ครีมกันแดด Mizumi เลือกอย่างไรให้ถูกใจ?

แสงแดดเมืองไทยขึ้นชื่อว่าแรงจัดตลอดทั้งปี ไม่ว่าฤดูร้อน ฤดูฝน หรือฤดูหนาว รังสียูวี (UVA และ UVB) ก็ยังคงมีอยู่ และสามารถทำร้ายผิวเราได้ทุกวัน ปัญหาผิวหมองคล้ำ ฝ้า กระ จุดด่างดำ ริ้วรอยก่อนวัย หรือแม้แต่ความเสี่ยงมะเร็งผิวหนัง ล้วนเป็นผลพวงจากการไม่ปกป้องผิวให้เพียงพอ คำตอบที่ดีที่สุดคือการใช้ ครีมกันแดด

ในบรรดาแบรนด์ครีมกันแดดที่คนไทยนิยมมากที่สุด หนึ่งในชื่อที่ถูกพูดถึงบ่อยๆ ก็คือ Mizumi (มิซูมิ) แบรนด์เวชสำอางจากญี่ปุ่นที่เน้นสูตรอ่อนโยน เหมาะกับผิวแพ้ง่าย และได้รับความไว้วางใจจากสาวๆ หนุ่มๆ ชาวไทยมาหลายปี จุดเด่นของ Mizumi คือเป็น กันแดดสูตรน้ำ ไม่มีน้ำหอม ไม่มีแอลกอฮอล์ ไม่มีพาราเบน และไม่มีน้ำมัน ทำให้หลายคนที่ผิวบอบบางใช้แล้วไม่ระคายเคือง

แต่หลายคนอาจจะยังสับสนว่า ครีมกันแดด Mizumi มีกี่แบบ? แต่ละสูตรต่างกันอย่างไร? และสูตรไหนเหมาะกับตัวเรา? วันนี้ผมจะมาเล่าให้ละเอียด เพื่อให้คุณเลือกได้แบบตรงใจและใช้ได้อย่างคุ้มค่าที่สุด

Mizumi มีครีมกันแดดทั้งหมดกี่สูตร?

ปัจจุบัน Mizumi มีครีมกันแดดหลักๆ อยู่ 3 สูตร ที่ได้รับความนิยมสูงในไทย ได้แก่

1. Mizumi UV Water Serum SPF50+ PA++++

2. Mizumi UV Water Defense SPF50+ PA++++

3. Mizumi UV Water Suncreen Tone Up SPF50+ PA++++

ทั้งสามสูตรนี้แม้จะมีจุดร่วมคือ “อ่อนโยน บางเบา และเหมาะกับผิวแพ้ง่าย” แต่ก็มีความแตกต่างในรายละเอียด ซึ่งเหมาะกับความต้องการของคนแต่ละกลุ่มไม่เหมือนกัน

หมดอายุMizuMi: UV Water Serum SPF50+ PA++++, 40

-51%

฿

429

฿890

1. Mizumi UV Water Serum SPF50+ PA++++

สูตรนี้ถือเป็น ไอเท็มยอดฮิตตลอดกาลของแบรนด์ Mizumi ใครที่เคยลองกันแดด Mizumi ครั้งแรก มักจะเริ่มจากตัวนี้ เพราะขึ้นชื่อเรื่องความบางเบาและไม่เหนียวเหนอะหนะ

คุณสมบัติเด่น:

• เป็น กันแดดแบบ Chemical Sunscreen 100%

• เนื้อเซรั่มใส เกลี่ยง่าย ซึมไว ไม่ทิ้งคราบ

• ไม่มีน้ำหอม แอลกอฮอล์ และสารอุดตันผิว

• เหมาะกับทุกสภาพผิว โดยเฉพาะผิวมัน-ผิวผสม

• กันแดดได้ทั้ง UVA และ UVB

เหมาะกับใคร:

• คนที่ต้องการกันแดดสำหรับใช้ทุกวัน

• คนที่แต่งหน้าเป็นประจำ เพราะเนื้อบางเบาไม่เป็นคราบ รองพื้นติดทน

• คนผิวมันหรือผิวแพ้ง่าย

สรุป: ถ้าอยากได้กันแดดเนื้อเซรั่มบางเบาที่ทาแล้วเหมือนไม่ทา ไม่เหนียวเหนอะหนะ และปกป้องผิวได้เต็มที่ ตัวนี้คือ “ลูกรัก” ของใครหลายคน

หมดอายุMizumi: ยูวี วอเตอร์ ดีเฟนส์ โปร, 40

-50%

฿

445

฿890

2. Mizumi UV Water Defense SPF50+ PA++++

สูตรนี้ถูกออกแบบมาเพื่อการ ปกป้องขั้นสูง เหมาะสำหรับกิจกรรมกลางแจ้ง ที่ต้องเจอแดดแรงๆ และเหงื่อออกเยอะๆ

คุณสมบัติเด่น:

• เป็น Hybrid Sunscreen (ผสมระหว่าง Physical และ Chemical)

• กันน้ำ กันเหงื่อได้ดี เหมาะกับการทำกิจกรรมกลางแจ้ง

• เนื้อครีมบางเบาแต่จะรู้สึกแน่นกว่าสูตรเซรั่มเล็กน้อย

• ไม่มีน้ำหอม แอลกอฮอล์ และอ่อนโยนต่อผิว

• มีการเสริมเทคโนโลยี Anti-Pollution ช่วยป้องกันมลภาวะ

เหมาะกับใคร:

