🐶 7 พฤติกรรมที่ทำให้สุนัขอายุสั้นลง แบบที่เจ้าของอาจไม่รู้ตัว!


สำหรับใครที่เลี้ยงสุนัข 🐕 เชื่อว่าทุกคนอยากให้เพื่อนสี่ขาของเราอยู่กับเราไปนานๆ อย่างมีความสุขและแข็งแรงใช่ไหมคะ? แต่รู้หรือไม่ว่า หลายๆ พฤติกรรมที่เราทำอยู่ทุกวัน อาจกลายเป็นการบั่นทอนอายุของน้องหมาแบบไม่รู้ตัว วันนี้เรามาลองเช็กกันค่ะว่า “7 พฤติกรรม” ที่ทำให้สุนัขอายุสั้นลงมีอะไรบ้าง และควรแก้ไขยังไง 💡
1. 🍗 ให้อาหารคนแทนอาหารสุนัข
หลายบ้านชอบแบ่งอาหารที่เรากินให้น้องหมาด้วยความเอ็นดู คิดว่าแค่นิดๆ หน่อยๆ คงไม่เป็นไร แต่จริงๆ แล้วอาหารคนส่วนใหญ่มี เกลือ น้ำตาล และเครื่องปรุง สูงเกินไปสำหรับร่างกายสุนัข บางเมนูอาจมีส่วนผสมที่อันตราย เช่น หอม กระเทียม ช็อกโกแลต หรือองุ่น ซึ่งทำให้สุนัข ท้องเสีย ไตวาย หรือถึงขั้นเสียชีวิตได้ เลยทีเดียว
👉 วิธีแก้:
-
ให้อาหารสุนัขที่เหมาะกับสายพันธุ์และช่วงวัย
-
ถ้าอยากให้น้องหมาได้กินอาหารสด ควรปรึกษาสัตวแพทย์เพื่อจัดเมนูที่ปลอดภัย
2. ⚖️ ปล่อยให้อ้วนเกินไป
สุนัขอ้วนไม่ได้แค่ “น่ารักน่ากอด” เท่านั้น แต่ยังเต็มไปด้วยความเสี่ยง! เพราะโรคอ้วนทำให้เกิดปัญหา ข้อเสื่อม เบาหวาน หัวใจ และอายุสั้นลง งานวิจัยยังพบว่าสุนัขที่มีน้ำหนักเกินจะอายุสั้นกว่าสุนัขที่น้ำหนักเหมาะสมหลายปีเลยทีเดียว
👉 วิธีแก้:
-
คุมปริมาณอาหาร ไม่ให้กินเกินความต้องการ
-
เลือกขนมสำหรับสุนัขที่แคลอรีต่ำ
-
พาน้องออกกำลังกายเป็นประจำ

3. 🚶♂️ ไม่พาไปออกกำลังกาย
สุนัขเป็นสัตว์ที่ต้องการการเคลื่อนไหว หากเจ้าของไม่พาออกไปเดิน วิ่ง หรือเล่นเลย ร่างกายก็จะขาดความแข็งแรง มีโอกาสเป็นโรคอ้วน และยังทำให้สุนัข เครียดและหงุดหงิดง่าย ด้วย
👉 วิธีแก้:
-
พาเดินวันละ 20–30 นาที หรือปรับตามสายพันธุ์
-
เล่นกับน้องด้วยการโยนของ หาของเล่นดึงเชือก หรือเกมฝึกสมอง
-
ให้ได้ใช้พลังงานเหมาะสม จะทำให้น้องหมามีความสุขและสุขภาพดี
4. 🩺 ไม่พาไปตรวจสุขภาพประจำปี
เจ้าของหลายคนพาสุนัขไปหาหมอแค่ตอนป่วย แต่จริงๆ แล้ว การตรวจสุขภาพประจำปีสำคัญมาก เพราะโรคบางชนิด เช่น โรคไต ตับ หรือหัวใจ มักไม่แสดงอาการในระยะแรก การตรวจเจอตั้งแต่เนิ่นๆ จะช่วยให้รักษาได้ทันเวลา
👉 วิธีแก้:
-
พาน้องไปตรวจสุขภาพอย่างน้อยปีละครั้ง
-
ถ้าเป็นสุนัขสูงวัย ควรตรวจบ่อยขึ้น (ทุก 6 เดือน)

