การชาร์จโทรศัพท์ทิ้งไว้ข้ามคืนทำให้แบตเตอรี่เสียหายจริงหรือ? ความเชื่อและความจริงเกี่ยวกับการชาร์จ

คุณเคยได้ยินคำกล่าวที่ว่า "การชาร์จโทรศัพท์ทิ้งไว้ข้ามคืนจะทำให้แบตเตอรี่เสื่อม" หรือ "การชาร์จเกิน 80% จะทำให้แบตเตอรี่เสื่อมเร็วขึ้น" บ้างไหม? ความเชื่อผิดๆ เกี่ยวกับการชาร์จโทรศัพท์ที่แพร่หลายเหล่านี้ทำให้ผู้ใช้โทรศัพท์หลายคนกังวลเกี่ยวกับการชาร์จโทรศัพท์ทุกคืน ความเชื่อใดเป็นจริง? ความเชื่อใดเป็นเพียงข่าวลือที่ไม่มีมูลความจริง? วันนี้เราจะมาไขข้อข้องใจเกี่ยวกับการชาร์จโทรศัพท์ และช่วยให้คุณเข้าใจความจริงเกี่ยวกับการดูแลแบตเตอรี่

1. หากฉันปล่อยทิ้งไว้ให้ชาร์จข้ามคืน แบตเตอรี่จะเสียหายหรือไม่?

ความจริง: ไม่จำเป็น!

ก่อนอื่น มาพูดถึงความเชื่อผิดๆ ที่ว่า "ชาร์จโทรศัพท์ข้ามคืน" กันก่อน หลายคนกังวลว่าการเสียบปลั๊กโทรศัพท์ทิ้งไว้ข้ามคืนจะทำให้แบตเตอรี่ชาร์จมากเกินไปและอายุการใช้งานของแบตเตอรี่ลดลง ความกังวลนี้มีมูลความจริงหรือไม่

แบตเตอรี่โทรศัพท์มือถือสมัยใหม่เกือบทั้งหมดเป็นแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน ซึ่งแตกต่างจากแบตเตอรี่นิกเกิลเมทัลไฮไดรด์รุ่นเก่า แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนมีระบบป้องกันการชาร์จอัจฉริยะ เมื่อแบตเตอรี่โทรศัพท์ชาร์จเต็มแล้ว ระบบจะหยุดชาร์จโดยอัตโนมัติ แม้ว่าคุณจะเสียบปลั๊กโทรศัพท์ทิ้งไว้ข้ามคืน ระบบก็จะไม่ชาร์จต่อ อันที่ จริง โทรศัพท์ส่วนใหญ่จะเข้าสู่โหมด "ชาร์จแบบหยด" หลังจากชาร์จเต็มแล้ว โหมดนี้จะรักษาระดับแบตเตอรี่ให้อยู่ที่ 100% และชาร์จด้วยกระแสไฟฟ้าต่ำมาก ซึ่งแทบจะไม่ก่อให้เกิดความเสียหายใดๆ ต่อแบตเตอรี่

แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าการชาร์จโทรศัพท์ทิ้งไว้ข้ามคืนจะไม่เป็นอันตราย การปล่อยทิ้งไว้ที่แบตเตอรี่เต็ม 100% เป็นเวลานาน โดยเฉพาะในสภาพอากาศร้อน อาจทำให้แบตเตอรี่เสื่อมสภาพเร็วขึ้น ดังนั้น หากทำได้ ลองถอดปลั๊กโทรศัพท์หลังจากชาร์จเต็มแล้ว และหลีกเลี่ยงการชาร์จโทรศัพท์จนเต็มเป็นเวลานาน แม้ว่าโทรศัพท์รุ่นใหม่ๆ จะทำได้ดีในเรื่องนี้ก็ตาม

2. การชาร์จแบตเตอรี่ถึง 100% จะทำให้แบตเตอรี่เสียหาย ดังนั้นควรชาร์จแบตเตอรี่ไว้ที่ 80% หรือไม่?

