10 Mechanical Keyboard สำหรับมนุษย์เงินเดือน ดีไซน์สวย คุณภาพดี


10 Mechanical Keyboard สำหรับมนุษย์เงินเดือน ดีไซน์สวย คุณภาพดี
Mechanical Keyboard กลายเป็นไอเทมที่ควรมีติดโต๊ะทำงาน ไม่ว่าจะด้วยดีไซน์ที่โดดเด่น เสียงสัมผัสที่เป็นเอกลักษณ์ หรือสีสันที่หลากหลาย แต่การเลือกคีย์บอร์ดสักตัวก็ต้องคำนึงถึงฟังก์ชันการใช้งานด้วย เพราะหากซื้อมาแล้วใช้งานจริงไม่ตอบโจทย์ ก็คงไม่คุ้มที่จะลงทุนใช่ไหมคะ? วันนี้เราจึงคัดสรร Mechanical Keyboard ที่น่าสนใจทั้งในด้านดีไซน์ ฟังก์ชัน และราคา มาฝากเพื่อน ๆ มนุษย์เงินเดือนที่กำลังมองหาอุปกรณ์คู่ใจ
ทำไมต้อง Mechanical Keyboard?
สำหรับบางคนอาจมองว่า Mechanical Keyboard เป็นเพียงแฟชั่น แต่ในความเป็นจริงแล้ว คีย์บอร์ดประเภทนี้ตอบสนองรวดเร็ว ทนทานสูง และมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ทั้งยังสามารถปรับแต่งได้หลากหลาย ทั้งตัวแป้นพิมพ์และสวิตช์ เรียกได้ว่าใช้งานสนุกและยืดหยุ่นมาก ๆ เลยค่ะ
อีกข้อดีสำคัญคือซ่อมง่าย หากปุ่มใดปุ่มหนึ่งเสีย เราสามารถเปลี่ยนเฉพาะปุ่มนั้นได้ ไม่ต้องยกบอร์ดทั้งหมด ถึงแม้จะมีขนาดใหญ่และน้ำหนักมากกว่าคีย์บอร์ดทั่วไป แต่ก็แลกมากับความทนทานและประสบการณ์ใช้งานที่เหนือกว่าแน่นอน
เทคนิคเลือก Mechanical Keyboard ให้ตอบโจทย์
1. เลือกจากประเภทของสวิตช์
สวิตช์แต่ละสีให้สัมผัสและเสียงที่แตกต่างกัน:
-
Red Switch: กดลื่น แรงต้านน้อย เสียงเบา เหมาะกับเกมเมอร์และสายพิมพ์งานที่ต้องการความรวดเร็ว
-
Blue Switch: กด 2 จังหวะ มีแรงต้าน เสียงคลิกชัดเจน เหมาะกับสายพิมพ์ที่ต้องการฟีลลิ่งในการกด
-
Brown Switch: ฟีลคล้าย Blue แต่เสียงเงียบลง เหมาะกับคนที่ชอบแรงต้านแต่ไม่อยากให้มีเสียงดัง
-
Black Switch: กดลื่นแต่มีแรงต้านมากกว่า Red ช่วยลดมือลั่น ไม่มีเสียงคลิก
2. ตรวจสอบฟังก์ชันเพิ่มเติม
-
Hot-Swappable: เปลี่ยนสวิตช์ได้โดยไม่ต้องบัดกรี
-
Anti-Ghosting / N-Key Rollover: กดหลายปุ่มพร้อมกันได้
-
ตั้งมาโคร / ปรับ RGB ได้: เพิ่มความสะดวกในการเล่นเกมแนว MMORPG หรือสร้างบรรยากาศที่ตรงใจ
3. เลือกแบบไร้สายเพื่อความคล่องตัว
คีย์บอร์ดไร้สายช่วยให้โต๊ะดูสะอาด และพกพาสะดวก ไม่ว่าจะเชื่อมต่อผ่าน Bluetooth หรือ USB Wireless ซึ่งทั้งสองแบบมีข้อดีแตกต่างกัน:
-
Bluetooth: ไม่ต้องใช้ตัวรับสัญญาณ แค่มี Bluetooth ก็ใช้งานได้เลย
-
USB Wireless: เหมาะกับเครื่องที่ไม่มี Bluetooth ในตัว ใช้งานได้เสถียรกว่า
Tsunami MK03 Gaming Keyboard

