คู่มือการซื้อ Surf Skates ฉบับสมบูรณ์ในปี 2568


เมื่อคลื่นสงบและคุณเก็บกระดานโต้คลื่นแล้ว แต่ใจยังคงโหยหาอิสระในการโลดแล่นอยู่ใช่ไหม? Surf Skate ถูกสร้างขึ้นเพื่อตอบสนองความต้องการนี้ ด้วยการออกแบบที่จำลองการเคลื่อนไหวของการเล่นเซิร์ฟ ทำให้คุณสามารถสัมผัสความรู้สึก "โต้คลื่น" ได้อย่างสมจริงบนท้องถนน ลานสเก็ต หรือสวนสาธารณะ ในปี 2025 นี้ เทคโนโลยีและนวัตกรรมของ Surf Skate ได้พัฒนาไปอีกขั้น ทำให้กีฬาชนิดนี้ก้าวจากกีฬากลุ่มเล็กๆ สู่กระแสหลัก บทความนี้จะพาคุณไปทำความรู้จักกับเสน่ห์ของ Surf Skate พร้อมแนะนำ 10 แบรนด์ชั้นนำ เพื่อช่วยให้คุณค้นพบ "คู่หูเซิร์ฟบนบก" ที่เหมาะกับคุณที่สุด!
Surf Skate: "คลื่นลูกที่สอง" บนบก
Surf Skate คืออะไร? Surf Skate คืออุปกรณ์กีฬาที่ผสมผสานคุณสมบัติเด่นของการเล่นเซิร์ฟและสเก็ตบอร์ดเข้าด้วยกัน หัวใจสำคัญอยู่ที่ระบบทรัค (Truck) ด้านหน้าที่สามารถหมุนได้อย่างอิสระ ต่างจากสเก็ตบอร์ดทั่วไปที่ต้องอาศัยการเอียงตัวเพื่อเลี้ยว แต่ Surf Skate จะใช้การปั๊ม (Pumping) ตัวไปด้านข้างเพื่อจำลองท่า “Cutback” และ “Bottom Turn” ของการโต้คลื่น นอกจากนี้ ตัวบอร์ดที่มีขนาดสั้นและกว้าง รวมถึงล้อที่นุ่ม ยังช่วยให้การเลี้ยวเป็นไปอย่างลื่นไหลและปรับตัวเข้ากับพื้นผิวที่ขรุขระได้ดี จึงเป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับนักโต้คลื่นในการฝึกฝนทักษะและสำหรับผู้เริ่มต้นที่อยากลองสัมผัสโลกแห่งสเก็ตบอร์ด
ทำไมคุณถึงควรมี Surf Skate?
-
อุปกรณ์ฝึกเซิร์ฟ: ในช่วงที่ไม่มีคลื่นหรืออยู่ในพื้นที่ที่ห่างไกลจากทะเล คุณสามารถใช้ Surf Skate เพื่อรักษากล้ามเนื้อ เพิ่มทักษะการทรงตัว และพัฒนาการบังคับทิศทาง
-
กีฬาที่เริ่มได้ง่าย: เมื่อเทียบกับสเก็ตบอร์ดทั่วไป การบังคับทิศทางของ Surf Skate ทำได้ง่ายกว่ามาก ผู้เริ่มต้นจึงสามารถเรียนรู้และสนุกกับมันได้ในเวลาอันสั้น
-
ไลฟ์สไตล์สุดเทรนด์: การผสมผสานระหว่างวัฒนธรรมเซิร์ฟและสเก็ตบอร์ดทำให้ Surf Skate กลายเป็นแฟชั่นสตรีทที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว
-
สุขภาพและการผ่อนคลาย: การเล่น Surf Skate ต้องใช้กล้ามเนื้อแกนกลางลำตัวเป็นอย่างมาก ซึ่งไม่เพียงช่วยให้ร่างกายแข็งแรง แต่ยังช่วยคลายความเครียดได้เป็นอย่างดี เหมาะสำหรับคนเมืองที่ต้องการหาทางออกกำลังกายใหม่ๆ
คู่มือการเลือกซื้อ Surf Skate ปี 2025: 5 เกณฑ์สำคัญ
