YOOSEE หน้าจอคู่ 2 กล้อง กล้องวงจรปิดอัจฉริยะ Full HD 5MP ตัวจริงของการเฝ้าระวังยุคใหม่

ลองจินตนาการถึงบ้านหรือร้านของคุณที่สามารถ “เห็นได้สองมุมพร้อมกัน” แบบไม่ต้องติดสองตัว แถมหมุนได้ ตรวจจับได้ และเชื่อมต่อได้ทั้ง WiFi 2.4G และ 5G ราวกับกำลังมีผู้ช่วยสายเทคคอยมองซ้ายมองขวาให้ตลอดเวลา… นี่แหละเทรนด์ของกล้องวงจรปิดยุคใหม่ ที่ไม่ใช่แค่บันทึกภาพ แต่ต้อง “ฉลาด” พอจะช่วยแยกแยะว่าอะไรคือการเคลื่อนไหวที่ควรสนใจ อะไรคือแค่ลมพัดใบไม้กระตุก
หนึ่งในรุ่นที่กำลังได้รับความนิยมคือ YOOSEE หน้าจอคู่ 2 กล้อง ความละเอียด 5MP (หรือสูงสุด 8MP ในบางรุ่นย่อย) ที่ออกแบบมาเพื่อการใช้งานจริงในยุคที่ลูกค้าต้องการภาพคมชัด ฟังก์ชันครบ และการเชื่อมต่อที่เสถียรแบบไม่งอแง

และนี่คือรีวิวเชิงวิเคราะห์สไตล์สายไอที ที่เข้าใจง่ายเหมือนกำลังดูรีวิวในยูทูบ แต่ได้ข้อมูลแน่น ๆ สายเทคจัดเต็ม อ่านสนุก แอบ geek หน่อย ๆ ตามสูตร

ทำไม “กล้องวงจรปิดหน้าจอคู่” ถึงกลายเป็นเทรนด์

ในอดีต ถ้าต้องการดูหลายมุมพร้อมกันก็ต้องติดหลายตัว ซึ่งเพิ่มทั้งค่าอุปกรณ์ ค่าไฟ และพื้นที่ติดตั้ง แต่กล้องรุ่นใหม่อย่าง YOOSEE Dual Lens กำลังเปลี่ยนเกม ด้วยจุดเด่นสำคัญคือ “เลนส์คู่” ที่แยกการทำงานกันชัดเจน เหมือนมีช่างภาพสองคนยืนมุมเดียวแต่ถ่ายสองมุมพร้อมกัน ทำให้ดูภาพได้แบบเรียลไทม์สองจอในแอปพลิเคชันเดียว

ไอเดียของกล้องสองเลนส์คือการเพิ่มประสิทธิภาพในการครอบคลุมพื้นที่กว้าง ลดจุดบอด และช่วยให้ผู้ใช้ไม่ต้องสลับมุมกล้องไปมาเหมือนเล่นเกมแนว FPS ที่ต้องหันซ้ายขวาตลอดเวลา
สำหรับบ้าน ร้านค้า คลังสินค้า หรือแม้แต่พื้นที่นอกตัวอาคารแบบสนามหน้าบ้าน—รูปแบบนี้ช่วยได้มาก เพราะการมองสองมุมอย่างต่อเนื่องช่วยตรวจสอบสถานการณ์ได้ง่ายกว่าแบบกล้องเดี่ยว

รู้จัก YOOSEE หน้าจอคู่ 2 กล้อง 5MP และเหตุผลที่หลายคนให้ความสนใจ

กล้องวงจรปิดอัจฉริยะ YOOSEE รุ่นนี้ถูกออกแบบให้เป็น “ตัวเดียวครบทุกฟังก์ชัน” ด้วยแนวคิด All-in-One
เพื่อให้การเฝ้าระวังปลอดภัยขึ้น ใช้ง่ายขึ้น และความคมชัดสูงขึ้น ดังนั้นหัวใจของรุ่นนี้จึงอยู่ที่ 3 ส่วนสำคัญ:

1. เลนส์คู่ทำงานพร้อมกัน

2. ความละเอียดระดับ Full HD 5MP / 2K

3. ระบบ AI ช่วยตรวจจับอัจฉริยะ

แต่แน่นอนว่านอกจาก 3 หัวใจหลัก ยังมีคุณสมบัติอีกหลายอย่างที่น่าสนใจแบบสายเทคชอบมาก เดี๋ยวจะพาไล่ทีละส่วนแบบสนุก ๆ แต่เข้าใจง่าย

จุดเด่นของ YOOSEE หน้าจอคู่ 2 กล้อง Full HD 5MP

1. เลนส์คู่ + หน้าจอคู่ ดูสองมุมพร้อมกันแบบแท้จริง

กล้องรุ่นนี้มี “เลนส์คู่” โดยแต่ละเลนส์มีความละเอียด 2.5MP รวมเป็น 5MP หรือในบางรุ่นย่อย “เลนส์ละ 4MP รวมเป็น 8MP”
สิ่งที่แตกต่างจากกล้องสมัยก่อนคือ ไม่ใช่แค่เลนส์สองตัว แต่ดูได้จริงสองมุมพร้อมกัน ผ่านหน้าจอแอป YOOSEE ที่แบ่งภาพเป็น Dual View

ประโยชน์ที่ได้ชัดเจน:

• ดูทางเดิน + หน้าประตูพร้อมกัน

• ดูในร้าน + พื้นที่หน้าร้านโดยไม่ต้องเลื่อนภาพ

• ติดภายนอกบ้านแล้วเห็นทั้งลานจอดรถ + หน้าบ้าน

• ลดจำนวนกล้องที่ต้องติดตั้ง ทำงานง่ายขึ้นเยอะ

สำหรับคนที่ชอบดูภาพแบบไหลลื่น การมีสองมุมในภาพเดียวคือความสบายตาและช่วยให้จับสถานการณ์ได้เร็วกว่าเดิม

2. ความละเอียด Full HD 5MP ภาพคมเหมือนดูผ่านจอทีวี

กล้องวงจรปิดที่ดีต้องมีความละเอียดสูงพอจะดูรายละเอียดได้ เช่น ป้ายทะเบียน เสื้อผ้า หน้าคน หรือวัตถุขนาดเล็ก
YOOSEE รุ่นนี้ให้ความละเอียดที่ 5MP (2K) ซึ่งชัดกว่า Full HD 1080p แบบดั้งเดิม
ข้อดีของความละเอียดระดับนี้คือ:

• ภาพชัดกว่าแบบ 1080p ถึงขั้นซูมดูแล้วภาพยังไม่แตกง่าย

• รายละเอียดวัตถุเล็ก ๆ ชัดเจนขึ้น

• เหมาะกับการดูย้อนทบทวนเหตุการณ์ในคลิปย้อนหลัง

ถ้าเทียบง่าย ๆ จากประสบการณ์สายเทค ความละเอียดระดับนี้คือ sweet spot ของกล้องบ้านยุคปัจจุบัน—ชัดแต่ไม่กินเน็ตเกินเหตุ

3. การมองเห็นกลางคืนปรับได้หลายโหมด

เรื่อง Night Vision หรือโหมดกลางคืนถือเป็นหัวใจของกล้องรักษาความปลอดภัย และรุ่นนี้ให้ตัวเลือกหลายแบบ ได้แก่:

• โหมด IR อินฟราเรดขาวดำ – ไฟไม่สะท้อน ไม่แยงตา ได้ภาพคมชัดในความมืด

• โหมดสี (Color Night Vision) – ใช้ไฟ LED ในตัวเพื่อให้ภาพออกมาเป็นสีในเวลากลางคืน

