SKINTIFIC: การเติบโตอย่างก้าวกระโดดของแบรนด์ความงามจีนในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ท่ามกลางกระแสโลกาภิวัตน์ที่กำลังพุ่งสูงขึ้น แบรนด์จีนกำลังเดินหน้าสำรวจตลาดใหม่ๆ การแข่งขันดุเดือดเป็นพิเศษในภาคความงาม ซึ่งเป็นตลาดสำคัญสำหรับแบรนด์จีนที่ต้องการขยายธุรกิจสู่ระดับโลก ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งเป็นตลาดที่คึกคักและมีอนาคตสดใส SKINTIFIC ได้ก้าวขึ้นมาเป็นดาวรุ่งพุ่งแรง ม้ามืด และกลายเป็นต้นแบบให้กับแบรนด์ความงามจีนที่ประสบความสำเร็จในการขยายธุรกิจไปยังต่างประเทศอย่างรวดเร็ว และกำลังสร้างเรื่องราวอันน่าทึ่ง

เค้าโครงที่แม่นยำ มีรากฐานมาจากตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

บริษัท กว่างโจว เฟยเหมย เน็ตเวิร์ก เทคโนโลยี จำกัด บริษัทผู้อยู่เบื้องหลัง SKINTIFIC มีทีมงานหลักที่มากประสบการณ์จากอาลีบาบาและหัวเว่ย ซึ่งมีดีเอ็นเอที่แข็งแกร่งด้านอินเทอร์เน็ต ในยุคที่ความคิดแบบอินเทอร์เน็ตเฟยเหมยเข้าใจอย่างถ่องแท้ถึงแก่นแท้ของ "ความมุ่งมั่น ความเป็นเลิศ ชื่อเสียง และความเร็ว" ตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรมและเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วนำมาซึ่งโอกาสทางธุรกิจที่ไร้ขีดจำกัด แต่หลายบริษัทมักมองข้ามและหันไปหาตลาดที่ดูเหมือนจะทำกำไรได้มากกว่าอย่างยุโรป สหรัฐอเมริกา และตะวันออกกลาง อย่างไรก็ตาม SKINTIFIC ยังคงมุ่งมั่นในการมุ่งเน้นไปที่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยจัดตั้งสาขาและทีมการตลาดในหลายประเทศ ด้วยวิธีการทางการตลาดที่ยอดเยี่ยมและศักยภาพที่แข็งแกร่งของห่วงโซ่อุปทานในประเทศจีน บริษัทจึงได้ปลูกฝังความเข้าใจอย่างลึกซึ้งถึงความต้องการของผู้ใช้ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่างเงียบๆ ตอบสนองความต้องการของพวกเขาอย่างพิถีพิถัน และค่อยๆ สร้างชื่อเสียงที่แข็งแกร่ง

ในทางตรงกันข้าม Perfect Diary บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านความงามและผลิตภัณฑ์ดูแลผิวจากจีน เคยบุกเบิกตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มาก่อน อย่างไรก็ตาม ด้วยกลยุทธ์เชิงรุกและกลยุทธ์การโลคัลไลเซชันที่ยังไม่พัฒนาเต็มที่ ทำให้บริษัทต้องใช้ทรัพยากรทางการตลาดจำนวนมากและประสบปัญหาในการรักษายอดขาย จนสุดท้ายก็ล้มเหลว สิ่งนี้ยิ่งตอกย้ำถึงความน่าเชื่อถือและการมองการณ์ไกลของกลยุทธ์ของ SKINTIFIC ที่ต้องการเจาะตลาดอย่างแม่นยำและขยายตลาดอย่างลึกซึ้ง