• คนที่ทำกิจกรรมกลางแจ้ง เช่น เล่นกีฬา วิ่ง เดินป่า ปั่นจักรยาน

• คนที่ชอบเที่ยวทะเลหรือเล่นน้ำ เพราะสูตรนี้กันน้ำได้ดีกว่า

• คนที่ต้องการการปกป้องแบบจัดเต็ม

สรุป: ถ้าในวันหยุดคุณเป็นสายเที่ยว สายสปอร์ต หรือสายลุย ต้องการกันแดดที่ทนน้ำทนเหงื่อ สูตรนี้คือคำตอบที่ใช่

หมดอายุMizumi: Uv Water Active Sport Face And Body Sunscreen Spf50+ Pa++++ 40G

-55%

฿

399

฿890

3. Mizumi UV Water Tone Up SPF50+ PA++++

สูตรนี้คือ กันแดดผสม Tone Up ที่ช่วยปรับสีผิวให้กระจ่างใสขึ้นทันทีที่ทา เรียกว่าเป็นกันแดดที่ช่วยทั้งปกป้องและบำรุงลุคสวยในเวลาเดียวกัน

คุณสมบัติเด่น:

• เนื้อครีมสีชมพูอ่อน ช่วยปรับผิวให้สว่างขึ้น

• เนื้อบางเบา เกลี่ยง่าย ไม่วอก ไม่ลอย

• มีสารบำรุงที่ช่วยให้ผิวดูกระจ่างใสและชุ่มชื้น

• ปราศจากน้ำหอม แอลกอฮอล์ และอ่อนโยนเหมือนสูตรอื่นๆ

เหมาะกับใคร:

• คนที่อยากได้กันแดดที่ช่วยปรับโทนผิวให้สวยขึ้นทันที

• คนที่ไม่ชอบแต่งหน้าหนัก แต่ก็อยากให้หน้าดูสดใสมีออร่า

• นักเรียน นักศึกษา หรือคนทำงานที่อยากประหยัดเวลาแต่งหน้า

สรุป: ถ้าอยากได้กันแดดที่ช่วยให้ผิวดูดีขึ้นตั้งแต่ขั้นตอนเดียว ตัวนี้คือไอเท็มที่เหมาะมาก เพราะทาแล้วผิวดูไบรท์ขึ้นทันที

หมดอายุMizumi: UV Water - Set DUO ครีมกันแดดดูโอ้, คุมมัน+เจลลี่

-50%

฿

889

฿1,780

เลือก Mizumi แบบไหนดีให้ตรงใจ?

หลายคนอาจยังลังเลว่าควรเลือกสูตรไหนดี ผมขอแนะนำแบบง่ายๆ ดังนี้

• ใช้ทุกวันในชีวิตประจำวัน → เลือก Mizumi UV Water Serum

• ทำกิจกรรมกลางแจ้ง เจอแดดแรง เหงื่อออกเยอะ → เลือก Mizumi UV Water Defense

• อยากให้ผิวดูกระจ่างใสขึ้นทันที ไม่แต่งหน้ามาก → เลือก Mizumi UV Water Tone Up

เคล็ดลับการใช้กันแดด Mizumi ให้ได้ผลสูงสุด

1. ทาก่อนออกแดดอย่างน้อย 15 นาที เพื่อให้ครีมกันแดดทำงานเต็มที่

2. ใช้ปริมาณที่เพียงพอ ประมาณ 2 ข้อนิ้วมือสำหรับทาหน้าและคอ

3. ทาซ้ำทุก 2-3 ชั่วโมง หากอยู่กลางแจ้งหรือมีเหงื่อออกมาก

4. อย่าลืมทาที่คอ หลังหู และมือ เพราะเป็นจุดที่มักถูกละเลยแต่เจอแดดบ่อย

5. ใช้คู่กับอุปกรณ์ป้องกันอื่นๆ เช่น หมวก แว่นกันแดด หรือร่ม เพื่อการปกป้องที่สมบูรณ์

บทสรุป

ครีมกันแดด Mizumi ไม่ได้เป็นเพียงกันแดดธรรมดา แต่คือ “เพื่อนคู่ใจของผิวแพ้ง่าย” ที่มอบการปกป้องได้อย่างมั่นใจและตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างกันทั้ง 3 สูตร

• Water Serum: บางเบา ใช้ได้ทุกวัน

• Water Defense: ทนน้ำทนเหงื่อ สำหรับกิจกรรมกลางแจ้ง

• Tone Up: ปรับผิวให้กระจ่างใส เหมาะกับวันเบาๆ ไม่แต่งหน้า

สุดท้ายแล้วการเลือกกันแดดที่เหมาะสม ไม่ได้ขึ้นอยู่แค่กับยี่ห้อหรือราคา แต่ขึ้นอยู่กับ “การใช้งานจริงของเรา” ว่าเราต้องการอะไร ถ้าเลือกได้ตรงกับไลฟ์สไตล์ ครีมกันแดดก็จะไม่ใช่แค่เครื่องสำอางชิ้นหนึ่ง แต่จะเป็นเกราะป้องกันผิวที่เราขาดไม่ได้ในทุกๆ วัน