Insta360 GO Ultra: กล้องตัวเล็ก แต่สเปกเทพ แถมราคาดี

มีใครเคยเจอสถานการณ์นี้ไหมครับ จะออกไปถ่าย vlog สักตอนที ต้องแบกกล้องใหญ่ ขาตั้ง เสียงไวร์เลส แบตสำรอง จนรู้สึกเหมือนเตรียมยกกองถ่ายทั้งทีมไปเดินตลาดนัด? ผมก็เป็นหนึ่งในนั้น จนกระทั่ง “ของจิ๋วแต่แจ๋ว” ตัวใหม่อย่าง Insta360 GO Ultra มาถึงในมือ

บอกเลยว่า ตอนแรกผมแค่คิดว่าจะลองเล่นดูเฉย ๆ แต่พอใช้จริงไปไม่ถึงอาทิตย์ ผมเริ่มวางกล้องตัวใหญ่ไว้ที่บ้านบ่อยขึ้นเรื่อย ๆ เพราะเจ้าตัวนี้มันเล็กจนแทบลืมว่ากำลังถือกล้องอยู่ แต่กลับให้ภาพที่ “โคตรโปร” กว่าที่คิดไว้เยอะมาก

นี่แหละ ที่มาของคำว่า “กล้องตัวเล็ก แต่สเปกเทพ” ที่ผมพูดแบบมั่นใจ เพราะมันไม่ได้ดีแค่ขนาด แต่มันฉลาด มี AI ช่วยคิด และที่สำคัญ ราคายังอยู่ในจุดที่ “คุ้ม” สำหรับทั้งมือใหม่และสายโปรที่อยากได้กล้องสำรองพกง่าย

ทำความรู้จักกับ Insta360 GO Ultra: จิ๋วแต่แรง

Insta360 เป็นแบรนด์ที่แฟนแอคชั่นแคมรู้จักดีอยู่แล้ว โดยเฉพาะตระกูล “GO” ที่เน้นพกพาง่าย น้ำหนักเบา และพร้อมถ่ายได้ทุกที่ รุ่น GO Ultra นี้เปิดตัวในเดือนสิงหาคม 2025 พร้อมคำโปรยที่ว่า “Next-level mini cam”  ซึ่งหลังจากได้ลอง ผมต้องบอกว่ามันไม่เกินจริงเลย

GO Ultra คือรุ่นที่ยกระดับจาก GO 3S ชัดเจนทุกด้าน ทั้งเซ็นเซอร์ใหญ่ขึ้น ชิปประมวลผล AI ตัวใหม่ แถมยังรองรับ วิดีโอ 4K 60fps แบบที่แต่ก่อนต้องใช้กล้องใหญ่ถึงจะได้คุณภาพระดับนี้

รีวิวสเปกและฟีเจอร์เด่นแบบเข้าใจง่าย

วิดีโอ 4K/60fps ภาพลื่นเหมือนหนัง แต่ขนาดกล้องแค่ลูกอม

GO Ultra สามารถบันทึกวิดีโอที่ความละเอียดสูงสุด 4K ที่ 60 เฟรมต่อวินาที ภาพที่ได้ลื่นสุด ๆ เวลาถ่ายวิ่ง เดิน หรือขี่จักรยาน ภาพไม่กระตุกเลย แถม Dynamic Range ก็ดีขึ้นมากจากรุ่นก่อน

ผมลองถ่ายตอนเย็นริมทะเล ภาพไม่แตก ไม่หลุดโทนแม้จะมีแสงย้อน น้ำทะเลยังคงรายละเอียดครบทุกหยด  นี่คือจุดที่ผมประทับใจสุด ๆ เพราะมันให้คุณภาพระดับกล้องราคาหลายหมื่นในตัวที่หนักแค่ 53 กรัม

เซ็นเซอร์ใหม่ 1/1.28 นิ้ว + ชิป AI 5nm กลางคืนก็ยังชัด

Insta360 GO Ultra ใช้เซ็นเซอร์ขนาดใหญ่ขึ้น (1/1.28 นิ้ว) คู่กับชิป AI ขนาด 5nm ซึ่งช่วยประมวลผลแสงและสีได้ดีกว่ารุ่นก่อนหน้าแบบเห็นผลทันตา