SKINTIFIC 5X Serum

฿199-฿419

ซื้อสินค้า

ทำลายกรอบเดิมๆ และสร้างภาพลักษณ์แบรนด์ระดับกลางถึงระดับสูง

ในตลาดความงามของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ การแข่งขันด้านราคาที่ต่ำและการใช้จ่ายเฉลี่ยของลูกค้าที่ต่ำกลายเป็นเรื่องธรรมดา โดยหลายแบรนด์ต่างแข่งขันกันเพื่อแย่งชิงส่วนแบ่งตลาดโดยมุ่งเน้นที่ความคุ้มค่าคุ้มราคา อย่างไรก็ตาม SKINTIFIC ได้ใช้แนวทางที่แตกต่างออกไป ตั้งแต่เริ่มก่อตั้ง SKINTIFIC ได้วางตำแหน่งตัวเองเป็นแบรนด์สกินแคร์ระดับกลางถึงระดับสูง โดยมุ่งเน้นแนวคิด "สกินแคร์เพื่อสุขภาพ" ผลิตภัณฑ์มีราคาอยู่ระหว่าง 40 ถึง 60 หยวนต่อหน่วย ซึ่งประสบความสำเร็จในการทำลายสถิติยอดขายเฉลี่ยของลูกค้าที่ต่ำ

ความก้าวหน้าครั้งนี้เป็นผลมาจากการที่ SKINTIFIC ให้ความสำคัญและลงทุนในเทคโนโลยีหลักของแบรนด์ บริษัทมุ่งมั่นในการวิจัยและพัฒนาส่วนผสมและเทคโนโลยีหลักในการดูแลผิว ด้วยเทคโนโลยี TTE ที่ได้รับการจดสิทธิบัตร Hymagic 4D, Royal DSM Niacinamide และเทคโนโลยีส่วนผสมอื่นๆ ซึ่งทั้งหมดได้รับการจดทะเบียนและรับรองโดยสำนักงานควบคุมยาและอาหารแห่งชาติอินโดนีเซีย (BPOM) การเน้นย้ำเทคโนโลยีหลักเหล่านี้ SKINTIFIC ได้ส่งเสริมให้ผู้บริโภคตระหนักถึงผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่มีสุขภาพดี เป็นไปตามหลักวิทยาศาสตร์ และชาญฉลาด และสร้างภาพลักษณ์แบรนด์ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวระดับมืออาชีพ

SKINTIFIC เข้าใจถึงความสำคัญของการสร้างพลังให้กับแบรนด์ ด้วยการนำเสนอทั้งออนไลน์และออฟไลน์ที่หลากหลาย จึงสามารถดึงดูดความสนใจของผู้บริโภคได้ในหลายมิติ SKINTIFIC ยังคงรักษาสถานะบนแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซอย่าง TikTok, Shoppe และ Lazada ไว้อย่างเหนียวแน่น สร้างสรรค์คอนเทนต์จำนวนมากและส่งเสริมการรับรู้แบรนด์ ช่วยให้ผู้บริโภครู้จักแบรนด์ได้อย่างรวดเร็ว SKINTIFIC ได้เปิดร้านแฟล็กชิปสโตร์ที่จาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย และจัดวางชั้นวางสินค้าเฉพาะในร้านค้าปลีกผลิตภัณฑ์ความงามอย่าง Watsons และ Sephora นอกจากนี้ SKINTIFIC ยังได้เปิดตัวแคมเปญการตลาดที่เน้นช่องทางออฟไลน์ กลยุทธ์การโปรโมตแบรนด์ที่ครอบคลุมนี้ช่วยเพิ่มการมองเห็นและความไว้วางใจของแบรนด์อย่างมีนัยสำคัญ ทำให้ผู้บริโภครู้สึกมีชื่อเสียงมากขึ้น

