โรคกลัวการใช้เงินคืออะไร? ทำไมหลาย ๆ คนถึงเป็นกัน

user avatar
Ornicha.M (Kiw)·2025-11-03T08:03Z
点赞
โรคกลัวการใช้เงินคืออะไร? ทำไมหลาย ๆ คนถึงเป็นกัน

💸 เมื่อความระแวงเรื่องเงินกลายเป็นความกลัวที่กินใจ

เคยมีไหม เวลายืนอยู่หน้าร้านกาแฟแล้วลังเลอยู่นานว่าจะสั่งดีไหม ทั้งที่เงินในบัญชีก็ยังมีพอใช้
หรืออยากซื้อของชิ้นเล็ก ๆ ที่ทำให้ชีวิตดีขึ้น แต่สุดท้ายก็ปิดเว็บแล้วบอกตัวเองว่า “ไม่จำเป็นหรอก”
ทั้งที่ใจลึก ๆ ก็รู้ว่ามันคงทำให้รู้สึกดีขึ้นได้บ้าง

แน่นอนว่าการรู้จักเก็บออมเป็นเรื่องดี แต่ถ้าความรู้สึกกลัวการใช้เงินเริ่มรบกวนชีวิต
จนทุกการจ่ายกลายเป็นเรื่องที่ต้องคิดซ้ำแล้วซ้ำอีก
อาจไม่ใช่เพียง “นิสัยประหยัด” แล้ว แต่คืออาการของสิ่งที่เรียกว่า
“โรคกลัวการใช้เงิน” (Chrometophobia หรือ Chrematophobia)

บทความนี้จะพาไปรู้จักว่า โรคนี้คืออะไร ทำไมถึงเกิดขึ้นได้ในคนทั่วไป
และถ้าเริ่มรู้สึกว่าตัวเองกำลังเป็นแบบนี้ จะดูแลใจอย่างไรให้ใช้เงินได้อย่างสบายมากขึ้น

เก็บเงินไปทำไม? ในเมื่อมีพอกิน พอใช้ มันก็ดีอยู่แล้ว 5 เหตุผล  ทำไมเราต้องเปลี่ยน Mindset

🧠 โรคกลัวการใช้เงินคืออะไร

“โรคกลัวการใช้เงิน” หรือ Chrometophobia
เป็นภาวะทางจิตใจที่ผู้มีอาการจะรู้สึก กลัว วิตกกังวล หรือไม่สบายใจอย่างรุนแรงเมื่อต้องใช้เงิน
แม้จะมีเงินมากพอ แต่ก็รู้สึกว่าการใช้เงินคือเรื่องน่ากลัว หรือรู้สึกผิดแม้จะเป็นการใช้เพื่อสิ่งจำเป็น

บางคนถึงขั้นมีอาการทางกาย เช่น เหงื่อออก มือสั่น หัวใจเต้นเร็ว
เมื่อจำเป็นต้องจ่ายเงิน หรือเห็นยอดเงินในบัญชีลดลง

กล่าวอย่างง่ายคือ มันไม่ใช่ “ความรอบคอบทางการเงิน”
แต่เป็น “ความกลัว” ที่ควบคุมไม่ได้และรบกวนการใช้ชีวิต

💭 ต่างกันอย่างไรระหว่าง “รักการออม” กับ “โรคกลัวการใช้เงิน”

ลักษณะ

รักการออม (พฤติกรรมปกติ)

โรคกลัวการใช้เงิน

ความรู้สึกตอนใช้เงิน

รู้สึกมั่นใจ ใช้อย่างมีแผน

รู้สึกกลัว เครียด หรือรู้สึกผิด

เป้าหมาย

เพื่อสร้างอนาคต

เพื่อหลีกเลี่ยงความกลัว

การควบคุม

ควบคุมได้ตามเหตุผล

ควบคุมไม่ได้ แม้จะรู้ว่าเกินไป

ผลกระทบ

ชีวิตสมดุล

ชีวิตขาดความสุขและโอกาส

จุดต่างจึงอยู่ที่ “อารมณ์” ไม่ใช่ “จำนวนเงิน”
คนที่ออมเพื่อเป้าหมายจะรู้สึกภูมิใจ แต่คนที่กลัวใช้เงินจะรู้สึกกังวลแม้ใช้เพียงเล็กน้อย

