อะไรเป็นสาเหตุของผิวแห้ง ? แก้ปัญหาตรงจุดด้วยการดูแลผิวหน้าให้ถูกต้อง

ปัจจัยต่าง ๆ มากมายสามารถส่งผลให้ผิวแห้งได้ เช่น พันธุกรรม สภาพแวดล้อม การเปลี่ยนแปลงตามฤดูกาล ความชื้น การทำความสะอาดมากเกินไป และการสัมผัสกับสารระคายเคืองหรือสบู่ที่มีฤทธิ์รุนแรง

โชคดีที่ในกรณีส่วนใหญ่ ผิวแห้งมีวิธีแก้ปัญหาง่าย ๆ การสร้างระบบการดูแลผิวที่เน้นการเติมความชุ่มชื้นเป็นกุญแจสำคัญที่จะทำให้ผิวของคุณได้รับการบำรุงและชุ่มชื้น

ขอแนะนำให้เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของกรดไฮยาลูโรนิกหรือสควาเลน "กรดไฮยาลูโรนิกช่วยฟื้นฟูเกราะป้องกันความชุ่มชื้นของผิวและเติมเต็มความมันในระดับเซลล์ ในขณะที่สควาเลนทำหน้าที่เสมือนแม่เหล็กดึงดูดความชุ่มชื้นสู่ผิว"

เคล็ดลับการบำรุงรักษา

ขั้นตอนที่ 1: มอยส์เจอร์ไรเซอร์ทำความสะอาด (ใช้ตอนเช้าและตอนกลางคืน)

ลองนึกถึงกิจวัตรการทำความสะอาดผิวของคุณว่าเป็นขั้นตอนแรกในการเติมส่วนผสมบำรุงผิว พร้อมกับเตรียมผิวให้พร้อมรับความชุ่มชื้น ประเภทของคลีนเซอร์และความถี่ในการผลัดเซลล์ผิวควรขึ้นอยู่กับความไวต่อผลิตภัณฑ์และระดับความชุ่มชื้นของผิวในขณะนั้น

ฉันควรทำความสะอาดผิวสองครั้งไหม?

ขึ้นอยู่กับคุณ! การทำความสะอาดผิวแบบสองชั้นจะช่วยขจัดสิ่งสกปรกออกจากผิว ปล่อยให้ผลิตภัณฑ์อื่นๆ ได้ทำงาน คุณสามารถทำความสะอาดผิวแบบสองชั้นได้โดยใช้คลีนเซอร์สูตรน้ำมันก่อน จากนั้นจึงตามด้วยคลีนเซอร์สูตรครีม เพื่อคืนความสดชื่นและความชุ่มชื้นให้กับผิว

ฉันควรขัดผิวบ่อยแค่ไหน ?

การใช้ผลิตภัณฑ์ผลัดเซลล์ผิวที่แห้งสัปดาห์ละครั้งจะช่วยปรับสมดุลผิวโดยไม่ทำให้ผิวสูญเสียความชุ่มชื้น ไม่เพียงแต่ช่วยคงความเปล่งปลั่งของผิวเท่านั้น แต่ยังช่วยให้ผลิตภัณฑ์ต่างๆ เช่น เซรั่ม ซึมซาบเข้าสู่ผิวได้อย่างเต็มที่อีกด้วย

เคล็ดลับการเลือกผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้าสำหรับผิวแห้ง

ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวที่ดีที่สุดสำหรับผิวแห้งมักมีเนื้อครีมหรือน้ำมันที่ช่วยให้ผิวนุ่มชุ่มชื้น พร้อมขจัดสิ่งสกปรก น้ำมัน และสิ่งสกปรกอื่นๆ สำหรับผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวแบบผลัดเซลล์ผิวสำหรับผิวแห้ง ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของกรดอัลฟาไฮดรอกซี (AHA) ซึ่งจะช่วยปรับสภาพผิวให้เรียบเนียนอย่างอ่อนโยน

ขั้นตอนที่ 2: โทนเนอร์ (เช้าและเย็น)

ใช้โทนเนอร์เพิ่มความชุ่มชื้นหลังล้างหน้า โทนเนอร์เป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์ที่สำคัญที่สุดในขั้นตอนการดูแลผิวของคุณ สามารถใช้ได้ทั้งบนสำลีแผ่นหรือบนมือโดยลูบไล้ขึ้นด้านบน

โทนเนอร์มีหน้าที่อะไร ?

