RM กับการกล่าวสุนทรพจน์ประวัติศาสตร์ที่ APEC CEO Summit Korea 2025 “K-Pop & Creativity” ข้ามพรมแดนสู่อุตสาหกรรมโลก

ในวันที่ 29 ตุลาคม 2025 ณ เมืองกย็องจู ประเทศเกาหลีใต้ กิจกรรมหลักของงาน APEC CEO Summit ซึ่งเป็นฟอรั่มระดับโลกที่รวมนักธุรกิจ เจ้าหน้าที่ระดับสูง และผู้นำจาก 21 เศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ได้มีช่วงสำคัญซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในประวัติศาสตร์ของวงการ K-Pop นั่นคือ การขึ้นกล่าวสุนทรพจน์โดย RM จาก BTS ซึ่งถือเป็นศิลปิน K-Pop คนแรกที่ได้รับเชิญมาพูดในฟอรั่มด้านธุรกิจระดับนานาชาติอย่างเป็นทางการ
การปรากฏตัวครั้งนี้ของ RM ไม่ใช่เพียงการทำหน้าที่ “ตัวแทนศิลปิน” แต่เป็นการบอกให้โลกรู้ว่า “วัฒนธรรมสร้างสรรค์” (creative culture) และ “อุตสาหกรรมบันเทิง” (entertainment industry) ไม่ได้เป็นเพียงกิจกรรมเพื่อความบันเทิงในระดับบุคคล แต่เป็นพลังทางเศรษฐกิจและทางสังคมที่สามารถเชื่อมโยงผู้คน ข้ามพรมแดน และส่งผลต่อโลกได้
บทความนี้จะพาเราไปแกะถ้อยคำสำคัญในสุนทรพจน์ของ RM, วิเคราะห์ความสำคัญของงาน APEC ครั้งนี้, และสำรวจว่าแรงกระเพื่อมจากการพูดครั้งนี้ของ RM จะส่งผลอย่างไรต่อวงการ K-Pop, วัฒนธรรมสร้างสรรค์ และเศรษฐกิจวัฒนธรรมในอนาคต
APEC CEO Summit Korea 2025 เป็นส่วนหนึ่งของการประชุมใหญ่ของ Asia‑Pacific Economic Cooperation โดยปีนี้จัดที่เมืองกย็องจู ประเทศเกาหลีใต้ ภายใต้ธีม “Beyond, Business, Bridge” หรือการข้ามพรมแดนทางธุรกิจและวัฒนธรรมเพื่อความเจริญรุ่งเรืองร่วมกัน
การที่ RM ถูกเชิญขึ้นเป็นผู้กล่าวสุนทรพจน์นั้น มีความหมายสองด้าน
-
ด้านหนึ่งคือ เกาหลีใต้ในฐานะประเทศเจ้าภาพต้องการส่งสัญญาณว่า “วัฒนธรรมสร้างสรรค์ (K-culture)” เป็นหนึ่งในกลไกสำคัญของ Soft Power ที่จะขับเคลื่อนเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมวัฒนธรรม
-
อีกด้านคือ RM และ BTS ได้รับบทบาทเป็น “สะพาน” (bridge) ระหว่างวัฒนธรรมเกาหลีและโลก และระหว่างวงการบันเทิงกับเวทีเศรษฐกิจระดับโลก
RM มีเวลา 10 นาที (เริ่ม 15:05 น. ตามเวลาเกาหลี) เพื่อกล่าวถึงหัวข้อ “Cultural and Creative Industries in the APEC Region and the Soft Power of K-Culture”
นับตั้งแต่นี้ RM ไม่ได้เป็นแค่นักร้องหรือศิลปิน แต่กลายเป็น “ตัวแทนวัฒนธรรมสร้างสรรค์” ที่มีบทบาทในเวทีโลก ซึ่งสะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงของ K-Pop จากปรากฏการณ์ทางดนตรี ไปสู่ปรากฏการณ์วัฒนธรรม (cultural phenomenon) ที่เชื่อมโยงผู้คนทั่วโลก
แม้สุนทรพจน์ฉบับเต็มอาจยังไม่เผยแพร่อย่างเป็นเอกสารโดยละเอียด แต่สื่อหลักหลายแห่งได้สรุปถ้อยคำและประเด็นสำคัญของ RM ไว้อย่างชัดเจน
จากการรวบรวม เราสามารถจำแนกประเด็นเด่นได้ดังนี้
• “No borders, no limitations”
RM กล่าวว่า:
“When cultural barriers come down and different voices harmonise together, there’s an explosion of creative energy… This is why K-Pop is loved everywhere.”
