ผักกระเจี๊ยบ: ซูเปอร์ฟู้ดจากธรรมชาติ ประโยชน์เต็มเปี่ยมและวิธีปรุงแสนง่าย

ผักกระเจี๊ยบ หรือที่หลายคนรู้จักในชื่อ โอครา (Okra) ไม่ได้เป็นเพียงแค่ผักพื้นบ้านที่มีรสเปรี้ยวอมฝาดและเนื้อสัมผัสลื่นๆ เท่านั้น แต่ยังเป็นแหล่งรวมของสารอาหารสำคัญที่ทำหน้าที่เป็น ซูเปอร์ฟู้ด ชั้นดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ต้องการดูแลสุขภาพในเชิงลึก ซึ่งคุณค่าของผักชนิดนี้มีมากกว่าที่คุณคิด

ประโยชน์อันน่าทึ่งของผักกระเจี๊ยบเพื่อสุขภาพ

ผักกระเจี๊ยบอุดมไปด้วยวิตามิน แร่ธาตุ และเส้นใยอาหารที่จำเป็นต่อร่างกาย ช่วยส่งเสริมระบบต่างๆ ให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ:

• ดีต่อระบบขับถ่าย: ผักกระเจี๊ยบมี เมือก (Mucilage) ซึ่งเป็นใยอาหารชนิดละลายน้ำสูง ทำหน้าที่เหมือนเจลเคลือบกระเพาะอาหารและลำไส้ ช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ดีขึ้น ลดอาการท้องผูก และช่วยขจัดสารพิษออกจากร่างกาย

• ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด: ใยอาหารในผักกระเจี๊ยบช่วยชะลอการดูดซึมน้ำตาลเข้าสู่กระแสเลือด ทำให้ระดับน้ำตาลไม่พุ่งสูงอย่างรวดเร็วหลังมื้ออาหาร จึงเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้ป่วยเบาหวานและผู้ที่ต้องการควบคุมระดับน้ำตาล

• ลดคอเลสเตอรอลและดูแลสุขภาพหัวใจ: สารประกอบในผักกระเจี๊ยบจะเข้าไปจับกับน้ำดีในระบบทางเดินอาหาร ทำให้ร่างกายต้องใช้คอเลสเตอรอลมาสร้างน้ำดีทดแทน ส่งผลให้ระดับคอเลสเตอรอลชนิดไม่ดี (LDL) ลดลง ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจและหลอดเลือดได้

• เสริมภูมิคุ้มกันและชะลอวัย: ผักกระเจี๊ยบอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น วิตามิน C และ เบต้าแคโรทีน ซึ่งช่วยป้องกันเซลล์จากความเสียหายที่เกิดจากอนุมูลอิสระ ทำให้ภูมิคุ้มกันแข็งแรงขึ้น และช่วยชะลอความเสื่อมของผิวพรรณ

• ช่วยควบคุมน้ำหนัก: เนื่องจากมีปริมาณแคลอรี่ต่ำมากและอุดมด้วยใยอาหารสูง การบริโภคผักกระเจี๊ยบจึงช่วยให้อิ่มนานขึ้น ลดความอยากอาหาร ทำให้ควบคุมน้ำหนักได้ง่ายขึ้น

• บำรุงผิวพรรณ: นอกจากวิตามิน C และเบต้าแคโรทีนที่ช่วยเรื่องผิวแล้ว แร่ธาตุอย่าง แมกนีเซียม และ โฟเลต ก็มีส่วนช่วยบำรุงเซลล์ผิวให้แข็งแรงและดูสดใสจากภายใน

เมนูผักกระเจี๊ยบยอดนิยม ทำง่ายได้ที่บ้าน

ผักกระเจี๊ยบสามารถนำไปทำอาหารได้หลากหลายเมนู ตั้งแต่ต้ม ผัด แกง ไปจนถึงเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ ซึ่งแต่ละเมนูจะดึงเอาคุณสมบัติเฉพาะตัวของผักชนิดนี้ออกมาได้อย่างน่าสนใจ

🌿 กระเจี๊ยบชุบแป้งทอด

ส่วนผสม

• กระเจี๊ยบเขียวสด 10–15 ฝัก (เลือกฝักอ่อน ๆ)

• แป้งทอดกรอบ 1 ถ้วย

• น้ำเย็นจัด ½ ถ้วย (ช่วยให้แป้งฟูกรอบ)

• เกลือเล็กน้อย

• น้ำมันพืชสำหรับทอด

👉 ถ้าอยากเพิ่มรสชาติ : อาจใส่พริกไทยป่น กระเทียมป่น หรือผงปาปริก้าเล็กน้อยในแป้ง

UTENSILS กระทะ 19/21/23/25ซม. เทฟล่อน 3 ชั้น ไม่ติดกระทะ กระทะนอนสติ๊ก ขนาด กระทะหน้ากว้างใช้กับเตาแม่เหล็ก

-29%

฿

58

฿82

วิธีทำ

1. เตรียมผักกระเจี๊ยบ : ล้างให้สะอาด ตัดหัว–ท้ายออก ผ่าครึ่งตามยาวหรือหั่นเป็นท่อนพอดีคำ (แล้วแต่ชอบ)

2. ทำแป้งทอด : ผสมแป้งทอดกรอบกับน้ำเย็น คนให้เข้ากันจนได้เนื้อแป้งข้น ๆ (ไม่เหลวจนเกินไป)

