🏃♀️ เดิน ๆ อยู่แล้วเจ็บต้นขาลามไปถึงเอว เกิดจากอะไร?

อาการเล็ก ๆ ที่ร่างกายกำลังบอกให้เราหันมาดูแลมัน
เคยไหม เดินอยู่ดี ๆ แล้วรู้สึก “เจ็บต้นขา” แบบจี๊ด ๆ
บางคนเจ็บเฉพาะข้างหนึ่ง บางคนลามขึ้นมาถึงเอวหรือสะโพก
ตอนแรกอาจคิดว่าแค่เมื่อย แต่พอเดินต่อกลับเจ็บมากขึ้น จนต้องหยุดพักกลางทาง
หลายคนอาจไม่ทันสังเกตว่า “ต้นขา” กับ “เอว” คือจุดเชื่อมสำคัญของกล้ามเนื้อและเส้นประสาทในร่างกาย
ดังนั้นเมื่อมีอาการเจ็บในบริเวณนี้ มักหมายความว่ามีบางส่วนของระบบกล้ามเนื้อกำลังส่งสัญญาณเตือน
ไม่ต้องตกใจไป เพราะอาการนี้พบได้บ่อย ทั้งในคนทั่วไปและคนออกกำลังกาย
วันนี้เรามาดูกันให้ชัด ๆ ว่า “เจ็บต้นขาลามไปถึงเอว” เกิดจากอะไรได้บ้าง
พร้อมเคล็ดลับดูแลตัวเองแบบเข้าใจร่างกายและไม่ต้องฝืน
💡 ก่อนอื่น มาทำความเข้าใจโครงสร้างร่างกายส่วน “ต้นขา–เอว” กันก่อน
บริเวณต้นขา เอว และสะโพก คือจุดศูนย์กลางของการเคลื่อนไหว
เวลายืน เดิน วิ่ง หรือแม้แต่นั่ง กล้ามเนื้อและเส้นประสาทในส่วนนี้จะทำงานร่วมกันตลอดเวลา
กล้ามเนื้อหลักที่เกี่ยวข้องได้แก่:
-
กล้ามเนื้อสะโพก (Gluteus) – ช่วยทรงตัวและควบคุมการเคลื่อนไหวของขา
-
กล้ามเนื้อหน้าขา (Quadriceps) – ช่วยยืดเข่าและรับน้ำหนักตัว
-
กล้ามเนื้อหลังต้นขา (Hamstrings) – ช่วยงอเข่าและดึงขาไปด้านหลัง
-
กล้ามเนื้อสะโพกด้านหน้า (Iliopsoas) – ควบคุมการยกขาและทรงตัว
-
เส้นประสาทไซอาติก (Sciatic Nerve) – เส้นประสาทใหญ่ที่พาดจากหลังส่วนล่างไปถึงเท้า
เพราะทุกระบบเชื่อมโยงกันแบบนี้ อาการเจ็บจึงไม่จำเป็นต้องเกิดจาก “ต้นขา” เพียงอย่างเดียว
แต่อาจเกิดจากความตึงตัวของกล้ามเนื้อสะโพก เส้นประสาทที่ถูกกดทับ หรือข้อต่อบริเวณเอวที่อักเสบ
⚡ สาเหตุหลักของอาการ “เจ็บต้นขาลามถึงเอว”
1. กล้ามเนื้ออักเสบจากการใช้งานมากเกินไป (Muscle Strain)
สาเหตุยอดฮิต โดยเฉพาะในคนที่เดินเยอะ วิ่งบ่อย หรือออกกำลังกายหนักโดยไม่วอร์มอัพ
ลักษณะอาการ:
-
เจ็บตึงบริเวณต้นขา สะโพก หรือเอว โดยเฉพาะเวลาเดินหรือลุกขึ้นยืน
-
ปวดเพิ่มขึ้นเมื่อออกแรง
แนวทางดูแลเบื้องต้น:
-
พักกล้ามเนื้อที่เจ็บอย่างน้อย 1–3 วัน
-
ประคบเย็นใน 48 ชั่วโมงแรก แล้วสลับเป็นประคบร้อนเพื่อลดอาการตึง
-
ยืดเหยียดกล้ามเนื้อสะโพกและต้นขาเบา ๆ เมื่อเริ่มดีขึ้น
2. เส้นประสาทไซอาติกถูกกดทับ (Sciatica)
เส้นประสาทไซอาติกเป็นเส้นประสาทที่ยาวที่สุดในร่างกาย
เมื่อถูกกดทับจากหมอนรองกระดูกหรือกล้ามเนื้อที่รัดแน่นเกินไป
จะเกิดอาการ “ปวดร้าวจากสะโพกหรือต้นขาไปถึงเอวและขา”
อาการที่พบ:
-
ปวดแปลบเหมือนไฟช็อต ลามลงขา
-
บางครั้งรู้สึกชา หรือขาอ่อนแรง
-
