กาแฟ หรือแกฟะ ที่ทำให้ใจสั่น ทำไมบางคนดื่มกาแฟแล้วหัวใจเต้นแรง?

user avatar
Ta(Phanuphong.Taptimthong)·2025-10-15T04:02Z
点赞
กาแฟ หรือแกฟะ ที่ทำให้ใจสั่น ทำไมบางคนดื่มกาแฟแล้วหัวใจเต้นแรง?

เคยไหม ตื่นเช้ามาพร้อมกลิ่นหอมของ กาแฟร้อน ๆ ที่อบอวลทั่วบ้าน แค่ได้กลิ่นก็รู้สึกสดชื่นขึ้นมาทันที เหมือนร่างกายได้ปลุกให้ตื่นจากภวังค์แห่งความง่วง แต่พอดื่มไปได้ไม่กี่อึก หัวใจกลับเต้นแรง มือสั่น เหงื่อออก รู้สึกเหมือนจะใจเต้นหลุดออกมาจากอก บางคนถึงขั้นต้องนั่งพัก เพราะ “ใจมันสั่น” ทั้งที่ดื่มแค่หนึ่งแก้ว

คำถามคือ ทำไมบางคนดื่มกาแฟแล้วรู้สึกดี สดชื่น พร้อมลุยทุกงาน
แต่บางคนกลับ “ใจสั่น” “มือสั่น” หรือ “เวียนหัว” ราวกับดื่มเครื่องดื่มชูกำลังแรงเกินไป?

บทความนี้จะพาไปเจาะลึกกันแบบเข้าใจง่าย ว่าแท้จริงแล้ว “กาแฟทำให้ใจสั่น” เพราะอะไร ใครที่ควรระวัง และมีวิธีไหนบ้างที่จะยังคงดื่มกาแฟได้แบบปลอดภัยโดยไม่ต้องกลัวหัวใจเต้นแรง


กาแฟคืออะไร? ทำไมมันถึงทำให้เราตื่นได้?

“กาแฟ” (Coffee) คือเครื่องดื่มที่ทำจากเมล็ดของต้นกาแฟ โดยผ่านกระบวนการคั่ว บด และสกัดด้วยน้ำร้อนจนได้รสชาติและกลิ่นเฉพาะตัว สิ่งที่ทำให้กาแฟมีพลังปลุกความง่วงได้คือสารที่ชื่อว่า “คาเฟอีน” (Caffeine)

คาเฟอีนเป็นสารกระตุ้นระบบประสาทส่วนกลาง ที่ช่วยให้ร่างกาย “ตื่นตัว” ลดความง่วง และเพิ่มสมาธิในการทำงาน มันทำงานโดยไปขัดขวางสารชื่อ “อะดีโนซีน” (Adenosine) ซึ่งมีหน้าที่ทำให้ร่างกายรู้สึกง่วง เมื่อคาเฟอีนเข้ามาแทนที่ ร่างกายจึงรู้สึกเหมือน “ตื่น” ขึ้นมาทันที

นอกจากนั้น คาเฟอีนยังช่วยกระตุ้นการหลั่งของสารอะดรีนาลีน (Adrenaline) ทำให้หัวใจเต้นเร็วขึ้น ความดันโลหิตสูงขึ้นเล็กน้อย และระบบเผาผลาญทำงานไวขึ้นด้วย

นี่คือเหตุผลว่าทำไม “กาแฟ” จึงกลายเป็นเครื่องดื่มคู่ใจของคนทำงาน นักเรียน นักศึกษา และคนที่ต้องการเริ่มวันใหม่อย่างกระปรี้กระเปร่า


16ffd5e1-1524-43f6-8502-2e56cdea5ade.png

แล้วทำไมบางคน “ดื่มกาแฟแล้วใจสั่น”?

คำตอบง่าย ๆ คือ เพราะร่างกายตอบสนองต่อคาเฟอีนไม่เท่ากัน บางคนดื่มกาแฟหนึ่งแก้วแล้วรู้สึกสดชื่น แต่บางคนแค่จิบเดียวก็ใจเต้นแรง เหงื่อออก หรือรู้สึกไม่สบายตัว

สาเหตุหลัก ๆ ที่ทำให้กาแฟทำให้ใจสั่น ได้แก่

  1. ดื่มกาแฟที่มีคาเฟอีนสูงเกินไป

    กาแฟแต่ละชนิดมีปริมาณคาเฟอีนต่างกัน เช่น
    เอสเปรสโซ่ 1 ช็อต มีคาเฟอีนประมาณ 60–80 มิลลิกรัม
    กาแฟดำ 1 แก้ว (250 มล.) มีคาเฟอีนราว 100–150 มิลลิกรัม
    อเมริกาโน่เย็นบางร้าน อาจสูงถึง 200 มิลลิกรัมต่อแก้ว!
    ถ้าดื่มในปริมาณมาก หรือดื่มรวดเดียว ร่างกายอาจได้รับคาเฟอีนเกินระดับที่หัวใจรับได้

