5 อาหารที่คุณคิดว่าเป็นอาหารขยะ แต่จริงๆ แล้วเต็มไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการ

อาหารขยะ…จริงหรือ? 5 อาหารที่ถูกเข้าใจผิดว่าทำร้ายสุขภาพ

ทุกคนคงคุ้นเคยกับวลีที่ว่า “กินอาหารขยะให้น้อยลง!” ตั้งแต่วัยเด็กจนถึงวัยผู้ใหญ่ เราได้ยินคำนี้กันนับครั้งไม่ถ้วน แต่ถ้าเจาะลึกลงไปจริง ๆ แล้ว “อาหารขยะ” ไม่ใช่คำศัพท์ทางโภชนาการอย่างเป็นทางการ และแทบไม่มีคำจำกัดความที่ชัดเจนในตำราโภชนาการใด ๆ คำนี้ดูเหมือนจะเป็นคำที่ถูกนำเข้ามาและค่อย ๆ แทรกซึมเข้าสู่ชีวิตประจำวันของเรา พร้อมกับมาตรฐานการครองชีพที่สูงขึ้นและการพัฒนาของอุตสาหกรรมอาหารและร้านอาหาร

อาหารหลายชนิดที่มักถูกติดป้ายว่า “อาหารขยะ” แท้จริงแล้วไม่ได้แย่อย่างที่คิด หากปรับเปลี่ยนการเตรียมหรือวัตถุดิบเพียงเล็กน้อย ก็สามารถกลายเป็นอาหารที่ดีต่อสุขภาพและมีคุณค่าทางโภชนาการได้ ดังนั้นวันนี้เราจะมาดูกันว่า อาหารขยะที่ถูกเข้าใจผิดเหล่านี้ สามารถเปลี่ยนเป็นตัวช่วยสุขภาพได้อย่างไรบ้าง

1. ผัดหมี่ – อาหารหลักที่ให้พลังงานอย่างสมดุล

ผัดหมี่เป็นอาหารจานอร่อยที่มีกลิ่นหอมของกระทะจีนและรสชาติที่ลงตัว หลายคนมองว่าเป็นอาหารแคลอรีสูงและ “ไม่ดีต่อสุขภาพ” แต่แท้จริงแล้ว ผัดหมี่มีข้อดีหลายประการ

• เส้นหมี่ที่ใช้มีดัชนีน้ำตาล (GI) ปานกลางถึงต่ำ เส้นหมี่ เส้นแบน หรือเส้นมันเทศบางชนิดมีแป้งที่ย่อยช้า ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ดีกว่าข้าวขาว

• รวมผักและเนื้อสัตว์หลากหลาย เช่น ผัดหมี่เหวินโจวมักใส่เนื้อไม่ติดมัน ไข่ กุ้ง แครอท และกะหล่ำปลี ทำให้มีสารอาหารครบถ้วน

• วิธีปรุงสามารถลดแคลอรีได้ เช่น ใช้น้ำมันน้อยลง หรือวางแผนมื้ออาหารให้เหมาะสม

ดังนั้น หากคุณอยากทานผัดหมี่ แค่ปรับเล็กน้อย ก็สามารถอร่อยและดีต่อสุขภาพได้

2. หม่าล่าตัง (Malatang) – ผักต้มรสจัดที่สามารถลดไขมันได้

หลายคนคิดว่าหม่าล่าตังเป็นอาหารที่มีแคลอรีสูงและไม่ดีต่อสุขภาพ เพราะน้ำมันแดงและลูกชิ้นแปรรูป แต่ถ้าเลือกวัตถุดิบอย่างชาญฉลาดและลดปริมาณน้ำมันลง มันสามารถเป็นอาหารเพื่อสุขภาพได้

• การลวกผักเป็นวิธีปรุงที่ดี ช่วยลดแคลอรีและสารต้านสารอาหารบางชนิด เช่น กรดออกซาลิก

• เน้นผักและเนื้อแท้ เช่น เห็ด ผักสด และเนื้อสัตว์ไม่ติดมัน เพื่อเพิ่มโปรตีนและไฟเบอร์

• ปรับรสชาติ ลดซอสหรือน้ำมันลง จะทำให้หม่าล่าตังกลายเป็นอาหารเพื่อสุขภาพได้

สำหรับผู้ที่ชอบรสจัด การปรับลดน้ำมันและเลือกวัตถุดิบสดแท้ ๆ สามารถช่วยให้รับประทานได้บ่อยโดยไม่เสียสุขภาพ