ความจริง: มันไม่ใช่สิ่งที่แน่นอน กุญแจสำคัญอยู่ที่สภาพแวดล้อมการใช้งานและนิสัย

อีกคำกล่าวที่มักพบคือ "อย่าชาร์จจนเต็ม ให้ต่ำกว่า 80%" คำกล่าวนี้เกิดจากความเข้าใจผิดเกี่ยวกับวงจรการชาร์จแบตเตอรี่ลิเธียม กระบวนการชาร์จแบตเตอรี่ลิเธียมไม่ได้ไวต่อ "ปรากฏการณ์ความจำ" เท่ากับแบตเตอรี่นิกเกิลเมทัลไฮไดรด์ ดังนั้นการชาร์จให้อยู่ที่ 80% จึงไม่จำเป็น

ในความเป็นจริง อายุการใช้งานของแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนขึ้นอยู่กับรอบการชาร์จมากกว่า โดยทั่วไปแล้ว รอบการชาร์จหมายถึงการชาร์จแบตเตอรี่จาก 0% ถึง 100% (หรือจาก 50% ถึง 100% จากนั้นจาก 100% ถึง 50%) อายุการใช้งานของแบตเตอรี่ขึ้นอยู่กับจำนวนรอบการชาร์จ ไม่ใช่แค่จำนวนครั้งที่ชาร์จเท่านั้น

ดังนั้น แม้ว่าการรักษาระดับแบตเตอรี่ให้อยู่ระหว่าง 40% ถึง 80% จะช่วยยืดอายุการใช้งานแบตเตอรี่ได้ แต่คุณก็ไม่ต้องกังวลว่าจะต้องหยุดอยู่ที่ 80% ทุกครั้ง ตราบใดที่คุณไม่ปล่อยให้โทรศัพท์อยู่ในระดับต่ำหรือสูงเกินไปเป็นเวลานาน ก็สามารถชาร์จแบตเตอรี่ให้ถึง 100% เป็นครั้งคราวได้

3. เมื่อใช้โทรศัพท์มือถือขณะชาร์จ แบตเตอรี่จะร้อนจัด จะทำให้เสียหายจริงหรือไม่

ความจริง: การใช้งานพอประมาณจะไม่ส่งผลเสียต่อแบตเตอรี่ แต่ควรหลีกเลี่ยงความร้อนที่มากเกินไป

หลายคนยังคงใช้โทรศัพท์ขณะชาร์จ โดยเฉพาะเมื่อดูวิดีโอ เล่นเกม หรือท่องเว็บ คำถามคือ การใช้โทรศัพท์ขณะชาร์จจะทำให้แบตเตอรี่ร้อนเกินไป ความร้อนสูงเกินไปในระยะยาวจะส่งผลเสียต่อแบตเตอรี่หรือไม่

คำตอบคือ: **การใช้งานในระดับปานกลางเป็นที่ยอมรับได้ แต่ความร้อนที่มากเกินไปอาจทำให้แบตเตอรี่เสียหายได้** การใช้งานแบตเตอรี่ในอุณหภูมิสูง โดยเฉพาะสูงกว่า 40°C จะเร่งปฏิกิริยาทางเคมีและทำให้แบตเตอรี่เสื่อมสภาพเร็วขึ้น ความร้อนของโทรศัพท์เองไม่ได้ทำให้แบตเตอรี่เสียหายทันที แต่การที่แบตเตอรี่ร้อนเป็นเวลานานอาจทำให้อายุการใช้งานลดลง

เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหานี้ ให้พยายามหลีกเลี่ยงการใช้งานที่ต้องใช้พลังงานสูงในขณะชาร์จ เช่น การเล่นเกมขนาดใหญ่ การเปิดแอปพลิเคชันประสิทธิภาพสูงหลายรายการ เป็นต้น หากโทรศัพท์ร้อนเกินไปอย่างจริงจัง คุณสามารถลองทำให้เย็นลง เช่น วางไว้ในที่ที่มีอากาศถ่ายเทได้สะดวก และหลีกเลี่ยงการใช้เคสโทรศัพท์

4. ยิ่งชาร์จเร็วเท่าไหร่ก็ยิ่งดีเท่านั้น มันสามารถเพิ่มประสิทธิภาพการชาร์จได้จริงหรือ?