🔍 ทำไมหลายคนถึงกลัวการใช้เงิน

โรคนี้ไม่ได้เกิดจากสาเหตุเดียว แต่เป็นผลรวมของประสบการณ์ ความเชื่อ และสิ่งแวดล้อมที่สะสมในใจ

1. ประสบการณ์ในอดีต

หลายคนเคยผ่านช่วงเวลาทางการเงินที่ยากลำบาก เช่น เคยขาดรายได้ หรือต้องประหยัดเพื่อเอาตัวรอด
เมื่อสถานการณ์ดีขึ้น สมองยังจำความรู้สึก “กลัวขาด” เอาไว้
จึงกลายเป็นกลไกป้องกันไม่ให้ใช้เงินอีก

2. การเลี้ยงดูและทัศนคติเรื่องเงิน

บางครอบครัวสอนว่า “เงินหายาก อย่าใช้ฟุ่มเฟือย” ซึ่งเป็นคำสอนที่ดี
แต่เมื่อได้ยินบ่อยเกินไปโดยไม่มีการอธิบายให้เข้าใจ
ความคิดเรื่อง “ใช้เงิน = เสี่ยง” อาจฝังลึกจนกลายเป็นความกลัว

3. ความเครียดจากสภาพเศรษฐกิจ

ในยุคที่ทุกอย่างแพงขึ้น แต่รายได้ไม่ขยับตาม ความไม่มั่นคงทางเศรษฐกิจทำให้หลายคนไม่กล้าใช้จ่าย
เพราะกลัวว่า “ถ้าใช้ตอนนี้ แล้ววันหน้าจะไม่มีพอ”

4. โรควิตกกังวลทั่วไป (Anxiety Disorder)

บางกรณี โรคกลัวการใช้เงินเกิดจากโรควิตกกังวลหรือภาวะซึมเศร้า
ที่ทำให้สมองประเมินความเสี่ยงเกินจริง ทุกการใช้เงินจึงถูกมองว่าเป็นอันตราย

5. ความไม่มั่นใจในศักยภาพตัวเอง

คนบางกลุ่มกลัวใช้เงินเพราะไม่มั่นใจว่าจะหาเพิ่มได้อีก
จึงเลือกเก็บทุกบาทไว้เพื่อความรู้สึกปลอดภัย แม้จะแลกกับการไม่ได้ใช้ชีวิตเต็มที่ก็ตาม

💸 อาการที่อาจบ่งบอกว่ากำลัง “กลัวการใช้เงิน”

  1. รู้สึกเครียดหรือไม่สบายใจเมื่อต้องจ่ายเงิน

  2. ลังเลซ้ำ ๆ แม้จะเป็นการซื้อของจำเป็น

  3. รู้สึกผิดทุกครั้งหลังใช้เงิน

  4. หลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ต้องใช้เงิน เช่น ไปเที่ยวหรือกินข้าวนอกบ้าน

  5. ตรวจยอดบัญชีบ่อยจนเกินไป

  6. ไม่กล้าซื้อของให้ตัวเองแม้มีความสามารถจ่ายได้

เมื่อพฤติกรรมเหล่านี้เริ่มรบกวนการใช้ชีวิต ควรใส่ใจและเริ่มหาทางคลายความกลัวนี้ลง

ชายผิวดํานอนหลับถือเงินกอดเงินสดนอนอยู่บนเตียง ภาพสต็อก -  ดาวน์โหลดรูปภาพตอนนี้ - การผ่อนคลาย - มโนทัศน์, ธนบัตร - เงินตรา, นอนลง -  ตำแหน่ง - iStock

🧩 ผลกระทบที่ตามมาหากปล่อยไว้นาน

แม้จะดูไม่ร้ายแรงเท่าการใช้เงินเกินตัว แต่การกลัวใช้เงินก็สร้างผลเสียได้ในระยะยาว

