เล่นเกม PC ได้ด้วย Xiaomi Tablet 8 Pro Soft Light Edition


ในปี 2568 ความต้องการอุปกรณ์สำนักงานเคลื่อนที่และการสร้างสรรค์ดิจิทัลที่เพิ่มสูงขึ้น แท็บเล็ตจึงได้พัฒนาจาก "เครื่องมือความบันเทิง" ไปสู่ "ผลิตภัณฑ์หลัก" ซีรีส์ Xiaomi Tablet 8 ซึ่งเน้นแนวคิด "ความเบาและไร้ขีดจำกัด ประสิทธิภาพที่ก้าวกระโดด และระบบนิเวศการทำงานร่วมกัน" เปิดตัวพร้อมแพลตฟอร์มมือถือ Snapdragon 8s รุ่นที่ 4 จอแสดงผล 3.2K 144Hz ถนอมสายตา Surge OS 3 และอุปกรณ์เสริมที่ครบครัน นิยามคุณค่าใหม่ในตลาดแท็บเล็ตระดับกลางถึงระดับสูง
1. ดีไซส์ที่ลงตัว: ความสมดุลที่สมบูรณ์แบบระหว่างความเบาและความทนทาน
แท็บเล็ตซีรีส์ Xiaomi Tablet 8 ยังคงใช้ดีไซน์แบบ Unibody โลหะ โดยไม่มีแถบเสาอากาศตรงกลางเฟรม ทำให้ภาพคมชัดขึ้น 30% เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า ด้วยความหนาเพียง 5.75 มม. (5.8 มม. สำหรับรุ่น soft-light) และน้ำหนักเพียง 485 กรัม (494 กรัม สำหรับรุ่น soft-light) ทำให้เบากว่าแม็กกาซีน แต่มาพร้อมแบตเตอรี่ความจุสูง 9200mAh ความบางและเบาแบบ "anti-physics" นี้เป็นผลมาจากการปรับปรุงโครงสร้างอย่างพิถีพิถันของ Xiaomi ด้วยการใช้เทคโนโลยีการรวมเสาอากาศแบบฉีดขึ้นรูปนาโน เสาอากาศจึงถูกซ่อนไว้ภายในตัวเครื่องโลหะ ช่วยให้มั่นใจได้ถึงความแรงของสัญญาณ ขณะเดียวกันก็ลดความรู้สึกอึดอัดจากแถบเสาอากาศพลาสติกที่พบในแท็บเล็ตทั่วไป
Xiaomi Pad 8 มาพร้อมสีสันสดเข้ม 3 สี ได้แก่ สีเขียวเทอร์ควอยซ์ สีเขียวไอซ์บลู และสีดำสเปซแบล็ค ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากแร่ธาตุธรรมชาติและสุนทรียศาสตร์แบบมินิมอล สีเขียวเทอร์ควอยซ์กรีนมาพร้อมการเคลือบไมโครคริสตัลไลน์เซรามิกที่ให้ความรู้สึกเรียบเนียนดุจหยก พร้อมคุณสมบัติป้องกันรอยนิ้วมือที่ดีขึ้น 50% จึงเป็นตัวเลือกอันดับหนึ่งสำหรับผู้ใช้ที่ใส่ใจคุณภาพ

2. หน้าจอ: การปกป้องดวงตาและหน้าจอการแสดงผล
- หน้าจอสีหลักระดับมืออาชีพ 3.2K 144Hz
แท็บเล็ต Xiaomi Tablet 8 ซีรีส์ทั้งหมดมาพร้อมหน้าจอ LCD ขนาด 11.2 นิ้ว ความละเอียด 3200×2136 พิกเซล และค่า PPI 345 พิกเซล ซึ่งเหนือกว่ามาตรฐาน Retina อัตราการรีเฟรชแบบปรับได้ 144Hz รองรับการปรับค่าได้ถึง 7 ระดับ ให้อัตราเฟรมที่เหมาะสมที่สุดสำหรับทุกอย่าง ตั้งแต่การอ่านค่าแบบคงที่ไปจนถึงการเล่นเกมความเร็วสูง พร้อมลดการใช้พลังงานลง 20% ผลการทดสอบแสดงให้เห็นว่าเมื่อเล่นวิดีโอ 4K HDR ความสว่างสูงสุดของหน้าจอจะสูงถึง 800 นิต เมื่อผสานกับความลึกสี 12 บิตและขอบเขตสีกว้าง DCI-P3 การเปลี่ยนสีจึงดูเป็นธรรมชาติราวกับภาพวาดสีน้ำมัน มองเห็นทุกรายละเอียดในเงามืดได้อย่างชัดเจน