ตอนผมเอาไปถ่ายไฟกลางคืนในเมือง ภาพแทบไม่ต้องแต่งเพิ่ม Noise น้อยมาก สีของไฟและผิวคนยังออกมาสมจริง แถม AI ของมันยังรู้จักปรับค่า Exposure อัตโนมัติให้พอดีโดยไม่ Over หรือ Under จนน่ารำคาญ

ภาพนิ่ง 50MP ถ่ายภาพเดี่ยวก็ได้คุณภาพระดับโปร

ถึงจะเป็นกล้องจิ๋ว แต่ GO Ultra ถ่ายภาพนิ่งได้ถึง 50 ล้านพิกเซล รายละเอียดเล็ก ๆ เช่น เส้นผม เงา หรือพื้นผิวต่าง ๆ คมชัดมาก โดยเฉพาะถ้าเปิด HDR Mode ภาพจะได้คอนทราสต์และแสงที่สวยเหมือนกล้อง Mirrorless เล็ก ๆ ตัวหนึ่งเลย

ระบบกันสั่น FlowState + Horizon Lock วิ่งยังนิ่ง

ระบบกันสั่น FlowState เป็นของเด็ดประจำค่าย Insta360 มานานแล้ว แต่ในรุ่น Ultra นี้เพิ่ม 360° Horizon Lock เข้ามา ทำให้ไม่ว่ากล้องจะหมุนเอียงขนาดไหน ภาพก็ยัง “ตรงเส้นขอบฟ้า” เสมอ

ผมลองติดกล้องไว้ที่หมวกกันน็อกแล้วขี่มอเตอร์ไซค์ ภาพนิ่งจนเหมือนใช้ Gimbal ทั้งที่จริง ๆ ไม่มีเลย แถมเสียงลมก็ถูกตัดออกได้ดีพอสมควร

Action Pod พร้อมจอพลิก 2.5 นิ้ว ถ่ายตัวเองง่ายเหมือนถือมือถือ

สิ่งที่ผมชอบคือ Action Pod ที่มาพร้อมจอสัมผัสขนาด 2.5 นิ้ว ซึ่งพับได้เหมือนกล้อง vlog ตัวใหญ่ เวลาอยากเช็กเฟรมหรือถ่ายตัวเองไม่ต้องเดาอีกต่อไป

และที่เด็ดคือ ตัว Pod ยังมีแบตในตัว แปลว่าถ้าต่อกับกล้อง จะเพิ่มเวลาใช้งานได้รวมกว่า 200 นาที เลยทีเดียว  เหมาะกับสายเดินทางมาก

รองรับ microSD Card สูงสุด 2TB แก้จุดอ่อนเดิมได้อยู่หมัด

ในรุ่นเก่าอย่าง GO 3S ปัญหาคือหน่วยความจำภายในจำกัด ทำให้ถ่ายนาน ๆ ไม่ได้ แต่ใน GO Ultra เปลี่ยนมาใช้ microSD card แล้ว! รองรับสูงสุดถึง 2TB เก็บวิดีโอ 4K ได้เป็นชั่วโมง ๆ

นี่เป็นจุดที่ผมยกนิ้วให้เลย เพราะมันเปิดโอกาสให้สายมืออาชีพจัด workflow ง่ายขึ้น โอนถ่ายไฟล์เร็ว แถมไม่ต้องล้างเมมระหว่างวัน

ชาร์จไว – 0 ถึง 80% ใน 12 นาที

อีกสิ่งที่ทำให้ชีวิตง่ายขึ้นคือระบบ Fast Charge แค่ 12 นาทีก็ได้แบตกลับมาถึง 80% ซึ่งสำหรับคนที่ต้องถ่ายต่อเนื่อง นี่คือพระเอกจริง ๆ เพราะบางทีผมชาร์จระหว่างกินข้าว กลับมาก็พร้อมถ่ายต่อทันที

ระบบแม่เหล็กสุดเทพ ติดได้ทุกที่

ตัวกล้องมาพร้อมฐานแม่เหล็กในตัว ติดเสื้อ หมวก รถ หรือราวเหล็กได้หมด ไม่ต้องง้อขาตั้ง ขนาดผมลองติดไว้ที่ด้านข้างรถยังแน่นจนแปลกใจ และที่เจ๋งคือสามารถสลับอุปกรณ์เสริมได้หลากหลายมาก

