คนเรามักไม่ได้เป็นโรคกระดูกสันหลังส่วนคอเสื่อมโดยไม่มีสาเหตุ คุณหมอบอกความจริงว่าโรคนี้มี 5 สาเหตุ!

ในโลกยุคใหม่ที่ชีวิตเร่งรีบ โรคกระดูกสันหลังส่วนคอได้กลายเป็นปัญหาใหญ่ที่คุกคามผู้คนจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ ตั้งแต่พนักงานออฟฟิศที่ต้องนั่งทำงานเป็นเวลานาน ไปจนถึงคนที่ติดมือถือ แม้แต่คนหนุ่มสาวหลายคนก็เริ่มมีอาการปวดคอและปวดตึงคอ ราวกับว่าโรคกระดูกสันหลังส่วนคอกลายเป็น "พรหมลิขิต" ที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ อย่างไรก็ตาม โรคกระดูกสันหลังส่วนคอไม่ได้เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ มีเพียง 5 ปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดโรคนี้ ความเข้าใจในปัจจัยเหล่านี้เท่านั้นที่จะทำให้เราสามารถป้องกันและรักษาได้อย่างตรงจุด เพื่อปกป้องสุขภาพของกระดูกสันหลังส่วนคอของเรา

นั่งนานๆ : “พิษเรื้อรัง” ของกระดูกสันหลังส่วนคอ

ในสังคมปัจจุบัน การนั่งเป็นเวลานานกลายเป็นเรื่องปกติสำหรับใครหลายคน เช้าวันใหม่ เราเร่งรีบไปทำงาน นั่งจ้องหน้าจอคอมพิวเตอร์ทั้งวัน คอต้องค้างอยู่ในท่าเดิมเป็นเวลานาน พอกลับถึงบ้านตอนเย็น เรามักจะขดตัวอยู่บนโซฟา เช็คโทรศัพท์หรือดูซีรีส์ วิถีชีวิตที่ดูสบายเช่นนี้กลับสร้างความเสียหายเรื้อรังให้กับกระดูกสันหลังส่วนคอ

กระดูกสันหลังส่วนคอของมนุษย์มีความโค้งตามสรีรวิทยาที่เป็นเอกลักษณ์ การนั่งเป็นเวลานานอาจทำให้เกิดแรงตึงที่กระดูกสันหลังส่วนคอ ส่งผลให้กล้ามเนื้อเกร็งอย่างต่อเนื่องและการไหลเวียนโลหิตไม่ดี นอกจากนี้ ศีรษะยังค่อนข้างหนัก ซึ่งปกติจะรองรับด้วยกระดูกสันหลังส่วนคอ อย่างไรก็ตาม การนั่งในท่าที่ไม่เหมาะสมสามารถเพิ่มแรงกดทับที่กระดูกสันหลังส่วนคอได้ การศึกษาแสดงให้เห็นว่าผู้ที่นั่งนานกว่าสี่ชั่วโมงมีโอกาสเป็นโรคกระดูกสันหลังส่วนคอเสื่อมมากกว่าคนทั่วไปถึงสามเท่า เมื่อเวลาผ่านไป กระดูกสันหลังส่วนคอจะค่อยๆ สูญเสียความยืดหยุ่น แข็งและเจ็บปวด ในกรณีที่รุนแรง อาจทำให้เส้นประสาทถูกกดทับ ทำให้เกิดอาการต่างๆ เช่น แขนชาและเวียนศีรษะ

เพื่อป้องกันความเสียหายต่อกระดูกสันหลังส่วนคอจากการนั่งเป็นเวลานาน เราควรสร้างนิสัยออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ลุกขึ้นเดิน ยืดคอ และยืดกล้ามเนื้อง่ายๆ เป็นระยะๆ เช่น หันศีรษะไปทางซ้ายและขวา และพยักหน้าขึ้นลง เพื่อบรรเทาความเมื่อยล้าของคอ การรักษาท่าทางการนั่งที่ถูกต้องก็เป็นสิ่งสำคัญเช่นกัน เลือกเก้าอี้ที่ถูกหลักสรีรศาสตร์ และปรับความสูงและมุมของหน้าจอคอมพิวเตอร์ให้อยู่ในระดับสายตา ช่วยลดแรงกดทับที่กระดูกสันหลังส่วนคอ

การก้มหน้ามองโทรศัพท์: ภาระหนักที่กระดูกสันหลังส่วนคอ

คนสมัยใหม่ไม่อาจใช้ชีวิตอยู่ได้โดยปราศจากโทรศัพท์ พวกเขาตรวจสอบโทรศัพท์ขณะเดิน รับประทานอาหาร โดยสารรถยนต์ และแม้กระทั่งก่อนเข้านอน อย่างไรก็ตาม พฤติกรรมก้มหน้าก้มตาเช่นนี้ กำลังทำลายกระดูกสันหลังส่วนคอของเราอย่างเงียบๆ