1. สุขภาพจิตเสื่อมลง

ความวิตกกังวลเรื้อรังทำให้เครียดง่าย สมาธิสั้น และอารมณ์แปรปรวน

2. ชีวิตขาดความสุข

เงินอาจอยู่ครบ แต่ความรู้สึกพอใจในชีวิตลดลง
เพราะไม่กล้าใช้เพื่อสิ่งที่เติมเต็มหัวใจ

3. ความสัมพันธ์กับคนรอบข้าง

การหลีกเลี่ยงการใช้เงินร่วมกับผู้อื่น เช่น การออกไปกินข้าว หรือท่องเที่ยว
อาจทำให้เกิดช่องว่างทางความสัมพันธ์

4. สุขภาพร่างกาย

บางคนไม่กล้าใช้เงินรักษาโรค หรือซื้ออาหารที่มีประโยชน์
จนสุขภาพทรุดลงในระยะยาว

💡 วิธีค่อย ๆ ปลดล็อกความกลัวการใช้เงิน

การจัดการภาวะนี้ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนตัวเองทันที
เริ่มได้จากการ “ปรับความคิดและฝึกใช้เงินอย่างมีสติ”

1. สังเกตความรู้สึกของตัวเอง

ทุกครั้งที่รู้สึกกลัวการใช้เงิน ลองถามว่า “กลัวอะไรอยู่?”
กลัวไม่มีวันหาได้อีก? กลัวใช้แล้วเสียดาย? หรือกลัวคนอื่นมองว่าไม่รู้จักเก็บ?
การรู้ที่มาของความกลัวคือจุดเริ่มต้นของการจัดการ

2. วางงบประมาณแบบ “ใช้ได้โดยไม่รู้สึกผิด”

ตั้งงบส่วนหนึ่งไว้สำหรับใช้จ่ายเพื่อความสุข เช่น เดือนละ 10–20% ของรายได้
และบอกตัวเองว่า “เงินก้อนนี้ใช้ได้ ไม่ต้องรู้สึกผิด”
จะช่วยให้สมองเรียนรู้ว่า การใช้เงินอย่างมีแผนไม่ใช่เรื่องน่ากลัว

3. ใช้เงินเพื่อ “คุณค่า” ไม่ใช่แค่ “ราคา”

เมื่อสมองโฟกัสที่จำนวนเงินที่เสียไป จะรู้สึกกังวล
แต่ถ้ามองว่าเงินนั้นแลกกับสุขภาพดี ความรู้ใหม่ หรือประสบการณ์ชีวิต
จะรู้สึกคุ้มค่าแทนที่จะรู้สึกเสีย

4. ค่อย ๆ ใช้ในสิ่งเล็ก ๆ ก่อน

เริ่มจากการใช้เงินกับสิ่งที่ไม่มาก เช่น ซื้อกาแฟดี ๆ สักแก้ว หรือหนังสือที่อยากอ่าน
ฝึกให้ใจรับรู้ว่า “การใช้เงินทำให้ชีวิตดีขึ้นได้”

5. พูดคุยกับคนที่เข้าใจ

บางครั้งความกลัวจะเบาลง เมื่อได้พูดคุยกับคนที่มีประสบการณ์ใกล้เคียง
หรือหากอาการรุนแรงจนส่งผลต่อชีวิตประจำวัน
การปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านจิตวิทยาจะช่วยให้เข้าใจตนเองได้ชัดเจนขึ้น

Chrometophobia อาการกลัวการใช้เงิน

🧭 มุมมองใหม่เกี่ยวกับ “การใช้เงิน”

เงินไม่ใช่สิ่งที่ต้องกลัว แต่เป็นเครื่องมือที่ใช้ “สร้างคุณภาพชีวิต”
ไม่มีความจำเป็นต้องใช้ฟุ่มเฟือย แต่ก็ไม่ควรเก็บจนใจไม่กล้าหายใจ

