เคล็ดลับคนรักกาแฟ: ดื่มแบบไหนดีต่อตับ?

user avatar
Ornicha.M (Kiw)·2025-08-06T07:43Z
点赞
เคล็ดลับคนรักกาแฟ: ดื่มแบบไหนดีต่อตับ?

คุณดื่มกาแฟตอนเช้าใช่ไหม? แล้วรู้ไหมว่ามันอาจช่วยดูแลตับของคุณได้ด้วย

หลายคนเริ่มต้นวันใหม่ด้วยกาแฟสักแก้ว เพื่อปลุกความสดชื่นและสลัดความง่วงให้ออกไป ไม่ใช่แค่ตอนเช้าเท่านั้น บางคนยังดื่มในช่วงบ่ายเพื่อเติมพลังอีกด้วย

เรามักจะได้ยินกันมาว่า “กาแฟมีประโยชน์” เพราะสามารถช่วยลดความเสี่ยงของโรคเบาหวานประเภท 2 และยังอาจช่วยลดภาวะซึมเศร้าได้อีกด้วย แต่ที่หลายคนอาจยังไม่รู้คือ กาแฟก็มีผลดีต่อตับของคุณด้วยเช่นกัน

ใช่แล้ว—นักวิจัยหลายคนกำลังศึกษาความเชื่อมโยงระหว่างกาแฟกับสุขภาพตับ และจากผลการศึกษาที่ผ่านมา ก็มีแนวโน้มเชิงบวกออกมาอย่างชัดเจน

“เรามีหลักฐานชัดเจนว่ากาแฟมีประโยชน์ต่อตับ”
— ดร. จามิล วาคิม-เฟลมมิง ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคตับ กล่าว

แล้วกาแฟไปช่วยตับของเราได้อย่างไร? ดร. วาคิม-เฟลมมิง ได้อธิบายข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ไว้อย่างน่าสนใจ เราจะพาคุณไปเจาะลึกเรื่องนี้ต่อไป


1dcf96fe-96ce-452d-a29b-f296bca343e3.jpeg

กาแฟส่งผลต่อตับของคุณอย่างไร?

ตับเป็นอวัยวะที่มีบทบาทสำคัญต่อสุขภาพของร่างกาย เพราะทำหน้าที่หลากหลายมาก ทั้งช่วยกรองของเสียออกจากเลือด ผลิตน้ำดีเพื่อย่อยอาหาร และยังเผาผลาญโปรตีน คาร์โบไฮเดรต และไขมันให้ร่างกายนำไปใช้ได้

แม้ว่าทางการแพทย์จะยังไม่เข้าใจทั้งหมดว่ากาแฟส่งผลต่อตับอย่างไร แต่ ดร. จามิล วาคิม-เฟลมมิง ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคตับ ก็ได้อธิบายว่าเรามีแนวทางที่พอจะอธิบายได้อยู่บ้าง

“กาแฟมีสารต้านอนุมูลอิสระและสารประกอบอื่นๆ ที่ช่วยลดการอักเสบในตับ”
— ดร. วาคิม-เฟลมมิง กล่าว

ตัวอย่างหนึ่งคือสารต้านอนุมูลอิสระที่เรียกว่า กรดคลอโรจีนิก (CGA) ซึ่งเชื่อกันว่าสามารถช่วยยับยั้งการสะสมของไขมันในตับ โดยกระตุ้นการสลายกลูโคส

นอกจากนี้ กาแฟยังอาจกระตุ้นกระบวนการที่เรียกว่า ออโตฟาจี (autophagy) ซึ่งเป็นกลไกธรรมชาติของร่างกายในการกำจัดเซลล์ที่เสื่อมสภาพหรือเสียหายออกไป ช่วยให้ตับทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

อีกจุดสำคัญคือ กาแฟทำหน้าที่ยับยั้งตัวรับชนิดหนึ่งในร่างกายที่เรียกว่า อะดีโนซีน (adenosine receptor) ซึ่งมีส่วนเกี่ยวข้องกับการบาดเจ็บของตับ กระบวนการซ่อมแซม และการเกิดพังผืดในเนื้อตับ ดังนั้น การดื่มกาแฟจึงอาจช่วยชะลอการเกิดพังผืดหรือแผลเป็นในตับได้