• โหมด Smart – สลับแบบอัตโนมัติเมื่อเจอการเคลื่อนไหว

โหมดสีจะเหมาะกับพื้นที่ที่ต้องการรายละเอียด เช่น สีรถ ลักษณะเสื้อ หรือวัตถุอื่น ๆ ตอนกลางคืน ส่วนโหมด IR เหมาะกับการประหยัดพลังงานและไม่รบกวนเพื่อนบ้าน
การมีหลายโหมดให้เลือกช่วยให้ผู้ใช้ปรับให้เหมาะกับพื้นที่ติดตั้งได้มากกว่าแบบกล้องทั่วไป

4. รองรับ Wi-Fi 2.4GHz และ 5GHz พร้อมเสถียรภาพสูง

หลายกล้องในตลาดรองรับเฉพาะ 2.4GHz ซึ่งความเสถียรอาจไม่มั่นคงในบ้านที่มีอุปกรณ์เยอะ
แต่ YOOSEE รุ่นนี้รองรับทั้ง:

• 2.4GHz – ระยะไกล ดีสำหรับพื้นที่กว้าง

• 5GHz – สัญญาณแรงและเร็ว เหมาะดูภาพแบบเรียลไทม์

ข้อดีของ WiFi 5GHz คือความเร็วสูงและมีสัญญาณรบกวนน้อย เหมาะมากกับการดู live แบบไม่หน่วง
ถือเป็นอีกหนึ่งฟีเจอร์ที่ตอบโจทย์คนทำบ้าน Smart Home

5. ควบคุมการหมุนแบบ PTZ หมุนได้ 355° สูงสุด 90°

เลนส์ล่างของกล้องสามารถหมุนได้แบบ PTZ (Pan–Tilt–Zoom) ซึ่งควบคุมผ่านแอปได้ทันที

• หมุนแนวนอน: 355°

• หมุนแนวตั้ง: 90°

การหมุน PTZ เหมือนมีคนถือกล้องหมุนตามคำสั่ง ช่วยลดจุดบอดในมุมที่กล้องมองไม่เห็น
การสั่งหมุนผ่านแอป YOOSEE มีความลื่นไหลดีและตอบสนองค่อนข้างเร็ว เหมาะสำหรับติดในพื้นที่ที่มุมมองต้องเปลี่ยนบ่อย เช่น ร้านค้า ห้องโถง หรือโรงรถ

6. AI อัจฉริยะ: ตรวจจับมนุษย์ + Auto Tracking ติดตามแบบสมจริง

จุดขายสำคัญของกล้อง YOOSEE หน้าจอคู่คือระบบ AI ที่ช่วยแยกแยะการเคลื่อนไหว

• AI Humanoid Detection – แยกคนออกจากสิ่งอื่น เช่น สัตว์เลี้ยง รถ หรือเงาไม้

• Auto Tracking – เมื่อพบการเคลื่อนไหว กล้องจะหมุนตามเป้าหมายอัตโนมัติ

ฟังก์ชันนี้ช่วยลดการแจ้งเตือนที่ไม่จำเป็น และเพิ่มความแม่นยำในการจับภาพเหตุการณ์สำคัญ

สำหรับใครที่ชอบดูเทคโนโลยี AI ภาคสนาม นี่คือของดี เพราะเป็น AI ที่ทำงานร่วมกับ PTZ ได้จริง ทำให้กล้องดู “มีชีวิต” มากขึ้น

7. Two-Way Audio สนทนาได้แบบเรียลไทม์

เพราะกล้องไม่ได้มีไว้แค่ดู ภายในมีกล้อง + ไมโครโฟนที่รองรับเสียงสองทาง ทำให้สามารถ:

• พูดคุยกับคนที่อยู่หน้ากล้อง เช่น คนส่งของ

• ให้คำเตือนกับสัตว์เลี้ยง

• ใช้เป็นระบบสื่อสารภายในบ้านได้แบบง่าย ๆ

ลำโพงชัดระดับการใช้งานทั่วไป ไมโครโฟนเปิดรับเสียงได้ดี เหมาะกับบ้าน ร้าน และสำนักงาน

8. บันทึกลง MicroSD สูงสุด 128–256GB หรือ Cloud

เรื่องการเก็บข้อมูลเป็นอีกเรื่องใหญ่ รุ่นนี้รองรับ:

• MicroSD Card สูงสุด 128GB หรือ 256GB (ขึ้นอยู่กับรุ่นย่อย)

• Cloud Storage – สำหรับคนที่ไม่อยากกังวลเรื่องการ์ดหายหรือเสีย

ไฟล์ที่บันทึกจะวนทับอัตโนมัติเมื่อเต็ม และสามารถดูย้อนหลังได้จากแอปโดยตรง

9. กันน้ำกันฝุ่นระดับ IP66 หรือ IP67

ความทนทานเป็นเรื่องสำคัญ โดยเฉพาะกล้องที่ต้องติดนอกบ้าน

กล้องรุ่นนี้ได้มาตรฐาน:

• IP66 หรือ IP67 ตามรุ่นย่อย

• ทนแดด ทนฝน ทนฝุ่น

• ติดตั้งได้ทั้งในบ้านและนอกบ้าน

การป้องกันระดับนี้เหมาะกับสภาพอากาศเมืองไทยที่ทั้งร้อน ฝนหนัก และมีฝุ่นเยอะในช่วงบางฤดู

10. แอป YOOSEE ใช้งานง่าย รองรับภาษาไทย

แอปพลิเคชัน YOOSEE เป็นอีกจุดเด่น เพราะ:

• เมนูใช้งานง่าย

• รองรับภาษาไทย

• ควบคุมกล้องได้ครบทุกฟังก์ชัน

• ตั้งค่าการแจ้งเตือนได้หลากหลาย

• ดูภาพสองมุมพร้อมกันแบบ Dual Screen

แอปนี้เหมาะกับทั้งมือใหม่และผู้ใช้สายไอทีที่ต้องการเซตค่าระบบแบบละเอียด

เคล็ดลับการใช้งาน YOOSEE Dual Lens ให้คุ้มค่า

1. เลือกมุมติดตั้งให้เห็นสองเลนส์ทำงานต่างบทบาท

เลนส์บนอาจเน้นมุมภาพกว้าง ส่วนเลนส์ล่างใช้ฟังก์ชัน PTZ หมุนตาม ทำให้ได้มุมครอบคลุมมากที่สุด

2. ตั้ง AI Humanoid Detection ให้เหมาะกับพื้นที่

เช่น พื้นที่โล่งแจ้งควรตั้งระดับความไวต่ำ เพื่อไม่ให้เตือนจากการเคลื่อนไหวเล็กน้อย

3. ใช้ WiFi 5GHz ถ้าติดตั้งใกล้เราเตอร์

จะช่วยลดอาการภาพหน่วงและดู Live ได้ลื่นกว่า

4. เปิดโหมด Smart Night Vision เพื่อความสมดุล

ทั้งประหยัดไฟ และยังได้ภาพสีเมื่อมีการเคลื่อนไหว

5. ตรวจ MicroSD เป็นครั้งคราว

เพื่อให้แน่ใจว่าข้อมูลยังถูกบันทึกได้ตามปกติ

สรุป YOOSEE หน้าจอคู่ 2 กล้อง คือคำตอบของความคุ้มค่า + ความฉลาด + ความคมชัด

จากความสามารถด้านเลนส์คู่ ความละเอียดสูง การหมุน PTZ ระบบ AI อัจฉริยะ ไปจนถึงการรองรับ WiFi 2.4GHz/5GHz และทนแดดทนฝน กล้อง YOOSEE Dual Lens Full HD 5MP ถือเป็นหนึ่งในกล้องวงจรปิดที่ตอบโจทย์ยุคปัจจุบัน
เหมาะกับบ้าน ร้าน ห้องทำงาน โกดัง และทุกพื้นที่ที่ต้องการความปลอดภัยเชิงรุก พร้อมเทคโนโลยีที่ใช้งานได้จริง ราคาคุ้มค่า และปรับแต่งได้ตามการใช้งาน

FNK Vision YOOSEE

฿402.69-฿616.28

ซื้อสินค้า