Gen Z เสี่ยงตกงานจริงหรือไม่?


ในยุคที่โลกเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ทั้งด้านเศรษฐกิจ เทคโนโลยี และโครงสร้างแรงงาน “Gen Z” หรือคนรุ่นที่เกิดระหว่างช่วงปี 1997–2012 กำลังกลายเป็นประเด็นสำคัญในตลาดแรงงาน หลายสำนักข่าวและงานวิจัยชี้ให้เห็นว่า คนรุ่นนี้อาจกำลังเผชิญความเสี่ยงตกงานสูงกว่ารุ่นก่อน ๆ ซึ่งอาจไม่ใช่เพียงเพราะเศรษฐกิจที่ผันผวน แต่ยังเกี่ยวพันกับทักษะการทำงาน ค่านิยม และวิถีชีวิตที่แตกต่างออกไปด้วย
คำถามคือ ทำไม Gen Z ถึงถูกมองว่า “เสี่ยงตกงาน”? และพวกเขาจะต้องปรับตัวอย่างไรเพื่อให้สามารถยืนหยัดได้ในสังคมการทำงานที่ท้าทายขึ้นทุกวัน?

โลกการทำงานที่เปลี่ยนไป
ก่อนจะพูดถึง Gen Z เราต้องยอมรับก่อนว่าตลาดแรงงานในปัจจุบันไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป ปัจจัยที่ทำให้สภาพการจ้างงานเปลี่ยนแปลง ได้แก่:
-
เทคโนโลยีและ AI – การเข้ามาของปัญญาประดิษฐ์และระบบอัตโนมัติทำให้งานหลายประเภทที่เคยต้องใช้แรงคน ถูกแทนที่ด้วยเครื่องจักรและซอฟต์แวร์ที่ทำงานได้เร็วกว่าและถูกกว่า
-
เศรษฐกิจโลกผันผวน – ตั้งแต่โควิด-19 ไปจนถึงภาวะเศรษฐกิจถดถอยในหลายประเทศ บริษัทจำนวนมากปรับลดพนักงานเพื่อความอยู่รอด
-
รูปแบบการทำงานใหม่ (Hybrid/Remote) – การทำงานไม่ได้จำกัดอยู่ในออฟฟิศอีกต่อไป ส่งผลให้การแข่งขันในตลาดแรงงานเปิดกว้างและเข้มข้นขึ้น เพราะคนจากต่างประเทศก็สามารถแย่งงานกันได้
-
ความต้องการทักษะที่เปลี่ยนไป – ตลาดแรงงานในวันนี้ต้องการคนที่มีความรู้รอบด้าน สามารถเรียนรู้เทคโนโลยีใหม่ ๆ และปรับตัวเร็ว ไม่ใช่แค่ทำงานตามหน้าที่
Gen Z กับความท้าทายที่ต้องเจอ
คนรุ่น Gen Z เติบโตมากับเทคโนโลยี อินเทอร์เน็ต และสื่อโซเชียล พวกเขามีจุดแข็งที่โดดเด่น เช่น ความคิดสร้างสรรค์ ความสามารถในการเข้าถึงข้อมูล และการมองโลกแบบเปิดกว้าง แต่ในอีกมุมหนึ่งก็มีความท้าทายที่อาจทำให้พวกเขาเสี่ยงตกงานได้ง่ายกว่าที่คิด
-
ขาดทักษะที่ตลาดต้องการจริง ๆ
หลายคนจบการศึกษามาพร้อมใบปริญญา แต่กลับไม่มีทักษะที่ตอบโจทย์ตลาดแรงงาน เช่น การคิดเชิงวิเคราะห์ การสื่อสารในที่ทำงาน หรือความเข้าใจด้านดิจิทัลที่ลึกซึ้งกว่าการใช้โซเชียลทั่วไป -
ความคาดหวังที่สูงเกินจริง
Gen Z มักถูกมองว่าต้องการงานที่เงินเดือนสูง ทำงานสบาย และ Work-Life Balance ดีตั้งแต่เริ่มต้น ทั้งที่ในความจริงแล้ว การสร้างเส้นทางอาชีพมักต้องเริ่มจากงานที่หนักและใช้เวลาเรียนรู้ก่อน -
การเปลี่ยนงานบ่อย
งานวิจัยบางชิ้นระบุว่า คน Gen Z มีแนวโน้มลาออกหรือเปลี่ยนงานภายในเวลาไม่กี่ปี หากรู้สึกว่าไม่ตรงใจ สิ่งนี้ทำให้บริษัทบางแห่งมองว่าการจ้างพวกเขาเป็นการลงทุนที่เสี่ยง -
การแข่งขันกับแรงงานทุกวัย
ในยุคที่การทำงานไม่จำกัดอายุ คนรุ่นใหญ่ที่มีประสบการณ์ก็ยังคงทำงานได้ ขณะเดียวกันก็มีแรงงานต่างชาติที่พร้อมทำงานในราคาที่ถูกกว่า ทำให้ Gen Z ต้องแข่งขันในหลายด้านพร้อมกัน