- หน้าจอ Nano Soft Light: การปกป้องดวงตา
เพื่อการใช้งานที่ยาวนานขึ้น Xiaomi ได้เปิดตัวหน้าจอ Nano Soft Light เวอร์ชันใหม่ ด้วยเทคโนโลยีนาโนเอจีป้องกันแสงสะท้อน AG พื้นผิวหน้าจอสร้างโครงสร้างเว้า-นูนในระดับไมครอน ช่วยลดแสงรบกวนได้ถึง 99% และลดการสะท้อนแสงลง 70% จากการวัดจริง ภายใต้สภาพแสงจ้า ความคมชัดของเนื้อหาบนหน้าจอจะสูงกว่าหน้าจอกระจกมาตรฐานถึงสองเท่า โดยไม่ทำให้เกิดรอยหยาบ นอกจากนี้ หน้าจอ Soft Light ยังรองรับการรับรองที่สอดคล้องกับจังหวะชีวิตประจำวัน โดยจะปรับอุณหภูมิสีโดยอัตโนมัติตามแสงโดยรอบ ลดการรบกวนของแสงสีฟ้าต่อการหลั่งเมลาโทนิน และลดความเมื่อยล้าของดวงตาลง 40% เมื่อใช้ในเวลากลางคืน

3. ทรงประสิทธิภาพด้วย Snapdragon 8s Gen4
- แพลตฟอร์มมือถือ Snapdragon 8s Gen4
Xiaomi Mi Pad 8 Standard Edition ขับเคลื่อนด้วย Snapdragon 8s รุ่นที่ 4 ซึ่งผลิตด้วยกระบวนการ 4 นาโนเมตรของ TSMC มาพร้อมสถาปัตยกรรมแบบ all-core "1 Super, 7 Big" ประกอบด้วย super-core Cortex-X4 3.21GHz จำนวน 1 คอร์ + large-core Cortex-A720 3.01GHz จำนวน 7 คอร์ และ GPU Adreno 825 คะแนน AnTuTu V11 สูงถึง 2.4 ล้าน ดีขึ้นกว่ารุ่นก่อนหน้า 35% ในการทดสอบความละเอียด 1281p ของเกม "Genshin Impact" สามารถทำเฟรมเรตเฉลี่ย 59.5 fps และอุณหภูมิตัวเครื่องเพียง 42°C ซึ่งเหนือกว่าสมาร์ทโฟนเรือธงส่วนใหญ่ในด้านการจัดการความร้อน
- การกระจายความร้อน และแบตเตอรี่
เพื่อระบายความร้อนที่เกิดจากชิปประสิทธิภาพสูง Xiaomi Tablet 8 จึงใช้ระบบระบายความร้อน VC สองชั้นแบบกราฟีนและระบายความร้อนด้วยของเหลว ส่งผลให้พื้นที่ระบายความร้อนมีขนาดใหญ่ขึ้น 40% เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า ระหว่างการเล่น "Honkai Impact 3rd" ต่อเนื่องหนึ่งชั่วโมง เฟรมเรตยังคงเสถียรที่ 58-60fps โดยอุณหภูมิด้านหลังต่ำกว่า 45°C แบตเตอรี่ความจุ 9200mAh รองรับการชาร์จเร็ว 45W ชาร์จได้ 50% ภายใน 30 นาที การชาร์จเต็มสามารถเล่นวิดีโอต่อเนื่องได้ 18.5 ชั่วโมง หรือประชุมออนไลน์ได้นาน 13 ชั่วโมง หมดกังวลเรื่องแบตเตอรี่หมด
4. ระบบ: Surge OS 3
- เครื่องมือเพิ่มผลผลิตระดับพีซี