ประโยคนี้สื่อถึงแก่นสำคัญ: ความหลากหลายทางวัฒนธรรม (diversity) และการเคารพเสียงต่างๆ (different voices) เมื่อรวมกันจะสร้างพลังสร้างสรรค์ (creative energy) ที่ไม่มีพรมแดน
• เปรียบ K-Pop กับ “บิบิมบับ” (bibimbap)
RM ใช้ภาพเปรียบเปรยที่ทรงพลัง:
“K-Pop’s shiny success is proof that cultural diversity and creativity are the greatest human potential. Of course, no borders, no limitations.”
เขาบอกว่า K-Pop เหมือนบิบิมบับ — รสชาติของแต่ละองค์ประกอบมารวมกันอย่างกลมกล่อมและเป็นเอกลักษณ์ นี่คือการย้ำว่า ความแตกต่างไม่ใช่อุปสรรค แต่เป็นทรัพยากรที่มีคุณค่า
• “ผมแค่ศิลปิน ไม่ใช่เจ้าของธุรกิจ … วันนี้ผมอยากพูดในฐานะผู้สร้าง”
RM เริ่มต้นด้วยความถ่อมตัวว่า:
“I am just an artist. I am not a business leader, so today, I want to speak to you as a creator and an artist.”
การเลือกใช้คำว่า “creator and artist” แสดงให้เห็นว่าเขากำลังสื่อว่า งานของเขาและโมเดล K-Pop คือการสร้างสรรค์ ไม่ใช่เพียงการค้า
• เรียกร้องให้สนับสนุนความคิดสร้างสรรค์
ในบทสัมภาษณ์หลังสุนทรพจน์ RM กล่าวถึงความสำคัญของการให้โอกาสว่า
“Give them the opportunities so that their talent can really shine.”
นั่นคือคำเชิญชวนให้ภาคธุรกิจ ภาครัฐ และสังคมร่วมมือสร้างระบบนิเวศที่ศิลปินและครีเอเตอร์สามารถเติบโตได้
จุดสำคัญของสุนทรพจน์นี้
เป็น “ครั้งแรก” ของ K-Pop ในเวทีธุรกิจระดับโลก
RM คือศิลปิน K-Pop คนแรกที่ขึ้นเวที APEC CEO Summit ซึ่งเดิมเป็นพื้นที่ของนักธุรกิจและผู้นำระดับโลก
การปรากฏตัวนี้เป็นสัญญาณว่า K-Pop ได้ขยับจากบทบาท “วัฒนธรรมแฟน” มาสู่อุตสาหกรรมสร้างสรรค์ระดับโลก
สะท้อนการเปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรมวัฒนธรรม
การพูดของ RM ไม่ใช่แค่เรื่องเพลง แต่เป็นเรื่องของอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ (creative industries) ที่เชื่อมโยงศิลปิน เทคโนโลยี แฟนคลับ และเศรษฐกิจ
เมื่อศิลปินขึ้นพูดในเวทีเศรษฐกิจ นั่นหมายถึงว่า “วัฒนธรรม” ได้กลายเป็นหนึ่งในทรัพย์สินทางเศรษฐกิจ (cultural asset)
กระตุ้นให้คิดใหม่เรื่อง “พรมแดน” และ “ความร่วมมือ”
