กระถินกับสตอ แตกต่างกันยังไงและแยกยังไงให้ออก

หลายคนมักสับสนระหว่าง กระถิน กับ สตอ เพราะทั้งสองชนิดมีลักษณะคล้ายกัน ทั้งเป็นผักสีเขียว มีกลิ่นหอม และมักถูกนำไปใช้ในเมนูแกง ผัด หรือสลัดต่าง ๆ แต่จริง ๆ แล้วทั้งสองชนิดมีความแตกต่างทั้งในเรื่องของ รูปลักษณ์ กลิ่น รสชาติ และวิธีใช้ในครัว

การรู้จักความแตกต่างนี้จะช่วยให้เรา หยิบผักถูกชนิด ใช้ถูกเมนู และรสชาติอาหารออกมาสมบูรณ์แบบ โดยไม่ต้องเดาว่าผักชนิดไหนเหมาะกับเมนูใด

ลักษณะใบ

เริ่มต้นด้วยการสังเกต ใบ ซึ่งเป็นจุดสังเกตที่ง่ายที่สุด

กระถิน

• ใบของกระถินจะมีลักษณะ เล็กและหยักละเอียดคล้ายขนนก

• ใบเรียงตัวเป็นคู่ ๆ บนก้าน

• สีเขียวสดใส ใบอ่อนสามารถรับประทานสดได้

• ใบกระถินมีขนาดเล็กและเบา เวลาใช้ปรุงอาหารจึงเหมาะกับการโรยหน้า ทำสลัด หรือใส่ในแกงเลียง

สตอ

• ใบของสตอจะ ใหญ่กว่าและเรียบกว่า

• ใบไม่หยักหรือมีหยักน้อยมาก

• สีเขียวเข้มและมีก้านแข็งกว่าใบกระถิน

• ใบสตอเหมาะกับการปรุงอาหารที่ต้องการความกรอบและรสชาติแรง เช่น ผัด แกง หรือแกงส้ม

เคล็ดลับจำง่าย ๆ คือ ใบเล็กและหยักละเอียด → กระถิน / ใบใหญ่ เรียบ → สตอ

ลักษณะก้าน

อีกหนึ่งจุดสังเกตสำคัญคือ ก้าน

กระถิน

• ก้านเล็กและอ่อน

• ใช้ใบเป็นหลัก ก้านมักใช้แต่งอาหารหรือทำซุปเล็กน้อย

• เหมาะกับแกงเลียง แกงส้ม และอาหารที่ต้องการความหอมอ่อน

สตอ

• ก้านใหญ่ แข็ง และเหนียวกว่า

• สามารถใช้ทั้งก้านและใบปรุงอาหาร

• เหมาะกับผัด แกง หรือเมนูที่ต้องการให้ผักยังคงความกรอบและรสเข้ม

ดังนั้นถ้าเจอก้านเล็กและอ่อนพร้อมใบหยักละเอียด มักจะเป็นกระถิน แต่ถ้าก้านใหญ่ แข็ง ใบเรียบ เข้ม น่าจะเป็นสตอ

กลิ่นและรสชาติ

ความแตกต่างอีกอย่างที่สำคัญคือ กลิ่นและรสชาติ

กระถิน

• มีกลิ่นหอมอ่อน ๆ สดชื่น

• รสชาติอ่อน ไม่ขมมาก

• เหมาะกับอาหารที่ต้องการความหอมละมุน เช่น แกงส้ม แกงเลียง ยำ หรือสลัด

สตอ

• กลิ่นแรงและสดชื่นกว่ากระถินเล็กน้อย

• รสชาติขมและเข้มขึ้น

• เหมาะกับอาหารปรุงสุก เช่น ผัด แกง หรือแกงส้มที่ต้องการความหอมชัดเจน

เคล็ดลับจำง่าย ๆ คือ กลิ่นอ่อน รสอ่อน → กระถิน / กลิ่นแรง รสเข้ม → สตอ

วิธีแยกให้ออกง่าย ๆ

1. ดูใบ: ใบเล็กและหยักละเอียด → กระถิน / ใบใหญ่เรียบ → สตอ

2. ดูก้าน: ก้านเล็กอ่อน → กระถิน / ก้านใหญ่แข็ง → สตอ

3. ดมกลิ่น: กลิ่นอ่อน → กระถิน / กลิ่นแรง → สตอ

4. ลองชิม: รสอ่อน → กระถิน / รสขมและเข้ม → สตอ

การสังเกตร่วมกันทั้งใบ ก้าน กลิ่น และรสชาติ จะช่วยให้คุณ แยกกระถินและสตอได้แม่นยำ แม้เวลาซื้อผักในตลาดหรือร้านสะดวกซื้อ

การใช้งานในครัว

กระถิน

• เหมาะกับอาหารที่ต้องการใบเล็กอ่อนและกลิ่นหอมละมุน

• ใช้เป็นผักสดในแกงเลียง แกงส้ม สลัด หรือยำ

• ใบกระถินช่วยเพิ่มสีสันและความสวยงามให้อาหาร

• ก้านอ่อนสามารถใส่เล็กน้อยเพื่อเพิ่มกลิ่นหอมแบบพอดี

สตอ

• ใช้ได้ทั้งก้านและใบ

• เหมาะกับผัด แกง หรือแกงส้มที่ต้องการความกรอบและรสชาติชัดเจน

• ก้านแข็งช่วยคงรูปผักในเมนูที่ปรุงนาน

• ใบสตอช่วยเพิ่มกลิ่นหอมเข้มและรสชาติสมดุล

ตัวอย่างเมนู

• กระถิน: แกงเลียง, แกงส้ม, ยำผักสด, สลัด, น้ำพริก

• สตอ: แกงส้ม, ผัดสตอใส่หมู/ไก่, แกงสตูว์, ผัดผักรวม, ซุปผัก

การเลือกใช้ให้เหมาะสมกับเมนู จะช่วยให้ รสชาติและกลิ่นของอาหารลงตัว ไม่แรงหรืออ่อนเกินไป

เคล็ดลับการเลือกซื้อและเก็บรักษา

• เลือกใบสีเขียวสด ไม่เหี่ยวหรือเหลือง

• ใบกระถินควรเล็กและหยักละเอียด

• ใบสตอควรเข้ม แข็งและมีน้ำหนักพอสมควร

• เก็บในตู้เย็นในถุงซิปหรือห่อด้วยกระดาษเปียกเพื่อรักษาความสด

• ใช้ภายใน 2–3 วันหลังซื้อเพื่อคงความหอมและรสชาติ

สรุป

แม้ กระถินและสตอ จะดูคล้ายกัน แต่สามารถแยกออกได้ด้วยการสังเกต ใบ ก้าน กลิ่น และรสชาติ ใบเล็กหยัก ก้านอ่อน กลิ่นอ่อน รสอ่อน คือกระถิน ส่วนใบใหญ่ เรียบ ก้านแข็ง กลิ่นแรง รสเข้ม คือสตอ

การรู้จักความแตกต่างนี้ จะช่วยให้คุณ หยิบผักถูกชนิด ใช้ถูกเมนู และอาหารมีกลิ่นหอมรสชาติเข้มข้นตามต้องการ ทั้งทำอาหารง่ายขึ้น สนุกขึ้น และสวยงามขึ้นทุกจาน