ศีรษะของมนุษย์มีน้ำหนักประมาณ 4-5 กิโลกรัม เมื่อศีรษะก้มลง 30 องศา แรงกดทับที่กระดูกสันหลังส่วนคอจะเพิ่มขึ้นเป็นประมาณ 12 กิโลกรัม และเมื่อก้มลง 60 องศา แรงกดทับจะเพิ่มขึ้นเป็นประมาณ 22 กิโลกรัม ลองนึกภาพแรงกดมหาศาลที่กระดูกสันหลังส่วนคอของเราต้องรับในแต่ละวันสิ มันจะไม่บาดเจ็บได้อย่างไร การก้มหน้าก้มตาเล่นโทรศัพท์เป็นเวลานานอาจทำให้ความโค้งของกระดูกสันหลังส่วนคอเปลี่ยนแปลงไป นำไปสู่ปัญหาต่างๆ เช่น หมอนรองกระดูกเคลื่อน และภาวะกระดูกงอก นอกจากนี้ การจ้องมองหน้าจอขนาดเล็กเป็นเวลานานอาจทำให้เกิดความรู้สึกไม่สบาย เช่น ตาล้าและตาแห้ง ซึ่งจะยิ่งเพิ่มแรงกดทับที่กระดูกสันหลังส่วนคอ

เพื่อลดความเสี่ยงที่กระดูกสันหลังส่วนคอจะเสียหายจากการก้มหน้าก้มตาดูโทรศัพท์ เราควรลดการใช้โทรศัพท์ให้น้อยที่สุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งขณะเดินหรือขับรถ หากจำเป็นต้องใช้โทรศัพท์ ควรถือโทรศัพท์ในระดับสายตาเพื่อรักษาท่าทางตามธรรมชาติของกระดูกสันหลังส่วนคอ นอกจากนี้ คุณยังสามารถตั้งการแจ้งเตือนการใช้โทรศัพท์ และพักเป็นระยะๆ เพื่อยืดเส้นยืดสายคอและสายตา

ท่านอนที่ไม่ถูกต้อง: “ฆาตกรที่มองไม่เห็น” ของกระดูกสันหลังส่วนคอ

การนอนหลับเป็นช่วงเวลาสำคัญที่ร่างกายจะได้ฟื้นฟูและซ่อมแซม แต่การนอนในท่าที่ไม่ถูกต้องก็อาจทำให้กระดูกสันหลังส่วนคอเสียหายได้เช่นกัน ท่าทางการนอนที่ไม่ถูกต้อง เช่น การนอนคว่ำหรือนอนตะแคง อาจทำให้กระดูกสันหลังส่วนคออยู่ในภาวะบิดตัวเป็นเวลานาน ส่งผลให้ความโค้งของกระดูกสันหลังส่วนคอถูกรบกวน ส่งผลให้เกิดอาการตึงและเกร็งของกล้ามเนื้อคอ และทำให้เกิดอาการปวดคอ

ยิ่งไปกว่านั้น ความสูงและความแน่นของหมอนยังส่งผลต่อสุขภาพของกระดูกสันหลังส่วนคออีกด้วย หมอนที่สูงเกินไปอาจทำให้กระดูกสันหลังส่วนคองอมากเกินไป ส่งผลให้เกิดแรงกดทับ หมอนที่เตี้ยเกินไปไม่สามารถรองรับกระดูกสันหลังส่วนคอได้ ทำให้หมอนห้อยลอยอยู่ในอากาศ ทำให้เกิดความรู้สึกไม่สบายตัว สถิติแสดงให้เห็นว่าผู้ใหญ่ประมาณ 50% มีท่าทางการนอนที่ไม่ถูกต้อง ซึ่งเป็นหนึ่งในสาเหตุหลักของปัญหากระดูกสันหลังส่วนคอ

เพื่อปกป้องกระดูกสันหลังส่วนคอ เราควรเลือกท่านอนและหมอนที่เหมาะสม เมื่อนอนหงาย หมอนควรเติมเต็มช่องว่างระหว่างคอและพื้นผิวเตียง ช่วยให้กระดูกสันหลังส่วนคอคงความโค้งตามธรรมชาติไว้ได้ เมื่อนอนตะแคง ความสูงของหมอนควรเท่ากับความกว้างของไหล่ข้างหนึ่งเพื่อป้องกันกระดูกสันหลังคด นอกจากนี้ ควรเลือกหมอนที่มีความแน่นพอเหมาะเพื่อรองรับน้ำหนักที่เพียงพอและให้ความสบาย

