วิธีเลือกจอคอมพิวเตอร์ 120Hz หรือ 144Hz เลือกยังไงดี

ถ้าใครเคยลองเปลี่ยนจากจอคอมพิวเตอร์ธรรมดา 60Hz ไปใช้จอที่รีเฟรชเรตสูงกว่า เช่น 120Hz หรือ 144Hz แล้ว จะรู้เลยว่ามันคืออีกโลกหนึ่งของการมองเห็น ภาพที่เคยดูหน่วง กลับลื่นไหลจนเหมือนหลุดเข้าไปอยู่ในเกมหรือหนังเรื่องนั้นจริง ๆ แต่คำถามที่หลายคนยังสงสัยคือ แล้วควรเลือกจอ 120Hz หรือ 144Hz ดี? ความต่างแค่ 24Hz มันมีผลขนาดนั้นเลยหรือ?
บทความนี้เราจะพาไปเจาะลึกแบบเข้าใจง่าย ทั้งในแง่เทคนิคและประสบการณ์จริง ว่าการเลือก “จอคอมพิวเตอร์รีเฟรชเรตสูง” ควรพิจารณาอย่างไร ให้เหมาะกับงบประมาณ ไลฟ์สไตล์ และการใช้งานของคุณที่สุ
รู้จักคำว่า “Hz” ก่อนเลือกซื้อ
ก่อนจะไปถึงการตัดสินใจระหว่าง 120Hz กับ 144Hz เรามาทำความเข้าใจกันก่อนว่า “Hz” คืออะไร
คำว่า “Hz” (เฮิรตซ์) คือหน่วยวัดความถี่ของการแสดงผลต่อวินาที ยกตัวอย่างง่าย ๆ จอ 60Hz หมายถึงจอที่สามารถแสดงภาพใหม่ได้ 60 เฟรมต่อวินาที (60 fps) ส่วนจอ 120Hz คือ 120 เฟรมต่อวินาที และ 144Hz ก็คือ 144 เฟรมต่อวินาที
พูดง่าย ๆ คือ ยิ่งตัวเลข Hz สูง ภาพก็ยิ่งลื่น โดยเฉพาะเวลามีการเคลื่อนไหวเร็ว ๆ เช่น เล่นเกมแนว FPS (ยิงปืนมุมมองบุคคลที่หนึ่ง), เกมแข่งรถ, หรือแม้แต่การเลื่อนหน้าเว็บก็จะรู้สึกสมูทขึ้นกว่าจอทั่วไป
แล้วจอ 120Hz กับ 144Hz ต่างกันจริงไหม?
ในทางเทคนิค ความแตกต่างระหว่าง 120Hz และ 144Hz มีอยู่จริง แต่ต้องยอมรับว่าคนทั่วไปอาจไม่รู้สึกถึงความต่างอย่างชัดเจนขนาดนั้น
-
120Hz ถือเป็นมาตรฐานกลางที่ให้ภาพลื่นกว่า 60Hz อย่างเห็นได้ชัด เหมาะกับทั้งการเล่นเกม ดูหนัง หรือใช้งานทั่วไปที่ต้องการความนุ่มนวล
-
144Hz เป็นตัวเลือกยอดนิยมของคอเกม เพราะเป็นรีเฟรชเรตที่ “สูงสุดในกลุ่มราคาคุ้มค่า” ให้ความลื่นไหลสุด ๆ โดยเฉพาะเมื่อจับคู่กับเครื่องที่ทำเฟรมเรตสูง ๆ ได้
แต่หากถามว่า “สายตาคนทั่วไปเห็นความต่างไหม?” คำตอบคือ สำหรับผู้ที่ไม่ได้เล่นเกมแบบจริงจัง ความต่างระหว่าง 120Hz กับ 144Hz จะเล็กน้อยมาก จนบางครั้งแทบไม่รู้สึก เว้นแต่คุณจะเล่นเกมแนวแข่งขันที่ต้องการการตอบสนองเร็วระดับเสี้ยววินาที
ทำไมควรเลือกจอรีเฟรชเรตสูง
