การ์ตูนเด็กที่เราโตไปพร้อมกัน (แต่ยังไม่เคยจากลา)

user avatar
Ornicha.M (Kiw)·2025-10-22T04:38Z
点赞
การ์ตูนเด็กที่เราโตไปพร้อมกัน (แต่ยังไม่เคยจากลา)

ลองจินตนาการถึงเสียงทีวีในเช้าวันเสาร์ อาทิตย์ เสียงดนตรีเปิดรายการ “โดเรมอน” ดังขึ้นพร้อมภาพของแมวหุ่นยนต์สีฟ้าที่โผล่มาจากลิ้นชักโต๊ะเรียน นั่นคือช่วงเวลาที่เด็กยุค 90–2000 แทบทุกคนรู้ดีว่า “ถึงเวลาความสุขแล้ว”

วันนั้นเราอาจนั่งอยู่บนเก้าอี้ในห้องนั่งเล่น เปิดพัดลมให้จ่อมาที่เราคนเดียว แล้วหัวเราะกับความเปิ่นของโนบิตะ หรือนั่งจ้องหน้าจออย่างจริงจังตอนฮาโตริต้องช่วยเพื่อนผ่านปัญหาในโรงเรียน
เสียงหัวเราะ เสียงพากย์ และท่าทางการ์ตูนเหล่านั้น
เหมือนกลายเป็น “เครื่องย้อนเวลา” ที่พาเรากลับไปสู่วัยที่ไม่มีอะไรซับซ้อน

แต่เมื่อโตขึ้น เรากลับพบว่าการ์ตูนที่เราเคยดู...
ไม่ได้มีไว้ให้ “เด็ก” เท่านั้น
และหลายเรื่องที่เราคิดว่า “ดูจบไปนานแล้ว” แท้จริงแล้วยังส่องแสงอยู่ในใจผู้ใหญ่จำนวนมากจนถึงวันนี้

คำถามคือ อะไรที่ทำให้การ์ตูนเด็กเหล่านี้ “ไม่เคยโตไปจากเรา”?

จากหน้ากระดาษสู่จอทีวี – วัฒนธรรมการ์ตูนญี่ปุ่นที่เติบโตไปกับโลก

หากย้อนกลับไปในช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่สอง ญี่ปุ่นคือประเทศที่ใช้ “การ์ตูน” เป็นเครื่องมือฟื้นฟูหัวใจคนทั้งชาติ
นักเขียนอย่าง ฟุจิโกะ เอฟ. ฟุจิโอะ (Fujiko F. Fujio) ผู้ให้กำเนิด โดเรมอน
หรือ โยชิโตะ อุซุย (Yoshito Usui) ผู้สร้าง ชินจังจอมแก่น
ต่างมีแนวคิดเดียวกันว่า การ์ตูนไม่ใช่เพียงความบันเทิง แต่คือภาพสะท้อนของชีวิตคนธรรมดา — ที่มีทั้งความฝัน ความผิดหวัง และความหวังเล็กๆ ในทุกวัน

ยุคนั้น “การ์ตูนเด็ก” ไม่ได้หมายถึงเรื่องที่เด็กดูเท่านั้น แต่เป็นการ์ตูนที่ เด็กดูได้ และผู้ใหญ่เข้าใจได้ลึกกว่า
โดเรมอนพูดถึงความสัมพันธ์ของมนุษย์กับเทคโนโลยี
ชินจังพูดถึงสังคมญี่ปุ่นและความแปลกประหลาดของชีวิตครอบครัว
มารูโกะสะท้อนความคิดของเด็กหญิงในยุคที่ญี่ปุ่นกำลังพัฒนาเศรษฐกิจ
ส่วนนินจาฮาโตริและปาร์แมน ถ่ายทอดแนวคิดเรื่อง “มิตรภาพ ความรับผิดชอบ และการเติบโต”

นั่นทำให้เมื่อเวลาผ่านไป การ์ตูนเหล่านี้ไม่ได้หายไปพร้อมวัยเด็ก
แต่กลับ “เติบโต” ไปพร้อมกับผู้ชม

การ์ตูนที่ไม่ยอมแก่ – เพราะหัวใจของมันคือ “ชีวิตจริง”