5. 😢 ปล่อยให้เครียดหรืออยู่ตามลำพังนานเกินไป
สุนัขเป็นสัตว์สังคมที่ต้องการความรักและการมีปฏิสัมพันธ์กับเจ้าของ หากปล่อยให้อยู่ลำพังนานๆ หรืออยู่ในสภาพแวดล้อมที่กดดัน ก็จะทำให้เกิดภาวะ ความเครียด วิตกกังวล ซึมเศร้า ส่งผลต่อสุขภาพกายด้วย เช่น กินน้อยลง ภูมิคุ้มกันลดลง
👉 วิธีแก้:
-
จัดเวลาเล่นและอยู่กับน้องทุกวัน
-
ถ้าจำเป็นต้องออกไปนานๆ ควรมีของเล่นไว้ให้
-
บางสายพันธุ์ที่ติดเจ้าของมาก อาจต้องหาคนช่วยดูแลช่วงที่เราไม่อยู่
6. 💉 ขาดวัคซีนและยากันพยาธิ/เห็บหมัด
โรคที่ป้องกันได้ด้วยวัคซีน เช่น พิษสุนัขบ้า ไข้หัดสุนัข ลำไส้อักเสบ หากไม่ได้ฉีดวัคซีนก็มีความเสี่ยงสูงมาก รวมถึงพยาธิ เห็บ หมัด ที่อาจทำให้สุนัข โลหิตจาง ผิวหนังอักเสบ หรือเป็นพาหะโรคร้ายแรง ได้
👉 วิธีแก้:
-
พาสุนัขฉีดวัคซีนตามกำหนด
-
ให้ยากันพยาธิ เห็บ หมัด สม่ำเสมอ
-
ดูแลความสะอาดของที่อยู่อาศัย
7. 🏠 เลี้ยงแบบขาดความปลอดภัย
บางบ้านปล่อยให้น้องหมาเดินเล่นโดยไม่ใส่สายจูง หรือเลี้ยงไว้ในพื้นที่ที่เสี่ยงอันตราย เช่น มีของมีคม สารเคมี หรือประตูรั้วที่ปิดไม่แน่น ซึ่งอาจทำให้น้องหลุดออกไปถูกรถชน หรือบาดเจ็บได้
👉 วิธีแก้:
-
จัดพื้นที่เลี้ยงที่ปลอดภัยและสะอาด
-
เวลาออกไปข้างนอกต้องมีสายจูง
-
หมั่นตรวจเช็กบ้าน ไม่ให้มีสิ่งที่เป็นอันตราย
📌 สรุป
การเลี้ยงสุนัขไม่ใช่แค่ให้อาหารหรือพาเล่น แต่คือการดูแลเขาให้ครบทุกด้าน ทั้งอาหาร การออกกำลังกาย สุขภาพกาย สุขภาพใจ และความปลอดภัย หากเราเลี่ยงทั้ง 7 พฤติกรรมนี้ได้ สุนัขของเราก็จะมีโอกาสอยู่กับเราไปนานๆ อย่างแข็งแรงและมีความสุข 💕
แนะนำสำหรับคุณ
แปรงแต่งหน้า อุปกรณ์สำหรับความงาม
จิบกาแฟอุ่นๆ ยามเช้าในแบบไทยๆ พร้อมสัมผัสความสุขที่ไม่เหมือนใคร
Apple News: Apple เปิดตัว iPad Air พร้อมชิป M3 อันทรงพลังและ Magic Keyboard ใหม่
คนเก็บตัวเข้ามหาวิทยาลัย: ทำยังไงถึงจะมีเพื่อน?
ลองใช้ Ray-Ban Meta 3 วัน: นี่คือเหตุผลที่แว่นตา AI อาจกลายเป็นสิ่งจำเป็นในอนาคต
🍓 เริ่มต้นเช้าที่ดี ด้วยอาหารง่ายๆ จาก “เครื่องปั่นอเนกประสงค์”