The Weeknd ครองสถิติใหม่ After Hours Til Dawn Tour เป็นทัวร์ศิลปินเดี่ยวชายที่ทำเงินสูงสุด

ในโลกของดนตรีป็อประดับโลก มีศิลปินเพียงไม่กี่คนที่สามารถก้าวข้ามความสำเร็จของตัวเองซ้ำแล้วซ้ำเล่า พร้อมส่งผลกระทบทั้งในเชิงศิลปะ วัฒนธรรม และเศรษฐกิจดนตรีระดับโลก หนึ่งในนั้นคือ The Weeknd หรือ Abel Tesfaye ศิลปินผู้มีลายเซ็นทางเสียงและสไตล์เป็นเอกลักษณ์

ล่าสุด Variety รายงานว่า After Hours Til Dawn Tour ของ The Weeknd ได้ทำรายได้ทะลุ 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ อย่างเป็นทางการ ทำให้ทัวร์นี้ขึ้นแท่น ทัวร์คอนเสิร์ตที่ทำเงินสูงที่สุดตลอดกาลสำหรับศิลปินเดี่ยวชาย และยังเป็นหนึ่งในทัวร์ที่ทำรายได้สูงที่สุดเท่าที่เคยมีมาในอุตสาหกรรมคอนเสิร์ตโลก

รายงานเผยว่าพวกเขาขายบัตรคอนเสิร์ตไปมากกว่า 7.5 ล้านใบ จาก 53 โชว์ทั่วโลก และยังเตรียมเพิ่มอีก 40 โชว์ในปี 2026 ซึ่งหมายความว่าตัวเลขนี้จะยังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในอีกสองปีข้างหน้า ทำให้สถิติใหม่ของเขาแข็งแกร่งยิ่งขึ้น

ปีเดียวทำ Sold Out กว่า 40 โชว์ ศิลปินชายผิวดำที่ทำรายได้ทัวร์สูงสุดในหลายเมืองใหญ่

ตลอดการจัดทัวร์สเตเดียมในอเมริกาเหนือเพียงปีเดียว The Weeknd ทำโชว์ Sold Out กว่า 40 โชว์ติด ซึ่งเป็นตัวเลขที่ชี้ให้เห็นถึงความนิยมระดับปรากฏการณ์ในตลาดเพลงอเมริกา

เขาจึงกลายเป็น ศิลปินชายผิวดำที่ทำรายได้จากทัวร์สูงสุดตลอดกาล ในหลายเมืองใหญ่ เช่น

• นิวยอร์ก

• เดนเวอร์

• ซานตาคลารา

• ซีแอตเทิล

• มอนทรีออล

• ออร์แลนโด

• อาร์ลิงตัน

• ฮุสตัน

หลายเมืองบันทึกว่าเป็น “ทัวร์ที่ทำเงินมากที่สุดนับตั้งแต่เคยมีการจัดคอนเสิร์ตในสเตเดียม” ซึ่งตอกย้ำถึงอิทธิพลของ The Weeknd ทั้งในเชิงดนตรีและอำนาจขายตั๋วของเขา

เส้นทางทัวร์ระดับโลก จากอเมริกาเหนือสู่ยุโรป ละตินอเมริกา และออสเตรเลีย

After Hours Til Dawn Tour เริ่มต้นขึ้นในปี 2022 โดยเป็นทัวร์ที่ผสานศิลปะ ดนตรี และโปรดักชันระดับภาพยนตร์ไซไฟเข้าไว้ด้วยกัน โดดเด่นด้วยลุคเมืองดิสโทเปีย ไฟนีออน และเส้นเรื่องที่เชื่อมโยงกับอัลบั้ม After Hours และ Dawn FM ทำให้ทัวร์ครั้งนี้ถูกยกย่องว่าเป็น “คอนเสิร์ตที่สร้างประสบการณ์ทางภาพและเสียงอย่างสมบูรณ์”

