“หากคุณต้องการความมั่นคงทางอารมณ์ คุณต้องเริ่มต้นด้วยการยอมรับความไม่มั่นคงทางอารมณ์”


ในการเดินทางอันยาวไกลของชีวิต เราเปรียบเสมือนเรือที่ล่องไปในทะเลอันปั่นป่วน และอารมณ์ของเราเปรียบเสมือนคลื่นที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา บางครั้งโอบอุ้มเราอย่างอ่อนโยน นำมาซึ่งความสบายใจและความสงบสุข บางครั้งซัดสาด ก่อกวนพายุ ทำให้เราสับสนและดิ้นรน การเรียนรู้ที่จะอยู่ร่วมกับอารมณ์ต่างๆ อย่างกลมกลืน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการรับมือกับอารมณ์ด้านลบ ถือเป็นการฝึกฝนที่สำคัญยิ่งตลอดชีวิตของเราทุกคน
เรามักยึดถือ "ความมั่นคงทางอารมณ์" เป็นอุดมคติ แต่กลับเข้าใจผิดโดยไม่รู้ตัว หลายคนเชื่อว่าความมั่นคงทางอารมณ์ต้องอาศัยการ "แยกตัว" ออกจากอารมณ์ พยายามปิดกั้นความรู้สึกเชิงลบทั้งหมด ราวกับว่าการไม่รู้สึกถึงอารมณ์เหล่านั้นจะทำให้เราไม่ได้รับผลกระทบจากอารมณ์เหล่านั้น ด้วยเหตุนี้ เราจึงใช้ทุกวิถีทางเพื่อหลีกเลี่ยงการเกิดขึ้นของอารมณ์ ฝังหัวจมทรายเหมือนนกกระจอกเทศ โดยเชื่อว่าสิ่งนี้จะนำความสงบสุขมาสู่เรา ในขณะที่บางคนเลือกที่จะอดทน ปฏิเสธความถูกต้องของอารมณ์ และระงับพลังทำลายล้างเหล่านั้นไว้ลึกๆ ในใจ อย่างไรก็ตาม อารมณ์ก็เปรียบเสมือนสปริงที่ถูกอัดแน่น เมื่อถูกกดจนสุด แม้แต่ประกายไฟเล็กๆ ก็สามารถจุดชนวนให้เกิดการระเบิดทางอารมณ์ได้

อารมณ์คือสัญญาณอันล้ำค่าที่ร่างกายส่งผ่านมาถึงเรา ไม่มีลำดับชั้น อารมณ์แต่ละอย่างมีหน้าที่และความหมายเฉพาะตัว ความสุข ความเบิกบานใจ และความตื่นเต้น เปรียบเสมือนดวงตะวันอันอบอุ่นในฤดูใบไม้ผลิ อบอุ่นหัวใจและเสริมพลังให้เราก้าวเดินต่อไป ความเศร้า ความโกรธ และความขุ่นเคือง เปรียบเสมือนเสียงระฆังเตือนภัย เตือนให้เราใส่ใจกับความต้องการและความปรารถนาที่ลึกซึ้งที่สุด หากเรายอมให้ตัวเองรับสัญญาณเชิงบวกและเชิงรุก และปฏิเสธสัญญาณเชิงลบและแง่ร้าย ก็เหมือนกับการเดินโดยถูกปิดตา ในที่สุดเราก็จะติดอยู่ในหมอกแห่งอารมณ์และกลายเป็นทาสของมัน
ยกตัวอย่างเช่น ความกลัวที่เรารู้สึกก่อนสอบเป็นปฏิกิริยาทางอารมณ์ปกติ เป็นการเตือนให้เตรียมตัวอย่างขยันขันแข็ง อย่างไรก็ตาม หากเราต่อต้านความกลัวนี้ มันจะยิ่งทวีความรุนแรงขึ้นและกลายเป็นความวิตกกังวลและความกลัวอย่างรุนแรง ซึ่งท้ายที่สุดจะส่งผลกระทบต่อผลการสอบของเรา อีกตัวอย่างหนึ่งคือ เมื่อมีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่น เรากลัวการโต้เถียงและหลีกเลี่ยงสัญญาณที่บ่งบอกว่าอารมณ์ด้านลบอาจเกิดขึ้น อารมณ์ที่ไม่ได้รับการเยียวยาอาจกลายเป็นเหมือนระเบิดเวลาที่ซ่อนเร้น ซึ่งพร้อมจะระเบิดได้ทุกเมื่อและทำลายความสัมพันธ์อันเป็นที่รัก