การอัปเกรดจากจอ 60Hz ไปเป็น 120Hz หรือ 144Hz ไม่ใช่เรื่องฟุ่มเฟือย แต่คือ “การยกระดับประสบการณ์ใช้งาน” ที่จับต้องได้จริง โดยเฉพาะในยุคที่เราทำทุกอย่างบนหน้าจอ — ตั้งแต่เรียนออนไลน์ ทำงาน ดูหนัง ไปจนถึงเล่นเกม
เหตุผลหลักที่ควรเลือกจอรีเฟรชเรตสูง ได้แก่:
-
ภาพลื่นตา ดูสบายมากขึ้น
เมื่อภาพเคลื่อนไหวต่อเนื่องและลื่นกว่า สายตาเราจะเหนื่อยน้อยลง โดยเฉพาะคนที่ต้องจ้องหน้าจอนาน ๆ
-
ตอบสนองไวกว่า
โดยเฉพาะสำหรับคนเล่นเกม จอที่รีเฟรชเรตสูงจะลดอาการ “ภาพเบลอ” หรือ “หน่วง” เวลาแพนกล้องเร็ว ๆ ทำให้ควบคุมเกมได้แม่นยำขึ้น
-
เหมาะกับคอนเทนต์ยุคใหม่
ปัจจุบันมีทั้งหนัง ซีรีส์ และเกมจำนวนมากที่รองรับเฟรมเรตสูง การใช้จอ 120Hz ขึ้นไปจึงช่วยให้ได้ภาพเต็มศักยภาพของเนื้อหาเหล่านั้น
-
ความคมชัดแม้ขณะเคลื่อนไหว
ไม่ว่าจะดูวิดีโอหรือเลื่อนหน้าเอกสาร ภาพจะไม่ “ขาดตอน” หรือมีเงาซ้อน
ฟีเจอร์สำคัญที่ควรดูนอกจากค่า Hz
หลายคนอาจเข้าใจผิดว่า เลือกจอแค่ดูว่าเป็น 120Hz หรือ 144Hz ก็พอ แต่ความจริงแล้ว ยังมีปัจจัยอื่น ๆ ที่ส่งผลต่อประสบการณ์ใช้งานโดยตรง เช่น
1. ชนิดของพาเนล (Panel Type)
-
IPS (In-Plane Switching): สีสันสด มุมมองกว้าง เหมาะกับงานกราฟิกและดูหนัง
-
VA (Vertical Alignment): คอนทราสต์สูง เหมาะกับการดูวิดีโอ
-
TN (Twisted Nematic): ตอบสนองไว ราคาถูก เหมาะกับเกมเมอร์สายแข่งขัน
2. Response Time (เวลาตอบสนองของพิกเซล)
ค่าตอบสนองยิ่งต่ำยิ่งดี โดยเฉพาะเกมเมอร์ ค่าที่ดีคือประมาณ 1–5 ms จะช่วยลด “ภาพเบลอ” ขณะเคลื่อนไหว
3. Adaptive Sync (เช่น G-Sync หรือ FreeSync)
ฟีเจอร์นี้ช่วย “ซิงค์” เฟรมเรตระหว่างจอกับการ์ดจอ ลดการฉีกขาดของภาพ (Screen Tearing) ทำให้เล่นเกมได้ลื่นไหลยิ่งขึ้น
4. ความละเอียดของจอ (Resolution)
ถ้าจอ 120Hz แต่เป็นแค่ Full HD กับอีกจอ 144Hz แต่เป็น QHD หรือ 4K ผลลัพธ์ในการใช้งานก็จะต่างกัน ควรเลือกให้เหมาะกับการ์ดจอของเครื่องด้วย
5. พอร์ตเชื่อมต่อ
ตรวจสอบให้แน่ใจว่าจอและคอมพิวเตอร์ของคุณรองรับพอร์ตที่สามารถส่งสัญญาณรีเฟรชเรตสูง เช่น DisplayPort 1.2 ขึ้นไป หรือ HDMI 2.0 เป็นต้น
แล้วใครควรเลือก 120Hz หรือ 144Hz?