1. ระบบทรัค (Truck): หัวใจสำคัญของ "ฟีลลิ่งเซิร์ฟ"
-
ทรัคหน้าแบบหมุนได้: ควรให้ความสำคัญกับดีไซน์ที่ได้รับสิทธิบัตรของแต่ละแบรนด์ เช่น Carver C7 หรือ Yow Meraki ที่มีความไวสูงและจำลองการโต้คลื่นได้อย่างสมจริง
-
ความเสถียรของทรัคหลัง: ทรัคหลังมักจะเป็นทรัคสเก็ตบอร์ดแบบดั้งเดิม ซึ่งช่วยรองรับน้ำหนักและป้องกันการแกว่งที่มากเกินไป
-
ข้อควรระวัง: ทรัคราคาถูกที่ไม่ได้มาตรฐานอาจเกิดการขัดข้องหรือแตกหักได้ง่าย ซึ่งส่งผลต่อประสบการณ์และความปลอดภัย
2. วัสดุบอร์ด: ความสมดุลระหว่างความทนทานและความยืดหยุ่น
-
ระดับมืออาชีพ: แผ่นไม้เมเปิลแคนาดา 7 ชั้น มีความแข็งแรงและยืดหยุ่นสูง เหมาะสำหรับการใช้งานหนัก ส่วนวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์จะมีน้ำหนักเบากว่าแต่มีราคาสูง
-
ระดับเริ่มต้น: แนะนำแผ่นไม้เมเปิลหรือไม้ไผ่ผสม 5-6 ชั้น ที่มีราคาเข้าถึงง่าย เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นที่ต้องการทดลองเล่น
3. ขนาดบอร์ด:
-
ส่วนสูงไม่เกิน 170 ซม.: ควรเลือกบอร์ดสั้นที่มีขนาดไม่เกิน 32 นิ้ว เพื่อความคล่องตัวที่มากขึ้น
-
ส่วนสูงเกิน 170 ซม.: ควรเลือกบอร์ดที่มีขนาดยาวกว่า (33-35 นิ้ว) เพื่อเพิ่มความมั่นคงและเสถียรภาพ
-
หากน้ำหนักเกิน 90 กก.: ควรเลือกบอร์ดที่มีความหนาพิเศษ (เช่น ไม้เมเปิล 9 ชั้น) หรือทรัคที่ทำจากโลหะ
4. ประสิทธิภาพของล้อ: เกมระหว่างการยึดเกาะและความทนทาน
-
การยึดเกาะ: เลือกล้อที่มีขอบเอียง (เช่น Orangatang FatFree) เพื่อลดการลื่นไถลด้านข้างและเพิ่มการยึดเกาะกับพื้นผิว
-
ความทนทาน: แนะนำล้อที่มีแกนทำจากอะลูมิเนียมเพื่อป้องกันการเสียรูป ความแข็งของล้อที่เหมาะสมจะอยู่ที่ 78A-85A ซึ่งให้ความสมดุลระหว่างความนุ่มและความทนทาน
-
ขนาด: เส้นผ่านศูนย์กลาง 60-70 มม. เหมาะกับสถานการณ์ส่วนใหญ่ และความกว้างมากกว่า 50 มม. จะช่วยเพิ่มความมั่นคง
5. การเลือกซื้อของแท้: ปฏิเสธ "สินค้า OEM" และ "ของเลียนแบบ"
-
ช่องทางที่น่าเชื่อถือ: ควรซื้อจากเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของแบรนด์, ร้านค้าหลักใน Lazada/Shopee หรือตัวแทนจำหน่ายที่ได้รับอนุญาต
-
วิธีตรวจสอบของปลอม:
-
ตรวจสอบว่ามีโลโก้แบรนด์สลักด้วยเลเซอร์บนทรัคหรือไม่ (ไม่ใช่แค่สติกเกอร์)
-
สแกนรหัสป้องกันการปลอมแปลงบนบรรจุภัณฑ์และตรวจสอบหมายเลขซีเรียลกับเว็บไซต์ทางการ
-