Surge OS 3 ได้รับการปรับแต่งให้เหมาะสมกับหน้าจอขนาดใหญ่ และมาพร้อมกับซอฟต์แวร์ระดับมืออาชีพระดับพีซี เช่น WPS, CAJViewer และ ZWCAD รองรับไฟล์ 145 รูปแบบ รวมถึงการแสดงตัวอย่างไฟล์ PSD และการเรนเดอร์โมเดล 3 มิติ เมื่อเปิดไฟล์ PPT ขนาด 200 หน้าใน WPS ความหน่วงของการเลื่อนหน้าจอจะน้อยกว่า 50 มิลลิวินาที เมื่อวาดแบบแปลนสถาปัตยกรรมใน CAD ความหน่วงของสไตลัสจะอยู่ที่เพียง 8 มิลลิวินาที ซึ่งมอบความราบรื่นในการใช้งานเทียบเท่ากับการใช้งานบนเดสก์ท็อป
- การทำงานร่วมกันข้ามอุปกรณ์: ชีวิตดิจิทัลที่ราบรื่น
ด้วย Xiaomi Mi Share Center แท็บเล็ตสามารถเชื่อมต่อกับโทรศัพท์ คอมพิวเตอร์ และทีวีได้แบบเรียลไทม์ ยกตัวอย่างเช่น คุณสามารถลากภาพถ่ายที่ถ่ายด้วยโทรศัพท์ไปยังแท็บเล็ตเพื่อประมวลผลภายหลัง หรือใช้การ์ดจอของคอมพิวเตอร์เพื่อเรนเดอร์วิดีโอได้โดยตรง ยิ่งไปกว่านั้น แท็บเล็ตยังรองรับ Windows Wireless Secondary Screen ซึ่งขยายหน้าจอคอมพิวเตอร์และเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานร่วมกันแบบสองหน้าจอได้ถึงสามเท่า

5. อุปกรณ์เสริม: จากเครื่องมือสู่เพื่อนคู่ใจ
- Xiaomi Focus Stylus Pro
ปากกาสไตลัสรุ่นใหม่รองรับความไวต่อแรงกด 16,384 ระดับ และความสามารถในการรับรู้การเอียง 4,096 ระดับ หัวปากกามีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางเพียง 0.7 มม. และความแม่นยำในการเขียนสูงถึง ±0.1 มม. ฟีเจอร์ "Hover Preview" ที่เป็นเอกลักษณ์จะแสดงเอฟเฟกต์พู่กันก่อนแตะปากกาลงบนกระดาษ เพื่อป้องกันการเขียนโดยไม่ตั้งใจ ผ่านการทดสอบบน Noteshelf แล้ว ลายมือของปากกาจะติดตามมือของคุณอย่างสมบูรณ์แบบ และเส้นโค้งความไวต่อแรงกดที่ปรับแต่งได้ ทำให้ปากกานี้เหมาะสำหรับการใช้งานที่หลากหลาย เช่น การวาดภาพ การจดบันทึก และการเซ็นชื่อ
- แป้นพิมพ์สุดล้ำ
คีย์บอร์ดมาพร้อมหน้าสัมผัสแม่เหล็ก รองรับการลอยตัวแบบไม่จำกัดตั้งแต่ 0° ถึง 124° และบานพับมีอายุการใช้งานยาวนานถึง 100,000 ครั้ง ระยะกดเพียง 1.5 มม. และการออกแบบไฟแบ็คไลท์ ให้ความรู้สึกในการพิมพ์ที่ใกล้เคียงกับคีย์บอร์ดแล็ปท็อป ทัชแพดได้รับการขยายขนาดขึ้น 30% และรองรับท่าทางต่างๆ เช่น การปัดสี่นิ้วเพื่อจับภาพหน้าจอ และการสลับแอปด้วยสามนิ้ว ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานขึ้น 50% เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า
6. ใครบ้างที่ควรใช้