1. โดเรมอน – เมื่อความฝันและเทคโนโลยีอยู่ในลิ้นชักเดียวกัน

โดราเอมอน: มังหงะสะท้อนวิธีคิดแบบมนุษยนิยม ผ่านโครงเรื่องแบบหลังมนุษยนิยม |  THE MOMENTUM

โดเรมอนคือภาพแทนของ “สิ่งที่มนุษย์อยากได้แต่ไม่มี” ของเล่นวิเศษจากอนาคตที่แก้ปัญหาทุกอย่างได้ในเสี้ยววินาที
แต่สิ่งที่เรื่องนี้สื่ออย่างลึกซึ้งคือ “ความพยายามของโนบิตะ” เด็กชายธรรมดาที่พลาดซ้ำๆ แต่ก็ยังลุกขึ้นใหม่เสมอ

บางครั้งคนดูกลับเห็นตัวเองในโนบิตะมากกว่าในโดเรมอน เพราะในโลกจริง เราไม่มีของวิเศษให้พึ่ง แต่เรายังอยากจะเชื่อว่า “ถ้ามีสักอย่างช่วยเราได้” เราก็คงกล้าฝันเหมือนโนบิตะนั่นแหละ และนั่นคือเหตุผลที่แม้เวลาผ่านไป 50 ปี
“โดเรมอน” ยังไม่เคยจากเราไปไหน เพราะมันคือเรื่องของ “มนุษย์ที่อยากดีขึ้น” ไม่ใช่แค่ “เด็กที่อยากได้ของเล่น”

2. ชินจัง – เด็กห้าขวบที่สอนเราว่า ผู้ใหญ่ก็ยังงี่เง่าได้เหมือนกัน

การ์ตูนชินจังจอมแก่น สามารถครอบใจใครหลาย ๆคน ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน

ถ้าโดเรมอนคือความอบอุ่นในวัยเด็ก
ชินจังจอมแก่น คือกระจกที่สะท้อนความบ้าบอของชีวิตผู้ใหญ่

หลายคนอาจจำได้ว่า ชินจังมักทำเรื่องไม่เหมาะสม เช่น เต้นแก้ผ้า หรือพูดตรงเกินไป แต่ภายใต้ความทะเล้นนั้น คือการวิพากษ์สังคมญี่ปุ่นอย่างเฉียบคม
บ้านของชินจังเป็นครอบครัวชนชั้นกลางทั่วไป มีพ่อทำงานบริษัท แม่ดูแลบ้าน ลูกสองคน สิ่งที่ผู้ใหญ่ในเรื่องต้องเผชิญคือความเครียดจากงาน การแข่งขัน และบทบาททางสังคม
ขณะที่เด็กชายห้าขวบคนหนึ่งกลับใช้ “ความไม่รู้” ของตนเองเป็นเกราะป้องกันชีวิต

“บางครั้งความซื่อก็อาจฉลาดกว่าความรู้” ประโยคหนึ่งจากบทสัมภาษณ์ของโยชิโตะ อุซุย เคยกล่าวไว้เช่นนั้น
และนั่นทำให้ชินจังไม่ใช่การ์ตูนเด็กห่ามๆ แต่คือการ์ตูนที่กล้า “พูดแทน” ความเหนื่อยของผู้ใหญ่
ผ่านเสียงหัวเราะของเด็กชายคนหนึ่ง

3 นินจาฮาโตริ – การ์ตูนแห่งมิตรภาพและวินัยที่ซ่อนความลึกทางจิตวิทยา

นินจาฮาโตริรีใหม่! พร้อมให้ดูได้ผ่านช่อง Youtube Cartoon Club ปีหน้า!

ในขณะที่โดเรมอนพูดถึงเทคโนโลยี และชินจังพูดถึงชีวิต นินจาฮาโตริ กลับสอดแทรกเรื่อง “ความพยายาม” และ “การควบคุมตนเอง”
ฮาโตริไม่ได้เก่งเพราะมีพลังพิเศษ แต่เพราะฝึกฝนอย่างต่อเนื่อง และสิ่งที่เขาสอนเพื่อนๆ อยู่เสมอคือ “อย่าหนีปัญหา แม้มันจะยาก”

ในแง่จิตวิทยา เด็กที่เติบโตมาพร้อมฮาโตริ มักได้รับแนวคิดเรื่อง “วินัยและความรับผิดชอบ” โดยไม่รู้ตัว
ในยุคที่เทคโนโลยีเข้ามาแทนความอดทน
คำถามคือ เรายังสอนเด็กให้มี “ใจนักสู้แบบฮาโตริ” อยู่ไหม?