ความจริง: การชาร์จเร็วมีข้อดี แต่ไม่เหมาะกับโทรศัพท์มือถือทุกรุ่น

ด้วยความนิยมของเทคโนโลยีการชาร์จเร็ว ผู้ใช้หลายคนเชื่อว่า "ยิ่งชาร์จเร็วเท่าไหร่ ก็ยิ่งใช้เวลาในการชาร์จโทรศัพท์นานขึ้นเท่านั้น" จริงอยู่ว่าเทคโนโลยีการชาร์จเร็วสามารถชาร์จได้ในเวลาอันสั้น ช่วยประหยัดเวลาได้มาก แต่ความเร็วในการชาร์จเร็วไม่ได้หมายความว่าจะ "ไม่เป็นอันตราย" อย่างสมบูรณ์

โดยทั่วไปแล้วการชาร์จเร็วจะเพิ่มความเร็วในการชาร์จโดยการเพิ่มกระแสหรือแรงดันไฟฟ้า แต่ **การชาร์จเร็วยังเพิ่มอุณหภูมิของแบตเตอรี่ด้วย** การใช้การชาร์จเร็วกำลังสูงบ่อยๆ เป็นเวลานานอาจเพิ่มภาระความร้อนให้กับแบตเตอรี่ ซึ่งท้ายที่สุดจะส่งผลเสียต่อสุขภาพของแบตเตอรี่ ดังนั้น การชาร์จเร็วบ่อยๆ จึงไม่เหมาะกับโทรศัพท์ทุกรุ่น โดยเฉพาะรุ่นราคาประหยัดหรือรุ่นที่มีแบตเตอรี่ขนาดเล็ก

หากโทรศัพท์ของคุณรองรับการชาร์จเร็วและต้องการประหยัดเวลาจริงๆ คุณสามารถใช้การชาร์จเร็วได้ อย่างไรก็ตาม หากคุณไม่เร่งรีบ การใช้โหมดการชาร์จมาตรฐานจะเอื้อต่อการบำรุงรักษาแบตเตอรี่ในระยะยาวมากกว่า

5. การใช้เครื่องชาร์จของบริษัทอื่นจะทำให้แบตเตอรี่เสียหายหรือไม่?

ความจริง: คุณภาพของเครื่องชาร์จสำคัญกว่ายี่ห้อ

ผู้ใช้หลายคนอาจเชื่อว่าการใช้เครื่องชาร์จจากผู้ผลิตรายอื่นจะทำให้แบตเตอรี่เสียหายอย่างถาวร แต่ในความเป็นจริงแล้ว ปัจจัยสำคัญไม่ได้อยู่ที่ยี่ห้อของเครื่องชาร์จ แต่เป็นเรื่องของคุณภาพ เครื่องชาร์จคุณภาพต่ำอาจไม่มีระบบป้องกันไฟเกินในตัวหรือระบบการจัดการการชาร์จ ซึ่งอาจนำไปสู่กระแสไฟฟ้าที่ไม่เสถียรและทำให้แบตเตอรี่เสียหายได้ ดังนั้น การเลือกเครื่องชาร์จที่ได้รับการรับรองจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งต่อความปลอดภัยของแบตเตอรี่

แน่นอนว่าควรเลือกที่ชาร์จที่แบรนด์โทรศัพท์มือถือแนะนำอย่างเป็นทางการ และหลีกเลี่ยงการใช้ที่ชาร์จราคาถูกที่ไม่ได้รับการรับรอง ควรใช้สายชาร์จและที่ชาร์จของแท้ ซึ่งไม่เพียงแต่ปลอดภัยและเชื่อถือได้เท่านั้น แต่ยังรับประกันประสิทธิภาพในการชาร์จอีกด้วย

Anker 313 Charger 45W GaN 312 Charger 25W สำหรับ Samsung Galaxy/ iPhone 16 น้ำหนักเบา Fast Charger ขาปลั๊กพับเก็บ

฿339-฿885

ซื้อสินค้า

6. การชาร์จเร็วเกินไปจะส่งผลต่ออายุการใช้งานแบตเตอรี่หรือไม่?