โทนเนอร์ช่วยเตรียมผิวให้พร้อมรับสิ่งดีๆ ที่จะตามมาในขั้นตอนต่อไป ใช้เป็นขั้นตอนสุดท้ายหลังการทำความสะอาดผิว โทนเนอร์ที่ดีที่สุดสำหรับผิวแห้งไม่เพียงแต่ช่วยเติมความชุ่มชื้น แต่ยังช่วยฟื้นฟูผิว ปรับสมดุลค่า pH และผลัดเซลล์ผิวอีกด้วย

เคล็ดลับการเลือกโทนเนอร์สำหรับผิวแห้ง

เลือกโทนเนอร์ที่ให้ความชุ่มชื้นและกักเก็บความชุ่มชื้นได้ตลอดวัน ควรเลือกโทนเนอร์ที่ปราศจากแอลกอฮอล์ ส่วนผสมอย่างกลีเซอรีนหรือกรดไฮยาลูโรนิกที่ช่วยเติมเต็มและกักเก็บความชุ่มชื้นจะดีที่สุด

ขั้นตอนที่ 3: เซรั่มบำรุงผิว (เช้าและเย็น)

เซรั่มเป็นหนึ่งในขั้นตอนสำคัญที่สุดของการดูแลผิว และควรใช้ควบคู่กับโทนเนอร์เสมอ เมื่อเลือกเซรั่มสำหรับผิวแห้ง คุณควรเลือกเซรั่มที่ให้ความชุ่มชื้นและปกป้องผิวจากปัจจัยแวดล้อม เช่น มลภาวะ

หลักสำคัญในการเลือกเอสเซนส์

กรดไฮยาลูโรนิกมีประโยชน์ต่อผิวของคุณเช่นกัน เพราะช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นไว้ แต่คุณยังสามารถมองหาส่วนผสมอื่นๆ ได้ด้วย เช่น:

สควาเลน: เป็นไขมันที่พบตามธรรมชาติในผิวหนังซึ่งช่วยกักเก็บความชื้น

เซราไมด์: ไขมันเหล่านี้ช่วยให้ผิวสร้างเกราะป้องกันความชื้น

น้ำมันและสารสกัดจากพืช: น้ำมันมะพร้าว เชียบัตเตอร์ และน้ำมันโจโจบา ยังช่วยให้ผิวสร้างเกราะป้องกันความชื้นอีกด้วย

วิตามินซี: สารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยปกป้องผิวจากมลภาวะแวดล้อม ส่งเสริมการสร้างคอลลาเจน และทำให้ชั้นหนังแท้ของผิวหนาขึ้น

KANS Hyaluronic Acid Essence SERUM

฿199-฿199

ซื้อสินค้า

ขั้นตอนที่ 4: มอยส์เจอร์ไรเซอร์ (เช้าและเย็น)

มอยส์เจอไรเซอร์เป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่ดีที่สุดสำหรับผิวแห้งอย่างไม่ต้องสงสัย และการใช้ทั้งตอนเช้าและกลางคืนจึงเป็นสิ่งสำคัญ เลือกใช้มอยส์เจอไรเซอร์เนื้อบางเบาในระหว่างวัน และครีมเนื้อหนักในตอนกลางคืน

มอยส์เจอร์ไรเซอร์ชนิดใดดีที่สุดสำหรับผิวแห้ง?