ถ้าคุณคือ “สายทำงานทั่วไป”
เช่น ใช้ทำงานออฟฟิศ เรียนออนไลน์ ตัดต่อเบา ๆ หรือดูหนังบ้างเป็นบางครั้ง
→ 120Hz ก็เพียงพอ เพราะให้ภาพลื่นสบายตา โดยไม่ต้องจ่ายเพิ่มเกินจำเป็น
ถ้าคุณคือ “สายเล่นเกมจริงจัง”
โดยเฉพาะแนว FPS, MOBA, Racing หรือเกมแข่งขันออนไลน์
→ 144Hz คือคำตอบ เพราะความต่างแม้เพียงเล็กน้อยในความลื่นไหล ก็อาจหมายถึงจังหวะที่คุณชนะหรือแพ้ได้เลย
ถ้าคุณคือ “นักสร้างคอนเทนต์”
ที่ทำทั้งวิดีโอ กราฟิก หรือสตรีมมิ่งเกม
→ จอ 144Hz IPS Panel จะให้ทั้งความลื่น สีเที่ยงตรง และมุมมองกว้าง เหมาะกับงานที่ต้องการทั้งความแม่นและความสวยงาม
เคล็ดลับการใช้งานจอรีเฟรชเรตสูงให้คุ้มค่า
-
ตรวจสอบให้แน่ใจว่าการ์ดจอรองรับเฟรมเรตสูงจริง
จอ 144Hz จะไม่ช่วยอะไร ถ้าการ์ดจอทำเฟรมเรตได้แค่ 60 fps
-
ตั้งค่าจอให้ตรงกับค่า Hz ที่รองรับ
หลายคนซื้อจอ 144Hz แต่ระบบยังตั้งไว้ที่ 60Hz วิธีแก้คือเข้าไปที่ “Display Settings” แล้วปรับ Refresh Rate ให้ตรงกับค่าที่จอรองรับ
-
ใช้สายเชื่อมต่อที่เหมาะสม
สาย HDMI รุ่นเก่าอาจไม่รองรับเฟรมเรตสูง ควรใช้สาย HDMI 2.0 หรือ DisplayPort 1.2 ขึ้นไป
-
ดูแลเรื่องแสงและการนั่งใช้งาน
จอที่ลื่นอาจทำให้เราจ้องนานกว่าปกติ ควรจัดแสงให้เหมาะสมและพักสายตาเป็นระยะ
-
อัปเดตไดรเวอร์การ์ดจออยู่เสมอ
เพื่อให้จอแสดงผลได้เต็มประสิทธิภาพและลดปัญหาภาพค้างหรือเฟรมดรอป
แล้วสุดท้าย ควรเลือกอะไรดี?
ถ้ามองในมุม “ความคุ้มค่า” จอ 120Hz อาจเพียงพอสำหรับคนส่วนใหญ่ ให้ความลื่นที่รู้สึกได้ทันทีจากจอ 60Hz แต่ราคายังไม่แรง
แต่ถ้ามองในมุม “การลงทุนระยะยาว” หรือคุณคือคนที่จริงจังกับภาพ การเล่นเกม หรือการทำงานที่ต้องการความแม่นของการเคลื่อนไหว 144Hz คือคำตอบที่ดีกว่า เพราะมันคือมาตรฐานใหม่ของจอคุณภาพในปัจจุบัน
สรุป เลือกให้ตรงกับชีวิต ไม่ใช่แค่ตัวเลข
สุดท้ายแล้ว การเลือกจอคอมพิวเตอร์ไม่ได้มีคำตอบตายตัวระหว่าง 120Hz หรือ 144Hz เพราะสิ่งที่สำคัญที่สุดคือ “คุณใช้มันทำอะไร”
ถ้าคุณต้องการจอที่ดูสบายตา ใช้งานทั่วไปได้ดี 120Hz คือจุดสมดุลที่เหมาะสม
แต่ถ้าคุณอยากได้ความลื่นที่เหนือกว่า ทุกจังหวะของการเล่นเกมต้องแม่นยำ และอยากให้จอพร้อมรองรับเทคโนโลยีอนาคต 144Hz คือการเลือกที่คุณจะไม่เสียใจ
เพราะในโลกของจอคอมพิวเตอร์ “ความต่างเพียงไม่กี่เฮิรตซ์” อาจกลายเป็น “ความต่างของประสบการณ์ทั้งชีวิต” และการเลือกให้ตรงกับความต้องการของตัวเอง คือคำตอบที่ดีที่สุดเสมอ
แนะนำสำหรับคุณ
เปิดโลกบ้านอัจฉริยะกับ Xiaomi
Bluetooth Earphone|ปลดปล่อยตัวเองจากข้อจำกัด: พร้อมฟังเสียงที่ไร้ขอบเขตในทุกการเดินทาง
หัวข้อพิเศษเดือนกันยายน|ก้าวสู่อนาคต: การประชุมของ Apple ในเครื่องนี้จะมีคุณสมบัติเด่นอะไรเป็นหลักงการรับรู้อัจฉริยะของเรา?
Digital Trends กำลังมาแรง | การแข่งขัน Valorant Champions Tournament ปี 2025 กำลังดำเนินอยู่! เหล่าผู้เชี่ยวชาญด้านอีสปอร์ตใช้อุปกรณ์ 4K อะไรบ้าง? มาดูกัน!
แนะนำกันแดดใช้ดี กันยูวีไม่ทำร้ายผิว!
ไม่เคยตกกระแส! แนะนำรองเท้า Crocs แบรนด์มีสไตล์ ใส่สบาย