Tsunami ออกแบบคีย์บอร์ดเกมมิ่งรุ่นนี้ให้มีสีสันที่สดใสโดดเด่นตรงใจของผู้เล่นมาก ๆ เลยค่ะ ใครที่กำลังมองหา Mechanical Keyboard เล่นเกมราคาไม่สูงมาก รวมถึงมีการใช้ไฟ RGB ที่เพิ่มมิติให้กับบรรยากาศการเล่นเกมได้ดียิ่งขึ้น เหมือนกับปุ่ม Keycap กว่า 87 ตัวทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ ที่ถอดออกได้พร้อมการเชื่อมต่อด้วย USB 2.0 ตามปกติและสามารถใช้งานได้กับคอมพิวเตอร์ทุกรุ่นครบคลุมมาก ๆ ต้องตัวนี้เลย
รายละเอียดเพิ่มเติม
-
สี : น้ำเงิน, แดง, เขียว
-
การเชื่อมต่อ : ใช้สายเชื่อมต่อการใช้งาน
-
ระบบที่รองรับ : Windows
ราคา : 690 บาท
Royal Kludge KG68

ความน่ารักของคีย์บอร์ดเกมมิ่งต้องยกให้ Royal Kludge รุ่นนี้เลยค่ะ เขาออกแบบมาได้น่ารักมากก พร้อมทั้งยังมีฟังก์ชันมากมายไม่ว่าจะเป็นการเชื่อมต่อ 3 รูปแบบ ทั้งแบบใช้สาย Bluetooth และ USB เลือกได้เลยว่าถนัดแบบไหน นอกจากนี้ตัวแป้นยังมีสวิตช์เปิดปิดสำหรับพักการใช้งานด้วยนะคะ ใดใดคือเราสามารถเปลี่ยนแป้นได้เองด้วยนะคะ ต้องบอกว่าราคา Mechanical Keyboard ถือว่าไม่แรงและฟังก์ชันเยอะแบบซื้อเถอะทุกคนน
รายละเอียดเพิ่มเติม
สี : ขาว, ดำ
การเชื่อมต่อ : Bluetooth และ USB
ระบบที่รองรับ : Windows และ MacOS
ราคา : 2,430 บาท
Keychron K2 V2 Wireless Hot-swappable Mechanical Keyboard

มาต่อกับคีย์บอร์ดเกมมิ่งของ Keychron กันเลยค่ะ จริง ๆ ต้องบอกว่าคีย์บอร์ดนี้เหมาะกับการเอาไปใช้งานมากกว่าแต่ถ้าภามว่าประสิทธิภาพของเจาสามารถใช้งานแบบ Gaming ได้ไหมก็ต้องบอกอีกว่าทำได้แบบไร้รอยต่อเลยค่ะ ตัวขนาดของ Mechanical Keyboard ตัวนี้กะทัดรัดไม่เปลืองพื้นที่มีสวิตช์พรีเมี่นมมาให้ และยังสามารถเชื่อต่อได้แบบ USB type-C รองรับทั้ง MacOS, Windows, iOS และ Android เท่ากับมีอันเดียวจบทุกเรื่องเลยค่ะ
รายละเอียดเพิ่มเติม
-
สี : เทาเข้ม, เทาอ่อน
-
การเชื่อมต่อ : USB Type C
-
ระบบที่รองรับ : MacOS, Windows, iOS และ Android
ราคา : 3,890 บาท
Razer Cynosa Lite Single Zone Chroma RGB

