ของกินที่คิดว่าดี แต่จริงๆ ทำให้หลับยาก… 6 เมนูที่ควรเลี่ยงก่อนนอน


6 อาหารที่คุณชอบแต่กลับทำให้คุณนอนไม่หลับ
อาการนอนไม่หลับถือเป็นหนึ่งในสิ่งที่สร้างความทรมานมากที่สุดในชีวิต หลายคนคงเคยผ่านประสบการณ์ที่หัวถึงหมอนแล้ว แต่กลับพลิกตัวไปมา มองเพดานอยู่นานเป็นชั่วโมงโดยไม่สามารถข่มตาหลับได้ ความเงียบสงบในยามค่ำคืนกลับกลายเป็นสิ่งที่กดดันและทำให้เรายิ่งรู้สึกเหนื่อยใจ โดยเฉพาะเมื่อวันรุ่งขึ้นยังมีภารกิจสำคัญที่ต้องทำ การนอนไม่หลับจึงกลายเป็นฝันร้ายของใครหลายคน
หลายคนมักโทษ “กาแฟ” ว่าเป็นตัวการหลักของการนอนไม่หลับ ซึ่งก็ไม่ผิดนัก เพราะคาเฟอีนในกาแฟมีฤทธิ์กระตุ้นสมองให้ตื่นตัว แต่ในความเป็นจริงแล้ว คาเฟอีนไม่ได้ซ่อนตัวอยู่ในกาแฟเพียงอย่างเดียว แต่อยู่ในอาหารและเครื่องดื่มที่เราคุ้นเคยอีกมากมาย จนบางครั้งเราก็เผลอรับเข้าไปโดยไม่รู้ตัว และผลที่ตามมาคือการนอนที่กระสับกระส่าย หรือตื่นกลางดึกแบบไม่เข้าใจสาเหตุ
วันนี้จะพาคุณไปรู้จักกับ 6 อาหารและเครื่องดื่มยอดฮิตที่ใครๆ ก็ชอบ แต่กลับเป็น “นักฆ่าการนอน” โดยไม่รู้ตัว และที่สำคัญคือ…มันไม่ใช่กาแฟ!

1. น้ำอัดลมตระกูลโคล่า
สำหรับหลายๆ คน น้ำอัดลมเย็นๆ ซ่าๆ คือความสุขเล็กๆ หลังเลิกงานหรือในวันที่อากาศร้อนจัด แต่รู้หรือไม่ว่าโคล่าหนึ่งกระป๋องมีคาเฟอีนประมาณ 30–40 มิลลิกรัม ส่วนขวดใหญ่ก็อาจสูงถึง 50–60 มิลลิกรัมทีเดียว ปริมาณนี้แม้จะดูไม่มากเมื่อเทียบกับกาแฟ แต่ถ้าคุณดื่มควบคู่กับชาหรือเครื่องดื่มอื่นๆ ที่มีคาเฟอีน ก็อาจทำให้เกินปริมาณที่ร่างกายควรได้รับในแต่ละวันได้ง่ายๆ
ลองนึกภาพว่าคุณเหนื่อยจากงานทั้งวันและเปิดโคล่าเย็นๆ มาดื่มก่อนนอน หวังจะผ่อนคลาย แต่แทนที่จะได้หลับสบาย กลับต้องนอนลืมตาโพลงอยู่บนเตียง ความสุขเล็กๆ กลายเป็น “ปีศาจตัวน้อย” ที่พรากการนอนของคุณไปแบบไม่รู้ตัว

2. เครื่องดื่มชา (Tea Drinks)
ชาถือเป็นเครื่องดื่มที่หลายคนคิดว่าเหมาะกับการผ่อนคลาย แต่ความจริงแล้วชาเองก็มีคาเฟอีนเช่นเดียวกับกาแฟ โดยเฉพาะชาเขียว ชาดำ หรือชาอู่หลง ขึ้นอยู่กับวิธีการสกัดและความเข้มข้นที่ใช้
เครื่องดื่มชาพร้อมดื่มที่ขายตามร้านสะดวกซื้อ แม้จะไม่ใช่กาแฟ แต่บางยี่ห้อก็มีคาเฟอีนเกือบหนึ่งในสามของอเมริกาโนหนึ่งแก้ว หากคุณเป็นคนนอนยากอยู่แล้ว การดื่มชาเข้มๆ ตอนบ่ายแก่ๆ หรือเย็น อาจทำให้ร่างกายยังคงตื่นตัวไปจนถึงกลางคืน