เจ็บเพิ่มเวลาไอ จาม หรือนั่งนาน ๆ
วิธีดูแลเบื้องต้น:
-
หลีกเลี่ยงการนั่งท่าเดิมนานเกิน 1 ชั่วโมง
-
ยืดกล้ามเนื้อหลังและสะโพกวันละ 2–3 ครั้ง
-
หากอาการไม่ดีขึ้นภายในสัปดาห์ ควรพบแพทย์เพื่อตรวจเส้นประสาทเพิ่มเติม
3. กล้ามเนื้อสะโพกลึกตึงเกินไป (Piriformis Syndrome)
กล้ามเนื้อ Piriformis อยู่ลึกในสะโพก ช่วยหมุนขาออกด้านนอก
ถ้ามันตึงหรือเกร็งมากเกินไป จะไปกดเส้นประสาทไซอาติกจนเกิดอาการปวดร้าว
สัญญาณบอก:
-
ปวดบริเวณก้นหรือต้นขาด้านหลัง โดยเฉพาะเวลานั่ง
-
ปวดลามขึ้นเอวหรือสะโพกด้านข้าง
แนวทางบรรเทา:
-
ยืดกล้ามเนื้อด้วยท่า “Figure 4 Stretch” หรือ “Pigeon Pose”
-
ใช้ลูกเทนนิสหรือลูกบอลยางคลึงบริเวณก้นเบา ๆ เพื่อคลายจุดตึง
-
หลีกเลี่ยงการวิ่งบนพื้นแข็งหรือการยกของหนักช่วงมีอาการ
4. ข้อต่อสะโพกอักเสบ (Hip Joint Inflammation)
ข้อต่อสะโพกรับแรงจากการเดิน วิ่ง หรือยกของตลอดเวลา
หากมีการใช้งานผิดท่าหรือมีแรงกระแทก อาจเกิดการอักเสบได้
อาการเด่น:
-
ปวดลึก ๆ บริเวณขาหนีบหรือต้นขาด้านใน
-
เจ็บลามขึ้นเอวเมื่อขยับตัว
-
อาจมีเสียง “กึก” เวลาหมุนสะโพก
แนวทางดูแล:
-
หลีกเลี่ยงท่านั่งขัดสมาธิหรือไขว่ห้าง
-
ใช้ความร้อนประคบบริเวณที่ปวด
-
ฝึกโยคะหรือท่ายืดสะโพกเพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นของข้อ
5. หมอนรองกระดูกเคลื่อน (Herniated Disc)
หากเจ็บจากเอวร้าวลงขา โดยเฉพาะด้านหลัง อาจเกิดจากหมอนรองกระดูกเคลื่อนมากดเส้นประสาท
สังเกตอาการ:
-
ปวดร้าวจากเอวไปถึงต้นขาหรือขา
-
รู้สึกชาหรือเหมือนมดไต่บริเวณขา
-
เจ็บมากขึ้นเมื่อก้ม หรือยกของหนัก
แนวทางดูแลเบื้องต้น:
-
หลีกเลี่ยงการก้มเร็วหรือบิดตัวแรง
-
นั่งโดยมีหมอนรองหลัง
-
หากอาการไม่ดีขึ้นควรพบแพทย์หรือกายภาพบำบัด
6. ภาวะกล้ามเนื้อไม่สมดุล (Muscle Imbalance)
เกิดจากการใช้กล้ามเนื้อข้างหนึ่งมากกว่าข้างอื่น เช่น ยืนเอียง นั่งขัดสมาธิ หรือเดินน้ำหนักไม่เท่ากัน
ผลที่ตามมา:
กล้ามเนื้อข้างหนึ่งสั้นและแข็ง อีกข้างอ่อนแรง ทำให้เกิดการดึงรั้งจนเจ็บ
ทางแก้:
-
ฝึกยืดกล้ามเนื้อสะโพกและต้นขาทั้งสองข้าง
-
เสริมกล้ามเนื้อแกนกลาง (Core) เช่น Plank, Bridge, Bird Dog
-
ปรับท่าทางยืน นั่ง และเดินให้สมดุล
🧍♀️ ใครบ้างที่มักเจออาการนี้
-
คนที่เดินหรือวิ่งเป็นประจำโดยไม่วอร์มอัพ
-
คนทำงานออฟฟิศที่นั่งนานวันละหลายชั่วโมง
-
ผู้สูงอายุที่กล้ามเนื้ออ่อนแรง
-
คนที่ออกกำลังกายหนักโดยไม่ยืดกล้ามเนื้อหลังและสะโพกให้เพียงพอ
💪 เคล็ดลับดูแลตัวเองเมื่อมีอาการเจ็บต้นขาลามถึงเอว
✅ 1. พักแต่ไม่หยุดเคลื่อนไหว
การนอนพักเฉย ๆ อาจทำให้กล้ามเนื้อตึงมากขึ้น