นอกจากนี้ ยังมีหลักฐานบางส่วนที่บ่งชี้ว่า กาแฟอาจช่วยลดความเสี่ยงของโรคตับอักเสบซี ซึ่งเป็นการติดเชื้อไวรัสที่อาจลุกลามไปสู่โรคตับแข็งหรือมะเร็งตับได้ โดยกลไกที่เป็นไปได้คือการลดการอักเสบที่เกี่ยวข้องกับโรค

อย่างไรก็ตาม แม้ว่ากาแฟจะมีคุณสมบัติช่วย “ป้องกัน” ในบางแง่มุม แต่ก็ ไม่ใช่ยารักษาโรคตับ และยังไม่มีข้อสรุปชัดเจนว่ากาแฟสามารถป้องกันมะเร็งตับได้โดยตรงหรือไม่

กาแฟและไขมันพอกตับ

ca348575-738d-486f-bf97-99335236c1d1.jpeg

กาแฟช่วยลดความเสี่ยงของไขมันพอกตับได้จริงหรือ?

โรคไขมันพอกตับจากการเผาผลาญที่ผิดปกติ (MASLD) หรือชื่อเดิมที่หลายคนคุ้นเคยว่า โรคไขมันพอกตับที่ไม่ได้เกิดจากแอลกอฮอล์ (NAFLD) คือภาวะที่มีไขมันสะสมอยู่ในเซลล์ตับมากเกินไป โดยไม่ได้เกิดจากการดื่มแอลกอฮอล์

ในสหรัฐอเมริกา พบว่าประชากรราว 1 ใน 4 คนมีภาวะนี้ และมักจะพบในกลุ่มที่มีน้ำหนักเกิน เป็นเบาหวาน หรือมีไขมันในเลือดผิดปกติ หากปล่อยไว้นาน MASLD อาจพัฒนาไปเป็นตับแข็ง (ตับเป็นแผล) ซึ่งมีความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งตับหรือตับวายตามมา

แล้วกาแฟเกี่ยวอะไรกับเรื่องนี้?

งานวิจัยหลายชิ้นพบว่า การดื่มกาแฟอย่างน้อย วันละ 3–4 แก้ว มีความเชื่อมโยงกับ ความเสี่ยงต่อการเป็น MASLD ที่ลดลง โดยกาแฟช่วยให้ภาวะดื้อต่ออินซูลินดีขึ้น และส่งผลดีต่อผู้ที่เป็นเบาหวาน ซึ่งทั้งสองปัจจัยนี้มีส่วนเกี่ยวข้องโดยตรงกับการเกิด MASLD

สำหรับผู้ที่มี MASLD อยู่แล้ว การดื่มกาแฟเป็นประจำยังช่วยลดความเสี่ยงในการพัฒนาโรคไปเป็นตับแข็งได้อีกด้วย

และสำหรับคนที่เป็นตับแข็งไปแล้ว งานวิจัยยังพบว่า ผู้ที่ดื่มกาแฟมากกว่า มีแนวโน้มที่จะ มีอัตราการเสียชีวิตจากโรคตับแข็งน้อยลง

ดื่มกาแฟแบบไหน ถึงจะดีต่อตับ?

ในยุคที่ร้านกาแฟมีเมนูละลานตา ทั้งลาเต้ คาราเมล มอคค่า พร้อมวิปครีมและท็อปปิ้งน้ำตาล คุณอาจเริ่มสงสัยว่าแบบนี้มันยังดีต่อตับอยู่ไหม?