3. ชานมสดและชานมสไตล์ฮ่องกง
อีกหนึ่งเมนูยอดฮิตที่ครองใจวัยรุ่นและคนทำงานคงหนีไม่พ้น “ชานม” ความหอมหวานและมันของนมผสมกับความเข้มข้นของชา ทำให้เป็นเครื่องดื่มที่ดื่มแล้วสดชื่นใจ แต่ปัญหาคือการปรับสูตรให้ชามีรสเข้มข้นเพื่อตัดกับนม ทำให้ปริมาณคาเฟอีนสูงขึ้นตามไปด้วย
มีการศึกษาพบว่า ชานมสไตล์ฮ่องกงบางถ้วยมีคาเฟอีนมากถึง 170–200 มิลลิกรัม เทียบเท่ากับการดื่มกาแฟหนึ่งแก้วใหญ่เลยทีเดียว ปริมาณแบบนี้ถือว่าสูงเกินไปสำหรับสตรีมีครรภ์หรือผู้ที่แพ้คาเฟอีน และแม้แต่คนทั่วไปก็อาจมีอาการนอนไม่หลับได้ หากดื่มในช่วงเย็นหรือค่ำ
4. ช็อกโกแลต
ของหวานที่ใครหลายคนหลงรัก แต่แฝงไปด้วยคาเฟอีนจากเมล็ดโกโก้ ยิ่งโกโก้มีความเข้มข้นสูงเท่าไร ปริมาณคาเฟอีนก็ยิ่งมากขึ้นเท่านั้น ตัวอย่างเช่น ช็อกโกแลตดำ 90% อาจมีคาเฟอีนสูงถึง 166 มิลลิกรัมต่อ 100 กรัม ซึ่งเทียบเท่ากับกาแฟครึ่งแก้วได้เลย

บางคนชอบทานช็อกโกแลตแท่งเล็กๆ หลายชิ้นระหว่างทำงาน พอถึงเวลากลางคืนก็นอนไม่หลับโดยไม่รู้ตัวว่าต้นเหตุคือของหวานสุดโปรดนี่เอง
5. ขนมอบรสโกโก้ กาแฟ และมัทฉะ
คุกกี้ เค้ก มาการอง มูส หรือไอศกรีมรสมัทฉะและโกโก้ คืออีกหนึ่งตัวการที่ทำให้หลายคน “พลาด” เพราะเข้าใจว่าเป็นแค่ขนมหวานธรรมดา แต่จริงๆ แล้ววัตถุดิบอย่างผงโกโก้และมัทฉะมีคาเฟอีนสูงมาก โดยเฉพาะมัทฉะที่มีคาเฟอีนสูงกว่ากาแฟถึงเกือบ 4 เท่า หากกินมากเกินไปก็อาจทำให้ร่างกายตื่นตัวเกินไปจนไม่สามารถเข้าสู่โหมดพักผ่อนได้

6. เครื่องดื่มชูกำลัง
หลายคนอาจเดาได้อยู่แล้วว่าเครื่องดื่มชูกำลังมีคาเฟอีนสูง เพราะถูกออกแบบมาเพื่อกระตุ้นความสดชื่นและเพิ่มพลังงานทันที ปริมาณคาเฟอีนในเครื่องดื่มเหล่านี้มักสูงกว่ากาแฟหนึ่งแก้วด้วยซ้ำ และเมื่อผสมกับน้ำตาลในปริมาณมาก ยิ่งทำให้ร่างกายกระปรี้กระเปร่าแบบเกินพอดี ผลลัพธ์คือคุณจะรู้สึกนอนไม่หลับแม้จะดึกแค่ไหนก็ตาม