นักเรียน: หน้าจอไฟนาโนนุ่ม + WPS ระดับพีซี รับมือกับการเขียนเอกสารและการเรียนรู้หลักสูตรออนไลน์ได้อย่างง่ายดาย; ชุดไมโครโฟน 4 ตัวและระบบลดเสียงรบกวน AI เพื่อให้แน่ใจว่าเสียงจะชัดเจนในชั้นเรียนออนไลน์
วัยทำงาน: แป้นพิมพ์ลอย + การทำงานร่วมกันข้ามอุปกรณ์ช่วยเพิ่มอิสระในการทำงานในออฟฟิศเคลื่อนที่ Wi-Fi 7 และ Bluetooth 5.4 ช่วยให้การเชื่อมต่อเครือข่ายมีความเร็วสูงและเสถียร
ครีเอเตอร์: ปากกาไวต่อแรงกด 16384 ระดับ + ZWCAD รองรับการสร้างสรรค์ทุกกระบวนการตั้งแต่การร่างภาพไปจนถึงการสร้างแบบจำลอง 3 มิติ ลำโพง Dolby Atmos สี่ตัว มอบประสบการณ์เสียงที่ดื่มด่ำ
7. ผู้พลิกโฉมในตลาดแท็บแล็ต
แท็บเล็ตซีรีส์ Xiaomi Tablet 8 เน้น "ประสิทธิภาพที่เหนือกว่าและระบบนิเวศระดับมืออาชีพ" มุ่งเป้าไปที่ตลาดระดับกลางระหว่าง iPad Air และ Huawei MatePad Pro คาดว่ารุ่นมาตรฐานจะเริ่มต้นที่ 3,299 หยวน ส่วนรุ่น Pro (Snapdragon 8 Extreme Edition พร้อมระบบชาร์จเร็ว 67W) จะเริ่มต้นที่ 3,999 หยวน ซึ่งลดราคาลง 15-20% เมื่อเทียบกับคู่แข่ง กลยุทธ์ "สเปคสูง ราคาประหยัด" นี้ คาดว่าจะช่วยพลิกโฉมการแข่งขันในตลาดแท็บเล็ตระดับกลางถึงระดับสูง แม้ว่าจะมีระบบนิเวศการทำงานที่ครอบคลุมกว่าและหน้าจอที่สบายตาก็ตาม
ซีรีส์ Mi Tablet 8 ไม่ได้เป็นเพียงแค่ชุดฮาร์ดแวร์ แต่ยังสะท้อนถึงประสิทธิภาพการใช้งานบนมือถืออย่างลึกซึ้ง ตั้งแต่การปฏิวัติการปกป้องดวงตาของหน้าจอ Nano Soft Light ไปจนถึงการทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพของ Surge OS 3 และอุปกรณ์เสริมที่ครบครันสำหรับทุกสถานการณ์ ปรัชญา "เทคโนโลยีสำหรับทุกคน" ของ Xiaomi ทำให้ประสบการณ์การใช้งานเรือธงนี้เข้าถึงได้ง่าย สำหรับผู้ใช้ที่ให้ความสำคัญกับประสิทธิภาพและคุณภาพ Mi Tablet 8 ไม่ได้เป็นแค่เครื่องมือ แต่เป็นกุญแจสำคัญในการปลดล็อกยุคแห่งการสร้างสรรค์ดิจิทัล
แนะนำสำหรับคุณ
“ชีวิตง่ายขึ้นด้วยแท็บเล็ต – วิธีจัดระเบียบแบบไม่ต้องใช้กระดาษ”
MacBook Air: เพื่อนคู่คิดในการทำงานที่เราขาดไม่ได้
สำหรับเพื่อนๆที่กำลังมองหาโน้ตบุ๊กสำหรับทำงาน เรียน ลอง Macbook ดูนะสิ!
สาวก Apple ดูทางนี้เลย! เคสโทรศัพท์มีให้เลือกมากมายขนาดนี้ จะเลือกยังไงดี?
Apple News: Apple เปิดตัว iPad Air พร้อมชิป M3 อันทรงพลังและ Magic Keyboard ใหม่
รวม 10 เกม Switch เล่นกับเพื่อน 2025 ทั้งเกมคู่และปาร์ตี้เกม สนุกจนลืมร้อน!
ประหยัดเงินได้ง่ายๆ! แนะนำอุปกรณ์เสริมสำหรับ Apple ที่คุณภาพดีในราคาเข้าถึงง่าย
แนะนำแอพสำหรับสายครีเอทีฟ ปลดล็อกความคิดสร้างสรรค์บน iPad