“ฉันจะกินชาเย็นทุกวัน”ร้านชาไม่ใส่สี

user avatar
SuthruthaiP.(Wine)·2025-08-21T16:36Z
点赞
“ฉันจะกินชาเย็นทุกวัน”ร้านชาไม่ใส่สี

ความสำเร็จของร้าน “ฉันจะกินชาเย็นทุกวัน”

ในยุคที่ตลาดเครื่องดื่มในประเทศไทยเต็มไปด้วยกาแฟ ชาเขียว และชาต่างประเทศหลากหลายยี่ห้อ มีเพียงไม่กี่ร้านที่เลือกหยิบยก “ชาเย็นไทย” ซึ่งเป็นรสชาติคุ้นเคยของคนไทย มาเป็นหัวใจหลักของธุรกิจ หนึ่งในนั้นคือร้านที่มีชื่อสะดุดตาและยาวเป็นพิเศษว่า “ฉันจะกินชาเย็นทุกวัน” ร้านที่ไม่เพียงแต่ขายเครื่องดื่ม แต่ยังขายแนวคิดและไลฟ์สไตล์ จนกลายเป็นกระแสที่พูดถึงไปทั่วในเวลาอันรวดเร็ว

ae81ad47-5ab7-483b-9c4c-b195d199310c.webp

ชื่อร้านที่ยาวและตรงไปตรงมา กลายเป็นสิ่งแรกที่ดึงดูดความสนใจของผู้คน เพราะมันไม่ใช่แค่ชื่อ แต่เป็น “คำประกาศเจตนา” ที่ใครหลายคนอ่านแล้วรู้สึกอินทันทีว่า “ใช่เลย นี่คือเราที่ชอบดื่มชาเย็นทุกวัน” ชื่อที่ดูเหมือนเล่นสนุกกลับสร้างการจดจำอย่างทรงพลัง ทำให้แบรนด์นี้โดดเด่นขึ้นมาท่ามกลางตลาดที่มีการแข่งขันสูง

เบื้องหลังความสำเร็จไม่ได้มาจากชื่อเท่านั้น แต่ยังมาจากความเข้าใจรสชาติของชาไทยอย่างลึกซึ้ง เจ้าของร้านซึ่งเติบโตในจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้นำความทรงจำและประสบการณ์จากการดื่มชาเย็นตั้งแต่เด็ก มาผสมผสานใบชาจากหลายแหล่ง ทั้งจากภาคใต้ที่เข้มข้น และจากภาคกลางที่หอมละมุน จนได้รสชาติที่กลมกล่อมพิเศษ เป็นสูตรที่แตกต่างและกลายเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ จุดขายหลักของทางร้านคือ ชาเย็นสูตรไม่ใส่สีผสมอาหาร

นอกจากรสชาติแล้ว การออกแบบแบรนด์ก็มีบทบาทสำคัญ “ฉันจะกินชาเย็นทุกวัน” ลงทุนสร้างโลโก้ที่ชัดเจน สีส้มสดที่เป็นมิตร และบรรจุภัณฑ์ที่ดูทันสมัย จนกลายเป็นแก้วชาเย็นที่ “Instagrammable” ลูกค้าที่ซื้อเครื่องดื่มไม่เพียงแค่ได้รสชาติอร่อย แต่ยังได้แก้วที่อยากหยิบมาถ่ายรูปลงโซเชียลมีเดีย สิ่งนี้กลายเป็นพลังการตลาดปากต่อปากที่ทำให้ร้านดังขึ้นอย่างรวดเร็ว