3. ชุบกระเจี๊ยบ : นำกระเจี๊ยบลงชุบแป้งให้ทั่ว

4. ทอด : ตั้งกระทะใส่น้ำมันพืช ใช้ไฟกลาง–ร้อน พอน้ำมันเดือด นำกระเจี๊ยบชุบแป้งลงทอดจนเหลืองกรอบ

5. ตักพักน้ำมัน : เมื่อทอดจนกรอบแล้ว ตักขึ้นพักบนกระดาษซับน้ำมัน

6. พร้อมเสิร์ฟ : กินคู่กับซอสพริก น้ำจิ้มไก่ หรือมายองเนสก็อร่อยเข้ากันสุด ๆ

เคล็ดลับให้อร่อยยิ่งขึ้น

• ใช้น้ำเย็นจัดผสมแป้ง → จะทำให้แป้งกรอบฟู

• ทอดรอบเดียวจนเหลืองกรอบ → ไม่ควรทอดซ้ำ เพราะผักจะอมน้ำมัน

• ถ้าอยากเฮลท์ตี้ → อาจใช้หม้อทอดไร้น้ำมัน (Air Fryer) ตั้ง 180 องศา 10–15 นาที ได้เหมือนกัน

🥚 วิธีทำกระเจี๊ยบผัดไข่

ส่วนผสม

• กระเจี๊ยบเขียวสด 10–15 ฝัก (เลือกฝักอ่อน)

• ไข่ไก่ 2 ฟอง

• กระเทียมสับ 1 ช้อนโต๊ะ

• น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ

• ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนชา

• น้ำตาลเล็กน้อย (ปลายช้อน)

• น้ำมันพืช 1 ช้อนโต๊ะ

👉 หากชอบรสเข้มขึ้น สามารถเติมซอสหอยนางรมเล็กน้อยได้

Tiparos น้ำปลาแท้

฿25-฿25

ซื้อสินค้า

วิธีทำ

1. เตรียมกระเจี๊ยบ : ล้างให้สะอาด หั่นเป็นท่อนเฉียงพอดีคำ

2. เจียวกระเทียม : ตั้งกระทะ ใส่น้ำมันพืชลงไป พอร้อนใส่กระเทียมสับ ผัดจนหอม

3. ใส่กระเจี๊ยบ : เทกระเจี๊ยบลงไปผัดไฟกลางเร็ว ๆ ให้ผักสลดเล็กน้อย

4. ปรุงรส : ใส่น้ำปลา ซีอิ๊วขาว และน้ำตาลเล็กน้อย ผัดให้เข้ากัน

5. ใส่ไข่ : ตอกไข่ลงไป ใช้ตะหลิวขยี้ไข่ให้แตกและเคล้าไปกับกระเจี๊ยบ

6. ผัดจนสุก : รอให้ไข่สุกฟู และผักสุกพอดี ตักขึ้นเสิร์ฟได้เลย

เคล็ดลับให้อร่อยขึ้น

• ถ้าอยากได้รสเผ็ดเล็กน้อย สามารถใส่พริกขี้หนูสับลงไปผัดพร้อมกระเทียม

• ถ้าชอบไข่ฟูนุ่ม → ตีไข่ก่อนแล้วเทลงผัดกับผัก

• เสิร์ฟคู่กับข้าวสวยร้อน ๆ หรือข้าวต้มก็เข้ากันมาก

Deksomboon ซอสหอยนางรมคีโต

฿84-฿84

ซื้อสินค้า

เคล็ดลับการเลือกซื้อและเก็บรักษาผักกระเจี๊ยบ

เพื่อให้ได้ผักกระเจี๊ยบที่มีคุณภาพและสดใหม่ ควรเลือกซื้อตามเคล็ดลับต่อไปนี้:

• เลือกฝักที่อ่อน: สังเกตจากสีเขียวสดและไม่มีรอยช้ำหรือจุดดำ หากฝักแข็งเกินไปแสดงว่าแก่แล้ว จะมีเนื้อสัมผัสที่เหนียวและมีเมล็ดมากเกินไป

• เก็บในตู้เย็น: นำกระเจี๊ยบใส่ถุงซิปล็อกหรือกล่องพลาสติกที่มีรูระบายอากาศ แล้วนำไปแช่ในช่องผัก จะช่วยคงความสดได้ประมาณ 3-5 วัน

• การเก็บแบบแช่แข็ง: หากต้องการเก็บไว้นานขึ้น สามารถนำไปลวกในน้ำเดือด 1-2 นาที แล้วนำไปแช่น้ำเย็นทันที จากนั้นหั่นเป็นชิ้นพอดีคำแล้วใส่ถุงหรือกล่องสำหรับแช่แข็ง ซึ่งสามารถเก็บได้นานหลายเดือน

ผักกระเจี๊ยบจึงไม่ใช่แค่ผักธรรมดา แต่เป็น ขุมทรัพย์แห่งสุขภาพ ที่มีประโยชน์มากมายตั้งแต่หัวจรดเท้า หากคุณกำลังมองหาผักที่ทั้งอร่อย หาง่าย และมีคุณค่าทางโภชนาการสูง ลองเปิดใจให้กับผักกระเจี๊ยบ แล้วคุณจะพบว่าการดูแลสุขภาพเป็นเรื่องที่ทำได้ง่ายและอร่อยขนาดไหนค่ะ