ทำไมบางพื้นที่ต้องใส่เส้นผม เล็บ หรือเหรียญในกระทง?

ความเชื่อเล็ก ๆ ที่ซ่อนอยู่ในเทศกาลลอยกระทง
ทุกปีเมื่อถึงเดือนพฤศจิกายน เสียงพลุ เสียงเพลง “ลอย ลอย กระทง~”
และแสงเทียนนับร้อยบนผิวน้ำก็ค่อย ๆ กลับมาอีกครั้ง
เทศกาล “ลอยกระทง” คือหนึ่งในประเพณีไทยที่อบอุ่นที่สุด
แต่ในความสวยงามนั้น หลายคนคงเคยได้ยินคำถามว่า
“ทำไมบางคนต้องใส่ผม เล็บ หรือเหรียญลงในกระทงด้วย?”
บางคนก็ทำตามผู้ใหญ่บอก “ใส่ไว้จะได้ลอยเคราะห์”
บางคนก็ใส่เพราะ “อยากให้โชคดี มีเงินทอง”
แต่จริง ๆ แล้วความหมายของการใส่สิ่งเหล่านี้ลงไปในกระทงมีที่มาอย่างไร?
วันนี้เรามา “ไขความเชื่อ” แบบเข้าใจง่ายกัน 🌊
🌕 ลอยกระทงคืออะไร – จุดเริ่มต้นของการลอยไม่ใช่แค่เรื่องโรแมนติก
ก่อนจะพูดถึงของในกระทง เราต้องรู้ก่อนว่า “กระทง” มีที่มาอย่างไร
ตามประวัติแล้ว ลอยกระทง เป็นประเพณีที่สืบทอดกันมายาวนานหลายร้อยปี มีทั้งรากจาก ความเชื่อเรื่องขอขมาพระแม่คงคา และ การบูชาพระพุทธเจ้าในทางพุทธศาสนา
ว่ากันว่า “กระทง” เดิมคือสิ่งแทนดอกไม้ ธูป เทียน ที่ใช้บูชาพระแม่คงคาผู้ให้สายน้ำหล่อเลี้ยงชีวิต และในอีกนัยหนึ่งคือ “การลอยสิ่งไม่ดีออกไปจากตัว”
ดังนั้น เมื่อคนโบราณคิดถึง “สิ่งที่เป็นตัวแทนของเรา” เขาก็เลือกใส่สิ่งที่ผูกพันกับร่างกายและชีวิตมากที่สุด
เส้นผม เล็บ และเหรียญเงิน นั่นเอง
💇♀️ เส้นผม – ตัวแทนของความคิดและสิ่งที่ติดอยู่ในใจ
ในหลายพื้นที่ของไทย โดยเฉพาะภาคกลางและภาคเหนือ นิยมตัด “เส้นผม” ของตัวเองใส่ลงในกระทงก่อนลอย
เพราะคนโบราณเชื่อว่า “ผม” คือสิ่งที่อยู่ติดตัวเรามานาน สะสมพลังงาน ความคิด และสิ่งที่เราพบเจอในชีวิตประจำวัน
บางครั้งรวมถึง “เคราะห์” หรือ “เรื่องราวไม่ดี” ที่อยากปล่อยไป
💬 ดังนั้นเวลาคนลอยกระทงพร้อมเส้นผม จึงเป็นเหมือนการลอยสิ่งไม่ดี ความทุกข์ ความเศร้าหรือแม้แต่ความทรงจำเก่าที่อยากเริ่มต้นใหม่
เส้นผมจึงไม่ใช่แค่เส้นใยจากร่างกาย แต่เป็น “เส้นทางของใจ” ที่เราเลือกปล่อยวาง
💅 เล็บ – ตัวแทนของสิ่งที่สะสมจากการกระทำ
ต่อมา “เล็บ” ก็เป็นอีกสิ่งที่คนไทยนิยมใส่ในกระทง เพราะเล็บเป็นส่วนที่งอกออกมาจากร่างกายเรื่อย ๆ
จึงเปรียบเหมือน “สิ่งที่เกิดจากการกระทำของเรา”
คนโบราณเชื่อว่าเล็บเก็บพลังงานจากการกระทำ ถ้าเราทำสิ่งดี เล็บก็เป็นตัวแทนของความดี แต่ถ้ามีสิ่งที่ทำพลาด ทำไม่ดี ก็สามารถลอยไปพร้อมเล็บได้
💡 ดังนั้นการใส่เล็บในกระทงจึงสื่อถึง “การขออโหสิกรรมตัวเอง” ขอให้สิ่งที่ทำพลาดหรือติดค้างใจถูกชำระออกไปพร้อมสายน้ำ
