บทความนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจพัดลมพกพาและเลือกสถานการณ์การใช้งานหลัก 7 ประการ!


เมื่อเทียบกับพัดลมเสียบปลั๊กแบบดั้งเดิมแล้ว พัดลมพกพาจะมีขนาดเล็กและน้ำหนักเบา ซึ่งตอบสนองความต้องการในการพกพาได้ในระดับหนึ่ง โครงสร้างของพัดลมพกพานั้นโดยพื้นฐานแล้วจะเหมือนกับพัดลมแบบดั้งเดิม แต่ความแตกต่างก็คือ พัดลมพกพาไม่ได้อาศัยเพียงสายไฟและพลังงานในการหมุนเท่านั้น แต่สามารถชาร์จไฟได้ มีความทนทาน ใช้งานง่ายกว่า และเหมาะกับสถานการณ์ต่างๆ มากขึ้น
1. กิจกรรมกลางแจ้ง: ในสภาพอากาศร้อน เมื่อทำกิจกรรมกลางแจ้ง เช่น ปิกนิก เดินป่า ปั่นจักรยาน หรือตั้งแคมป์ พัดลมพกพาสามารถให้ความเย็นได้ทันที ช่วยลดอุณหภูมิร่างกาย และลดความร้อน
2. สำนักงานหรือสถานที่เรียน: ในสำนักงานหรือสภาพแวดล้อมการเรียนที่ไม่มีเครื่องปรับอากาศหรือเครื่องปรับอากาศมีประสิทธิภาพไม่ดี พัดลมพกพาสามารถใช้เป็นเครื่องมือทำความเย็นส่วนบุคคลเพื่อช่วยคลายความอบอ้าวได้
3. ระบบขนส่งสาธารณะ: ในระบบขนส่งสาธารณะที่มีผู้คนพลุกพล่านและมีการระบายอากาศไม่ดี เช่น รถประจำทาง รถไฟใต้ดิน หรือรถไฟ พัดลมมือถือสามารถช่วยให้ผู้โดยสารรู้สึกเย็นสบายได้บ้างระหว่างการเดินทาง
4. กิจกรรมกลางแจ้งหรือคอนเสิร์ต: ในงานกลางแจ้งขนาดใหญ่หรือเทศกาลดนตรี เนื่องจากมีผู้คนพลุกพล่าน อุณหภูมิจึงสูงขึ้นได้ง่าย พัดลมมือถือจึงช่วยให้ผู้ชมรู้สึกเย็นสบายได้ทันที
[รูปภาพ]
5. การทำอาหารในครัว: ในสภาพอากาศร้อน การทำอาหารในครัวจะทำให้เกิดความร้อนมาก พัดลมมือถือช่วยให้พ่อครัวแม่ครัวลดความร้อนลงและป้องกันไม่ให้เหงื่อหยดลงบนอาหาร
6. โรงพยาบาลหรือบ้านพักคนชรา: สำหรับผู้ป่วยที่ต้องนอนพักหรือเคลื่อนไหวร่างกายลำบาก พัดลมมือถือสามารถใช้เป็นเครื่องมือทำความเย็นที่สะดวกเพื่อช่วยให้ผู้ป่วยได้รับสภาพแวดล้อมการพักผ่อนที่สบายขึ้น
7. การทำงานกลางแจ้งในสภาพอากาศร้อน: สำหรับคนงานที่ต้องทำงานกลางแจ้ง เช่น คนงานก่อสร้าง พนักงานทำความสะอาด ฯลฯ พัดลมมือถือสามารถให้ผลเย็นสบายทันทีเพื่อช่วยให้รับมือกับสภาพแวดล้อมที่มีอุณหภูมิสูงได้ดีขึ้น