ถ้าอยากได้ Mechanical Keyboard ที่เท่ไม่เกรงใจต้องแบรนด์ Razer Cynosa Lite รุ่นนี้เลยค่ะ คีย์บอร์ดรุ่นนี้ออกแบบมาให้ทนทานและมีฟีเจอร์กันน้ำได้ด้วย เราสามารถซื้อมาและเลือกโปรแกรมคีย์ได้ใหม่ตามความถนัดไปจนถึง Game Mode เพื่อให้เราเล่นเกมได้ดีมากขึ้น เช่นเดียวกับสีของจาก Chroma RGB ที่แสดงผลได้มากถึง 16 ล้านเฉดสี แก๊! มันทั้งเม่ทั้งงานดีจนอยากสอยมาใช้เอง
รายละเอียดเพิ่มเติม
-
สี : ดำ
-
การเชื่อมต่อ : USB 2.0
-
ระบบที่รองรับ : Windows
ราคา : 1,450 บาท
SteelSeries Apex 7 Gaming Keyboard

ใครที่กำลังมองหา Mechanical Keyboard ช่วยเพิ่มประสบการณ์ในการเป็นเกมเมอร์ได้ดีต้องเลือก SteelSeries Apex 7 แล้วล่ะค่ะ รุ่นนี้เขามีให้เราเลือกด้วยกัน 2 แบบ ทั้งแบบเป็นปุ่ม Blue Switch ที่เน้นไปทางการพิมพ์ที่เข้ากับการเล่นเกมได้เป็นอย่างดี กับ Red Switch ที่เป็นแป้นพิมพ์ไร้เสียงเหมาะกับคนที่ชอบการเล่นแบบไหลลื่นมากกว่า ส่วนกลไลของแป้นก็ทนทานใช้งานได้มากกว่า 50 ล้านครั้งเลยทีเดียวเชียวแหละจึ้งนะอย่าหาว่า
รายละเอียดเพิ่มเติม
-
สี : น้ำเงิน, แดง
-
การเชื่อมต่อ : USB 2.0
-
ระบบที่รองรับ : Windows, MacOS
ราคา : 6,990 บาท
Corsair K60 Pro Red LED Gaming Keyboard

Mechanical Keyboard จาก Corsair รุ่นนี้เขาใช้สาย USB 2.0 รองรับการใช้งานกับคอมพิวเตอร์ได้หลากหลาย ส่วนแป้นพิมพ์ยังมี Media Control ที่ใช้สำหรับการรับชมสื่อได้เป็นอย่างดี รวมถึงมีฟีเจอร์ 100% อย่าง Anti-Ghosting ยิ่งช่วยให้การเล่นเกมทำได้เป็นอย่างดีเลยล่ะค่ะ นอกจากนี้ตัวซอตฟ์แวร์อยู่ภายใต้ตัวคีย์บอร์ด อีกทั้งการออกแบบยังออกแบบจากการใช้งานจริงของผู้เล่น E-Sports ก็ทำให้แป้นพิมพ์อันนี้มีความคุ้มค่าอย่างมากในการใช้งานเลยค่ะ
รายละเอียดเพิ่มเติม
-
สี : แดง
-
การเชื่อมต่อ : USB 2.0
-
ระบบที่รองรับ : Windows, MacOS
ราคา : 2,490 บาท
Neolution Gaming Keyboard Terrablade

มาต่อกับแบรนด์ Neolution เขาเป็น Mechanical Keyboard ที่นอกจากจะสวยงามแล้วยังคำนึงสรีระการใช้งานด้วยค่ะ คีย์บอร์ดเขาได้มีการเพิ่มปุ่มระดับเสียงเข้าในแป้นพิมพ์และสามารถล็อกระดับเสียงเอาไว้ได้ด้วย ส่วนเรื่องของความสวยงามเราสามารถเปลี่ยนปุ่มกดได้ด้วย ซึ่งอุปกรณ์เราสามารถเปลี่ยนปุ่มกดและกรอบของคีย์บอร์ดได้ด้วย แอบประทับใจเหมือนกันนะเนี่ยย
รายละเอียดเพิ่มเติม
-
สี : ดำ
-
การเชื่อมต่อ : USB Type C
-
ระบบที่รองรับ : Windows
ราคา : 1,590 บาท
Philips Mechanical Keyboard รุ่น SPK8605