กันน้ำลึก 10 เมตร ดำน้ำได้แบบไม่ต้องใส่เคส

กล้องรุ่นนี้กันน้ำระดับ IPX8 ลึกได้ถึง 10 เมตร โดยไม่ต้องใส่เคสเพิ่ม ผมลองเอาไปถ่ายในสระว่ายน้ำ ภาพใต้น้ำยังชัด รายละเอียดฟองอากาศเห็นชัดเหมือนดูสารคดี

Apple Find My ลืมกล้องไม่ต้องเครียด

ใครที่ขี้ลืม (แบบผม) จะต้องรักฟีเจอร์นี้ เพราะมันรองรับ Apple Find My สามารถเช็กตำแหน่งกล้องจาก iPhone ได้เลยว่าอยู่ไหน หายตรงไหน ไม่ต้องกลัววางลืมไว้แล้วหาไม่เจออีกต่อไป

สเปกเต็มจากเว็บไซต์ทางการ

เทียบกับ Insta360 GO 3S – รุ่นเก่าไม่แย่ แต่ Ultra มัน “สุด”

สรุปง่าย ๆ  GO 3S ยังดีอยู่สำหรับคนเริ่มต้น แต่ถ้าใครอยากได้ภาพลื่น สีดี กลางคืนแจ่ม ใช้งานยืดหยุ่น และเก็บไฟล์เยอะ ๆ GO Ultra คือการอัปเกรดที่สมเหตุสมผลสุด ๆ

ประสบการณ์จริงหลังใช้ ตัวเล็กที่ทำให้ผมเปลี่ยน workflow

ผมเอา Insta360 GO Ultra ไปถ่าย vlog เดินเล่น 1 วันเต็ม ผลคือ “สบายขึ้นเยอะมาก”

• ไม่ต้องพกของเยอะ: กล้อง+Pod ใส่กระเป๋ากางเกงได้เลย

• ถ่ายไว: หยิบปุ๊บ ถ่ายปั๊บ ไม่ต้องเปิดตั้งค่าหลายขั้นตอน

• คุณภาพดีเกินขนาด: 4K 60fps ที่ได้มันใสจนตกใจ

• Workflow เร็ว: ถอด microSD มาเสียบคอมตัดได้เลย ไม่ต้องรอโหลด

อีกอย่างที่ผมชอบคือแอป Insta360 เองที่ฉลาดขึ้นมาก มันช่วยตัดต่ออัตโนมัติด้วย AI แบบ “ถ่ายเสร็จปุ๊บมีคลิปพร้อมลงเลย” เหมาะกับสายคอนเทนต์ที่อยากอัปเร็ว ๆ

เคล็ดลับการใช้งานให้สุด

1. ตั้งโหมด Pro Video แล้วเปิด FlowState ตลอดเวลา – ภาพจะนิ่งแบบไม่ต้องกลัวสั่น

2. ใช้แม่เหล็กกับคลิปเสื้อ – ได้มุมมอง POV ที่เหมือนเราเห็นจริง

3. อย่าลืมสำรองไฟล์บ่อย ๆ – เพราะ 4K 60fps กินพื้นที่มาก

4. เปิดใช้ AI Editing Mode ในแอป – ประหยัดเวลาตัดต่อไปอีกขั้น

สรุป

พูดตรง ๆ  Insta360 GO Ultra คือกล้องที่ “เปลี่ยนเกม” ของสายคอนเทนต์จริง ๆ มันพกง่าย ถ่ายเร็ว ภาพสวยระดับมืออาชีพ แถมใช้งานได้อเนกประสงค์ จะติดรถ ถ่ายเที่ยว หรือถ่าย vlog ในบ้านก็ยังออกมาดูดี

สำหรับผม มันคือ “กล้องที่ทำให้เราอยากถ่ายทุกวัน” เพราะไม่ต้องแบก ไม่ต้องกลัวสั่น ไม่ต้องตั้งค่าเยอะ แค่กดถ่าย แล้วสนุกกับการสร้างคอนเทนต์ได้เลยถ้าคุณมองหากล้องที่ เล็ก เบา ฉลาด กันสั่นเทพ ภาพสวยระดับโปร แต่ราคาไม่ถึงกล้องใหญ่  Insta360 GO Ultra คือคำตอบที่ควรลองด้วยตัวเองสักครั้ง

Insta360 GO Ultra Creator Bundle

฿15,490-฿17,990

ซื้อสินค้า