4 ปาร์แมน – ซูเปอร์ฮีโร่ตัวจิ๋วที่พูดเรื่อง “ภาระของความดี”

คุยเรื่องเกมส์เก่า] """ปาร์แมน"""  เป็นการ์ตูนที่แฝงด้วยคำสอนดีๆเสมอในสไตล์ของ อ.ฟูจิโกะ  มิตสึโอะเริ่มช่วยเหลือผู้คนที่ตกอยู่ในอันตรายทั้งทางอาชญากรรมและภัยต่างๆ  ผู้คนต่างนิยมชมชอบปาร์แมน สิ่งที่ทำให้ปาร์แมนตกที่นั่งลำบาก

ปาร์แมนไม่ใช่ฮีโร่ที่บินได้โดยกำเนิด เขาคือเด็กธรรมดาที่ได้รับหน้าที่จาก “เบิ้ดแมน” ให้ช่วยเหลือคน
และต้องปิดบังตัวตนจากโลก
แม้จะเป็นเรื่องสำหรับเด็ก แต่แนวคิดเรื่อง “ความรับผิดชอบของคนที่มีพลัง”
คือรากฐานเดียวกับฮีโร่ระดับโลกอย่าง Spider-Man

ความดีในโลกของปาร์แมนจึงไม่ง่าย เพราะมันมาพร้อมความเหนื่อย ความโดดเดี่ยว และความกลัวจะถูกเข้าใจผิด
ฟุจิโกะ เอฟ. ฟุจิโอะ เคยบอกไว้ว่า

“การทำดีไม่จำเป็นต้องยิ่งใหญ่ แค่กล้าพอจะทำทั้งที่ไม่มีใครเห็นก็พอ”

คำพูดนั้นยังคงก้องอยู่ในใจคนดูจนวันนี้

5 มารูโกะ – เด็กหญิงธรรมดากับความอบอุ่นของครอบครัวญี่ปุ่นยุค 80s

เร็วเกินไป

ในโลกที่เต็มไปด้วยการ์ตูนผจญภัย มารูโกะกลับยืนหยัดอยู่บนพื้นฐานของ “ชีวิตประจำวัน”
เด็กหญิงคนหนึ่งที่งอแง เกียจคร้าน แต่อ่อนโยน
เรื่องราวของเธอเรียบง่าย ไปโรงเรียน ทะเลาะกับพี่สาว โดนคุณยายบ่น แต่ความเรียบง่ายนั้นกลับกลายเป็นเสน่ห์ที่ทำให้ผู้ใหญ่หลายคนหลั่งน้ำตา เพราะทุกตอนของมารูโกะคือ “ชีวิตที่เราเคยมี”
บ้านไม้หลังเล็กๆ ความอบอุ่นจากผู้ใหญ่ เสียงหัวเราะในครัว และบทเรียนชีวิตที่ไม่ได้ถูกสอนในห้องเรียน

6 อาราเล่ – ความบ๊องที่ฉลาดกว่าผู้ใหญ่ทั้งโลก

อาราเล่ตอนที่ 61 ตอนครอบครัวประหลาดมาแล้ว 1-2 - video Dailymotion

อาราเล่คือหุ่นยนต์เด็กหญิงที่เต็มไปด้วยพลังและความซื่อ เธอวิ่งเล่น ทำเรื่องบ้าๆ รั่วๆ ในหมู่บ้านเพนกวิน
แต่เบื้องหลังความตลกคือคำถามเชิงปรัชญา ว่า “ความเป็นมนุษย์” แท้จริงคืออะไร
เพราะอาราเล่ ที่เป็นเครื่องจักร กลับมีหัวใจที่อบอุ่นและไร้เดียงสากว่ามนุษย์หลายคน

อากิระ โทริยามะเคยกล่าวว่า

“อาราเล่คือสิ่งมีชีวิตที่ไร้ซึ่งอคติ เธอจึงมีความสุขที่สุดในโลก”

ประโยคนี้กลายเป็นหัวใจของการ์ตูนยุคต่อมา ที่กล้าหัวเราะกับทุกความไม่สมบูรณ์ของโลก