ทำไมคาเฟอีนถึงรบกวนการนอน ?
คาเฟอีนเป็นสารที่ออกฤทธิ์กระตุ้นประสาทส่วนกลาง โดยมันจะไปยับยั้งการทำงานของสารที่ทำให้ร่างกายรู้สึกง่วงอย่าง “อะดีโนซีน” ส่งผลให้สมองยังคงตื่นตัวและรู้สึกสดชื่นต่อไป การดื่มเครื่องดื่มหรือกินอาหารที่มีคาเฟอีนก่อนนอนภายใน 6–8 ชั่วโมง อาจทำให้ระยะเวลาในการนอนลดลง คุณภาพการนอนแย่ลง ตื่นกลางดึก และรู้สึกไม่สดชื่นแม้จะนอนครบชั่วโมงก็ตาม
เคล็ดลับเลี่ยงอาการนอนไม่หลับจากคาเฟอีน
-
หลีกเลี่ยงอาหารและเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนหลังบ่าย 3 โมงเป็นต้นไป
-
อ่านฉลากก่อนซื้อเสมอ โดยเฉพาะชานม ขนมมัทฉะ หรือช็อกโกแลตเข้มข้น
-
หากอยากดื่มจริงๆ ให้เลือกเวอร์ชัน “คาเฟอีนต่ำ” หรือดื่มในปริมาณน้อย
-
รู้จักร่างกายตัวเอง เพราะบางคนเผาผลาญคาเฟอีนได้ช้า ทำให้นอนไม่หลับยาวนานถึง 10–12 ชั่วโมงหลังบริโภค
แม้คาเฟอีนจะมีประโยชน์ในการเพิ่มความสดชื่นและกระตุ้นสมอง แต่หากบริโภคในเวลาที่ไม่เหมาะสม โดยเฉพาะใกล้เวลาเข้านอน ก็อาจทำลายคุณภาพการนอนได้อย่างรุนแรง อาหารและเครื่องดื่มทั้ง 6 ประเภทนี้ ได้แก่ โคล่า ชาพร้อมดื่ม ชานมสด ช็อกโกแลต ขนมอบรสโกโก้/มัทฉะ และเครื่องดื่มชูกำลัง ล้วนเป็นสิ่งที่เราคุ้นเคยและชื่นชอบ แต่กลับเป็นตัวการที่ทำให้เรานอนไม่หลับได้โดยไม่รู้ตัว
ดังนั้น หากคุณเป็นคนที่นอนยากอยู่แล้ว ควรใส่ใจสิ่งที่กินหรือดื่มในช่วงบ่ายและเย็นให้มากขึ้น เพื่อที่ว่าเมื่อถึงเวลาปิดไฟ คุณจะได้หลับสนิทและตื่นเช้าขึ้นมาอย่างสดใส พร้อมลุยงานใหม่ด้วยพลังเต็มเปี่ยม
ขอให้ทุกคนเลี่ยง “นักฆ่าการนอน” เหล่านี้ได้ และฝันดีทุกคืนครับ 🌙✨
แนะนำสำหรับคุณ
คุณคิดว่าคุณกำลังดูแลกระเพาะอาหารอยู่ แต่จริงๆ แล้วมันทำร้ายกระเพาะอาหาร!
การนอนหลับคือกุญแจสำคัญของการลดน้ำหนักหรือไม่?
ไม่อยากเหม็นตัวเพราะอากาศร้อนจัดของเมืองไทยใช่ไหม? เรามีเคล็ดลับดีๆ มาฝาก!
ผู้ใช้ TikTok ต่างพากันพูดถึงเคล็ดลับการแต่งหน้าที่เป็นไวรัลนี้ แต่จะปลอดภัยจริงหรือ?
หน้าร้อนปี 2568 ของไทย ดื่มเครื่องดื่มเย็นอย่างไรให้ปลอดภัย!
คุณมีอาการท้องผูกหลังวันหยุดหรือเปล่า? ไม่ต้องกังวล เรามีเคล็ดลับดีๆ มาแนะนำ!