คำตอบจากผู้เชี่ยวชาญชัดเจนมาก:

“กาแฟดำคือทางเลือกที่ดีที่สุด”
— ดร. จามิล วาคิม-เฟลมมิง กล่าว

หากคุณไม่ชอบดื่มกาแฟดำจริง ๆ ก็ยังมีทางเลือกอื่นที่ปลอดภัยต่อสุขภาพ เช่น ใช้สารให้ความหวานแทนน้ำตาล เลือกนมพร่องมันเนยหรือนมจากพืช แทนครีมเทียมที่มีไขมันสูง

สิ่งสำคัญคือ พยายามหลีกเลี่ยงการเติมน้ำตาลและไขมันมากเกินไป เพราะสำหรับผู้ที่มีภาวะไขมันพอกตับ (SLD) มักจะมีโรคอื่น ๆ ร่วมด้วย เช่น เบาหวาน และ โรคอ้วน ซึ่งน้ำตาลและไขมันอาจยิ่งไปกระตุ้นปัญหาให้แย่ลง

8f8ba3a3-68af-4498-afc0-15bfae94e8c5.jpeg

กาแฟดีแคฟก็ช่วยตับได้ แล้วควรดื่มเท่าไหร่ถึงจะดี?

ข่าวดีคือ ไม่ว่าจะเป็นกาแฟธรรมดาหรือกาแฟดีแคฟ (ไร้คาเฟอีน) ก็สามารถช่วยดูแลตับได้ทั้งคู่ โดยเฉพาะในเรื่องของการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ซึ่งส่งผลต่อโรคเบาหวาน—ปัจจัยเสี่ยงสำคัญของไขมันพอกตับและโรคตับแข็ง

ล่าสุด สมาคมโรคตับแห่งอเมริกา (AASLD) ก็ออกมาแนะนำว่า กาแฟทั้งแบบมีคาเฟอีนและดีแคฟล้วนมีประโยชน์ต่อตับ

แล้วควรดื่มเท่าไหร่?

“เราขอแนะนำให้ดื่มกาแฟอย่างน้อยวันละ 3 แก้วเพื่อช่วยป้องกันปัญหาตับ”
— ดร. จามิล วาคิม-เฟลมมิง

หากคุณมีภาวะไขมันพอกตับ (SLD) หรือโรคตับอักเสบ การเพิ่มปริมาณกาแฟเป็น วันละ 4–6 แก้ว อาจให้ผลดีมากขึ้น

แต่ควรระวังเรื่องปริมาณคาเฟอีน โดยทั่วไป ไม่ควรเกิน 400 มิลลิกรัมต่อวัน (กาแฟชงหนึ่งแก้วมีคาเฟอีนราว 100–200 มก.) ซึ่งเป็นขีดจำกัดที่แนะนำเพื่อหลีกเลี่ยงผลข้างเคียงต่อร่างกาย

“บางคนอาจดื่มกาแฟเยอะไม่ได้ เพราะมีอาการปวดหัว ใจสั่น หรือวิตกกังวลได้ง่าย” ดร. วาคิม-เฟลมมิง เสริม

ดังนั้น หากคุณมีปัญหาเกี่ยวกับคาเฟอีน อาจเลือก กาแฟดีแคฟ เป็นทางเลือกที่อ่อนโยนกว่า แต่ยังคงได้ประโยชน์จากสารต้านอนุมูลอิสระและคุณสมบัติดี ๆ ต่อสุขภาพตับอยู่เช่นกัน

กาแฟไม่ใช่ยาวิเศษ และบางคนอาจต้องหลีกเลี่ยง

แม้ว่ากาแฟจะมีประโยชน์ต่อสุขภาพตับ แต่ก็ไม่เหมาะสำหรับทุกคน หากคุณมีภาวะ หัวใจเต้นผิดจังหวะ หรือปัญหาเกี่ยวกับหัวใจ การดื่มกาแฟมากเกินไปอาจเป็นอันตรายได้

เช่นเดียวกับในผู้ที่เป็น มะเร็งปอด—การดื่มกาแฟอาจส่งผลกระทบได้เช่นกัน ในกรณีเหล่านี้ ควรปรึกษาแพทย์ก่อนเริ่มดื่มกาแฟเป็นประจำ

ดร. จามิล วาคิม-เฟลมมิง ยังเน้นย้ำว่า
“กาแฟไม่ใช่ยาวิเศษ ไม่สามารถรักษาโรคตับ หรือย้อนกลับความเสียหายที่เกิดจากการดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไปได้”