7 โปเกมอน – มิตรภาพ การเติบโต และการไม่ยอมแพ้

Pokemon : Origin Story ประวัติของโปเกมอน - Dollthai Shop

“ต้องจับให้ได้ทุกตัว!”
คำพูดของซาโตชิ (หรือแอชในเวอร์ชันภาษาอังกฤษ) ไม่ใช่แค่สโลแกนของเกม
แต่คือแนวคิดของชีวิต

โปเกมอนไม่ได้เป็นแค่เรื่องของการต่อสู้ แต่คือการเรียนรู้ที่จะเข้าใจสิ่งมีชีวิตที่แตกต่าง
การสร้างมิตรภาพ ความภักดี และการเติบโตไปพร้อมกัน
ทุกครั้งที่ซาโตชิพลาด เขาไม่โทษโปเกมอน แต่เลือกจะเข้าใจมันมากขึ้น

นั่นทำให้ “โปเกมอน” ไม่ใช่แค่แฟรนไชส์ระดับโลก
แต่คือบทเรียนเรื่อง “การเติบโตอย่างอ่อนโยน” ที่คนทุกวัยเข้าใจได้

8 เซเลอร์มูน – พลังหญิงในยุคที่โลกยังไม่เปิดรับ

ถอดรหัสวัฒนธรรมใน "เซเลอร์มูน" ระเบิดพลังเฟมินิสต์ไปกับตัวแทนแห่งดวงจันทร์

ในยุคที่ซูเปอร์ฮีโร่ส่วนใหญ่เป็นผู้ชาย
“เซเลอร์มูน” กลับสร้างปรากฏการณ์ใหม่ – หญิงสาวธรรมดาที่แปลงร่างมาปกป้องโลกด้วยความรักและมิตรภาพ

นาโอโกะ ทาเคอุจิ ผู้เขียน เคยบอกว่า

“ฉันอยากให้เด็กผู้หญิงเห็นว่าพวกเธอก็มีสิทธิ์จะเป็นฮีโร่ได้เช่นกัน”

เซเลอร์มูนจึงไม่ใช่แค่การ์ตูนสวยใส แต่คือสัญลักษณ์ของพลังหญิงยุคใหม่
เธอร้องไห้ได้ ล้มเหลวได้ แต่ก็ยังยืนหยัดเพื่อคนที่เธอรัก และในโลกยุคปัจจุบัน เซเลอร์มูนยังคงเป็นแรงบันดาลใจให้คนรุ่นใหม่เชื่อว่า “ความอ่อนโยนก็เป็นพลังได้เช่นกัน”

สรุป: เราไม่ได้โตจากการ์ตูน – เราแค่เรียนรู้จะมองมันต่างไป

หากลองมองย้อนกลับไป
การ์ตูนเหล่านี้ล้วนสอนบางอย่างที่หนังผู้ใหญ่หลายเรื่องยังทำไม่ได้

  • โดเรมอน สอนให้เราฝัน

  • ชินจัง สอนให้เรากล้ายอมรับความไม่สมบูรณ์

  • ฮาโตริ สอนให้เราพยายาม

  • ปาร์แมน สอนให้เรารับผิดชอบต่อความดี

  • มารูโกะ สอนให้เรารักความธรรมดา

  • อาราเล่ สอนให้เราหัวเราะกับชีวิต

  • โปเกมอน สอนให้เราเติบโตไปพร้อมมิตรภาพ

  • เซเลอร์มูน สอนให้เราเชื่อในพลังของความอ่อนโยน

ทั้งหมดนี้คือ “มรดกของจิตใจ” ที่ยังส่งต่อความอบอุ่นมาถึงปัจจุบัน

คำถามคือ ในโลกที่หมุนเร็วขึ้นทุกวัน
เรายังเหลือเวลาให้ “การ์ตูนเด็ก” ปลอบใจหัวใจผู้ใหญ่ของเราอยู่ไหม?