น้ำหนักเกิน: "แรงกดดันพิเศษ" ต่อกระดูกสันหลังส่วนคอ

ด้วยมาตรฐานการครองชีพที่ดีขึ้น โรคอ้วนจึงทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ การมีน้ำหนักเกินไม่เพียงแต่เพิ่มความเสี่ยงต่อโรคเรื้อรัง เช่น โรคหัวใจและหลอดเลือดและโรคเบาหวานเท่านั้น แต่ยังเพิ่มแรงกดทับต่อกระดูกสันหลังส่วนคออีกด้วย

เมื่อคุณมีน้ำหนักเกิน แรงกดทับที่กระดูกสันหลังจะเพิ่มขึ้นอย่างมาก และกระดูกสันหลังส่วนคอก็เช่นกัน โดยเฉพาะผู้ที่มีไขมันหน้าท้องมากเกินไป การเอียงตัวไปข้างหน้าอาจทำให้แรงกดทับที่กระดูกสันหลังเพิ่มขึ้น ทำให้กระดูกสันหลังส่วนคอโค้งงอไปข้างหน้า ซึ่งส่งผลต่อสุขภาพของกระดูกสันหลังส่วนคอ การศึกษาแสดงให้เห็นว่าผู้ที่มีน้ำหนักเกินมีโอกาสเป็นโรคกระดูกสันหลังส่วนคอเสื่อมมากกว่าผู้ที่มีน้ำหนักปกติถึง 30%

เพื่อลดภาระของกระดูกสันหลังส่วนคอ เราควรรักษาน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ ควรควบคุมปริมาณแคลอรี่ที่บริโภคและใช้พลังงาน โดยการรับประทานอาหารที่สมดุลและออกกำลังกายอย่างพอเหมาะ ขณะเดียวกัน ควรหลีกเลี่ยงการยืนหรือนั่งเป็นเวลานาน เพื่อลดแรงกดทับที่กระดูกสันหลัง

ความเครียดทางจิตใจในระยะยาว: "พันธนาการที่มองไม่เห็น" ของกระดูกสันหลังส่วนคอ

ชีวิตสมัยใหม่เร่งรีบและเต็มไปด้วยความเครียด หลายคนต้องเผชิญกับความกดดันทางจิตใจอย่างมหาศาล ความเครียดและความตึงเครียดเรื้อรังอาจทำให้กล้ามเนื้อกระดูกสันหลังตึง โดยเฉพาะกล้ามเนื้อคอ กล้ามเนื้อเหล่านี้มักถูกกดทับโดยไม่รู้ตัว ส่งผลให้เลือดไหลเวียนไม่สะดวก เพิ่มแรงกดระหว่างกระดูกสันหลัง และสุดท้ายก็ทำให้เกิดอาการปวด

ยิ่งไปกว่านั้น ความเครียดทางจิตใจในระยะยาวอาจนำไปสู่ภาวะภูมิคุ้มกันของร่างกายลดลง กล้ามเนื้อฟื้นตัวได้ไม่ดี และภาวะกระดูกสันหลังเสื่อมรุนแรงขึ้น จากการสำรวจพบว่า 90% ของผู้คนต้องเผชิญกับความเครียดทางจิตใจในระดับที่แตกต่างกันไปในชีวิต และประมาณ 60% ของคนเหล่านี้ประสบปัญหาสุขภาพกระดูกสันหลังอันเป็นผลมาจากความเครียดดังกล่าว

เพื่อคลายความเครียด เราควรเรียนรู้ที่จะปรับทัศนคติและรักษาทัศนคติเชิงบวก เราสามารถผ่อนคลายและลดความเครียดได้ด้วยการออกกำลังกาย การเดินทาง และดนตรี ขณะเดียวกัน เราควรนอนหลับให้เพียงพอเพื่อให้ร่างกายได้พักผ่อนและฟื้นฟูอย่างเต็มที่

โรคกระดูกสันหลังส่วนคอเสื่อมไม่ใช่โรคที่ป้องกันหรือรักษาหายขาดได้ หากเข้าใจถึงสาเหตุที่แท้จริง ใส่ใจในรายละเอียดในชีวิตประจำวัน ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่ไม่ดี และรักษาวิถีชีวิตที่ดีต่อสุขภาพ เราจะสามารถลดอัตราการเกิดโรคกระดูกสันหลังส่วนคอเสื่อมและฟื้นฟูสุขภาพของกระดูกสันหลังส่วนคอได้อย่างมีประสิทธิภาพ เรามาร่วมกันปกป้องกระดูกสันหลังส่วนคอของเรา และใช้ชีวิตอย่างมีสุขภาพดีและสวยงามกันเถอะ!