ลองเปลี่ยนเป็นเดินเบา ๆ หรือยืดกล้ามเนื้อช้า ๆ แทน
✅ 2. วอร์มอัพและคูลดาวน์ทุกครั้ง
ก่อนออกกำลังกายควรยืดกล้ามเนื้อสะโพก ต้นขา และเอวอย่างน้อย 5–10 นาที
หลังออกกำลังกายก็อย่าลืมคูลดาวน์เพื่อลดการตึงตัว
✅ 3. เสริมความแข็งแรงของแกนกลางลำตัว
กล้ามเนื้อ Core ที่แข็งแรงช่วยพยุงหลังและสะโพกให้มั่นคง
ฝึกท่าง่าย ๆ เช่น Plank, Glute Bridge, Dead Bug ทุกวัน
✅ 4. ดื่มน้ำให้เพียงพอ
กล้ามเนื้อตึงและอักเสบได้ง่ายเมื่อขาดน้ำ
พยายามดื่มน้ำวันละ 6–8 แก้ว โดยเฉพาะระหว่างวันทำงานหรือหลังออกกำลัง
✅ 5. ใช้อุปกรณ์ช่วยคลายกล้ามเนื้อ
โฟมโรลเลอร์หรือลูกบอลนวดเล็ก ๆ ใช้กลิ้งคลายจุดตึงบริเวณสะโพกและต้นขาได้ดี
วันละ 10–15 นาทีหลังอาบน้ำอุ่นช่วยให้กล้ามเนื้อผ่อนคลาย
🧘♀️ ท่ายืดกล้ามเนื้อแนะนำ ช่วยลดอาการเจ็บต้นขา–เอว
-
Knee-to-Chest Stretch
นอนหงาย ดึงเข่าข้างหนึ่งเข้าหาหน้าอก ค้างไว้ 20–30 วินาที -
Piriformis Stretch (Figure 4)
นอนหงาย พาดข้อเท้าข้างหนึ่งบนเข่าอีกข้าง ดึงขาเข้าหาตัวเบา ๆ -
Standing Quad Stretch
ยืนตรง ดึงเท้าข้างหนึ่งไปด้านหลัง จับข้อเท้าไว้ให้ตึงบริเวณต้นขา -
Cat–Cow Stretch (โยคะ)
ช่วยคลายหลังส่วนล่าง และเพิ่มการไหลเวียนเลือด
🚨 เมื่อไหร่ควรไปพบแพทย์
-
ปวดมากจนเดินไม่ไหว
-
มีอาการชาหรืออ่อนแรงที่ขา
-
อาการไม่ดีขึ้นภายใน 7 วัน
-
เคยมีอุบัติเหตุก่อนเริ่มปวด เช่น หกล้มหรือยกของหนัก
การตรวจหาสาเหตุที่แท้จริงตั้งแต่เนิ่น ๆ จะช่วยให้รักษาได้ตรงจุดและฟื้นตัวได้เร็วกว่า
🌈 สรุปส่งท้าย : ฟังเสียงร่างกายไว้เสมอ
อาการ “เดิน ๆ แล้วเจ็บต้นขาลามถึงเอว” อาจดูไม่รุนแรง
แต่ร่างกายกำลังบอกบางอย่างกับเรา ว่ามีจุดที่ใช้งานหนักเกินไป หรือเริ่มเสียสมดุล
อย่าฝืน อย่าปล่อยไว้ ลองพัก ยืด และปรับพฤติกรรมเล็ก ๆ น้อย ๆ
เพราะสุขภาพดีไม่ใช่การไม่เจ็บเลย แต่คือ “การรู้ทันและดูแลตัวเองได้ทันเวลา” 💪
และจำไว้ว่า
การหยุดพักหนึ่งวันเพื่อให้ร่างกายฟื้นตัว ดีกว่าต้องหยุดออกกำลังกายไปทั้งเดือนเพราะบาดเจ็บสะสม ❤️
แนะนำสำหรับคุณ
หมอนรองนอน: ไอเท็มเด็ดสำหรับคนขี้ร้อนที่อยากนอนหลับสบาย
รสดีเมนู: มีติดครัวไว้ อร่อยได้ทุกเมนูไม่ต้องปรุงเพิ่ม!
ปรับบุคลิกให้ดูดี: แค่เริ่มจากท่าทางง่ายๆ ก็เห็นผล!
ปกป้องสุขภาพจากภัยที่มองไม่เห็น ด้วยเครื่องฟอกอากาศ!
เรียนรู้“30 วันที่ดีที่สุดในการการลดน้ำหนักอย่างสุขภาพดี
ประโยชน์ของการดื่มกาแฟ!
คาเฟ่ อเมซอน: กาแฟระดับพรีเมียม เพื่อช่วงเวลาแห่งความสุข
น้ำยาบ้วนปาก🛁 ไอเทมเพิ่มความมั่นใจประจำวัน
“อุปกรณ์กำจัดขน ไม่ใช่เครื่องพันธนาการอันเปราะบาง แต่คือการประกาศอิสรภาพของร่างกายและความงามในแบบที่เราเลือกเอง”