บางทีคำตอบ...
อาจอยู่ในตอนเก่าที่คุณกำลังจะเปิดดูอีกครั้งคืนนี้

บทความที่เกี่ยวข้อง

ในช่วงครึ่งแรกของปี 2025 Netflix เปรียบเสมือนขุมทรัพย์แห่งอนิเมะระดับโลก ด้วยอนิเมะญี่ปุ่นคุณภาพเยี่ยมมากมายที่เปิดตัวครั้งแรก ดึงดูดใจคออนิเมะมากมาย วันนี้ เราได้รวบรวม 10 อนิเมะญี่ปุ่นที่มียอดผู้ชมสูงสุดในช่วงครึ่งปีแรก ไม่ว่าคุณจะเป็นแฟน
10 อนิเมะที่ต้องดูบน Netflix เพื่อเขย่าช่วงครึ่งปีแรกของปี 2025
ในยุคที่วัฒนธรรมญี่ปุ่นเชื่อมโยงผู้คนทั่วโลกได้อย่างแนบแน่น อนิเมะไม่ใช่แค่ความบันเทิง แต่ได้กลายเป็นสิ่งที่อยู่ในชีวิตประจำวันของแฟน ๆ หลายคน รวมถึงในประเทศไทยเองที่วัฒนธรรมอนิเมะเติบโตอย่างรวดเร็วและเข้มข้นเมื่อไม่นานมานี้ สื่อญี่ปุ่นได้ท
ขวัญใจแฟนอนิเมะไทย: แอนิเมชั่นญี่ปุ่นที่ดึงดูดทั่วโลก
ถ้าพูดถึงเกมมือถือและ PC ที่มาแรงที่สุดในปีนี้ คงหนีไม่พ้นชื่อ Uma Musume: Pretty Derby เกมแนวอนิเมะที่เต็มไปด้วยสาวน้อยหูม้าสุดคิ้วท์ หลายคนอาจเคยเห็นผ่านตาจากคลิปตัดต่อการแข่งขันสุดมันส์ หรือมีเพื่อนแชร์ภาพตัวละครน่ารัก ๆ ในโซเชียล แต่ทำไ
🐎 Uma Musume: Pretty Derby ทำไมถึงฮิตกระแสแรงในช่วงนี้?

บทความล่าสุดดูเพิ่มเติม

กลิ่นต้นหอมในถ้วยแกงและคำถามที่ติดอยู่ในใจในเช้าวันหนึ่งช่วงเทศกาล กินเจ คุณเดินผ่านร้านอาหารเจชื่อดังแห่งหนึ่ง กลิ่นหอมของแกงเจเตะจมูกแต่จู่ๆ คุณก็สังเกตว่า “เฮ้ ทำไมไม่มีต้นหอมโรยหน้าล่ะ?”หรือในงานบุญที่มี “กับข้าวเจ” วางเรียงราย แต่คุณกล
เมื่อ “ผักหอมฉุน” ต้องหลีกทาง  ทำไม กระเทียม กุยช่าย หัวหอม ต้นหอม ถึงไม่ใช่ “อาหารเจ”
ลองนึกภาพเช้าวันเสาร์-อาทิตย์ตอนเด็ก ๆ เสียงเปิดเพลง “โดเรมอนมาแล้ว!” ดังขึ้นทางทีวี เด็กหลายคนรีบวิ่งมานั่งหน้าจอพร้อมของว่างในมือ เพราะรู้ดีว่ากำลังจะได้เจอหุ่นยนต์แมวสีฟ้ากับกระเป๋าวิเศษที่สามารถหยิบของอะไรก็ได้ออกมาเวลาผ่านไปหลายสิบปี จ
ทำไมโดเรมอนถึงเป็นการ์ตูนที่อยู่คู่คนไทยมาตลอด แม้กระทั่งบางคนที่โตเป็นผู้ใหญ่แล้วก็ยังดูอยู่
ลองนึกถึงบ่ายวันเสาร์ตอนเด็ก ๆ ตอนที่คุณนั่งอยู่หน้าทีวีพร้อมขนมถุงโปรด แล้วเสียงเพลงเปิดดังขึ้นว่า “ชินจังจอมแก่น!” ภาพของเด็กชายวัย 5 ขวบกางเกงขาสั้นสีเหลือง ทำท่ากวน ๆ เต้นแปลก ๆ อยู่หน้าจอ นั่นแหละคือโมเมนต์ที่อยู่ในความทรงจำของคนไทยจำน
ชินจังเป็นการ์ตูนเด็กหรือผู้ใหญ่กันแน่? คำถามที่หลายคนยังถกเถียงกัน