ความจริง: ใช่ แต่ขึ้นอยู่กับสถานการณ์

การชาร์จความเร็วสูงอาจทำให้แบตเตอรี่เสื่อมสภาพเร็วขึ้น เครื่องชาร์จกำลังสูงจะก่อให้เกิดความร้อนมากขึ้น ทำให้อุณหภูมิภายในแบตเตอรี่สูงขึ้น ซึ่งส่งผลต่ออัตราการเกิดปฏิกิริยาทางเคมี ดังนั้น การชาร์จเร็วเกินไปอาจทำให้ประสิทธิภาพของแบตเตอรี่เสื่อมลงเมื่อเวลาผ่านไป

อย่างไรก็ตาม โทรศัพท์รุ่นใหม่ส่วนใหญ่มีระบบจัดการการชาร์จที่ปรับความเร็วในการชาร์จอย่างชาญฉลาดตามอุณหภูมิและสภาพของแบตเตอรี่ ดังนั้น ตราบใดที่คุณไม่ได้ใช้ระบบชาร์จเร็วมากเกินไป อายุการใช้งานแบตเตอรี่ก็ไม่น่าจะได้รับผลกระทบมากนัก

7. สรุป: วิธีการชาร์จที่ “ถูกต้อง” คืออะไร?

ไม่มี "วิธีที่ถูกต้อง" เพียงวิธีเดียวในการชาร์จโทรศัพท์ของคุณ ขึ้นอยู่กับการใช้งาน พฤติกรรมการชาร์จ และคุณลักษณะของโทรศัพท์ ต่อไปนี้คือเคล็ดลับง่ายๆ ในการชาร์จที่จะช่วยถนอมแบตเตอรี่ของคุณ:

UGREEN Nexode Mini GaN 45W Charger

฿392-฿850

ซื้อสินค้า

1. หลีกเลี่ยงการใช้พลังงานมากเกินไป : พยายามหลีกเลี่ยงการระบายพลังงานโทรศัพท์ของคุณจนหมดก่อนชาร์จ และอย่าชาร์จจนเต็ม 100% บ่อยครั้ง

2. การควบคุมความร้อน : พยายามหลีกเลี่ยงการใช้งานโทรศัพท์มากเกินไปในขณะชาร์จ โดยเฉพาะการใช้งานที่ต้องใช้ความเข้มข้นสูงในระหว่างกระบวนการชาร์จ

3. เลือกเครื่องชาร์จที่ถูกต้อง : ใช้เครื่องชาร์จที่มีแบรนด์ที่มีชื่อเสียงและได้รับการรับรอง และหลีกเลี่ยงเครื่องชาร์จของบริษัทอื่นที่มีคุณภาพต่ำ

4. ใช้การชาร์จด่วนแต่พอประมาณ : หากคุณไม่รีบร้อนในการชาร์จ ให้พยายามเลือกโหมดการชาร์จมาตรฐานเพื่อลดความร้อนของแบตเตอรี่

ตราบใดที่คุณใช้งานอย่างถูกต้อง แบตเตอรี่โทรศัพท์ของคุณก็จะมีอายุการใช้งานที่ยาวนานและดีต่อสุขภาพมากขึ้น และหลีกเลี่ยงความเสียหายที่ไม่จำเป็นที่เกิดจากการชาร์จที่ไม่เหมาะสม หวังว่าข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการชาร์จโทรศัพท์เหล่านี้จะช่วยคุณขจัดความกังวลที่ไม่จำเป็นเหล่านั้นได้ การชาร์จไม่ใช่สาเหตุแห่งความกังวลอีกต่อไป แต่เป็นตัวช่วยที่ดีที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ!

Anker Zolo GaN PD 30W Charger

฿219-฿429

ซื้อสินค้า