แนะนำ Smart Watch และ Fitness Tracker ปี 2025 สำหรับ 3 แบรนด์ยอดนิยม พร้อมข้อมูลราคา ข้อดี-ข้อเสีย พร้อมคำแนะนำว่าเราเหมาะกับการใช้รุ่นไหน


1. Apple Watch Series 10
ราคาเริ่มต้น: ประมาณ 10,950 บาท
ข้อดี:
-
หน้าจอ OLED ขนาดใหญ่ที่สุดและบางที่สุดจาก Apple (ใหญ่ขึ้น 30% เทียบกับ Series 7–9)
-
ระบบชาร์จเร็ว 80% ใน 30 นาที, แบตเตอรี่ใช้งานทั่วไปได้ถึง 2 วัน
-
เซ็นเซอร์สุขภาพครบชุด: ECG, SpO₂, ตรวจพฤติกรรมการหลับ, sleep apnea detection (บางฟีเจอร์ต้องรออนุมัติ FDA)
-
ฟีเจอร์เชื่อมต่อ iPhone ได้ลึก: gesture control, Siri, แอปออกกำลังกายอย่าง Strava และ Headspace
ข้อเสีย:
-
สำหรับผู้ใช้ Android ไปไม่รอด ไม่มีการเชื่อมต่อ
-
แบตเตอรี่ใช้งานจริงอยู่ในช่วง 1–2 วันเท่านั้น
-
ราคาค่อนข้างสูงหากไม่ต้องการทุกฟีเจอร์ระดับพรีเมี่ยม
เหมาะกับใคร:
-
ผู้ใช้ iPhone ที่ต้องการ Smart Watch สมบูรณ์แบบทั้งด้านสุขภาพ การเชื่อมต่อ และแบรนด์
-
คนรักสุขภาพที่ต้องการฟีเจอร์ ECG/SPO₂
-
คนที่พกพาต่างประเทศบ่อย ต้องการฟังก์ชัน cellular อัตโนมัติ
2. Samsung Galaxy Fit 3
ราคา: ประมาณ 1,690 บาท
ข้อดี:
-
หน้าจอ AMOLED ขนาด 1.6″ อ่านง่าย สีสวย
-
แบตเตอรี่อึดมาก ใช้งานได้ 10–13 วัน (ปรับใช้ Always‑On mode ได้ประมาณ 4 วัน)
-
รองรับสายวิ่งและการจัดการกิจกรรมมากกว่า 100 ประเภท
-
UI ดูสะอาด โอเคกับมือถือ Android โดยเฉพาะ Samsung
ข้อเสีย:
-
ไม่มี GPS ในตัว (ต้องพึ่ง GPS ของมือถือ) แปลว่าไม่เหมาะกับคนไม่พกมือถือเวลาวิ่ง
-
ใช้งานได้กับ Samsung phone เท่านั้น iOS ยังไม่รองรับเต็มที่
-
สายอาจไม่สบายเท่ารุ่นอื่นเมื่อใส่ระหว่างวันหรือนอนหลับ
เหมาะกับใคร:
-
ผู้ใช้ Samsung/Android ที่มองหา fitness tracker งบประหยัด
-
คนไม่เน้น GPS ไม่ต้องวิ่งแบบไม่เอามือถือ
-
คนต้องการหน้าปัดใหญ่ แบตฯ อึด และ notification στοιไปตามสมาร์ทโฟน
3. Xiaomi Smart Band 10
ราคา: ประมาณ 788 - 2,690 บาท
ข้อดี:
-
คุ้มค่าราคา ฟีเจอร์ครบเครื่อง ได้แก่ จอ AMOLED 1.72″ ความสว่างสูง, ตรวจใจชีพจรและ SpO₂, มีโหมดออกกำลังกาย 150+ ฟอร์ม และฟีเจอร์การออกแบบฝาหลังเซรามิก (บางรุ่น)
-
แบตฯ ใช้ได้ยาวนานสุดถึง 21 วัน
-
รองรับการแจ้งเตือนจากทั้ง Android และ iOS
ข้อเสีย:
-
ไม่มีฟีเจอร์เชื่อมต่ออัจฉริยะขั้นสูง เช่น GPS ในตัว, การโทรศัพท์, หน้าปัด smartwatch
-
ดีไซน์ไม่ต่างจากรุ่นก่อนมากนัก แม้จะดูบางกว่าและสว่างกว่าแล้วก็ตาม
-
ฟีเจอร์บางอย่างอาจไม่ละเอียดเท่ารุ่นที่แพงกว่า
เหมาะกับใคร:
-
ผู้ที่ต้องการ tracker สุขภาพแบบครบครันในราคาย่อมเยา
-
ผู้เริ่มต้นใช้งาน fitness tracker
-
คนที่ต้องการแบตเตอรี่ยาวนาน และต้องการการแจ้งเตือนจากมือถือเบื้องต้น
🧭 สรุปเปรียบเทียบ
รุ่น | ราคา | ข้อดี | ข้อเสีย | เหมาะกับใคร |
---|---|---|---|---|
Apple Watch Series 10 | 10,950 | สุขภาพครบ, integration iOS, ฟีเจอร์ครบ | แพง, ใช้ Android ไม่ได้, แบตฯ สั้น | ผู้ใช้ iPhone, ต้องการฟีเจอร์ครบระดับพรีเมี่ยม |
Galaxy Fit 3 | 1,690 | แบตเตอรี่ใช้ได้นาน, หน้าจอ AMOLED, ใช้ง่าย | ไม่มี GPS, ใช้ iOS ไม่สะดวก | นักออกกำลังกายใช้มือถือ Samsung/Android งบจำกัด |
Xiaomi Band 10 | 788 - 2,690 | ฟีเจอร์ครบ, จอใหญ่, แบตฯ อึดมาก | ไม่มี GPS, ไม่มีฟีเจอร์สมาร์ทเต็มรูปแบบ | ผู้เริ่มต้น, คนอยาก track สุขภาพประหยัด |
สรุป:
-
ถ้าคุณใช้ iPhone และต้องการ Smart Watch ครบฟีเจอร์ทางสุขภาพและการเชื่อมต่อ → Apple Watch Series 10
-
ถ้าใช้ Samsung/Android และต้องการ Fitness Tracker สวยงาม แบตอึด ใช้งานง่าย → Samsung Galaxy Fit 3
-
ถ้าเน้น ประหยัด, ต้องการตรวจชีพจร, SpO₂, แบตยาว และ notification → Xiaomi Smart Band 10
แนะนำสำหรับคุณ
เปิดตัว Apple Watch Ultra 3 ตัวใหม่ ไม่ทำให้ผิดหวังแน่นอน
2025|Apple ไม่เพียงแต่เปิดตัว iPhone 17 เท่านั้น แต่ยังเปิดตัวสิ่งเหล่านี้ด้วย!
🔥🔥🔥🔥🔥Apple iPhone 17 ซีรีส์ : เตรียมเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ปลายปีนี้❗️
Casio BABY-G Series 2025
Apple News: Apple เปิดตัว iPad Air พร้อมชิป M3 อันทรงพลังและ Magic Keyboard ใหม่
Sennheiser ไม่ค่อยเป็นที่รู้จักมากนัก 🎧 แต่คุ้มค่าแก่เวลาเรียนรู้