  2. ระบบประสาทไวต่อคาเฟอีน (Caffeine Sensitivity)

    บางคนมีพันธุกรรมที่ทำให้ร่างกายเผาผลาญคาเฟอีนได้ช้า คาเฟอีนจึงอยู่ในร่างกายนานกว่าปกติ ส่งผลให้หัวใจเต้นเร็ว มือสั่น หรือรู้สึกกังวล

  3. ดื่มกาแฟขณะท้องว่าง

    การดื่มกาแฟตอนเช้าโดยไม่ได้กินอาหารร่วมด้วย อาจทำให้คาเฟอีนดูดซึมเร็วขึ้น กระตุ้นระบบประสาทและหัวใจมากกว่าปกติ

  4. ร่างกายขาดน้ำหรือพักผ่อนไม่พอ

    คาเฟอีนมีฤทธิ์ขับปัสสาวะ ถ้าดื่มกาแฟในขณะที่ร่างกายขาดน้ำหรืออดนอน จะยิ่งเพิ่มความเสี่ยงหัวใจเต้นเร็วและวูบได้ง่าย

  5. มีโรคประจำตัวเกี่ยวกับหัวใจ หรือความดันโลหิตสูง

    ผู้ที่มีภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ หรือความดันสูง ควรหลีกเลี่ยงกาแฟเข้ม เพราะอาจกระตุ้นอาการได้


เหตุผลที่ “กาแฟ” ยังคงเป็นเครื่องดื่มยอดนิยมทั่วโลก

แม้กาแฟจะทำให้บางคนใจสั่น แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่ากาแฟคือหนึ่งในเครื่องดื่มที่คนทั่วโลกหลงรัก เพราะมีทั้ง รสชาติที่หลากหลาย และ คุณประโยชน์ที่มากกว่าแค่การปลุกให้ตื่น

ประโยชน์ของกาแฟที่คุณอาจไม่รู้

  • ช่วยเพิ่มสมาธิและความจำระยะสั้น

    คาเฟอีนช่วยกระตุ้นสมอง ทำให้โฟกัสได้ดีขึ้น โดยเฉพาะในช่วงเช้าหรือก่อนทำงานสำคัญ

  • ช่วยเพิ่มพลังงานและความกระฉับกระเฉง

    เพราะคาเฟอีนช่วยให้ร่างกายหลั่งอะดรีนาลีน จึงรู้สึกตื่นตัวและพร้อมลุย

  • ช่วยกระตุ้นการเผาผลาญไขมัน

    คาเฟอีนช่วยให้ระบบเผาผลาญทำงานดีขึ้นเล็กน้อย โดยเฉพาะถ้าดื่มก่อนออกกำลังกาย

  • มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง

    โดยเฉพาะกาแฟดำที่ไม่เติมน้ำตาลหรือครีมเทียม ช่วยลดความเสี่ยงโรคบางชนิด เช่น เบาหวานชนิดที่ 2 และโรคตับบางประเภท


bed04725-e6c3-40f2-b864-755c83e53d13.png

คุณสัมบัติสำคัญของ “กาแฟ” ที่ควรรู้

  1. คาเฟอีน (Caffeine)

    หัวใจหลักของกาแฟที่ช่วยกระตุ้นสมอง

  2. กรดคลอโรเจนิก (Chlorogenic Acid)

    สารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยลดการอักเสบ

  3. รสชาติและกลิ่นเฉพาะตัว

    กาแฟจากแต่ละแหล่งปลูกจะให้รสชาติแตกต่าง เช่น กาแฟบราซิลจะเข้มแน่น ส่วนกาแฟเอธิโอเปียจะหอมผลไม้

  4. รูปแบบการดื่มที่หลากหลาย

    ทั้งกาแฟดำ, ลาเต้, คาปูชิโน่, มอคค่า หรือกาแฟเย็น ก็ให้ปริมาณคาเฟอีนแตกต่างกัน


แล้วใครบ้างที่ควรระวังการดื่มกาแฟ?

