น้ำมันเรพซีด: สารพัดประโยชน์เพื่อสุขภาพในครัว เหมาะสำหรับการทอด ผัด และทุกเมนู!


ในครัวเรือนของคนไทย “น้ำมันพืช” คือหนึ่งในวัตถุดิบที่ขาดไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นเมนูผัดแบบง่ายๆ จานด่วน เมนูทอดกรอบที่เด็กๆ ชอบ ไปจนถึงเมนูสุขภาพที่ใช้วิธีนึ่งหรือย่าง น้ำมันคือองค์ประกอบสำคัญที่ช่วยให้รสชาติของอาหารออกมาลงตัวและน่ารับประทานมากยิ่งขึ้น แต่เคยสังเกตไหมครับว่า เวลาที่เราจะเลือกซื้อน้ำมัน คนส่วนใหญ่มักนึกถึงน้ำมันถั่วเหลือง น้ำมันปาล์ม หรือน้ำมันมะกอกเป็นหลัก ทั้งที่ในความเป็นจริงยังมีน้ำมันอีกชนิดหนึ่งที่เปี่ยมด้วยคุณประโยชน์และถูกใช้แพร่หลายในหลายประเทศทั่วโลก นั่นก็คือ น้ำมันเรพซีด (Rapeseed Oil)
แม้ชื่อจะไม่คุ้นหูคนไทยมากนัก แต่รู้หรือไม่ว่า น้ำมันชนิดนี้มีคุณสมบัติเด่นทั้งด้านสุขภาพ ความเหมาะสมในการปรุงอาหาร และยังมีผลการวิจัยสนับสนุนมากมายที่ทำให้มันถูกยกย่องว่า “ไม่แพ้น้ำมันมะกอก” เลยทีเดียว และในบางแง่มุมยังดีกว่าด้วยซ้ำ

น้ำมันเรพซีด: เรียบง่ายแต่ทรงพลัง
น้ำมันเรพซีด หรือในบางประเทศรู้จักกันในชื่อ คาโนลาออยล์ (Canola Oil) เป็นน้ำมันที่สกัดจากเมล็ดเรพซีด ซึ่งมีการปรับปรุงสายพันธุ์ให้มีกรดอีรูซิกต่ำเพื่อให้เหมาะสำหรับการบริโภค จุดเด่นคือมีกรดไขมันไม่อิ่มตัวสูง โดยเฉพาะกรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว (MUFA) และกรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงซ้อน (PUFA) ที่สมดุลในอัตราส่วนพอเหมาะ
งานวิจัยของมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดที่ติดตามกลุ่มคนกว่า 220,000 คนเป็นเวลา 33 ปี พบว่าการบริโภคน้ำมันคาโนลาซึ่งจัดอยู่ในกลุ่มน้ำมันเรพซีด สามารถช่วยลดความเสี่ยงต่อการเสียชีวิตได้ดีกว่าน้ำมันมะกอกในบางกรณี ขณะเดียวกัน การวิเคราะห์อภิมานจากหลายการศึกษาแสดงให้เห็นว่าน้ำมันเรพซีดมีประสิทธิภาพในการลดระดับคอเลสเตอรอลชนิดไม่ดี (LDL) ได้ชัดเจน ซึ่งมีผลโดยตรงต่อการลดความเสี่ยงโรคหัวใจและหลอดเลือด
เหมาะสำหรับผัด ทอด และปรุงอาหารหลากหลาย
หนึ่งในเหตุผลที่ทำให้น้ำมันเรพซีดได้รับความนิยมคือ ความทนทานต่อความร้อนสูง หรือที่เรียกว่ามี “จุดควัน” สูงกว่าน้ำมันพืชหลายชนิด จุดควันของน้ำมันเรพซีดอยู่ที่ประมาณ 255°C ซึ่งถือว่าสูงมาก ทำให้เมื่อนำไปทอดหรือผัดที่อุณหภูมิสูง ไม่ก่อให้เกิดควันหรือสารอันตรายง่ายๆ
ลองนึกถึงเมนู ไข่ดาวกรอบนอกนุ่มใน หรือ ไก่ทอดกรอบสีทอง หากใช้น้ำมันเรพซีด คุณจะได้อาหารที่กรอบอร่อยโดยไม่ต้องกังวลเรื่องกลิ่นเหม็นไหม้และสารก่ออันตราย ขณะเดียวกันในอาหารจีนหรืออาหารเผ็ดจัดจ้านอย่าง “น้ำมันพริกหอม” น้ำมันเรพซีดก็ถูกใช้เป็นหัวใจหลัก เพราะเมื่อน้ำมันร้อนจัดแล้วเทลงไปในเกล็ดพริก จะได้กลิ่นหอมเผ็ดร้อนเฉพาะตัวที่ยากจะเลียนแบบ