เงินไม่ได้มีไว้เพื่ออยู่นิ่ง ๆ ในบัญชี
แต่มีไว้เพื่อหมุนเวียน สร้างโอกาส และเติมเต็มชีวิตในสิ่งที่มีคุณค่า

บางครั้งค่าใช้จ่ายเล็กน้อยก็สามารถกลายเป็นแรงบันดาลใจใหญ่ได้
เช่น หนังสือที่ซื้อด้วยความลังเลวันนั้น อาจเปลี่ยนมุมมองต่อชีวิตไปตลอดกาล

🌱 สรุปส่งท้าย : อย่าให้ “ความกลัวการใช้เงิน” มาควบคุมชีวิต

โรคกลัวการใช้เงินไม่ใช่ความผิดของใคร
แต่มันคือผลจากประสบการณ์ ความเครียด และความไม่มั่นคงในใจที่สะสมมานาน

สิ่งสำคัญคือการรู้เท่าทันและค่อย ๆ คืนอิสระให้กับตัวเอง
ใช้เงินอย่างมีเหตุผล ไม่เกินกำลัง แต่ไม่กดข่มความต้องการจนชีวิตขาดสีสัน

เพราะสุดท้ายแล้ว

เงินที่มีค่าที่สุด คือเงินที่ถูกใช้ไปกับสิ่งที่ทำให้ชีวิตมีความหมาย

คืนนี้ลองถามตัวเองเบา ๆ ว่า
“ถ้าไม่มีความกลัวเลย อยากใช้เงินกับอะไรที่จะทำให้ชีวิตรู้สึกดีขึ้น?”

บางทีคำตอบนั้นอาจไม่ต้องแพงเลยก็ได้ แค่เพียงพอให้ใจรู้สึกว่า “ได้ใช้ชีวิตจริง ๆ” 💛

บทความล่าสุดดูเพิ่มเติม

ในคืนหนึ่งของทุกปี ณ เดือนสิบสองตามปฏิทินจันทรคติไทย เมื่อพระจันทร์เต็มดวง เราจะได้เห็นสายลมพัดเบา ๆ เหนือลำน้ำคลอง หน้ามวลประชาชนแออัดที่ริมแม่น้ำ หรือบางคนเลือกสถานที่สงบเงียบริมทุ่งน้ำ นำกระทงสวย ๆ มาลอยลงพร้อมคำอธิษฐาน — นั่นคือคืนแห่ง
ลอยกระทง 2568 คืนขอบคุณสายน้ำ ด้วยหัวใจที่รักษ์โลก
ความเชื่อเล็ก ๆ ที่ซ่อนอยู่ในเทศกาลลอยกระทงทุกปีเมื่อถึงเดือนพฤศจิกายน เสียงพลุ เสียงเพลง “ลอย ลอย กระทง~”และแสงเทียนนับร้อยบนผิวน้ำก็ค่อย ๆ กลับมาอีกครั้งเทศกาล “ลอยกระทง” คือหนึ่งในประเพณีไทยที่อบอุ่นที่สุดแต่ในความสวยงามนั้น หลายคนคงเคยไ
ทำไมบางพื้นที่ต้องใส่เส้นผม เล็บ หรือเหรียญในกระทง?
เข้าใจเรื่อง “ฝัน” แบบง่าย ๆ แต่ลึกซึ้งกว่าที่คิดคุณเคยไหมครับ…หลับไปทั้งคืนแต่ตื่นมาแล้วรู้สึกว่า “เมื่อคืนไม่ได้ฝันเลย”หรือบางวันกลับฝันชัดเจนเหมือนดูหนังเรื่องยาว ทั้งที่ก่อนนอนก็ไม่ได้คิดอะไรเป็นพิเศษบางคืนฝันดีเหมือนโลกทั้งใบอบอุ่นแต่บ
ความฝันเกิดจากอะไร? ทำไมบางวันฝัน บางวันไม่ฝัน บางวันฝันดี บางวันฝันร้าย
โรคกลัวการใช้เงินคืออะไร? ทำไมหลาย ๆ คนถึงเป็นกัน - ZestBuy