🪙 เหรียญ – ตัวแทนของการขอบคุณและการให้
ส่วน “เหรียญ” ที่หลายคนใส่ในกระทงนั้นมีความหมาย 2 แบบ
-
สัญลักษณ์ของการถวายหรือทำบุญ
เพื่อบูชาพระแม่คงคา เป็นการ “คืนสิ่งดีให้ธรรมชาติ” เพราะน้ำหล่อเลี้ยงชีวิตมนุษย์มาตลอดทั้งปี -
สัญลักษณ์ของการให้โชคกับผู้อื่น
เผื่อใครเจอกระทงและหยิบเหรียญขึ้นมา ก็ถือว่าได้ “รับพรจากเรา” ไปด้วย
แม้จะดูเป็นเรื่องเล็ก แต่จริง ๆ แล้วมันคือการแบ่งปันในรูปแบบหนึ่ง
บางคนถึงกับบอกว่า “เงินในกระทงคือเงินแห่งการให้โดยไม่หวังผล” และการให้แบบนี้แหละ คือพลังบวกที่แท้จริงของเทศกาลนี้
🕯️ สรุปความหมายของสิ่งที่ใส่ในกระทง
สิ่งที่ใส่ในกระทง | ความหมายโดยสัญลักษณ์ | เจตนาในการลอย |
|---|---|---|
เส้นผม | ปล่อยความทุกข์ สิ่งไม่ดีออกจากใจ | เริ่มต้นใหม่อย่างเบาใจ |
เล็บ | ชำระสิ่งที่เกิดจากการกระทำ | ขออโหสิกรรม ปล่อยความผิดพลาด |
เหรียญ | การให้ การบูชา การแบ่งปัน | ส่งต่อพลังดีให้คนอื่นและธรรมชาติ |
💭 แล้วทุกคนต้องใส่ของพวกนี้ในกระทงไหม?
คำตอบคือ “ไม่จำเป็นต้องใส่”
การใส่ผม เล็บ หรือเหรียญ เป็น “ความเชื่อเฉพาะพื้นที่” ไม่ได้เป็นข้อบังคับหรือหลักศาสนาแต่อย่างใด
ในบางพื้นที่ เช่น ภาคเหนือหรืออีสาน นิยมใส่ข้าว ขนม หรือดอกไม้แทน เพื่อสื่อถึง “ความอุดมสมบูรณ์”
ขณะที่ภาคใต้บางแห่งก็จะเน้นการลอยเพื่อขอขมาพระแม่คงคาโดยตรง ไม่มีการใส่สิ่งของส่วนตัวเลย
💬สิ่งสำคัญคือ “ความตั้งใจ” มากกว่า เพราะสิ่งที่เราลอยออกไป ไม่ใช่แค่ผม เล็บ หรือเหรียญ
แต่คือความรู้สึก ความคิด และคำอธิษฐานที่อยู่ในใจ
🌊 ถอดรหัสความเชื่อ – ทำไมการ “ลอย” ถึงสำคัญนัก
ในทางจิตวิทยา การลอยกระทงเป็น “พิธีกรรมเชิงสัญลักษณ์” คล้ายกับการที่เราปล่อยสิ่งของออกไปกับสายน้ำ
เพื่อแสดงว่า “เราพร้อมปล่อยสิ่งในใจออกไปด้วย”
มันคือการเยียวยาแบบหนึ่ง เพราะมนุษย์เรามักเก็บเรื่องราวเก่า ๆ ไว้โดยไม่รู้ตัว
แต่เมื่อมีพิธีกรรมเล็ก ๆ ที่เปิดโอกาสให้ “ปล่อย” ใจเราก็จะรู้สึกโล่งและพร้อมเริ่มต้นใหม่
ดังนั้น ไม่ว่าคุณจะใส่ผม เล็บ เหรียญ หรือแค่ดอกไม้ สิ่งที่ลอยไปจริง ๆ คือ “ภาระในใจ” ที่คุณเลือกวางมันลง
🔮 ทำไมความเชื่อแบบนี้ถึงยังอยู่มาจนถึงปัจจุบัน
คำตอบสั้น ๆ คือ “เพราะมันตอบโจทย์ใจมนุษย์”
ในยุคที่เทคโนโลยีเปลี่ยนทุกอย่างให้เร็วขึ้น แต่ “ความรู้สึก” ของคนเรายังคงต้องการพื้นที่ปลดปล่อย