เขาเดินทางไปโชว์ในหลายภูมิภาคทั่วโลก ได้แก่

• อเมริกาเหนือ

• ยุโรป

• สหราชอาณาจักร

• ละตินอเมริกา

• ออสเตรเลีย

และในปี 2026 The Weeknd จะกลับมาทัวร์อีกครั้ง โดยเตรียมไปจัดโชว์ใน

• เม็กซิโก

• บราซิล

• ยุโรป

• สหราชอาณาจักร

ซึ่งเป็นการขยายอาณาจักรทัวร์เข้าสู่ทวีปที่แฟนเพลงกำลังรอคอยมายาวนาน

ไม่ใช่แค่ทัวร์เพื่อรายได้ แต่ยังช่วยคนทั่วโลกผ่านการบริจาคกว่า 8.5 ล้านดอลลาร์

หนึ่งในสิ่งที่ทำให้ After Hours Til Dawn Tour มีความหมายมากกว่าเป็นเพียงการแสดงดนตรี คือ เจตนาของ The Weeknd ในการช่วยเหลือผู้คนที่ขาดแคลนผ่านกิจกรรมการกุศล

ตลอดการทัวร์ เขาได้บริจาคเงินมากกว่า 8.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ผ่าน

• XO Humanitarian Fund

• Global Citizen

เงินจำนวนนี้ถูกนำไปใช้สนับสนุนโครงการช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม อาหาร และการฟื้นฟูความเป็นอยู่ในหลายประเทศทั่วโลก

ในปี 2026 เขายังตั้งใจจะให้การสนับสนุนต่อไป โดยร่วมงานกับ World Food Program (WFP) ผ่านองค์กร Global Citizen เพื่อช่วยเหลือผู้คนที่ประสบปัญหาความอดอยากและขาดแคลนอาหาร

การที่เขาใช้พื้นที่ของทัวร์เป็นช่องทางช่วยเหลือสังคม ทำให้ภาพลักษณ์ของ The Weeknd ไม่ได้หยุดอยู่แค่ “ศิลปิน” แต่กลายเป็น “ผู้สร้างผลกระทบเชิงบวกระดับโลก”

After Hours Til Dawn ทัวร์ที่เป็นมากกว่าคอนเสิร์ต แต่คือโลกอีกใบของ The Weeknd

หนึ่งในปัจจัยที่ทำให้ทัวร์นี้ได้รับความนิยมสูงมาก เพราะมันไม่ได้เป็นแค่การแสดงดนตรี แต่เป็น “ประสบการณ์” แบบ Immersive ที่เอาเรื่องราวจากอัลบั้ม After Hours และ Dawn FM มาร้อยเรียงเป็นการเดินทางทางอารมณ์

ด้วยโปรดักชันไฟระดับภาพยนตร์, ฉากสเตเดียมขนาดยักษ์, กราฟิกสไตล์ไซไฟนีออน, และความละเอียดของซาวด์ที่ยกระดับทัวร์สเตเดียมให้เป็นเหมือนงานศิลปะ The Weeknd จึงได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในศิลปินที่มีวิสัยทัศน์ด้านการแสดงไลฟ์มากที่สุดของยุค

หลายสื่อถึงขั้นระบุว่า After Hours Til Dawn อาจเป็นหนึ่งใน “ทัวร์ที่ทรงอิทธิพลของทศวรรษ” เพราะรวมทั้งงานดนตรี แฟชั่น ศิลปะ และข้อความทางสังคมเข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว

ตัวเลข 7.5 ล้านใบจาก 53 โชว์ และอีก 40 โชว์ที่จะจัดในปี 2026 ทำให้ทัวร์นี้ “ยังเติบโตไม่หยุด” และมีโอกาสทำลายสถิติของตัวเองซ้ำอีกหลายครั้ง

สำหรับ The Weeknd ทัวร์นี้ไม่ใช่แค่ความสำเร็จทางรายได้ แต่คือบทพิสูจน์ว่าเขาคือหนึ่งในศิลปินที่ทรงอิทธิพลที่สุดของศตวรรษ ทั้งในด้านดนตรี, ภาพลักษณ์, สังคม, และวิสัยทัศน์ระดับโลก

ในโลกดนตรีที่ศิลปินมากมายผ่านเข้ามาและหายไป The Weeknd ยังคงยืนหยัดสร้างผลงานที่ทั้งยิ่งใหญ่ งดงาม และเต็มไปด้วยคุณค่า จน After Hours Til Dawn Tour กลายเป็นทัวร์ที่จารึกลงไปในประวัติศาสตร์คอนเสิร์ตระดับโลกอย่างสมศักดิ์ศรี 🌌🎤✨