ดีต่อสุขภาพหัวใจและหลอดเลือด
จุดเด่นอีกข้อคือ ปริมาณกรดไขมันอิ่มตัวต่ำมาก อยู่ที่เพียงประมาณ 7.3% เท่านั้น ซึ่งต่ำที่สุดในบรรดาน้ำมันพืชทั่วไป และยังน้อยกว่าน้ำมันมะกอก (ประมาณ 14.1%) ด้วยซ้ำ การบริโภคน้ำมันที่มีไขมันอิ่มตัวต่ำช่วยลดความเสี่ยงภาวะไขมันในเลือดสูงและหลอดเลือดแข็งตัว
ยิ่งไปกว่านั้น น้ำมันเรพซีดยังมีกรดไขมันโอเมก้า-3 (Alpha-linolenic acid) ในสัดส่วนที่เหมาะสม เมื่อเทียบกับโอเมก้า-6 แล้วถือว่าค่อนข้างสมดุล ซึ่งมีส่วนช่วยลดการอักเสบในร่างกายและสนับสนุนการทำงานของหัวใจและสมอง
ประโยชน์อื่นๆ ที่น่าสนใจ
-
บำรุงสมองและสายตา
กรดไขมันโอเมก้า-3 ในน้ำมันเรพซีดมีส่วนช่วยในการพัฒนาสมอง ความจำ และการมองเห็น เหมาะทั้งสำหรับเด็กที่กำลังเจริญเติบโตและผู้ใหญ่ที่ต้องการป้องกันภาวะสมองเสื่อม -
เหมาะสำหรับผู้ที่ควบคุมน้ำหนัก
เนื่องจากมีไขมันอิ่มตัวต่ำและมีกรดไขมันที่สมดุล ทำให้สามารถใช้ปรุงอาหารได้อย่างอร่อยโดยไม่ต้องกังวลเรื่องแคลอรีมากเกินไป -
ช่วยลดความเสี่ยงโรคเรื้อรัง
การบริโภคเป็นประจำในปริมาณพอเหมาะสัมพันธ์กับการลดความเสี่ยงโรคหัวใจ โรคเบาหวาน และภาวะอักเสบเรื้อรัง

วิธีเลือกใช้น้ำมันเรพซีดอย่างปลอดภัย
แม้น้ำมันเรพซีดจะมีข้อดีมาก แต่ก็มีข้อควรระวังคือควรเลือก น้ำมันเรพซีดบริสุทธิ์เกรดดี (Low Erucic Acid Rapeseed Oil) ที่ผ่านมาตรฐานอุตสาหกรรม ไม่ควรใช้น้ำมันที่สกัดในท้องถิ่นด้วยวิธีที่ไม่สะอาด เพราะอาจปนเปื้อนสารก่อมะเร็ง เช่น อะฟลาทอกซินหรือเบนโซไพรีนได้
ไม่ควรใช้เพียงอย่างเดียว แต่ควรหมุนเวียน
แม้น้ำมันเรพซีดจะดีต่อสุขภาพ แต่หลักการสำคัญคือ “การหมุนเวียนการใช้น้ำมัน” เช่น
-
ใช้น้ำมันเรพซีดสำหรับผัดและทอด
-
ใช้น้ำมันมะกอกหรือน้ำมันงาสำหรับสลัดหรือเมนูเย็น
-
ใช้น้ำมันถั่วลิสงหรือน้ำมันเมล็ดแฟลกซ์สลับบ้างเพื่อให้ร่างกายได้รับกรดไขมันที่หลากหลาย
การรับประทานปลา เช่น แซลมอน แมคเคอเรล หรือซาร์ดีน อย่างน้อยสัปดาห์ละ 1–2 ครั้ง จะช่วยเสริม DHA และ EPA ทำให้สุขภาพหัวใจและสมองแข็งแรงยิ่งขึ้น
สรุป
น้ำมันเรพซีดอาจไม่ได้โดดเด่นในแง่การตลาดเท่าน้ำมันมะกอก แต่มันคือ ฮีโร่เงียบในครัว ที่มีคุณสมบัติรอบด้าน ทั้งทนความร้อนสูง เหมาะกับการทอดและผัด มีไขมันอิ่มตัวต่ำ มีโอเมก้า-3 สมดุล และช่วยลดความเสี่ยงโรคหัวใจและหลอดเลือด อีกทั้งยังให้รสชาติอาหารที่อร่อยไม่แพ้น้ำมันชนิดอื่น
ดังนั้น หากคุณกำลังมองหาน้ำมันสุขภาพที่ใช้ได้สารพัดเมนู ไม่ว่าจะเป็นทอดกรอบ ผัดเผ็ด หรือทำสลัด ลองหันมาใช้น้ำมันเรพซีดดูสิครับ แล้วคุณจะพบว่ามันคือ “ราชาแห่งครัวสุขภาพ” ที่จะทำให้ทุกจานอาหารทั้งอร่อยและดีต่อร่างกาย
แนะนำสำหรับคุณ
คุณมีอาการท้องผูกหลังวันหยุดหรือเปล่า? ไม่ต้องกังวล เรามีเคล็ดลับดีๆ มาแนะนำ!
หน้าร้อนปี 2568 ของไทย ดื่มเครื่องดื่มเย็นอย่างไรให้ปลอดภัย!
คุณคิดว่าคุณกำลังดูแลกระเพาะอาหารอยู่ แต่จริงๆ แล้วมันทำร้ายกระเพาะอาหาร!
การนอนหลับคือกุญแจสำคัญของการลดน้ำหนักหรือไม่? ทฤษฎีที่ว่า "ยิ่งนอน ยิ่งผอม" เป็นวิทยาศาสตร์หรือแค่ข่าวลือ?
ไม่อยากเหม็นตัวเพราะอากาศร้อนจัดของเมืองไทยใช่ไหม? เรามีเคล็ดลับดีๆ มาฝาก!
ผู้ใช้ TikTok ต่างพากันพูดถึงเคล็ดลับการแต่งหน้าที่เป็นไวรัลนี้ แต่จะปลอดภัยจริงหรือ?