  1. ผู้ที่มีอาการใจสั่นบ่อย หรือหัวใจเต้นผิดจังหวะ

  2. ผู้ที่มีโรคความดันโลหิตสูง

  3. หญิงตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร

  4. ผู้ที่นอนหลับยาก หรือมีภาวะวิตกกังวล

  5. เด็กและวัยรุ่นตอนต้น

คนกลุ่มนี้ไม่จำเป็นต้องงดกาแฟถาวร แต่อาจต้อง จำกัดปริมาณคาเฟอีนต่อวันไม่เกิน 100 มิลลิกรัม และเลือกดื่มกาแฟที่มีคาเฟอีนน้อย เช่น “ดีแคฟ (Decaf)”


เคล็ดลับดื่มกาแฟอย่างไร “ไม่ใจสั่น”

  1. เริ่มจากปริมาณน้อยก่อน

    หากเพิ่งเริ่มดื่มกาแฟ ให้เริ่มจากครึ่งแก้วหรือกาแฟลาเต้ที่มีนมผสม เพื่อลดความเข้มของคาเฟอีน

  2. อย่าดื่มตอนท้องว่าง

    พยายามดื่มหลังอาหารเช้า หรือควบคู่กับขนมปัง เพื่อชะลอการดูดซึมคาเฟอีน

  3. อย่าดื่มรวดเดียว

    ค่อย ๆ จิบทีละนิดจะดีกว่า ดื่มรวดเดียวอาจทำให้คาเฟอีนเข้าสู่ร่างกายเร็วเกินไป

  4. ดื่มน้ำเปล่าควบคู่

    คาเฟอีนขับปัสสาวะได้ดี จึงควรดื่มน้ำเปล่า 1–2 แก้วหลังจากดื่มกาแฟ เพื่อป้องกันภาวะขาดน้ำ

  5. หลีกเลี่ยงการดื่มช่วงบ่ายแก่ ๆ หรือก่อนนอน

    คาเฟอีนอาจอยู่ในร่างกายได้นานถึง 6 ชั่วโมง ถ้าดื่มตอนเย็น อาจทำให้นอนไม่หลับ

  6. เลือกกาแฟดีแคฟ (Decaf)

    สำหรับคนที่แพ้คาเฟอีนหรือดื่มแล้วใจสั่น แต่ยังอยากได้รสกาแฟ


e751905e-cff2-4731-affe-7442330bd70e.png

แล้วถ้าใจสั่นขึ้นมาแล้ว ควรทำอย่างไร?

ถ้ารู้สึกว่า ดื่มกาแฟแล้วใจสั่น หรือหัวใจเต้นแรงกว่าปกติ ให้ลองทำดังนี้

  • หยุดดื่มทันที

    และนั่งพักในที่อากาศถ่ายเท

  • ดื่มน้ำเปล่ามาก ๆ

    เพื่อช่วยขับคาเฟอีนออกจากร่างกาย

  • หายใจช้า ๆ ลึก ๆ

    เพื่อปรับสมดุลของระบบประสาท

  • หลีกเลี่ยงกาแฟหรือชาในวันนั้นต่อไป

    หากอาการไม่ดีขึ้น หรือมีอาการแน่นหน้าอก ควรรีบไปพบแพทย์


ดื่มกาแฟอย่างมีสติ คือ “หัวใจสำคัญ”

กาแฟไม่ใช่ผู้ร้าย และ “ใจสั่น” ก็ไม่ได้หมายความว่าคุณต้องเลิกกาแฟตลอดชีวิต
สิ่งสำคัญคือ “เข้าใจร่างกายตัวเอง” ว่ารับคาเฟอีนได้มากน้อยแค่ไหน

บางคนดื่มกาแฟวันละ 1–2 แก้วก็รู้สึกพอดี
บางคนอาจต้องจำกัดแค่วันละครึ่งแก้ว หรือเลือกดื่มกาแฟที่คาเฟอีนน้อยลง

การดื่มกาแฟให้ได้ประโยชน์ จึงไม่ใช่แค่เรื่องของรสชาติ
แต่เป็นเรื่องของ “ปริมาณ ความเหมาะสม และจังหวะเวลา”


สรุป กาแฟทำให้ใจสั่น เพราะร่างกายบอกให้ “ช้าลงหน่อย”

กาแฟเป็นเครื่องดื่มที่มีเสน่ห์ หอม อร่อย และช่วยให้เรามีสมาธิได้มากขึ้น แต่ในขณะเดียวกัน คาเฟอีนในกาแฟก็เป็นดาบสองคม ที่อาจกระตุ้นหัวใจให้เต้นแรงในบางคน

ดังนั้น ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่ “ดื่มกาแฟแล้วใจสั่น” ไม่ต้องตกใจ
เพียงแค่ปรับพฤติกรรมเล็กน้อย ดื่มน้อยลง ดื่มหลังอาหาร ดื่มน้ำเยอะขึ้น ก็สามารถเพลิดเพลินกับกลิ่นหอมของกาแฟได้โดยไม่ต้องกังวล