จุดเปลี่ยนสำคัญคือการเลือกทำเล จากเดิมที่เริ่มขายในตลาดนัดชื่อดัง แต่ลูกค้าส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติ จึงไม่ตอบโจทย์นัก จนเมื่อย้ายร้านไปเปิดที่ถนนบรรทัดทอง ซึ่งเป็นย่านที่คนไทยและวัยทำงานสัญจรจำนวนมาก ยอดขายก็พุ่งทะยาน กลายเป็นร้านชาเย็นที่คนต่อคิวซื้อทุกวัน

b610f9e3-c082-476b-b45a-3e18dc57e2d5.jpeg

ด้วยกลยุทธ์การตลาดออนไลน์ที่ทันสมัย การทำคอนเทนต์ลง TikTok และโซเชียลมีเดียอย่างสม่ำเสมอ รวมถึงการร่วมมือกับแบรนด์อื่น ๆ เพื่อสร้างกระแสใหม่ ทำให้แบรนด์นี้กลายเป็นที่พูดถึงอย่างกว้างขวาง เพียงเวลาไม่นาน “ฉันจะกินชาเย็นทุกวัน” ก็สร้างยอดขายถึงระดับร้อยล้านบาทต่อปี และขายได้ไม่ต่ำกว่าวันละพันแก้ว

ปัจจุบัน ร้านได้ขยายกิจการไปแล้วกว่า 19 สาขา ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล พร้อมตั้งเป้าที่จะขยายให้ครบ 35 สาขาภายในปีเดียว นอกจากนั้นยังรุกตลาดใหม่ผ่านการจับมือกับร้านขนม และการวางจำหน่ายชาเย็นพร้อมดื่มในร้านสะดวกซื้อกว่า 15,000 สาขาทั่วประเทศ รวมทั้งการพัฒนาผลิตภัณฑ์ชาเย็นแบบ 3-in-1 ให้คนสามารถดื่มได้สะดวกขึ้น

ลำดับ

สาขา

พื้นที่

1

Chula Soi 12 (สำนักงานใหญ่)

บรรทัดทอง, กรุงเทพฯ

2

Pop-Up Chula Soi 12

ใกล้สาขาหลัก

3

Mega Bangna

สมุทรปราการ

4

One Bangkok

ปทุมวัน, กรุงเทพฯ

5

Siam Square One

ปทุมวัน, กรุงเทพฯ

6

Event Pop-Up (สีลม)

บางรัก, กรุงเทพฯ

7

Samyan Mitrtown

สามย่าน, ปทุมวัน, กรุงเทพฯ

8

เดอะมอลล์งามวงศ์วาน

นนทบุรี

9

ซีคอนบางแค (Seacon Bangkae)

กรุงเทพฯ

10

The Mall บางกะปิ

กรุงเทพฯ

11

Central Westville

นนทบุรี

12

Central พระราม 3

กรุงเทพฯ

13

Central ลาดพร้าว

กรุงเทพฯ

14

Fashion Island

กรุงเทพฯ

15

ตลาดรวมทรัพย์ อโศก

กรุงเทพฯ

16

EMSPHERE (คลองเตย)

กรุงเทพฯ

17

Central เวสต์เกต

นนทบุรี

18

Future Park รังสิต (ฟิวเจอร์พาร์ครังสิต)

ปทุมธานี

19

สยามพารากอน

กรุงเทพฯ

เรื่องราวของ “ฉันจะกินชาเย็นทุกวัน” จึงไม่ใช่เพียงแค่ความสำเร็จของร้านเครื่องดื่มเล็ก ๆ แต่เป็นตัวอย่างของการสร้างธุรกิจจากจุดเล็ก ๆ ที่เข้าใจหัวใจผู้บริโภค รู้จักสร้างแบรนด์ที่โดดเด่น และใช้การตลาดออนไลน์อย่างชาญฉลาด จนสามารถยกระดับ “ชาเย็นไทย” จากเครื่องดื่มริมทาง ขึ้นมาเป็นธุรกิจร้อยล้านที่จับต้องได้จริง

