้ช่วยดูแลบ้านอัจฉริยะ” ที่ทำให้การใช้ชีวิตง่ายขึ้นแบบรู้สึกได้จริง

หุ่นยนต์ดูดฝุ่นแนะนำจาก ZestBuy

1. Xiaomi Robot Vacuum X20 Max / X20+

หุ่นยนต์ดูดฝุ่นคู่แฝดอัจฉริยะที่ครบเครื่องทุกฟังก์ชัน

ถ้าคุณกำลังมองหาหุ่นยนต์ดูดฝุ่นที่ทั้งเก่งและฉลาด รุ่น Xiaomi Robot Vacuum X20 Max และ X20+ ถือเป็นตัวเลือกที่น่าจับตามากที่สุดในช่วงนี้ ทั้งสองรุ่นมาพร้อมแท่นอัจฉริยะ (All-in-One Base Station) ที่สามารถซักและเป่าแห้งผ้าถูพื้นอัตโนมัติ รวมถึงเก็บฝุ่นให้โดยไม่ต้องเทเอง

จุดแตกต่างหลักระหว่างสองรุ่นนี้อยู่ที่ “พลังดูด” และ “ระบบทำความสะอาดขอบมุม”

• X20 Max มีแรงดูดสูงถึง 8,000 Pa เหมาะกับบ้านที่มีฝุ่นเยอะ พรมหนา หรือสัตว์เลี้ยงขนร่วงเยอะ

• X20+ แรงดูดอยู่ที่ 6,000 Pa เพียงพอสำหรับการใช้งานทั่วไป เหมาะกับพื้นแข็งหรือพื้นไม้

ฟังก์ชันที่ทำให้ชีวิตง่ายขึ้น

• ซักและเป่าแห้งผ้าถูพื้นอัตโนมัติ ด้วยน้ำอุณหภูมิสูงและลมร้อน

• เก็บฝุ่นอัตโนมัติภายใน 10 วินาที ไม่ต้องเทถุงฝุ่นบ่อย

• ถังเก็บน้ำขนาดใหญ่ 4 ลิตร ใช้ถูพื้นพื้นที่กว้างได้ต่อเนื่อง

• ระบบนำทางเลเซอร์ LDS และ S-Cross™ ที่ช่วยให้หลบสิ่งกีดขวางได้แม่นยำ

• ฟังก์ชันยกผ้าถูพื้นเมื่อเจอพรม ป้องกันพรมเปียก

• ควบคุมง่ายผ่านแอป Mi Home/Xiaomi Home

นอกจากนี้ X20 Max ยังมี “แขนถูพื้นแบบยืดได้ (Extendable Mop Arm)” ช่วยให้เข้าถึงขอบผนังได้ดีกว่า ซึ่งถือเป็นฟีเจอร์ที่หาได้ยากในรุ่นอื่น

สรุปสั้น ๆ ถ้าอยากได้หุ่นยนต์ดูดฝุ่นที่ครบจบทุกอย่างในเครื่องเดียว X20 Max คือคำตอบ ส่วนใครอยากได้ฟังก์ชันใกล้เคียงในราคาคุ้มกว่า X20+ ก็ยังถือว่าคุ้มเกินราคา

Xiaomi Robot Vacuum X20

฿7,495-฿15,995

ซื้อสินค้า

2. Dreame Bot D20 Ultra

หุ่นยนต์ดูดฝุ่นพรีเมียมที่ “ฉลาดจริง” และ “แรงจริง”

ถ้าคุณเป็นคนที่อยากได้หุ่นยนต์ดูดฝุ่นที่ทำทุกอย่างแทนได้จริง ๆ โดยแทบไม่ต้องแตะอะไรเลย Dreame Bot D20 Ultra คือรุ่นที่คุณควรทำความรู้จักไว้ เพราะนี่คือหนึ่งในหุ่นยนต์ทำความสะอาดที่แรงที่สุดในตลาดตอนนี้

จุดเด่นที่เหนือกว่า

• แรงดูดสูงสุด 13,000 Pa ด้วยเทคโนโลยี Vormax™ ทำให้เก็บฝุ่นละเอียดหรือขนสัตว์เลี้ยงได้หมดจด

• แท่น PowerDock™ แบบ All-in-One ที่ซักผ้าม็อบ เติมน้ำ ระบายน้ำ และเก็บฝุ่นได้อัตโนมัติ

• ระบบ DuoScrub™ และ MopExtend™ RoboSwing ช่วยให้การถูพื้นสะอาดลึกถึงขอบผนัง

• ระบบ 3DAdapt™ + LiDAR ทำให้หลบสิ่งกีดขวางได้แม่นยำสุด ๆ

• ระบบยกผ้าม็อบขึ้น 10.5 มม. เมื่อเจอพรม พร้อมเพิ่มแรงดูดอัตโนมัติ

อีกหนึ่งสิ่งที่โดดเด่นคือ สามารถใช้งานได้ยาวนานถึง 370 นาที ด้วยแบตเตอรี่ 5,200 mAh ซึ่งมากพอจะทำความสะอาดบ้านขนาดใหญ่ได้ครบทั้งชั้นโดยไม่ต้องชาร์จซ้ำ