3. แฮมเบอร์เกอร์ – ควบคุมแคลอรีก็มีคุณค่าทางโภชนาการ

แฮมเบอร์เกอร์มักถูกมองว่าเป็นอาหารขยะยอดนิยม แต่ในความเป็นจริง เบอร์เกอร์หลายชนิดสามารถจัดเป็นอาหารเพื่อสุขภาพได้

• แคลอรีไม่สูงเสมอไป จากข้อมูลของแมคโดนัลด์ พบว่า 11 ใน 16 เบอร์เกอร์มีพลังงานต่ำกว่า 500 กิโลแคลอรี

• สามารถปรับปรุงโภชนาการได้ง่าย เช่น ลดซอส เพิ่มผัก หรือเลือกเนื้อสัตว์ไม่ติดมัน

• เหมาะสำหรับมื้อกลางวันหรือมื้อว่าง เมื่อทานคู่กับผักสด เบอร์เกอร์สามารถให้โปรตีนและไฟเบอร์อย่างสมดุล

การปรับวิธีทานเล็กน้อย ก็ช่วยให้เบอร์เกอร์อร่อยและดีต่อสุขภาพได้

4. ผักและผลไม้แช่แข็ง – สะดวก รักษาสารอาหาร

ผักและผลไม้แช่แข็งมักถูกมองว่าคุณค่าทางโภชนาการลดลง แต่การวิจัยพบว่า สารอาหารแทบไม่เสียหาย

• การแช่แข็งช่วยเก็บวิตามินและแร่ธาตุไว้ได้ดี บางชนิดมีสารอาหารมากกว่าผักสดที่เก็บไว้นาน

• สะดวกสำหรับชีวิตเร่งรีบ เช่น พนักงานออฟฟิศ สามารถนำไปลวก ต้ม หรือปรุงอาหารได้ทันที

• เคล็ดลับ เลือกผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีน้ำตาลหรือเกลือเติม เพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุด

ผักและผลไม้แช่แข็งจึงเป็นตัวเลือกดีสำหรับมื้ออาหารประจำวัน

ผักและผลไม้อบกรอบ 12 ชนิด

฿49-฿55

ซื้อสินค้า

5. บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป – ไม่ก่อมะเร็งและปรับได้ตามต้องการ

บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปมักถูกโจมตีว่าโซเดียมสูง ไขมันเยอะ และสารกันบูดก่อมะเร็ง แต่ความจริงไม่ได้ร้ายแรงอย่างที่คิด

• ให้พลังงานเร็วและสะดวก เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการอาหารด่วน

• ปรับปรุงโภชนาการง่าย เช่น ใช้เพียงครึ่งซองเครื่องปรุง เพิ่มผักและเนื้อสัตว์ ลดคาร์โบไฮเดรตและไขมัน

• ไม่ก่อมะเร็งโดยตรง และยังช่วยลดความหิวในภาวะขาดสารอาหาร

บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปจึงสามารถเป็นอาหารหลักได้ เพียงปรับส่วนผสมและเครื่องปรุงเล็กน้อย

LITTLE COOK instant noodle Vegetarian flavor

฿49-฿49

ซื้อสินค้า

สรุป

แท้จริงแล้ว อาหารขยะอย่างแท้จริงมีไม่กี่ชนิด ส่วนใหญ่เกิดจากการปรุงที่ไม่เหมาะสมหรือทานเกินปริมาณที่ร่างกายต้องการ เพียงปรับเปลี่ยนเล็กน้อย เช่น ลดน้ำมัน ลดซอส เพิ่มผัก หรือเลือกวัตถุดิบที่สดใหม่ เราก็สามารถทำให้มื้ออาหาร อร่อยและดีต่อสุขภาพ ได้

หวังว่าบทความนี้จะช่วยให้คุณเห็นมุมมองใหม่ ๆ เกี่ยวกับอาหารที่เคยเข้าใจผิด และสามารถเลือกอาหารเพื่อสุขภาพได้อย่างชาญฉลาดในชีวิตประจำวัน

หากคุณชอบบทความนี้ กดไลก์ แชร์ และแสดงความคิดเห็น พร้อมบอกว่าอาหารขยะที่คุณชื่นชอบคืออะไร และคุณปรับมันให้ดีต่อสุขภาพอย่างไร