สาว ๆ ที่อยากได้ Mechanical Keyboard ต้องแบรนด์ Philips เลยค่ะ เขามีกิมมิคเป็นไฟ Mixed Light พร้อมกับเสียงสวิตช์ที่ชุบใจ เขามีสีให้เลือกสองสี รุ่นนี้มี 3 ปุ่มมัลติมีเดียและเอฟเฟกต์ไฟที่เล่นได้ถึง 20 โหมด นอกจากนี้เราจะ Custom ไฟคีย์แคปเองได้หรือจะเล่นไฟที่ทางแบรนด์ตั้งค่าเอาไว้ให้เราก็ได้อีกเหมือนกัน สวยทุกแบบเลยค่ะ นอกจากนี้เขายังออกแบบแผ่นรองข้อมือมาให้เพื่อช่วยลดอาการปวดข้อมือจากงานใช้งานด้วยย
รายละเอียดเพิ่มเติม
-
สี : ขวา, ดำ
-
การเชื่อมต่อ : ใช้สายเชื่อมต่อการใช้งาน
-
ระบบที่รองรับ : Windows, Linux, MacOS
ราคา : 990 บาท
Logitech G813 Lightsync RGB Mechanical Gaming Keyboard

เชื่อว่าทุกคนรู้จักแบรนด์ Logitech กันอยู่แล้วแน่นอน ต้องบอกว่าเขามี Mechanical Keyboard ให้เราเลือกใช้เหมือนกันนะคะ คีย์บอร์ดเกมมิ่งอันนี้เป็นเชิงกลที่มีไฟ RGB สวยๆ ไม่แพ้แบรนด์อื่นๆ เลยค่ะ ตัวคีย์บอร์ดดีไซน์ออกมาเพียงบาง ปรับแต่งได้เอง ที่สำคัญสามารถเลือกคีย์ได้ 3 แบบคือ Clicky, Tactile และ Linear เชื่อมต่อด้วยสาย USB จำโปรไฟล์ได้ 3 โปรไฟล์แบบมาโคร และโปรไฟล์แสงอีก 2 โปรไฟล์ นอกจากนี้ยังเป็น Gaming Keyboard ที่รองรับตั้งแต่ Windows 7 ไปจนถึง Mac OS 10.11 ดือไหมล่ะแม่!
รายละเอียดเพิ่มเติม
-
สี : ดำ
-
การเชื่อมต่อ : USB
-
ระบบที่รองรับ : Windows และ MacOS
ราคา : 3,990 บาท
HyperX Alloy Origins Gaming Keyboard

แน่อนว่าถ้าเราเลือก Mechanical Keyboard ราคาสูงนิดหน่อย เขาต้องมาพร้อมกับความทนทานและการออกแบบที่ดีเพื่อความคุ้มค่าในการใช้งานและแบรนด์ HyperX Alloy Origins ก็เป็นอีกหนึ่งอุปกรณ์ที่เขาเลือกชูจุดเด่นว่าใช้งานได้มากถึง 80 ล้านครั้งในแบบที่ไม่พังเลยล่ะค่ะ นอกจากนี้พวกเขายังใช้ซอฟต์แวร์ HyperX NGENUITY มาใช้ใน Game Mode ของตัวเองด้วย และการใช้งานคู่กับสาย USB-C ในการเชื่อมต่อเพื่อให้เข้ากับความสมัยใหม่นั่นเอง
รายละเอียดเพิ่มเติม
-
สี : ดำ
-
การเชื่อมต่อ : USB-C
-
ระบบที่รองรับ : Windows
ราคา : 3,290 บาท
แนะนำสำหรับคุณ
รวม 10 เกม Switch เล่นกับเพื่อน 2025 ทั้งเกมคู่และปาร์ตี้เกม สนุกจนลืมร้อน!
พัดลมพกพายี่ห้อไหนเหมาะกับเรา มาดูวิธีการเลือกพัดลมพกพากันว่าต้องเลือกยังไงบ้าง
ซีรีส์ Casio G-SHOCK ปี 2025
10 ชุดไทยรับปี 2568 สวยเก๋ เหมาะกับทุกโอกาส
แนะนำแอพสำหรับสายครีเอทีฟ ปลดล็อกความคิดสร้างสรรค์บน iPad
สิ่งจำเป็นสำหรับการตั้งแคมป์: วิธีเลือกเต็นท์ให้เหมาะสม