แต่อย่างน้อย กาแฟก็สามารถเป็นหนึ่งใน “ตัวช่วย” ที่ดี และ เป็นก้าวเล็ก ๆ ที่อร่อยและน่าพอใจ สู่การมีตับที่แข็งแรงขึ้น

บทความที่เกี่ยวข้อง

หากคุณเป็นมือใหม่ในวงการกาแฟและเคยสับสนระหว่าง “อาราบิก้า” และ “โรบัสต้า” ที่ระบุในเมนู นี่คือเรื่องราวที่คุณควรรู้ เพราะในโลกของกาแฟ อาราบิก้าคือสายพันธุ์ที่ครองใจคนรักกาแฟทั่วโลกถึง 90% ด้วยรสชาติที่ซับซ้อนและกลิ่นหอมอันเป็นเอกลักษณ์ วันน
2025-08-20T03:44Z
อาราบิก้า: สุภาพบุรุษผู้แสนอ่อนโยนแห่งโลกกาแฟ
ประสบการณ์ลูกค้าสำคัญกว่าผลิตภัณฑ์ประสบการณ์ของลูกค้ามีความสำคัญมากกว่าตัวผลิตภัณฑ์เสียอีก บริษัทที่เพิกเฉยต่อเรื่องนี้มักถูกทิ้งไว้ข้างหลังเพื่อนร่วมงานของฉัน ซึ่งเป็นผู้จัดการฝ่ายพัฒนาธุรกิจในบริษัทเทคโนโลยีขั้นสูง ได้พบกับซีอีโอสายการบิน
2025-08-22T05:00Z
ทำไมคนถึงยอมจ่ายแพงให้ Starbucks? ไขความลับที่ทำให้ธุรกิจนี้ไม่เหมือนใคร
UCC Blend Coffee Can – กาแฟกระป๋องคุณภาพพรีเมียมในยุคที่ชีวิตเร่งรีบ กาแฟกระป๋อง UCC Blend Coffee คือเพื่อนคู่ใจที่พร้อมเติมพลังทุกที่ทุกเวลา ด้วยคุณภาพระดับพรีเมียมจากแบรนด์กาแฟชื่อดังของญี่ปุ่น ที่สืบทอดมาตรฐานการคัดสรรและการคั่วกาแฟอย่าง
กาแฟกระป๋องแนะนำ ปี 2568

บทความล่าสุดดูเพิ่มเติม

ในโลกยุคใหม่ที่เร่งรีบ สุขภาพช่องปากกำลังกลายเป็นปัญหาที่เพิ่มมากขึ้น แม้ว่าการแปรงฟันแบบดั้งเดิมจะสามารถทำความสะอาดผิวฟันได้ แต่กลับเข้าถึงบริเวณที่มองไม่เห็นได้ยาก เช่น ช่องว่างระหว่างฟันและร่องเหงือก ทำให้เศษอาหารและคราบพลัคสะสม นำไปสู่ป
เครื่องล้างช่องปากที่แนะนำในปี 2568 : เครื่องล้างช่องปากยี่ห้อไหนดีที่สุด?
ในโลกที่วุ่นวายทั้งเรื่องงานและการเรียน การงีบหลับมักถูกมองว่าเป็นช่วงเวลาแห่งการเติมพลัง แต่คุณเคยเจอประสบการณ์แบบนี้บ้างไหม: ก่อนงีบหลับ คุณเต็มไปด้วยความมั่นใจ วางแผนจะเติมพลังภายใน 20 นาที เพื่อรับมือกับความท้าทายในช่วงบ่ายให้ดีที่สุด แ
4 เทคนิคการนอนหลับ พร้อมตื่นมาด้วยความสดชื่น
ในชีวิตประจำวัน การนอนหลับถือเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้ร่างกายและสมองได้พักผ่อนอย่างแท้จริง แต่ก็น่าแปลกที่หลายคนกลับมองข้าม “ที่นอน” ซึ่งเป็นองค์ประกอบหลักที่มีผลต่อคุณภาพการนอนอย่างมาก หากคุณเคยนอนแล้วรู้สึกปวดหลัง หลับไม่สนิท หรือสะดุ้งตื่น
ที่นอน Dream Town: เลือกยังไงก็นอนสบาย

แนะนำสำหรับคุณ