หลีกเลี่ยงการซื้อบอร์ดที่ระบุเพียงแค่ "Surf Skate Complete" โดยไม่มีชื่อรุ่นหรือแบรนด์ที่ชัดเจน
-
การจัดสรรงบประมาณให้เหมาะสม:
-
ผู้เริ่มต้น: 5,000-12,000 บาท (เช่น Globe Big Blazer, Siam Surf Skate)
-
ผู้เล่นระดับกลาง: 12,000-25,000 บาท (เช่น Carver C7 CX, Yow Meraki S4)
-
ระดับมืออาชีพ: 25,000 บาทขึ้นไป (เช่น Smoothstar 33”, SwellTech Jamie O'Brien Pro)
3แบรนด์ Skate board ที่แนะนำ
- Smoothstar
รุ่นตัวแทน: Smoothstar 33”
คุณสมบัติ: โครงสะพานมีระบบสปริงในตัวที่จำลองการกดท้ายของกระดานโต้คลื่น เป็นตัวเลือกแรกสำหรับนักเล่นเซิร์ฟมืออาชีพในการฝึกซ้อม และพื้นผิวของกระดานมีการออกแบบเคลือบกันลื่นที่ใส่ใจ
ช่วงราคา : 18,000-30,000 บาท
เหมาะสำหรับ: นักเล่นเซิร์ฟ, ผู้ฝึกสอนที่จริงจัง

2. Santa Cruz
รุ่นตัวแทน: Santa Cruz Screaming Hand
คุณสมบัติ: การออกแบบบอร์ดแบบย้อนยุคพร้อมสะพานความไวปานกลาง ผสมผสานทั้งรูปลักษณ์และประสิทธิภาพ เหมาะสำหรับการสะสมและการเล่นสเก็ตในชีวิตประจำวัน
ช่วงราคา : 10,000-18,000 บาท
เหมาะสำหรับผู้คน: ผู้ที่ชื่นชอบวัฒนธรรมสเก็ตบอร์ด, ผู้ติดตามสไตล์ย้อนยุค

3. Hamboards รุ่นตัวแทน: Hamboards Classic Logger
-
คุณสมบัติ: บอร์ดมีความยาวมากกว่า 40 นิ้ว จำลองประสบการณ์การเล่นเซิร์ฟแบบลองบอร์ด การออกแบบฐานล้อกว้างช่วยเพิ่มความเสถียร และเหมาะสำหรับการเล่นแบบราบเรียบและการร่อนระยะไกล
-
ช่วงราคา: 25,000-40,000 บาท
-
เหมาะสำหรับ: ผู้ที่ชื่นชอบการเล่นเซิร์ฟแบบลองบอร์ด, ครูเซอร์

การเล่นเซิร์ฟและสเก็ตบอร์ดไม่ใช่แค่กีฬาเท่านั้น แต่ยังเป็นไลฟ์สไตล์อีกด้วย
ในปี 2025 กระดานโต้คลื่นจะไม่ใช่แค่อุปกรณ์ฝึกซ้อมสำหรับนักเล่นเซิร์ฟอีกต่อไป แต่เป็นสะพานเชื่อมธรรมชาติ สุขภาพ และแฟชั่น ไม่ว่าคุณจะต้องการสานต่อความหลงใหลในกีฬาเซิร์ฟ หรืออยากสัมผัสความสนุกของการร่อนบนบก เซิร์ฟสเก็ตแท้ ๆ ก็สามารถพาคุณก้าวข้ามขีดจำกัดและสัมผัสอิสรภาพของ "การเล่นเซิร์ฟไร้คลื่น" ได้
แนะนำสำหรับคุณ
Active Life|HD เก็บทุกความหลงใหลของคุณด้วย Action camera
สิ่งจำเป็นสำหรับการตั้งแคมป์: วิธีเลือกเต็นท์ให้เหมาะสม
BAGSMART: แบรนด์กระเป๋ายุคใหม่ที่สะท้อนตัวตนของคนรุ่นใหม่
รองเท้าแตะที่แนะนำสำหรับฤดูร้อนปี 2025
คาเฟ่ อเมซอน: กาแฟระดับพรีเมียม เพื่อช่วงเวลาแห่งความสุข
วิธีเลือกเสื้อเชิ้ต ไอเทมชิ้นเดียวที่เปลี่ยนลุคได้ทุกโอกาส