คำว่า “No borders, no limitations” จาก RM ส่งสารว่าโลกยุคใหม่การทำงานร่วมกันข้ามชาติ ข้ามวัฒนธรรม และข้ามอุตสาหกรรม คืออนาคต
สำหรับ K-Pop ที่มีฐานแฟนทั่วโลก (global fandom) นี่คือแรงขับเคลื่อนให้วงการนี้มีบทบาทนอกวงการดนตรี
ยกระดับภาพลักษณ์ของเกาหลีใต้และ Hallyu
เกาหลีใต้กำลังก้าวเป็น “ศูนย์กลางวัฒนธรรมสร้างสรรค์” (creative hub) ในเอเชีย
การใช้ RM เป็นผู้กล่าวใน APEC ส่งสัญญาณว่าเกาหลีใต้ให้ความสำคัญกับ Soft Power ทุกมิติ ไม่เพียงแค่เทคโนโลยีหรืออุตสาหกรรมหนัก
องค์ประกอบเฉพาะที่ทำให้สุนทรพจน์ของ RM ทรงพลัง
• ภาษาและการสื่อสารที่เข้าใจได้ทั่วโลก
RM พูดเป็นภาษาอังกฤษในเวทีนี้ ซึ่งช่วยให้ข้อความของเขาเข้าถึงผู้ฟังนานาชาติได้ โดยไม่ต้องผ่านการแปล ซึ่งสื่อสารความเป็นศิลปินระดับโลก
• ใช้ประสบการณ์ของตัวเองเป็นตัวอย่าง
RM ไม่ได้พูดในฐานะผู้เชี่ยวชาญธุรกิจ แต่ในฐานะ “ผู้สร้าง” ที่ผ่านกระบวนการ การทำงาน และการสร้างสรรค์มาด้วยตัวเอง ทำให้คำพูดของเขมีน้ำหนักและน่าเชื่อถือ
• เปรียบเปรยที่จับภาพง่ายแต่ลึกซึ้ง
การเปรียบ K-Pop กับ “บิบิมบับ” เป็นภาพที่คนทั่วโลกเข้าใจได้ง่าย แต่ก็สื่อสารได้ลึกถึงเรื่องความหลากหลาย (diversity) และการผสมผสาน (integration)
• เสนอเรื่องความร่วมมือและโอกาส
นอกจากการพูดถึงความสำเร็จ ตัวเขายังเรียกร้องให้มี “โอกาส” สำหรับคนรุ่นใหม่ ศิลปินและครีเอเตอร์ทั่วโลก นั่นหมายถึงการเปลี่ยนแปลงที่ขับเคลื่อนโดยโครงสร้าง ไม่ใช่แค่เรื่องบุคคล
ทำไมเรื่องนี้ถึงสำคัญต่อ K-Pop และ Creative Industries
K-Pop ไม่ใช่แค่เพลงอีกต่อไป
ในอดีต K-Pop เป็นกระแสเพลงที่ทั่วโลกสนใจ
วันนี้ K-Pop เป็น “วัฒนธรรมสร้างสรรค์ระดับโลก” (global creative culture)
สุนทรพจน์ของ RM คือการยืนยันบทบาทนี้
ครีเอทีฟคือทุนมนุษย์ (human capital)
RM กล่าวถึงการรวมเสียงที่หลากหลายและการลดพรมแดนทางวัฒนธรรม ซึ่งหมายถึงศิลปิน ครีเอเตอร์ และผู้ชมที่มาจากหลากหลายพื้นฐาน เมื่อรวมพลังกัน สิ่งที่เกิดขึ้นคือ “นวัตกรรม” (innovation) และ “ความคิดสร้างสรรค์” (creativity)
Soft Power และเศรษฐกิจวัฒนธรรม
เกาหลีใต้ใช้ Hallyu (คลื่นวัฒนธรรมเกาหลี) เพื่อขยายการส่งออกวัฒนธรรมและสร้างอุตสาหกรรมที่เชื่อมโยงกับสินค้า แฟนคลับ และสถานที่จริง