กาแฟจะดีหรือไม่ ขึ้นอยู่กับ “ปริมาณและวิธีที่เราดื่ม”
เพราะสุดท้ายแล้ว “หัวใจไม่สั่น” ก็ทำให้กาแฟแก้วนั้นอร่อยกว่าที่เคย

บทความที่เกี่ยวข้อง

หากคุณเป็นมือใหม่ในวงการกาแฟและเคยสับสนระหว่าง “อาราบิก้า” และ “โรบัสต้า” ที่ระบุในเมนู นี่คือเรื่องราวที่คุณควรรู้ เพราะในโลกของกาแฟ อาราบิก้าคือสายพันธุ์ที่ครองใจคนรักกาแฟทั่วโลกถึง 90% ด้วยรสชาติที่ซับซ้อนและกลิ่นหอมอันเป็นเอกลักษณ์ วันน
2025-08-20T03:44Z
อาราบิก้า: สุภาพบุรุษผู้แสนอ่อนโยนแห่งโลกกาแฟ
ดื่มกาแฟเวลาไหนดี?ดื่มเช้า บ่าย หรือก่อนออกกำลังกาย แบบไหนเวิร์กที่สุดหลายคนเริ่มวันใหม่ด้วยกาแฟ บางคนดื่มระหว่างวันเพื่อเติมพลัง หรือแม้แต่หลังอาหารเย็น แต่รู้ไหมว่า “ช่วงเวลา” ที่เราดื่มกาแฟก็ส่งผลต่อร่างกายเหมือนกัน ไม่ว่าจะเรื่องพลังงาน
คนรักกาแฟควรรู้: ช่วงเวลาไหนของวันเหมาะกับการดื่มกาแฟที่สุด?
ประสบการณ์ลูกค้าสำคัญกว่าผลิตภัณฑ์ประสบการณ์ของลูกค้ามีความสำคัญมากกว่าตัวผลิตภัณฑ์เสียอีก บริษัทที่เพิกเฉยต่อเรื่องนี้มักถูกทิ้งไว้ข้างหลังเพื่อนร่วมงานของฉัน ซึ่งเป็นผู้จัดการฝ่ายพัฒนาธุรกิจในบริษัทเทคโนโลยีขั้นสูง ได้พบกับซีอีโอสายการบิน
2025-08-22T05:00Z
ทำไมคนถึงยอมจ่ายแพงให้ Starbucks? ไขความลับที่ทำให้ธุรกิจนี้ไม่เหมือนใคร

บทความล่าสุดดูเพิ่มเติม

"หมูกระทะร้อนๆ ชาบูเดือดปุดๆ" เตาปิ้งย่างไฟฟ้า คือคำตอบของความสุขที่กินได้ทุกวันในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา “เตาปิ้งย่างไฟฟ้าเอนกประสงค์” กลายเป็นหนึ่งในเครื่องใช้ไฟฟ้าที่คนไทยหลายบ้านต้องมีติดครัว โดยเฉพาะในยุคที่คนชอบใช้ชีวิตแบบเรียบง่าย อยู่
เตาปิ้งย่างเอนกประสงค์ — สุขเล็กๆ ที่เกิดขึ้นได้ทุกที่ ไม่ต้องรอรวมแก๊งก็อร่อยได้!
ลองนึกถึงตอนที่คุณนั่งอยู่หน้าชาม “บะหมี่ร้อน ๆ” ที่มีทั้งกลิ่นหอมของน้ำซุป เส้นเหนียวนุ่มที่ดูเงาเล็กน้อย บวกกับหมูแดงและเกี๊ยวลวกที่วางเคียงกัน เชื่อว่าหลายคนอาจเคยสงสัยอยู่ลึก ๆ ว่า จริง ๆ แล้ว บะหมี่ที่เรากินอยู่ทุกวันนี้ ทำมาจากแป้ง หร
บะหมี่ ทำมาจากแป้ง หรือไข่ไก่ ?
เพราะสุขภาพดี เริ่มต้นจากภายใน ด้วยวิตามินรวมเคยไหมรู้สึกเหนื่อยง่าย ทั้งที่นอนครบ 8 ชั่วโมง? หรือรู้สึกเหมือนร่างกาย “ไม่สดชื่น” แม้จะกินอาหารครบทุกมื้อ?ในยุคที่ชีวิตหมุนเร็วแบบนี้ ไม่ว่าจะวัยเรียน วัยทำงาน หรือวัยผู้ใหญ่ ต่างต้องเผชิญกับค
แนะนำ 3 วิตามินรวม ยี่ห้อไหนดี ตอบโจทย์ร่างกาย ปี 2025