พิธีกรรมแบบไทย ๆ อย่างลอยกระทง จึงยังคงอยู่
มันไม่ใช่แค่การสืบสานวัฒนธรรม แต่เป็น “เครื่องมือเยียวยาใจแบบธรรมชาติ”
ที่ทำให้เราได้พูดกับตัวเองว่า
“ปีนี้ฉันจะปล่อยทุกอย่างไว้กับน้ำ และเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง” 🌕
💧 ถ้าอยากลอยกระทงให้มีความหมายมากขึ้น
ลองใช้ “5 วิธีนี้” เพื่อเปลี่ยนกระทงธรรมดาให้กลายเป็นกระทงแห่งพลังใจ
-
🌿 เลือกวัสดุธรรมชาติ – กระทงจากใบตอง หรือต้นกล้วย ช่วยคืนสู่ธรรมชาติจริง ๆ
-
🕯️ ใส่ของที่มีความหมายกับตัวเอง – ไม่จำเป็นต้องเป็นผม เล็บ อาจเป็นกระดาษเขียนคำขอโทษหรือคำขอบคุณก็ได้
-
💬 อธิษฐานในสิ่งที่คุณควบคุมได้ – เช่น “ขอให้ฉันให้อภัยตัวเองได้” แทนที่จะขอให้ทุกอย่างหายไป
-
💖 ลอยกับคนที่คุณรัก – เพื่อแบ่งพลังใจและความปรารถนาดีร่วมกัน
-
🌍 คิดถึงสิ่งแวดล้อม – อย่าลืมเก็บขยะหรือเลือกพื้นที่ที่มีการจัดเก็บกระทงหลังลอย
🪷 เคล็ดเล็ก ๆ จากคนโบราณ
ในบางพื้นที่ ผู้ใหญ่จะสอนว่า
ก่อนใส่ของลงในกระทงให้ “ตั้งจิตอธิษฐานและกล่าวคำลาขาด”
เพื่อสื่อถึงการปล่อยวางอย่างแท้จริง เช่น
“ขอลอยสิ่งไม่ดีออกจากชีวิต ขอให้เริ่มต้นใหม่ด้วยใจที่เบา”
การพูดคำนี้แม้สั้น แต่คือการตั้งเจตนาที่ชัด
และในเชิงพลังงาน (หรือแม้แต่จิตวิทยา)
มันทำให้ใจเรา “เชื่อ” และ “พร้อมเปลี่ยน” มากขึ้นจริง ๆ
🌕 สรุปส่งท้าย – สิ่งที่ลอยไปไม่ใช่ของ แต่คือ “ใจเรา”
ลอยกระทงไม่ใช่แค่การบูชาน้ำหรือขอพร แต่คือพิธีกรรมเล็ก ๆ ที่เชื่อมโยงคนกับธรรมชาติ และใจของเราเอง
เส้นผมที่ใส่ลงไป คือสิ่งที่เรายอมปล่อย
เล็บที่ลอยไป คือการให้อภัยตัวเอง
เหรียญที่ใส่ คือการให้กับโลกนี้อย่างไม่หวังผล
ดังนั้น ปีนี้ถ้าคุณจะลอยกระทง อย่าลืมถามตัวเองก่อนว่า “อยากปล่อยอะไรไปกับสายน้ำ” ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเก่า ความผิดพลาด หรือความกังวล ลองลอยไปพร้อมรอยยิ้มและความตั้งใจใหม่ ๆ
เพราะสุดท้าย…
เทศกาลลอยกระทงที่แท้จริง ไม่ได้อยู่ที่แม่น้ำ
แต่อยู่ที่ “การลอยสิ่งในใจ” ให้เบาและพร้อมเริ่มต้นใหม่ 🌕💖
แนะนำสำหรับคุณ
พัดลมพกพายี่ห้อไหนเหมาะกับเรา มาดูวิธีการเลือกพัดลมพกพากันว่าต้องเลือกยังไงบ้าง
คนเก็บตัวเข้ามหาวิทยาลัย: ทำยังไงถึงจะมีเพื่อน?
ลิปสติก ไอเทมชิ้นเล็กแต่สำคัญมาก
วิถีกลิ่นบำบัดโบราณ สู่ความผ่อนคลายในยุคสมัยใหม่
Apple News: Apple เปิดตัว iPad Air พร้อมชิป M3 อันทรงพลังและ Magic Keyboard ใหม่
แปรงแต่งหน้า อุปกรณ์สำหรับความงาม