Credit: รูปWongnai

บทความที่เกี่ยวข้อง

เมื่อคุณกำลังเดินอยู่บนถนนในโตเกียว ลอนดอน หรือซานฟรานซิสโก จู่ ๆ ก็เห็นป้ายร้านเล็ก ๆ ที่มีโลโก้รูปมือคู่หนึ่งกำลังถือใบชา ใช่แล้ว! นั่นคือ “ชาตรามือ (ChaTraMue)” แบรนด์ชาไทยที่กลายเป็นตำนานและกำลังครองใจคนทั่วโลกในฐานะสัญลักษณ์แห่ง “Thai
ชาตรามือ ทำไมถึงดังไกลทั่วโลก?
เวลานึกถึงเครื่องดื่มยอดฮิตของคนไทย หลายคนน่าจะนึกถึง “ชาไทยเย็น” สีส้มสดใส หวานหอมมัน ที่ดื่มแล้วสดชื่นชื่นใจ แต่ถ้าพูดถึง “ชานม” ภาพที่ผุดขึ้นมาในหัวก็คือแก้วชานมไข่มุกสุดฮอตที่วัยรุ่นชื่นชอบ มีไข่มุกหนึบ ๆ เคี้ยวเพลิน ซึ่งทั้งสองเมนูต่าง
🧋 ชาไทยกับชานม ต่างกันยังไง?
ชาตรามือ ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2488 โดยเริ่มจากการคัดเลือกใบชาคุณภาพดีจากแหล่งปลูกชาชั้นเยี่ยม มาผ่านกระบวนการผลิตตามสูตรเฉพาะของครอบครัว จนได้รสชาติและกลิ่นหอมที่เป็นเอกลักษณ์ ทำให้ชาตรามือกลายเป็นแบรนด์ชาไทยอันดับ 1 ในใจคนไทยและได้รับความน
🍵 ชาตรามือ 5 รสชาติที่ต้องชิมสักครั้งในชีวิต

บทความล่าสุดดูเพิ่มเติม

กระแสนวัตกรรมกำลังก่อตัวขึ้นอย่างเงียบๆ ในตลาดเครื่องดื่มที่คึกคักและคึกคักของประเทศไทย แบรนด์ชั้นนำกำลังเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ที่น่าสนใจมากมาย ตั้งแต่เครื่องดื่มจากพืชที่อุดมด้วยคุณค่าทางโภชนาการ ไปจนถึงกาแฟรสชาติพิเศษและน้ำดื่มสูตรพิเศษที่ต
2025-10-10T08:54Z
ตลาดเครื่องดื่มไทย: ผลิตภัณฑ์ใหม่หลากหลาย มอบสุขภาพและความอร่อย ในประสบการณ์ที่ไม่เหมือนเดิม
🧊 น้ำแข็ง…ของธรรมดาที่ไม่ธรรมดาเลยเวลาสั่งเครื่องดื่มเย็น ๆ สักแก้ว ไม่ว่าจะเป็นกาแฟเย็น ชานม หรือโซดาซาบซ่าสิ่งหนึ่งที่ขาดไม่ได้เลยก็คือ “น้ำแข็ง”แต่เคยสังเกตไหมว่าแต่ละร้านกลับใช้น้ำแข็งไม่เหมือนกันเลย?บางร้านใช้น้ำแข็งหลอด บางร้านใช้น้ำ
🧊 น้ำแข็งแต่ละแบบแตกต่างกันยังไง? ทำไมร้านน้ำแต่ละร้านถึงเลือกใช้ไม่เหมือนกัน
ลองจินตนาการดูสิ คุณกำลังนั่งอยู่ในร้านอาหารบรรยากาศดี ๆ มีไก่ทอดร้อน ๆ อยู่ตรงหน้า กลิ่นหอมของหนังกรอบ ๆ ลอยมาแตะจมูก พอได้กัดคำแรก ความกรุบของไก่ทอดก็เข้ากันอย่างลงตัวกับความซ่าของ “Pepsi” ที่เพิ่งเปิดฝา เสียงจากฟองซ่าที่กระแทกหูเบา ๆ ช่ว
Pepsi เครื่องดื่มที่กินกับอะไรก็อร่อย เติมรสชาติให้ทุกมื้ออร่อยกว่าที่เคย