เสียงสะท้อนจากนายจ้าง
หลายองค์กรให้ความเห็นตรงกันว่า ปัญหาที่เจอบ่อยกับการจ้างคนรุ่นใหม่คือ “ช่องว่างระหว่างความคาดหวังกับความเป็นจริง” ตัวอย่างเช่น:
-
บริษัทคาดหวังว่าพนักงานใหม่จะพร้อมเรียนรู้และอดทนกับแรงกดดัน แต่บางครั้ง Gen Z กลับรู้สึกไม่สบายใจและลาออกก่อน
-
บริษัทต้องการทักษะด้านดิจิทัลที่ลึก เช่น การวิเคราะห์ข้อมูลหรือการใช้เครื่องมือ AI แต่หลายคนถนัดเพียงการใช้งานโซเชียลส่วนตัว
แม้จะไม่ใช่ทุกคน แต่เสียงสะท้อนเหล่านี้ทำให้ภาพลักษณ์ของ Gen Z ในตลาดแรงงานดูเปราะบางกว่าความเป็นจริง
แล้ว Gen Z ควรทำอย่างไร?
การแก้ปัญหาการตกงานไม่ได้อยู่ที่ภาคธุรกิจเพียงอย่างเดียว แต่ Gen Z เองก็ต้องปรับตัวเพื่อให้เข้ากับสภาพตลาดแรงงานที่ท้าทายมากขึ้น
-
พัฒนาทักษะอย่างต่อเนื่อง
ไม่หยุดอยู่แค่สิ่งที่เรียนในห้อง แต่ควรเสริมด้วยทักษะใหม่ ๆ เช่น การวิเคราะห์ข้อมูล การสื่อสาร การเขียนโปรแกรม หรือการใช้ AI เพื่อทำงานร่วมกับเทคโนโลยีแทนที่จะถูกแทนที่ -
เปิดใจยอมรับงานเริ่มต้น
การสร้างเส้นทางอาชีพต้องใช้เวลา อย่าหวังว่าจะได้งานที่ตรงใจทุกอย่างตั้งแต่แรก แต่ควรมองหาประสบการณ์ที่สามารถต่อยอดได้ในอนาคต -
ฝึกทักษะการปรับตัวและการทำงานเป็นทีม
เพราะองค์กรในยุคนี้ต้องการคนที่ไม่เพียงเก่งเฉพาะด้าน แต่ยังทำงานร่วมกับคนหลากหลายรุ่นและวัฒนธรรมได้ดี -
มองหาโอกาสนอกกรอบ
ตลาดแรงงานไม่ได้มีแค่การเป็นพนักงานประจำ ยังมีงานฟรีแลนซ์ สตาร์ทอัพ หรือการสร้างรายได้จากแพลตฟอร์มดิจิทัล ที่เปิดโอกาสให้ Gen Z ใช้ความคิดสร้างสรรค์ได้เต็มที่
บทเรียนจากวิกฤต
หากมองในอีกแง่หนึ่ง ความท้าทายที่ Gen Z เจออาจเป็นโอกาสที่ช่วยผลักดันให้คนรุ่นนี้พัฒนาตัวเองเร็วขึ้น เพราะเมื่อเผชิญการแข่งขันสูง พวกเขาจำเป็นต้องหาทางสร้างจุดแข็งที่แตกต่าง ซึ่งอาจทำให้เกิดคนรุ่นใหม่ที่มีความสามารถหลากหลายและพร้อมรับมือกับโลกอนาคตมากกว่าใคร

สรุป
คำว่า “Gen Z เสี่ยงตกงาน” อาจไม่ใช่คำตัดสินตายตัว แต่เป็นสัญญาณเตือนให้ทั้งคนรุ่นใหม่และสังคมการทำงานมองเห็นความจริงที่กำลังเกิดขึ้น โลกวันนี้ไม่ได้ต้องการแค่คนที่มีใบปริญญา แต่ต้องการคนที่มีทักษะ ปรับตัวได้ และมีความเข้าใจในความเป็นจริงของตลาดแรงงาน
ดังนั้น หาก Gen Z พร้อมที่จะพัฒนาตัวเองอย่างต่อเนื่อง เปิดใจเรียนรู้ และไม่กลัวที่จะเริ่มต้นจากจุดเล็ก ๆ พวกเขาก็จะไม่ใช่กลุ่มเสี่ยงตกงานอีกต่อไป แต่จะเป็นกำลังสำคัญที่จะพาโลกการทำงานก้าวไปข้างหน้าในยุคใหม่ที่เต็มไปด้วยโอกาสและความท้าทาย
แนะนำสำหรับคุณ
Apple News: Apple เปิดตัว iPad Air พร้อมชิป M3 อันทรงพลังและ Magic Keyboard ใหม่
เปิดตัว Apple Watch Ultra 3 ตัวใหม่ ไม่ทำให้ผิดหวังแน่นอน
ลองใช้ Ray-Ban Meta 3 วัน: นี่คือเหตุผลที่แว่นตา AI อาจกลายเป็นสิ่งจำเป็นในอนาคต
น้ำหอมเครื่องเทศ ตัวเลือกน่าใช้ของคนชอบกลิ่นสุดหรู
รถยนต์ไฟฟ้า 4 รุ่นที่ขายดีที่สุดในปี 2025 และผู้ชนะยังคงเป็น Tesla
🔥🔥🔥🔥🔥Apple iPhone 17 ซีรีส์ : เตรียมเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ปลายปีนี้❗️
ทาส Krispy Kreme ต้องโดน! เปิด 6 อันดับโดนัทที่ชาวเน็ตยกให้เป็นที่ 1
ผู้กำกับผู้ยิ่งใหญ่เหล่านั้น 2 | มาร์ติน สกอร์เซซี: วิญญาณอันธพาล ความศรัทธายังคงมีอยู่
👋อุปกรณ์เสริมสำหรับ iPhone ที่สำคัญที่สุด…ไม่ใช่ที่ชาร์จ แต่เป็น AirPods จริงหรือ?
รีวิวจุดเด่น ราคาเปิดจองของ Samsung Galaxy Z Fold 7
หัวข้อพิเศษเดือนกันยายน|ก้าวสู่อนาคต: การประชุมของ Apple ในเครื่องนี้จะมีคุณสมบัติเด่นอะไรเป็นหลักงการรับรู้อัจฉริยะของเรา?