การที่ RM สะท้อนเรื่องนี้ในเวทีเศรษฐกิจ ถือเป็นการเชื่อมจุดระหว่างวัฒนธรรมและเศรษฐกิจอย่างชัดเจน
สร้างแรงบันดาลใจให้วงการศิลปิน
ศิลปินรุ่นใหม่ และครีเอเตอร์ทั่วโลกอาจได้รับแรงใจว่า “ศิลปะของเรามีคุณค่า” และ “สามารถเข้าถึงเวทีระดับโลกได้”
คำพูดของ RM คือคำเชิญให้กล้าฝันและกล้าสร้าง
หลังจากสุนทรพจน์ แฮชแท็กเกี่ยวกับ RM, BTS และ K-Pop ใน APEC พุ่งขึ้นอย่างรวดเร็วในโซเชียลมีเดีย ความสนใจทั่วโลกจึงไม่ใช่แค่แฟนคลับอีกต่อไป แต่รวมถึงนักธุรกิจ ผู้กำหนดนโยบาย และผู้เชี่ยวชาญด้านวัฒนธรรมสร้างสรรค์
หลายบริษัทเริ่มสนใจ “การร่วมมือกับศิลปิน” ในฐานะแบรนด์วัฒนธรรม (culture brand) ไม่ใช่แค่แบรนด์สินค้า
รัฐบาลเกาหลีใต้ยิ่งให้ความสำคัญกับอุตสาหกรรมสร้างสรรค์และการส่งออกวัฒนธรรมมากขึ้น
สำหรับแฟนๆ ARMY, การที่ RM อยู่เวทีนี้คือความภูมิใจ และเป็นสัญญาณว่า “การสนับสนุนของเรามากกว่าแฟนคลับ” แต่เป็นส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนแปลงทางวัฒนธรรม
การขึ้นกล่าวของ RM ที่ APEC CEO Summit Korea 2025 คือโมเมนต์ที่บอกว่าศิลปิน K-Pop สามารถขึ้นเวทีเศรษฐกิจระดับโลกได้ ไม่ใช่แค่เวทีดนตรี
เนื้อหาที่เขาพูด — ความหลากหลาย, การรวมเสียง, การสร้างสรรค์, ไม่มีพรมแดน — คือสารที่เปลี่ยนวิธีคิดทั้งเรื่องเพลง วัฒนธรรมและเศรษฐกิจ
RM อาจพูดเพียง 10 นาที แต่สิ่งที่เขาเริ่มนั้นอาจกลายเป็นแรงกระเพื่อมยาวนานต่อวงการศิลปะ สังคม และวัฒนธรรมของเอเชียและโลก
แนะนำสำหรับคุณ
Apple News: Apple เปิดตัว iPad Air พร้อมชิป M3 อันทรงพลังและ Magic Keyboard ใหม่
Digital Trends กำลังมาแรง | การแข่งขัน Valorant Champions Tournament ปี 2025 กำลังดำเนินอยู่! เหล่าผู้เชี่ยวชาญด้านอีสปอร์ตใช้อุปกรณ์ 4K อะไรบ้าง? มาดูกัน!
เปิดตัว Apple Watch Ultra 3 ตัวใหม่ ไม่ทำให้ผิดหวังแน่นอน
🔥🔥🔥🔥🔥Apple iPhone 17 ซีรีส์ : เตรียมเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ปลายปีนี้❗️
ลองใช้ Ray-Ban Meta 3 วัน: นี่คือเหตุผลที่แว่นตา AI อาจกลายเป็นสิ่งจำเป็นในอนาคต
หัวข้อพิเศษเดือนกันยายน|ก้าวสู่อนาคต: การประชุมของ Apple ในเครื่องนี้จะมีคุณสมบัติเด่นอะไรเป็นหลักงการรับรู้อัจฉริยะของเรา?