มอยส์เจอไรเซอร์ที่เหมาะสำหรับผิวแห้งควรอุดมไปด้วยส่วนผสมที่ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงที่ซึมซาบลึกถึงชั้นผิว ช่วยให้ผิวรู้สึกนุ่ม เรียบเนียน และอิ่มเอิบขึ้น

CLEAR NOSE Moist Skin Barrier Moisturizing Gel Facial 120ml เคลียร์โนส มอยส์เจอไรซิ่งเจล เฟเชียล

฿509-฿509

ซื้อสินค้า

สิ่งที่ควรคำนึงเมื่อเลือกมอยส์เจอไรเซอร์

นอกจากกรดไฮยาลูโรนิก เซราไมด์ และกลีเซอรีนแล้ว มอยส์เจอไรเซอร์บำรุงผิวหน้าที่ดีสำหรับผิวแห้งควรมีวิตามินบีอย่างไนอาซินาไมด์ด้วย ส่วนผสมเหล่านี้ช่วยปรับสมดุลผิวของคุณ ไม่ว่าจะเป็นสิวหรือริ้วรอย อีกทั้งยังช่วยลดเลือนจุดด่างดำ ลดรอยแดง และฟื้นฟูสีผิวให้สม่ำเสมอ

ขั้นตอนที่ 5: น้ำมันบำรุงผิวหน้า (เช้าและเย็น)

การทาออยล์บำรุงผิวหน้าหลังเซรั่มและมอยส์เจอร์ไรเซอร์จะช่วยเติมความชุ่มชื้นให้กับผิว สามารถใช้ได้ทั้งตอนเช้าหรือตอนเย็น (หรือทั้งสองอย่าง) เลือกใช้ออยล์เนื้อบางเบาสำหรับตอนกลางวัน และออยล์เนื้อเข้มข้นบำรุงเข้มข้นสำหรับตอนเย็น

ข้อควรพิจารณาในการเลือกน้ำมันบำรุงผิวหน้า

เลือกน้ำมันหอมระเหยที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น วิตามินอี หรือ วิตามินซี

L'Oréal Paris Elseve Extraordinary Oil French Rose Oil Infusion

฿299-฿299

ซื้อสินค้า

ขั้นตอนที่ 6: ครีมกันแดด (ตอนเช้า)

ครีมกันแดดเป็นหนึ่งในขั้นตอนสำคัญที่สุดในการดูแลผิว ควรทาครีมกันแดดทุกวันหลังมอยส์เจอไรเซอร์หรือน้ำมันบำรุงผิวหน้า สิ่งสำคัญอย่างยิ่งคือต้องทาครีมกันแดดเมื่อผิวแห้ง เพราะรังสียูวีที่รุนแรงอาจสร้างความเสียหายเพิ่มเติม ก่อให้เกิดความเครียดและเสียสมดุลของผิว ซึ่งท้ายที่สุดจะนำไปสู่ความแห้งกร้านมากขึ้น อย่าลืมทาครีมกันแดดซ้ำบ่อยๆ เมื่อต้องออกแดดกลางแจ้ง

SANDMOON - Sensitive Tone up Sunscreen SPF 50 PA+++ สำหรับทาผิวกาย

฿290-฿290

ซื้อสินค้า

ขั้นตอนพิเศษ: มาส์กก่อนนอน

ใช้มาส์กบำรุงผิวแห้งหลังขั้นตอนการดูแลผิว เพื่อกักเก็บส่วนผสมอันทรงประสิทธิภาพทั้งหมดไว้ มาส์กก่อนนอนยังช่วยฟื้นฟูและเติมความชุ่มชื้นให้ผิวในขณะที่คุณนอนหลับ เติมความชุ่มชื้นและฟื้นฟูผิวอย่างล้ำลึก ใช้มาส์กก่อนนอนสัปดาห์ละหนึ่งหรือสองครั้ง หลังจากใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวอื่นๆ แล้วล้างออกในตอนเช้าก่อนใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวอื่นๆ

เคล็ดลับการเลือกมาส์กก่อนนอน

มีมาส์กก่อนนอนสำหรับผิวแห้งให้เลือกมากมาย เลือกมาส์กที่มีส่วนผสมของไฮยาลูโรนิกแอซิดหรือสารต้านอนุมูลอิสระ เพื่อผิวที่เนียนนุ่ม เรียบเนียน และสุขภาพดียิ่งขึ้น