วิธีใช้แพลตฟอร์มเพื่อเชี่ยวชาญการตลาด TikTok

ในฐานะแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียยอดนิยมระดับโลก TikTok นำเสนอแพลตฟอร์มขนาดใหญ่สำหรับการตลาดแบรนด์ SKINTIFIC คว้าโอกาสนี้ไว้และคว้าโอกาสนี้ได้อย่างรวดเร็วจากการเปิดตัว TikTok Shop กลยุทธ์การดำเนินงานอันชาญฉลาดของบริษัทได้จ้างบริษัทเฉพาะทาง 6 แห่งเพื่อดูแลองค์ประกอบคอนเทนต์หลัก 6 ประการของ TikTok ได้แก่ การตลาดแบบอินฟลูเอนเซอร์ การแนะนำวิดีโอ และการถ่ายทอดสด โครงการทั้ง 6 นี้ได้ดำเนินไปพร้อมๆ กัน โดยมีค่าใช้จ่ายโฆษณาเริ่มต้นเพียงวันเดียวสูงถึง 2 ล้านหยวน ภายในระยะเวลาอันสั้น SKINTIFIC สามารถสร้างการรับรู้และภาพลักษณ์ของแบรนด์ได้อย่างรวดเร็ว ประสบความสำเร็จในการระดมทุน และสร้างผลตอบแทนจากเงินทุนอย่างราบรื่น จนกลายเป็น Perfect Diary เวอร์ชันเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ในด้านการตลาดคอนเทนต์ แม้ว่าผลิตภัณฑ์ SKINTIFIC จะมีราคาค่อนข้างสูง แต่ SKINTIFIC ก็สามารถครองตลาดบน TikTok ได้อย่างรวดเร็ว ด้วยคอนเทนต์คุณภาพสูงและกระแสไวรัลจำนวนมาก ในปี 2565 SKINTIFIC มียอดขายที่น่าประทับใจในอินโดนีเซีย ซึ่งขับเคลื่อนโดยเครือข่ายอินฟลูเอนเซอร์ที่เชื่อมต่อกันจำนวนมากและวิดีโอที่เกี่ยวข้องจำนวนมาก นอกจากนี้ SKINTIFIC ยังใช้ประโยชน์จากนโยบายของ TikTok ในการส่งเสริมการถ่ายทอดสด การเปิดบัญชีหลายบัญชีเพื่อเข้าถึงกลุ่มประชากรและช่วงเวลาที่แตกต่างกัน การทดลองแคมเปญก่อนร่วมมือกับอินฟลูเอนเซอร์เพื่อขยายการเข้าถึง เสริมสร้างอิทธิพลของแบรนด์ให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น

โปรโมชั่นที่ยืดหยุ่นเพื่อให้เกิดประโยชน์ร่วมกันทั้งสองฝ่าย

ครีมบำรุงผิวที่ขายดีที่สุดของ SKINTIFIC มีราคาขายต่อหน่วยอยู่ที่ 20-40 หยวน ซึ่งถือว่าไม่ต่ำนัก อย่างไรก็ตาม ด้วยสคริปต์ระดับมืออาชีพของพิธีกรไลฟ์สตรีม และจุดขายที่สร้างสรรค์อย่างพิถีพิถันโดยทีมปฏิบัติการ ภาพลักษณ์ด้านประสิทธิภาพของแบรนด์จึงถูกถ่ายทอดผ่านวิดีโอสั้นๆ และไลฟ์สตรีมมากมาย แม้ว่า SKINTIFIC จะรักษายอดขายให้คงที่ในช่วงปกติ แต่ในช่วงโปรโมชันหลักของ TikTok แพลตฟอร์มก็แจกคูปองส่วนลดมากมาย มอบส่วนลดเล็กๆ น้อยๆ ให้กับร้านค้า และลดราคาลงอย่างมาก ซึ่งช่วยกระตุ้นการซื้อของผู้บริโภคได้อย่างมาก กลยุทธ์ "ราคาสูง โปรโมชั่นแรง" นี้ไม่เพียงแต่สร้างภาพลักษณ์แบรนด์ระดับไฮเอนด์เท่านั้น แต่ยังกระตุ้นการบริโภค สร้างสถานการณ์ที่ทั้งร้านค้าและผู้บริโภคได้ประโยชน์ร่วมกัน

ความสำเร็จของ SKINTIFIC มอบประสบการณ์อันทรงคุณค่าให้กับแบรนด์เครื่องสำอางจีนที่กำลังก้าวสู่ตลาดโลก ในอนาคต ผมเชื่อว่าแบรนด์จีนอื่นๆ เช่น SKINTIFIC จะเติบโตในตลาดโลกมากขึ้น ผ่านการวางแผนที่แม่นยำ กลยุทธ์ที่สร้างสรรค์ และความพยายามอย่างไม่ลดละ เพื่อสร้างบทใหม่อันรุ่งโรจน์ของตนเอง

SKINTIFIC Symwhite 377 Dark Spot Moisture Gel

฿369-฿694

ซื้อสินค้า