แล้วเราจะรับมือกับอารมณ์เชิงลบอย่างเหมาะสมได้อย่างไร? กุญแจสำคัญอยู่ที่การยอมรับ การยอมรับอารมณ์ได้นั้น เราต้องเข้าใจมันเสียก่อน นักจิตวิทยาบอกเราว่าอารมณ์คือผู้ส่งสาร บอกสิ่งที่เรารักและให้คุณค่า นอกจากนี้ยังเป็นเสมือนประภาคารที่นำทางเราไปสู่การเติบโตและเผยให้เห็นคุณค่าที่เราหวงแหนที่สุด เบื้องหลังอารมณ์เชิงลบ เรามักซ่อนความปรารถนาและความต้องการภายในที่เรายังไม่รู้
การยอมรับอารมณ์ไม่ใช่การปล่อยให้มันพลุ่งพล่าน แต่เป็นกระบวนการที่มีขั้นตอนและวิธีการ ขั้นตอนแรกคือการตระหนักรู้ถึงอารมณ์ของคุณ สงบสติอารมณ์และรับรู้ปฏิกิริยาต่างๆ ของร่างกายต่ออารมณ์ ไม่ว่าจะเป็นหัวใจเต้นเร็วขึ้น หายใจถี่ กล้ามเนื้อเกร็ง หรือมือเท้าเย็น การเปลี่ยนแปลงเล็กๆ น้อยๆ เหล่านี้จะช่วยให้คุณระบุอารมณ์ปัจจุบันของคุณได้ ขั้นตอนที่สองคือการใช้ชื่อและภาษาที่ถูกต้องเพื่ออธิบายอารมณ์ปัจจุบันของคุณ เช่น "ฉันเศร้า" "ฉันรู้สึกโกรธเล็กน้อย" "ฉันรู้สึกวิตกกังวลเล็กน้อย" พลังของภาษานั้นแข็งแกร่ง เมื่อเราสามารถแสดงอารมณ์ได้อย่างชัดเจน แสดงว่าเราได้ก้าวไปสู่การควบคุมอารมณ์แล้ว ขั้นตอนที่สามคือการพูดกับตัวเองว่า "เป็นเรื่องปกติที่ฉันจะรู้สึกเศร้า/โกรธ/วิตกกังวลในขณะนี้" จากนั้นถามตัวเองว่า "มันกำลังพยายามบอกอะไรฉัน ฉันต้องทำอะไรตอนนี้" การสนทนากับตัวเองเช่นนี้จะช่วยให้เราเข้าใจข้อมูลเบื้องหลังอารมณ์ต่างๆ ได้อย่างลึกซึ้ง และหาแนวทางในการรับมือกับอารมณ์เหล่านั้น
นอกจากการยอมรับอารมณ์ของตนเองแล้ว เรายังสามารถใช้เทคนิคการควบคุมอารมณ์ที่นำไปใช้ได้จริง เพื่อช่วยให้เรารับมือกับคลื่นอารมณ์เหล่านี้ได้อย่างสงบมากขึ้น นับถอยหลัง: เมื่อเรากำลังจะระเบิดความโกรธ ลองนับเลขในใจอย่างเงียบๆ คิดเลขในใจ หรืออ่านข้อความอย่างลึกซึ้ง วิธีนี้ช่วยให้เรากลับสู่สมองส่วนเหตุผล และสงบความกระสับกระส่ายของสมองส่วนอารมณ์ ซึ่งจะช่วยควบคุมอารมณ์ของเราได้อย่างมีประสิทธิภาพ หายใจเข้าลึกๆ: เมื่ออารมณ์พลุ่งพล่านราวกับพายุ ให้จดจ่ออยู่กับลมหายใจ หายใจเข้าลึกๆ ทางจมูก และหายใจออกช้าๆ ทางปาก รู้สึกถึงอากาศบริสุทธิ์ที่ไหลผ่านหน้าอกและค่อยๆ ทำให้หัวใจสงบลง ออกกำลังกาย: เมื่อรู้สึกหดหู่ การออกกำลังกายเป็นสิ่งที่ควรค่าแก่การออกกำลังกาย การออกกำลังกายไม่เพียงแต่ช่วยหลั่งฮอร์โมนความเครียดเท่านั้น แต่ยังช่วยกระตุ้นการผลิตสารสื่อประสาท เช่น เอนดอร์ฟินและโดปามีนในสมอง ทำให้เรารู้สึกมีความสุขและพึงพอใจ ต่อสู้กับความวิตกกังวลและภาวะซึมเศร้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ และปรับปรุงคุณภาพการนอนหลับ พูดคุยกับอารมณ์ของคุณ: หาที่เงียบๆ หลับตา แล้วรู้สึกถึงอารมณ์ที่ไหลเวียนผ่านร่างกาย ลองจินตนาการว่ามันเป็นวัตถุที่จับต้องได้ เช่น ก้อนหิน เปลวไฟ หรือเด็กที่ไร้ทางสู้ จากนั้น จดบันทึกอารมณ์ความรู้สึกของคุณ จดเหตุการณ์ที่กระตุ้นอารมณ์ด้านลบ รวมถึงความคิดและความรู้สึกภายในของคุณด้วยปากกาและกระดาษ ระหว่างการเขียน จงปล่อยให้อารมณ์ของคุณไหลลื่นอย่างอิสระ ขณะเดียวกัน อย่าลืมใส่ใจตัวเอง เขียนคำพูดที่อบอุ่น และมอบความรักและกำลังใจให้ตัวเอง
ชีวิตคือการเดินทางที่เต็มไปด้วยความสุข ความโกรธ ความเศร้า และความสุข ไม่มีใครสามารถหลีกเลี่ยงอารมณ์ขึ้นๆ ลงๆ ได้ แทนที่จะต่อสู้กับอารมณ์ เราควรเรียนรู้ที่จะอยู่ร่วมกับอารมณ์เหล่านั้นอย่างสงบสุข จงมองอารมณ์เชิงลบเสมือนประภาคาร ส่องประกายขุมทรัพย์ที่ซ่อนอยู่ภายในตัวเรา และนำทางเราไปสู่เส้นทางชีวิตที่สมบูรณ์ยิ่งขึ้น เมื่อเราหยุดต่อต้านและพูดกับตัวเองอย่างกล้าหาญว่า "ฉันยอมรับความรู้สึกของคุณเดี๋ยวนี้" เราจะค้นพบว่าอารมณ์เชิงลบไม่ได้เป็นเพียงแค่เงาในชีวิต แต่เป็นสีสันที่ขาดไม่ได้ในผืนผ้าใบแห่งชีวิต อารมณ์เหล่านี้ช่วยเติมเต็มและเติมเต็มชีวิตของเราให้หลากหลายแง่มุม และทำให้ชีวิตมีความจริงใจและมีชีวิตชีวามากขึ้น ขอให้เราใช้การยอมรับเป็นเรือ และความเข้าใจเป็นใบเรือ ล่องไปตามคลื่นอารมณ์และไปถึงฝั่งแห่งความปรารถนาของหัวใจ
แนะนำสำหรับคุณ
“อุปกรณ์กำจัดขน ไม่ใช่เครื่องพันธนาการอันเปราะบาง แต่คือการประกาศอิสรภาพของร่างกายและความงามในแบบที่เราเลือกเอง”
ประโยชน์ของการดื่มกาแฟ!
รสดีเมนู: มีติดครัวไว้ อร่อยได้ทุกเมนูไม่ต้องปรุงเพิ่ม!
คาเฟ่ อเมซอน: กาแฟระดับพรีเมียม เพื่อช่วงเวลาแห่งความสุข
ปรับบุคลิกให้ดูดี: แค่เริ่มจากท่าทางง่ายๆ ก็เห็นผล!
น้ำยาบ้วนปาก🛁 ไอเทมเพิ่มความมั่นใจประจำวัน
ปกป้องสุขภาพจากภัยที่มองไม่เห็น ด้วยเครื่องฟอกอากาศ!
เรียนรู้“30 วันที่ดีที่สุดในการการลดน้ำหนักอย่างสุขภาพดี
หมอนรองนอน: ไอเท็มเด็ดสำหรับคนขี้ร้อนที่อยากนอนหลับสบาย