นอกจากนี้ ยังควบคุมผ่านแอปได้ทั้ง Mi Home, Xiaomi Home และ Dreamehome และรองรับการสั่งงานด้วยเสียง เหมาะกับคนที่อยากให้บ้านสะอาดแบบ “แฮนด์ฟรี” อย่างแท้จริง

สรุปสั้น ๆ Dreame Bot D20 Ultra คือหุ่นยนต์ดูดฝุ่นที่ครบและแรงสุดในกลุ่ม เหมาะกับบ้านขนาดใหญ่ หรือคนที่ต้องการความสะดวกสูงสุดแบบไม่ต้องยุ่งกับเครื่องเลย

Dreame Bot D20 Ultra

฿15,590-฿15,590

ซื้อสินค้า

3. ECOVACS DEEBOT N30 PRO OMNI

หุ่นยนต์ดูดฝุ่นระดับพรีเมียมที่เน้นความสะอาดและสุขอนามัย

มาถึงรุ่นสุดท้ายอย่าง ECOVACS DEEBOT N30 PRO OMNI ที่จัดว่าเป็น “ตัวท็อปสายครบเครื่อง” ทั้งเรื่องแรงดูด เทคโนโลยี และการดูแลความสะอาดผ้าม็อบระดับลึก เหมาะกับบ้านที่ใส่ใจเรื่องสุขอนามัยเป็นพิเศษ

จุดเด่นหลัก

• แรงดูดสูงสุด 10,000 Pa กำจัดฝุ่นและขนสัตว์เลี้ยงได้หมดจด

• สถานี OMNI อัจฉริยะ ที่ซักผ้าม็อบด้วยน้ำร้อน 60°C อบแห้งด้วยลม 40°C และดูดฝุ่นอัตโนมัติ

• ระบบ TruEdge™ แขนถูพื้นแบบยืดได้ เข้าถึงขอบผนังและมุมห้องได้อย่างทั่วถึง

• ZeroTangle™ 2.0 ป้องกันเส้นผมหรือขนสัตว์พันแปรง

• ระบบยกผ้าม็อบอัตโนมัติ 9 มม. เมื่อเจอพื้นพรม

• TrueMapping™ LiDAR Navigation สร้างแผนที่บ้านละเอียดระดับเซนติเมตร

• ควบคุมผ่านแอป ECOVACS HOME ตั้งเวลา แบ่งโซน หรือสั่งงานระยะไกลได้ง่าย

สำหรับใครที่ต้องการความสะดวกสูงสุดและสุขอนามัยที่ไว้ใจได้ DEEBOT N30 PRO OMNI คือคำตอบ เพราะสามารถใช้งานต่อเนื่องได้ถึง 320 นาทีต่อรอบ แถมยังดูแลผ้าม็อบด้วยน้ำร้อนที่ช่วยฆ่าเชื้อโรคได้จริง

สรุปสั้น ๆ หุ่นยนต์ดูดฝุ่นรุ่นนี้เหมาะกับบ้านที่มีสัตว์เลี้ยงหรือคนแพ้ฝุ่น เพราะระบบซักด้วยน้ำร้อนและป้องกันเส้นผมพันแปรงช่วยให้บ้านสะอาดและปลอดภัยมากขึ้น

ECOVACS DEEBOT N30 PRO OMNI

฿4,480-฿15,960

ซื้อสินค้า

สรุปเปรียบเทียบง่าย ๆ

เคล็ดลับเล็ก ๆ ก่อนซื้อหุ่นยนต์ดูดฝุ่น

1. ดูขนาดพื้นที่บ้านก่อนเลือก ถ้าบ้านใหญ่หรือมีหลายห้อง ควรเลือกรุ่นที่มีแบตเตอรี่ใหญ่และระบบนำทางแม่นยำ

2. มีสัตว์เลี้ยงไหม? ถ้ามี ควรเลือกรุ่นที่แรงดูดสูงและมีระบบกันขนพันแปรง เช่น ECOVACS หรือ Dreame

3. พื้นบ้านแบบไหน บ้านที่มีพรมควรเลือกรุ่นที่ยกผ้าม็อบอัตโนมัติ

4. อย่ามองแค่ราคา หุ่นยนต์ที่มีระบบทำความสะอาดผ้าม็อบและเก็บฝุ่นอัตโนมัติจะประหยัดเวลาได้มากในระยะยาว

5. ดูแอปควบคุม ควรเลือกรุ่นที่รองรับการสั่งงานผ่านแอปที่ใช้งานง่าย เช่น Mi Home หรือ ECOVACS HOME

สรุปส่งท้าย

ยุคนี้ “ความสะอาด” ไม่ได้มาพร้อมกับ “ความเหนื่อย” อีกต่อไป เพราะ หุ่นยนต์ดูดฝุ่น กลายเป็นผู้ช่วยคู่บ้านที่ทั้งฉลาด ขยัน และไม่บ่นเลยสักคำ

ไม่ว่าคุณจะเลือก Xiaomi X20 Max/X20+ ที่คุ้มค่าและครบเครื่อง, Dreame Bot D20 Ultra ที่แรงสุดในตลาด, หรือ ECOVACS DEEBOT N30 PRO OMNI ที่สะอาดลึกและสุขอนามัยสูงสุด

ทั้งหมดนี้คือหุ่นยนต์ดูดฝุ่นที่ “ควรมีติดบ้าน” เพื่อให้ชีวิตคุณสะดวก สบาย และสะอาดกว่าที่เคย